ตอนที่ 937 ทางรอด
ทว่า ท่านหมอหงบอกว่าขณะหิวห้ามทานอาหารมากเกินไป มันไม่ดีต่อกระเพาะอาหาร ดังนั้นอิ๋นซวงจึงนั่งนับขนมเค้กข้าวอยู่หลายครั้ง เมื่อแน่ใจว่ามีจำนวนน้อยกว่าที่หมอหงอนุญาตให้นางทานในแต่ละวันครึ่งหนึ่ง อิ๋นซวงจึงนำมาให้ไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนมองอิ๋นซวงยิ้มๆ “อิ๋นซวงนำของอร่อยมาให้ข้าอีกแล้วหรือ!”
“เจ้าค่ะ!” อิ๋นซวงพยักหน้า “ทานเยอะไม่ได้ ยังมีอีก…ครั้งหน้าข้าจะเอามาให้เจ้าค่ะ!”
หมอหงนั่งลงบนเก้าอี้กลม จากนั้นหยิบหมอนตรวจชีพจรออกมาตรวจให้ไป๋ชิงเหยียน ครู่หนึ่งเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่า อดตำหนิไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ “คุณหนูใหญ่ไม่สนใจร่างกายของตัวเลยหรือขอรับ คุณหนูใหญ่นอนไม่หลับนานถึงเพียงนี้ เหตุใดไม่รีบบอกข้าขอรับ คุณหนูใหญ่ไม่เชื่อฝีมือข้าหรือขอรับ”
เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนจะลุกขึ้น ชุนเถาจึงรีบเข้าไปประคอง
“มีเรื่องต้องทำมากมาย ข้าไม่ได้นอนไม่หลับแค่ไม่กล้านอน…” ไป๋ชิงเหยียนเอนกายพิงหมอนอิงที่ชุนเถานำมาสอดให้ จากนั้นกล่าวกับหมอหง “ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการดูแลบ้านเมืองจะลำบากถึงเพียงนี้ มีคนรอปรึกษาเรื่องสำคัญกับข้าทุกวัน”
“คุณหนูใหญ่อย่ามาหลอกข้าเลยขอรับ!” แค่หมอหงตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียนก็รู้สาเหตุแล้ว “คุณหนูใหญ่ โรคทางใจ…ต่อให้ข้าจะฝีมือเก่งกาจสักเพียงใดก็ไม่สามารถรักษาได้ขอรับ ทว่า ข้าติดตามเจิ้นกั๋วอ๋องมาหลายปี ข้าคิดว่าข้ารู้จักองค์หญิงใหญ่ดี หากนางทราบว่าการปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระของนางทำให้คุณหนูใหญ่รู้สึกผิดอยู่เช่นนี้ นางจะตายตาไม่หลับนะขอรับ!”
หมอหงเก็บหมอนตรวจชีพจรลงในกล่องยา “คุณหนูใหญ่เฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เล็ก มองเรื่องบางอย่างทะลุปรุโปร่งยิ่งกว่าเจิ้นกั๋วอ๋องและองค์หญิงใหญ่ คุณหนูใหญ่น่าจะทราบดีว่าการมีชีวิตอยู่จะทำให้องค์หญิงใหญ่เจ็บปวดทรมานมากกว่าการจากไป ไม่สู้ให้นางจากไปอย่างปลดปล่อยดีกว่า! ตราบใดที่องค์หญิงใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ เชื้อพระวงศ์เหล่านั้นจะถือเป็นญาติของคุณหนูใหญ่ตลอดไปนะขอรับ”
“คุณหนูใหญ่ลองคิดดูนะขอรับ…” หมอหงนั่งหลังตรงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าจริงจัง
“หากครั้งนี้องค์หญิงใหญ่กลับมาพร้อมคุณหนูใหญ่อย่างปลอดภัย คนเหล่านั้นจะมาขอร้องอ้อนวอนให้องค์หญิงใหญ่เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือไม่ พวกเขาจะบีบบังคับให้องค์หญิงใหญ่นึกถึงตอนที่นางยังเป็นองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์ต้าจิ้นหรือไม่ ถึงเวลานั้นองค์หญิงใหญ่ควรช่วยเหลือพวกเขาหรือไม่ขอรับ เมื่อองค์หญิงใหญ่ขอร้อง ทุกคนในจวนไป๋ล้วนรู้ดีว่าคุณหนูใหญ่จะทำให้ท่านแม้ยากเย็นสักเพียงใดก็ตาม หากองค์หญิงใหญ่ใจแข็งไม่ยอมทำตามคำขอของพวกเขา พวกเขาจะมุ่งเป้ามาที่คุณหนูใหญ่ กล่าวหาว่าคุณหนูใหญ่ไม่สนใจญาติมิตร ยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นก่อความวุ่นวายหรือไม่ขอรับ”
หลูหนิงฮว่าโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน “ตั้งแต่คุณหนูใหญ่กลับมาเมืองหลวงคุณหนูใหญ่มีเรื่องต้องทำมากมาย หนิงฮว่าจึงยังไม่มีเวลาเรียนให้คุณหนูใหญ่ทราบว่าร่างกายขององค์หญิงใหญ่อยู่ได้อีกไม่นานแล้วเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลูหนิงฮว่าอย่างคาดไม่ถึง นางเห็นว่าท่านย่ายังดูแข็งแรงดีอยู่แท้ๆ
“หากเป็นเช่นนี้คุณหนูใหญ่ลองคิดดูนะเจ้าคะ ร่างกายขององค์หญิงใหญ่ฝืนอยู่ต่อได้อีกไม่นานแล้ว เหตุใดนางต้องลำบากกลับมากับคุณหนูใหญ่อีกเจ้าคะ หากคนเหล่านั้นมารบกวนองค์หญิงใหญ่บ่อยๆ ทว่า องค์หญิงใหญ่ใจแข็งปฏิเสธไป หากสุดท้ายแล้วร่างกายขององค์หญิงใหญ่ทนไม่ไหวเพราะเครียดมากเกินไป คนที่ต้องการให้ใต้หล้าเกิดความวุ่นวายจะกล่าวถึงเรื่องนี้กันเช่นไรเจ้าคะ พวกเขาจะไม่กล่าวหาว่าคุณหนูใหญ่เป็นคนบีบให้องค์หญิงใหญ่เสียชีวิตหรือเจ้าคะ”
หมอหงถอนหายใจออกมา “คุณหนูใหญ่ เมื่อคุณหนูใหญ่หลุดพ้นจากความเจ็บปวดและความโศกเศร้าได้ คุณหนูใหญ่ลองคิดทบทวนดูนะขอรับ คุณหนูใหญ่เป็นคนฉลาด คุณหนูใหญ่น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดีกว่าข้าขอรับ”
หมอหงหันไปมองอิ๋นซวงแวบหนึ่ง “แม้อิ๋นซวงจะไม่ฉลาดนัก ทว่า นางเข้าใจดีว่าชีวิตมีทั้งทุกข์และสุข ดังนั้นแม้นางจะสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง นางก็ยังใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข แม้คุณหนูใหญ่จะรู้สึกผิดต่อไปก็ไม่ได้ทำให้องค์หญิงใหญ่ฟื้นขึ้นมาได้ เจิ้นกั๋วอ๋องและองค์หญิงใหญ่รักคุณหนูใหญ่มากเพียงนั้น หากพวกเขารู้ว่าคุณหนูใหญ่ทรมานร่างกายตัวเองเช่นนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเสียใจมากเพียงใดนะขอรับ”
กล่าวถึงตรงนี้หมอหงจึงรู้สึกว่าเขากล่าวสิ่งที่ควรกล่าวออกไปหมดแล้ว เขาลุกขึ้นยืนคำนับไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหันไปกล่าวกับอิ๋นซวง “ถือกล่องยาตามข้ามา!”
“คุณหนูใหญ่…ทานเจ้าค่ะ” อิ๋นซวงชี้ไปยังขนมเค้กข้าวที่วางอยู่บนหัวเตียง จากนั้นแบกกล่องยาวิ่งตามหลังหมอหงจากไป
“บ่าวออกไปส่งท่านหมอหงเจ้าค่ะ” ชุนเถามองไปทางไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่ง จากนั้นรีบเดินตามไปแหวกผ้าม่านให้หมอหง
หลูหนิงฮว่าได้ยินเสียงหมอหงสั่งชุนเถาว่าช่วงนี้ให้ไป๋ชิงเหยียนทานโจ๊กไปก่อน จากนั้นให้คนเฝ้ายาที่ต้มอยู่ในหม้อให้ดี เมื่อยาเดือดแล้วให้รีบนำไปให้ไป๋ชิงเหยียนดื่มทันที หลูหนิงฮว่าก้าวไปด้านหน้า “ร่างกายขององค์หญิงใหญ่ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ตอนที่เหลียงอ๋องก่อกบฏ องค์หญิงใหญ่แทบนอนไม่หลับสักคืน ร่างกายของท่านแย่ลงทุกวันเจ้าค่ะ หากคุณหนูใหญ่ไม่เชื่อลองถามคุณหนูเจ็ดและเจี่ยงหมัวมัวดูก็ได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมหยิบห่อขนมเค้กข้าวที่วางอยู่บนหัวเตียง เมื่อคลี่กระดาษออกจึงเห็นว่าด้านในมีขนมวางอยู่เจ็ดแปดชิ้น เมื่อนึกถึงอิ๋นซวงที่แม้จะสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง ทว่า ขอเพียงมีของอร่อยทานก็มักจะยิ้มอย่างมีความสุขขึ้นมาทุกครั้ง ขอบตาของไป๋ชิงเหยียนร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ไป๋ชิงเหยียนหยิบขนมขึ้นมาทานหนึ่งชิ้น ในที่สุดปากที่เต็มไปด้วยรสขมก็รู้สึกถึงความหวานขึ้นอีกครั้ง…
เมื่อถงหมัวมัวเห็นไป๋ชิงเหยียนทานขนมเค้กข้าวจึงรีบรินน้ำส่งให้หญิงสาว จากนั้นเอื้อมมือไปรับขนมเค้กข้าวมาจากหญิงสาว “คุณหนูใหญ่ดื่มน้ำก่อนเจ้าค่ะ โรงครัวเล็กอุ่นโจ๊กเนื้อสับร้อนๆ ไว้ให้คุณหนูใหญ่แล้ว คุณหนูใหญ่ทานโจ๊กก่อนแล้วค่อยทานของแข็งพวกนี้เถิดเจ้าค่ะ มีเช่นนั้นอาจปวดท้องได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนส่งขนมเค้กข้าวให้ถงหมัวมัว จากนั้นเอ่ยถาม “พิธีฝังศพท่านย่าเสร็จสิ้นแล้วหรือไม่”
ถงหมัวมัวพยักหน้าด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “เสร็จสิ้นแล้วเจ้าค่ะ บรรดาฮูหยินและคุณชายเจ็ดไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของคุณหนูใหญ่ ช่วงนี้คุณหนูใหญ่หักโหมมากเกินไปเจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นถามต่อ “อาอวิ๋น…กลับมาแล้วหรือไม่”
ถงหมัวมัวส่ายหน้า “คุณชายเก้ายังไม่กลับมาเลยเจ้าค่ะ”
“มีขุนนางมาขอพบข้าบ้างหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามต่อ
ถงหมัวมัวเม้มปากแน่น นางไม่อยากรายงานเรื่องเหล่านี้ให้คุณหนูใหญ่ทราบ ทว่า บัดนี้คุณหนูใหญ่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของจวนไป๋เท่านั้น นางคือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวด้วย
ถงหมัวมัวกล่าว “ท่านน้าชายและใต้เท้าหลู่ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่มาขอพบครั้งหนึ่งเจ้าค่ะ ทว่า เมื่อทราบว่าคุณหนูใหญ่พักผ่อนอยู่จึงไม่ได้รบกวน กล่าวว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอันใด รอให้เสร็จสิ้นพิธีบรมราชาภิเษกก่อนก็ได้เจ้าค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า นางนึกถึงอดีตองค์รัชทายาทขึ้นมาได้จึงสะบัดผ้าห่มออก “หมัวมัวช่วยข้าเปลี่ยนชุดที”
ถงหมัวมัวอยากให้คุณหนูใหญ่พักผ่อนอีกสักนิด ทว่า เรื่องที่คุณหนูใหญ่กังวลใจล้วนเป็นเรื่องสำคัญของแคว้นที่รอช้าไม่ได้ นางจึงได้แต่พยักหน้า “เจ้าค่ะ…”
อดีตองค์รัชทายาทและฉินซ่างจื้อถูกขังอยู่ในคุกชั่วคราว
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเคยกำชับไว้ก่อนหน้านี้ดังนั้นห้องขังของอดีตองค์รัชทายาทและฉินซ่างจื้อจึงสะอาดสะอ้าน อากาศภายในคุกถ่ายเทสะดวก ขอเพียงคำร้องขอของอดีตองค์รัชทายาทไม่มากเกินไป ผู้คุมคุกมักทำตามคำเรียกร้องของเขา
อดีตองค์รัชทายาทถูกปล่อยปละละเลยตั้งแต่วันที่เดินทางออกมาจากหอลั่วหง อดีตองค์รัชทายาทกลัวว่าการเสียชีวิตขององค์หญิงใหญ่จะทำให้ไป๋ชิงเหยียนพลอยโกรธเขาและไม่เหลือทางรอดให้เขาแล้ว