ตอนที่ 953 คานอำนาจราชวงศ์เก่า
หญิงสาวรู้สึกเหมือนถูกฝ่ามือใหญ่บีบรัดที่ลำคอ น้ำตาเกือบไหลออกมาอย่างคุมไม่อยู่
อาอวี๋…ยังติดค้างอัญมณีโลหิตพิราบกับนางอยู่
อาอวี๋…มอบอัญมณีโลหิตพิราบให้นางแล้ว
คนตระกูลไป๋รักษาสัญญาเสมอ
เมื่อต่งซื่อเห็นอัญมณีโลหิตพิราบก็ยิ่งมั่นใจว่าอ๋องหน้ากากผีคืออาอวี๋ของตน ก่อนอาอวี๋จากไปเขาเคยบอกพี่สาวของตัวเองว่าจะนำอัญมณีโลหิตนกพิราบที่งามที่สุดกลับมาให้พี่สาวของเขา ต่งซื่อรู้เรื่องนี้ดี!
น้ำตาของต่งซื่อเกือบไหลออกมา นางแสร้งยิ้มพลางก้มหน้าใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปากและดวงตาของตัวเอง “เป็นอัญมณีโลหิตนกพิราบที่งดงามจริงๆ ยิ่งสะท้อนแสงไฟยิ่งงดงาม ขอแม่ดูใกล้ๆ หน่อย คนอายุมากแล้วมักชอบของงดงามเหล่านี้”
ไป๋ชิงเหยียนรีบส่งให้ต่งซื่อทันทีที่ได้ยินเสียงมารดากล่าว
ต่งซื่อรับอัญมณีไปดูอย่างโปรดปราน ราวกับอัญมณีมีไออุ่นจากตัวบุตรชายของนางอยู่
ขอบตาของไป๋ชิงอวี๋ร้อนผ่าว เขาเริ่มมองเห็นมารดาของตัวเองไม่ชัดเจน ไฟเผาใบหน้าของเขาไปกว่าครึ่งซีก ดวงตาข้างหนึ่งของเขาสูญเสียการมองเห็น ถึงแม้ตอนนี้ไป๋ชิงอวี๋จะเคยชินแล้ว ทว่า หากดวงตาอีกข้างหนึ่งพร่ามัวเพราะน้ำตา ภาพตรงหน้าของเขาจะพร่ามัวทันที
เขาทำให้ท่านแม่เสียใจแล้ว
เมื่อทูตของหรงตี๋เห็นไทเฮายังชมว่างดงาม ทว่า อ๋องของตัวเองไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้นจึงรีบกล่าวขึ้น “หากไทเฮาทรงโปรดปราน วันหน้ากระหม่อมจะมอบอัญมณีโลหิตพิราบที่ดีกว่านี้ให้ต้าโจวแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“หรงตี๋ ซีเหลียง…” ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ จากนั้นหันไปมองหลิ่วหรูซื่อ “ใต้เท้าหลิ่ว…”
“พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วหรูซื่อรับคำ
“หลังจบงานเลี้ยง ท่านช่วยคุยรายละเอียดกับทูตของซีเหลียงและหรงตี๋ให้ชัดเจนด้วย พรุ่งนี้พวกเราค่อยปรึกษากันตอนว่าราชการตอนเช้าว่าจะทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันเช่นไร”
“พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วหรูซื่อรับคำ
เมื่อเจรจาเรื่องซีเหลียงและหรงตี๋จบ ทูตของต้าเยี่ยนจึงลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “ต้าเยี่ยนมาที่นี่เพื่อแสดงความยินดีกับฝ่าบาท อีกประการคือต้องการเป็นพันธมิตรกับต้าโจวเช่นเดียวกันพ่ะย่ะค่ะ ก่อนกระหม่อมออกเดินทางมาที่นี่ จักรพรรดิของต้าเยี่ยนทรงกำชับกระหม่อมว่าตอนพระองค์มาเป็นตัวประกันที่ต้าจิ้น ฝ่าบาทเคยชี้แนะพระองค์มากมาย ฝ่าบาทถือเป็นอาจารย์คนหนึ่งของพระองค์ พระองค์ทรงฝากกระหม่อมมาแสดงความยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า นางประทับใจในตัวมู่หรงลี่มากเช่นกัน
อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่สวมหน้ากากอยู่หันไปมองไป๋ชิงเหยียน จากนั้นก้มศีรษะให้หญิงสาวเล็กน้อย “ฝ่าบาท บัดนี้จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนขึ้นครองราชย์แล้ว ทว่า ยังไม่ได้แต่งตั้งไทเฮา กระหม่อมและจักรพรรดิของกระหม่อมจึงอยากแต่งงานเชื่อมไมตรีกับต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
ฮูหยินสี่หวังซื่อกำมือแน่น แม้ไป๋จิ่นเจาและไป๋จิ่นหวาจะไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของนาง ทว่า นางเลี้ยงดูพวกนางมาตั้งแต่เล็ก บัดนี้อาเป่าขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี เมื่อมาถึงก็เอ่ยว่าจะแต่งงานเชื่อมไมตรี แสดงว่าพวกเขาพุ่งเป้ามาที่น้องสาวของอาเป่าแน่นอน!
“หากกล่าวถึงเรื่องแต่งงานเชื่อมไมตรี…” ต่งชิงผิงรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางปล่อยให้น้องสาวของตัวเองแต่งงานไปอยู่แคว้นอื่นแน่นอน เขาจึงมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่นั่งอยู่ทางด้านหลังอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาหยุดอยู่ที่ร่างของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนพลางกล่าวอย่างจงใจ “จักรพรรดินีของพวกเราก็เพิ่งเสด็จขึ้นครองราชย์ ยังไม่มีพระภัสดาเช่นเดียวกัน ได้ยินว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนยังไม่ได้แต่งงาน อีกทั้งยังเป็นพระอนุชาแท้ๆ ของจักรพรรดิองค์ก่อน ไม่ทราบว่าท่านอ๋องเก้ายินดีแต่งงานเชื่อมไมตรีกับต้าโจวหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ต่งชิงผิงคือลุงของไป๋ชิงเหยียน หลู่ไท่เว่ยไม่กล้ากล่าวเรื่องนี้ ทว่า เขากล้า
อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่สวมหน้ากากบนใบหน้ากำหมัดแน่น ทูตของต้าเยี่ยนรีบโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียนและต่งชิงผิง “บัดนี้ท่านอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนคือผู้สำเร็จราชการของต้าเยี่ยน พระองค์ต้องช่วยดูแลการปกครองของแคว้น ส่วนเรื่องการแต่งงาน ก่อนจักรพรรดิองค์ก่อนเสด็จสวรรคต พระองค์ทรงหมั้นหมายให้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนแล้วขอรับ ซือถูได้โปรดเข้าใจด้วยขอรับ”
ทูตของต้าเยี่ยนได้สติอย่างรวดเร็ว ล้อเล่นหรือเปล่า…ให้อ๋องของพวกเขากลายเป็นสามีของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวเนี่ยนะ น่าขันสิ้นดี
แม้การหมั้นหมายคือเรื่องโกหก ทว่า จักรพรรดินีแห่งต้าโจวคือสตรี พวกเขาคงไม่ซักไซ้ต่อว่าอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนหมั้นหมายกับสตรีนางใดในต้าเยี่ยนหรอก!
หลี่จือเจี๋ยสัมผัสได้ว่าต้าเยี่ยนต้องการผูกมิตรกับซีเหลียง หลี่จือเจี๋ยจึงอยากช่วยเหลือต้าเยี่ยนในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน หากเป็นเช่นนี้ต้าเยี่ยนจะได้ช่วยออกหน้าแทนซีเหลียงบ้าง หลี่จือเจี๋ยรีบกล่าวขึ้น “กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาททรงหมั้นหมายกับเซียวเซียนเซิงตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี หากทั้งสองแคว้นต้องการเชื่อมไมตรีกัน นี่ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงอวี๋กวาดสายตามองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าใด เขาขมวดคิ้วแน่น พี่สาวของเขาหมั้นหมายกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจริงๆ สินะ ไป๋ชิงอวี๋มองไปทางพี่สาวของตัวเองพลางเม้มปากแน่น
แม้ข่าวนี้จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทว่า ต่งซื่อและบรรดาอาสะใภ้ของไป๋ชิงเหยียนพอได้ยินเรื่องนี้มาบ้างแล้ว สีหน้าของแต่ละคนจึงสงบนิ่ง ทว่า ไป๋ชิงเจวี๋ยและไป๋ชิงอวิ๋นเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ทั้งสองคนมองไปทางพี่หญิงใหญ่แวบหนึ่ง จากนั้นหันไปมองเซียวหรงเหยี่ยน
หยางอู่เช่อกำหมัดแน่น นั่นนะสิ ฝ่าบาทและเซียวหรงเหยี่ยนรักกัน ทำสัญญาหมั้นหมายกันไว้แล้ว หากต้องแต่งงานเชื่อมไมตรีก็ควรทำตามหัวใจของฝ่าบาทถึงจะถูก
เซียวหรงเหยี่ยนกำชุดของตัวเองไว้หลวมๆ เขาหันไปก้มศีรษะให้หลี่จือเจี๋ยเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา รู้ว่าเสี่ยวอาลี่ยังเด็ก รู้ว่าตอนนี้เขายังไปจากต้าเยี่ยนไม่ได้
อาลี่อายุยังน้อย เรื่องบางเรื่องอาลี่ยังไม่อาจทำได้ อาลี่ต้องกลายป็นจักรพรรดิที่ทรงคุณธรรม ดังนั้นเขาจะจัดการเรื่องเหล่านั้นให้อาลี่เอง
ตอนที่พี่ชายของเขายังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ได้กลายเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ถึงแม้ทั้งสองคนแต่งงานกัน เซียวหรงเหยี่ยนก็ยังสามารถเดินทางไปทำการค้าตามแคว้นต่างๆ อยู่ดี ทว่า หากแต่งงานกันขึ้นมาจริงๆ การเดินทางไปทำการค้าในฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนอาจไม่ราบรื่นเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
สองสายตาประสานกัน ไป๋ชิงเหยียนกล่าวขึ้น “ต้าโจวเพิ่งสถาปนาขึ้น ไม่เพียงมีเรื่องต้องทำมากมาย ข้ายังต้องไว้ทุกข์ให้ท่านย่าของข้าด้วย ค่อยหารือเรื่องนี้กันภายหลังเถิด”
“นั่นนะสิ เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน ที่สำคัญน้องสาวของพวกข้าอายุมากกว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนตั้งหลายปี น้องสาวคนที่เจ็ดของข้าก็อายุน้อยเกินไป ท่านป้าสะใภ้ใหญ่และพี่หญิงใหญ่คงไม่ปล่อยให้นางแต่งงานไปไกลเช่นนั้นหรอก” ไป๋ชิงอวิ๋นกล่าวขึ้นช้าๆ
เซียวหรงเหยี่ยนยืดหลังตรง “หรงเหยี่ยนคิดเช่นเดียวกับฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
ต่งชิงผิงเริ่มไม่เข้าใจ ไป๋ชิงเหยียนไม่พอใจในตัวเซียวหรงเหยี่ยนแล้ว หรือหลานสาวของเขาต้องการใช้ตำแหน่งพระภัสดาคานอำนาจราชวงศ์เก่ากันแน่
งานเลี้ยงยังไม่จบ ไป๋ชิงเหยียนพาต่งซื่อกลับไปพักที่ตำหนักก่อนโดยอ้างว่าต่งซื่อรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นซิ่วรู้สึกว่าพี่หญิงใหญ่มีเรื่องร้อนใจถึงให้ท่านป้าสะใภ้แสร้งทำเป็นไม่สบายเพื่อออกจากงานเลี้ยงไปก่อนเช่นนี้
ทั้งสองคนจึงลุกขึ้นยืนกล่าวว่าจะออกไปส่งต่งซื่อเช่นเดียวกัน จากนั้นจึงเดินตามไป๋ชิงเหยียนออกไปจากตำหนัก
เมื่อออกมาจากตำหนัก ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันเดินไปส่งต่งซื่อถึงตำหนักของมารดา ต่งซื่อก็บีบมือนางเสียก่อน จากนั้นมองไปทางไป๋ชิงฉีและไป๋จิ่นซิ่ว “ส่งแค่นี้ก็พอ พวกเจ้าไปทำธุระของตัวเองเถิด ข้ามีฉินหมัวมัวอยู่เป็นเพื่อนแล้ว ในตำหนักเซวียนหมิงมีบรรดาอาสะใภ้ของพวกเจ้าอยู่ พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง!”
ฉินหมัวมัวทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นประคองต่งซื่อจากไป
**************************************