ตอนที่ 955 เข้าเฝ้า
เดิมทีหลู่ไท่เว่ยเตรียมจากไปแล้ว ทว่า เขานึกสิ่งใดขึ้นมาได้จึงกล่าวขึ้นต่อ “เมื่อครู่ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการสั่งให้ส่งตัวบรรดาสนมของจักรพรรดิองค์ก่อนออกจากวังหลวงไปยังครอบครัวของตัวเอง ฝ่าบาทจะทรงมอบเรื่องนี้ให้เว่ยกงกงเป็นคนจัดการ ลำบากเว่ยกงกงแล้ว”
หลู่ไท่เว่ยมาเพื่อถามไป๋ชิงเหยียนว่าจะจัดการกับสนมของจักรพรรดิองค์ก่อนเช่นไร
ตอนนั้นทายาทของจักรพรรดิต้าจิ้นและสนมที่เคยคลอดบุตรให้จักรพรรดิต้าจิ้นถูกเหลียงอ๋องสังหารหมดแล้ว สนมที่เหลืออยู่ในวังตอนนี้คือสนมที่ไม่เคยมีทายาทให้จักรพรรดิต้าจิ้น
หากทำตามประเพณีเก่าของราชวงศ์ต้าจิ้น เมื่อจักรพรรดิองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ จักรพรรดิองค์ใหม่จะเก็บสนมที่ตนเองถูกใจหรือสนมที่หน้าตางดงามและยังไม่เคยปรนนิบัติรับใช้จักรพรรดิองค์ก่อนไว้ในวังหลังของตนต่อ ส่วนที่เหลือจะกำจัดทิ้งทั้งหมด
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนคือสตรี ต่อให้สนมที่ยังอยากอยู่ในวังเพื่อเสพสุขต่อมีความสามารถมากเพียงใดก็ล้วนไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น การถูกส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัยถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดของพวกนางแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนกำชับไม่ให้เก็บชิวกุ้ยเหรินไว้
ชิวกุ้ยเหรินคือคนของเหลียงอ๋อง การเก็บนางไว้มีแต่จะเป็นภัยต่อแคว้น
“ไท่เว่ยกล่าวอันใดเช่นนี้ขอรับ การรับใช้ฝ่าบาทคือหน้าที่ของบ่าวขอรับ!” เว่ยจงโค้งกายคำนับหลู่ไท่เว่ยยิ้มๆ “เมื่อครู่บ่าวได้ยินว่าคุณชายหลู่หยวนเผิงและคุณชายซือหม่าผิงเดินทางกลับมาพร้อมกองทัพไป๋ในครั้งนี้ด้วย เมื่อพวกเขาจัดการกับกองทัพของบรรดาอ๋องเสร็จก็คงได้กลับบ้านแล้วขอรับ บ่าวได้ยินแม่ทัพเสิ่นคุนหยางกล่าวว่าคุณชายหลู่ทนความลำบากได้ดีมาก เขาปิดบังฐานะของตัวเอง อาศัยความสามารถของตัวเองจนบัดนี้เป็นถึงนายกองพันแล้วขอรับ”
เมื่อได้ยินเว่ยจงเอ่ยชมหลานชายของตัวเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของหลู่ไท่เว่ยกว้างขึ้นทันที “เด็กนั่นตอนอยู่ในเมืองหลวงดีแต่ก่อเรื่องไปวันๆ แม่ทัพเสิ่นคุนหยางอบรมสั่งสอนได้ดี!”
กองทัพไป๋คือกองทัพของไป๋ชิงเหยียน การได้เป็นนายกองพันในกองทัพไป๋ถือเป็นเกียรติมากแล้ว
“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องขอแสดงความยินดีกับหลู่ไท่เว่ยด้วยขอรับ” เว่ยจงหลีกทางให้หลู่ไท่เว่ย “เชิญหลู่ไท่เว่ยขอรับ”
เว่ยจงพาเซียวหรงเหยี่ยนเข้าไปในตำหนัก เขาเห็นไป๋ชิงเหยียนเอามือเท้าศอกบนที่วางแขนพลางเอนศีรษะซบมือของตัวเองโดยที่มืออีกข้างถือฎีกาเอาไว้ หญิงสาวหลับตาลงราวกับผล็อยหลับไปแล้ว…
เว่ยจงก้าวไปด้านหน้าพลางเอ่ยเรียกเสียงเบา “ฝ่าบาท เซียวเซียนเซิงมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนสะดุ้งตื่นขึ้น ใจของหญิงสาวเต้นรัว นางวางฎีกาลงบนโต๊ะด้านหน้าแล้วหันไปสั่งเว่ยจง “เจ้าพาคนออกไปเฝ้าที่นอกตำหนักไว้ หากไม่ได้รับคำสั่งห้ามเข้ามาด้านในเด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้าไปในตำหนักเพียงคนเดียว เว่ยจงปิดประตูใหญ่แกะสลักลายดอกไม้ของตำหนักให้ทั้งสองคน
สองสายตาประสานกัน เซียวหรงเหยี่ยนเดินเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียนอย่างคิดถึง เขาเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอย่างไม่รู้ตัว…
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังเดินมาทางเขาเช่นเดียวกัน ลำคอของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว เขารั้งร่างของไป๋ชิงเหยียนเข้ามาในอ้อมแขนพลางก้มหน้าจุมพิตไปบนหน้าผากของนาง
พี่ชายของเขาจากไปแล้ว ทิ้งต้าเยี่ยนที่กว้างใหญ่ให้เขาดูแล พี่สะใภ้อ่อนแอ อาลี่ยังเล็กเกินไปที่จะดูแลแคว้นต้าเยี่ยน ตอนนั้นเขาเสียใจจนนอนไม่หลับ หากไม่ใช่เพราะจดหมายของอาเป่า เขาไม่รู้ว่าร่างกายของตัวเองจะทนกับสภาพที่นอนไม่หลับของเขาได้อีกสักกี่วัน
ทว่า ตั้งแต่ที่เขาอ่านจดหมายของอาเป่า เขาก็ยิ่งคิดถึงหญิงสาวมากขึ้นทุกวัน แม้แต่ในฝันก็ยังเต็มไปด้วยภาพของหญิงสาว
จมูกของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมที่คุ้นเคยจากร่างของเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวหลับตาพลางกุมชายเสื้อบริเวณเอวทั้งสองข้างของเซียวหรงเหยี่ยนแน่นโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวรู้สึกว่าชายหนุ่มผอมลงกว่าเมื่อก่อนมาก “ท่านผอมลง…”
“ตอนเจอกันครั้งก่อน ข้ายังถามอาเป่าอยู่เลยว่าจะเข้าแทนที่ราชวงศ์หลินเมื่อใด ครั้งนี้พบกัน อาเป่ากลายเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไปแล้ว” น้ำเสียงทุ้มของเซียวหรงเหยี่ยนดังขึ้นอย่างช้าๆ ชายหนุ่มขบกรามเบาๆ จากนั้นกล่าวอย่างรู้สึกผิดด้วยเสียงแหบพร่า “ข้าเคยให้สัญญาว่าเมื่อทำลายแคว้นเว่ยได้แล้วจะมาสู่ขออาเป่า ข้าคงต้องผิดสัญญาแล้ว”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองเซียวหรงเหยี่ยน “ข้ารู้ดี พี่ชายของท่านเพิ่งจากไป ท่านย่าของข้าก็เพิ่งจากไปเช่นเดียวกัน จักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนขึ้นครองราชย์ ท่านไปจากต้าเยี่ยนไม่ได้ บัดนี้ข้าขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้ว ข้าก็ไปจากต้าโจวไม่ได้เช่นเดียวกัน…”
พวกนางทั้งสองคนล้วนมีเรื่องลำบากใจก็จริง ทว่า ความรู้สึกที่พวกนางมีให้กันก็เป็นเรื่องจริงเช่นเดียวกัน
เซียวหรงเหยี่ยนมองดูใบหน้างดงามของหญิงสาวแล้วรู้สึกยากจะควบคุมตัวเอง ฝ่ามือหยาบกระด้างของชายหนุ่มประคองใบหน้าด้านข้างของหญิงสาว ไล้นิ้วโป้งไปที่ริมฝีปากของนาง ความคิดถึงถาโถมเข้าใส่ราวกับพายุที่โหมกระหน่ำจนเกือบทำให้ชายหนุ่มจมลงไปในน้ำ เขามองจ้องไปในแววตาของหญิงสาวด้วยความรักอย่างยากจะปกปิด
ลมหายใจของเซียวหรงเหยี่ยนรดอยู่ที่ปลายจมูกของไป๋ชิงเหยียน การที่ชายหนุ่มจ้องมองมาที่นางนิ่งๆ เช่นนี้ทำให้ใจของหญิงสาวเต้นรัวมากยิ่งขึ้น
ความเงียบและความรู้สึกห่วงหาที่แทบจะล้นทะลักออกมาคืบคลานเข้าไปในใจของคนสองคน มันมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่เดินผ่านไปจนแทบจะล้นทะลักออกมา
เซียวหรงเหยี่ยนพยายามควบคุมจังหวะการหายใจของตัวเองให้เป็นปกติ เขาก้มหน้าลง จ้องลึกเข้าไปในแววตาของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า “อาเป่า พวกเราแต่งงานกันเถิด!”
ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนไหววูบเล็กน้อยอย่างตกตะลึง “ทว่า ท่าน…”
“ไม่ใช่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวกับอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน แต่เป็นเจ้าและข้า ไป๋ชิงเหยียนกับมู่หรงเหยี่ยน พวกเราแต่งงานกันเถิด” ริมฝีปากร้อนของเซียวหรงเหยี่ยนประทับลงบนริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มสัมผัสเบาๆ จากนั้นกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงมีเสน่ห์ “ฟ้าดินเป็นพยาน ชาตินี้ข้ามู่หรงเหยี่ยนจะมีไป๋ชิงเหยียนเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว! ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเสียใจตราบจนชั่วชีวิต! ขอให้สวรรค์และครอบครัวของเจ้าเป็นพยาน!”
เซียวหรงเหยี่ยนอยากแต่งงานกับไป๋ชิงเหยียน อยากกลายเป็นสามีของสตรีในดวงใจของเขาในเมืองหลวงที่มารดาของเขาเป็นผู้สร้างขึ้นแห่งนี้…
พี่ชายของเขาไม่สามารถเดินทางมาสู่ขอไป๋ชิงเหยียนให้เขาได้ เขาจะทำมันด้วยตัวเอง!
สมองของไป๋ชิงเหยียนค่อนข้างสับสน หากให้ครอบครัวของนางเป็นพยานในการแต่งงานครั้งนี้ เช่นนั้นฐานะของเซียวหรงเหยี่ยนก็จะปิดไม่มิดอีกต่อไป
ขณะที่เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว ริมฝีปากร้อนของเขาแนบชิดอยู่กับริมฝีปากของนาง ลมหายใจของนางจึงเริ่มร้อนผ่าวขึ้นบ้าง หญิงสาวเผลอกล่าวถ้อยคำที่น่าอายออกมาในที่สุด “ในใจของข้า ท่านคือสามีของข้าแล้ว…”
มิเช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนคงไม่บอกว่าเซียวหรงเหยี่ยนคือคู่หมั้นของนางต่อหน้าหยางอู่เช่อและจ้าวเซิ่ง
หญิงสาวคงไม่ดื่มน้ำชาคารวะมู่หรงอวี้และเรียกเขาว่าท่านพี่
จะแต่งงานหรือไม่ พวกนางล้วนตกลงคบหาดูใจกันนานแล้ว
แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนสามีภรรยาคู่อื่น ทว่า ความรู้สึกของพวกนางไม่เคยเปลี่ยนไป
ระหว่างพวกนางไม่จำเป็นต้องสนใจพิธีทางศาสนาเหล่านั้น
“จักรพรรดิต้าเยี่ยนเคยเดินทางไปพบข้า ข้ารับของขวัญที่จักรพรรดิต้าเยี่ยนมอบให้แทนจีโฮ่วไว้แล้ว ข้าดื่มน้ำชาคารวะและเรียกเขาว่าท่านพี่แล้ว อาเหยี่ยน สำหรับข้าท่านคือสามีของข้านานแล้ว ชาตินี้ข้าไม่มีทางทำผิดต่อท่านเช่นเดียวกัน” ดวงตาที่แดงก่ำเพราะความอ่อนล้าแดงก่ำมากขึ้นกว่าเดิม
แม้นางจะไม่ได้เจ็บปวดกับการจากไปของจักรพรรดิต้าเยี่ยนเท่าเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า นางก็เสียใจเช่นเดียวกัน
จักรพรรดิต้าเยี่ยนเป็นพี่ชายที่ดี เป็นจักรพรรดิที่ดี
เมื่อเอ่ยถึงพี่ชาย เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวถ้อยคำเหล่านี้ออกมา ขอบตาของเซียวหรงเหยี่ยนร้อนผ่าว เขาประทับจูบลงบนริมฝีปากของไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง
“ฝ่าบาท…” เสียงของเว่ยจงดังขึ้นนอกตำหนัก “หลู่ไท่เว่ย ซือคง ซือถูและแม่ทัพเซี่ยมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”
—————————–