ตอนที่ 960 อาศัยความสามารถของตัวเอง
กิจการของเซียวหรงเหยี่ยนในซีเหลียงไม่ค่อยมันคงสักเท่าใดนัก เมื่อก่อนชายหนุ่มไม่ได้ให้ความสำคัญกับซีเหลียงและไม่ได้ใส่ใจสร้างกิจการในซีเหลียงมากนัก
เป้าหมายสำคัญของต้าเยี่ยนก่อนหน้านี้คือการควบคุมต้าจิ้น ยึดครองหนานเยี่ยนกลับคืนและทำลายแคว้นเว่ยเท่านั้น ดังนั้นเซียวหรงเหยี่ยนจึงไม่ได้แบ่งเวลาไปสนใจซีเหลียงมากนัก
หากกล่าวตามตรงกิจการของเซียวหรงเหยี่ยนในซีเหลียงตอนนี้ยังไม่มั่นคงเท่าพ่อค้าหนุ่มที่มีนามว่าชุยเฟิ่งเหนียนผู้นั้นเลย ไม่รูว่าพ่อค้าหนุ่มแคว้นต้าจิ้นชุยเฟิ่งเหนียนผู้นั้นใช้วิธีการใดถึงได้เป็นที่ต้องตาของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง ได้ยินว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเรียกพ่อค้าผู้นั้นว่ากงสิงซึ่งเป็นนามรองของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาคงไม่ธรรมดาแน่นอน
“ข้าคิดว่าเจ้าส่งคนที่ไว้ใจได้ไปตีสนิทกับคนผู้หนึ่งในซีเหลียงเองน่าจะมีประโยชน์กว่า!” เซียวหรงเหยี่ยนเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน
ไป๋ชิงเหยียนตั้งตารอฟังสิ่งที่เซียวหรงเหยี่ยนจะกล่าวต่อไป
“ต้าจิ้นมีพ่อค้าคนหนึ่งนามว่าชุยเฟิ่งเหนียน นามรองกงสิง ไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นที่ต้องตาของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงได้อย่างไร ได้ยินว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเรียกเขาไปเข้าเฝ้าในวังหลวงบ่อยครั้งเพื่อเล่าเรื่องราวในต้าจิ้น จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเอ่ยเรียกนามรองของพ่อค้าคนนี้แสดงว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา” น้ำเสียงทุ้มของเซียวหรงเหยี่ยนกล่าวขึ้นช้าๆ “บัดนี้ต้าจิ้นกลายเป็นแคว้นต้าโจวแล้ว พ่อค้าผู้นั้นไม่ได้อยู่ในแคว้นต้าโจว หากเจ้าส่งคนที่ไว้ใจได้ไปตีสนิทเขา มอบผลประโยชน์ให้เขาเมื่อเขากลับมาทำการค้าที่ต้าโจว ไม่แน่เจ้าอาจได้คนผู้นี้มาเป็นพวก แน่นอนว่าต้าเยี่ยนก็กำลังดึงคนผู้นี้มาเป็นพวกเช่นเดียวกัน ผู้ใดจะได้เขาไปเป็นพวกคงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเองแล้ว”
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้านิ่งไม่ตอบสิ่งใดทั้งสิ้น
ชุ่ยเฟิ่งเหนียนคือไป๋จิ่นถง
ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเซียวหรงเหยียน บัดนี้สถานการณ์ในซีเหลียงยังไม่ชัดเจน คนรู้ฐานะของจิ่นถงน้อยเท่าใดยิ่งดีที่สุด มิเช่นนั้นแผนการที่จิ่นถงวางมาทั้งหมดอาจสูญเปล่าได้
ทว่า คำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยนทำให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ข้อมูลใหม่ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงให้จิ่นถงเล่าเรื่องราวต่างๆ ในต้าจิ้นให้นางฟัง อีกทั้งเรียกจิ่นถงด้วยนามรอง
เซียวหรงเหยี่ยนเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จได้ไม่นาน ไป๋ชิงเจวี๋ยมาขอพบไป๋ชิงเหยียนพอดี
เซียวหรงเหยี่ยนจึงทำได้เพียงจุมพิตไปที่หน้าผากของไป๋ชิงเหยียนอย่างอาวรณ์ กำชับชับให้หญิงสาวดูแลตัวเองให้ดี จากนั้นอำลาหญิงสาว
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า หญิงสาวกุมมือเซียวหรงเหยี่ยนอย่างอาวรณ์เช่นเดียวกัน เมื่อนึกถึงเรื่องที่ทูตของต้าเยี่ยนเสนอเรื่องการแต่งงานกับจักรพรรดิต้าเยี่ยนมู่หรงลี่ในงานเลี้ยงฉลองวันนี้ขึ้นได้จึงกล่าวขึ้น “ข้าไม่สามารถตอบรับเรื่องการแต่งงานกับต้าเยี่ยนได้ หากบรรดาน้องสาวของข้าแต่งงานไปอยู่แคว้นอื่น อาสะใภ้ของข้าต้องเป็นห่วงพวกนางมาก การเสียชีวิตของบุรุษตระกูลไป๋ในสนามรบทำให้บรรดาท่านอาสะใภ้ของข้าเสียใจมากพอแล้ว ความตั้งใจแรกที่ข้าขึ้นครองบัลลังก์แห่งนี้ก็เพื่อปกป้องดูแลพวกนาง ดังนั้นข้าไม่มีวันทำให้พวกนางเสียใจเด็ดขาด”
เซียวหรงเหยี่ยนรู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นแบบนี้ ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนรักพวกพ้อง หญิงสาวรักบรรดาน้องสาวของนางถึงเพียงนี้ หญิงสาวจะปล่อยให้น้องสาวของตัวเองแต่งงานไปอยู่แคว้นอื่นได้อย่างไรกัน
บัดนี้ต้าเยี่ยนคือแคว้นที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน การแต่งตั้งฮองเฮาของแคว้นต้าเยี่ยน ราชสำนักต้าเยี่ยนย่อมไม่อยากได้เพียงทายาทของขุนนางต้าโจวไปเป็นฮองเฮาของต้าเยี่ยน คนที่พวกเขาอยากได้คือน้องสาวของไป๋ชิงเหยียน ทางที่ดีควรเป็นคุณหนูเจ็ดซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ ของไป๋ชิงเหยียน
“ข้าทราบดี…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว “ข้ารู้อยู่แล้วว่าผลลัพธ์ต้องออกมาเป็นเช่นนี้”
สำหรับต้าเยี่ยนแล้ว เซียวหรงเหยี่ยนก็ต้องการผลลัพธ์แบบนี้เช่นเดียวกัน
ทุกคนในราชสำนักต้าเยี่ยนต่างหวังว่าจะได้น้องสาวของไป๋ชิงเหยียนมาเป็นฮองเฮาของต้าเยี่ยน เช่นนี้บัลลังก์ของจักรพรรรดิแห่งต้าเยี่ยนจะได้มั่นคง พวกเขาจะได้มีกำลังต่อต้านอ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนแห่งต้าเยี่ยน
หากครั้งนี้ต้าเยี่ยนสู่ขอน้องสาวของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวไปเป็นฮองเฮาของต้าเยี่ยนไม่สำเร็จ เมื่อกลับไปให้คนแพร่ข่าวว่าอ๋องก้ามู่หรงเหยี่ยนเป็นทำลายการสู่ขอในครั้งนี้ ทุกคนในแคว้นต้าเยี่ยนจะรับรู้ว่าจักรพรรดิองค์น้อยของต้าเยี่ยนถูกอ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนกดไว้เพราะมู่หรงเหยี่ยนไม่ต้องการให้มู่หรงลี่แข็งแกร่ง
มีเพียงการทำเช่นนี้วันหน้าเมื่ออาลี่ลงโทษเขา ผู้อื่นจะได้ไม่สงสัย เชื่อว่ามู่หรงลี่และมู่หรงเหยี่ยนไม่ถูกกันและไม่เห็นด้วยกับการปกครองแผ่นดินของมู่หรงเหยี่ยนจริงๆ
หากกล่าวด้วยเหตุผลส่วนตัว อาเป่าคือภรรยาของเขา…
หากน้องสาวของอาเป่าแต่งงานกับหลานชายของเขา วันหน้าพวกเขาจะเรียกกันเช่นไร จะให้อาลี่เรียกอาเป่าว่าพี่หญิงใหญ่อย่างนั้นหรือ
ไป๋ชิงเจวี๋ยเดินตามเว่ยจงเข้ามาในตำหนัก เซียวหรงเหยี่ยนจึงลุกขึ้นยืนทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างนอบน้อม จากนั้นหันไปทำความเคารพไป๋ชิงเจวี๋ย
ไป๋ชิงเจวี๋ยโค้งกายคำนับเซียวหรงเหยี่ยน “เซียวเซียนเซิง”
“ในเมื่อคุณชายเจ็ดมาแล้ว เช่นนั้นเหยี่ยนไม่อยู่รบกวนแล้ว ขอตัวก่อนขอรับ…” เซียวหรงเหยี่ยนทำความเคารพอีกครั้ง
“เชิญเซียวเซียนเซิงขอรับ!” เว่ยจงผายมือเชิญเซียวหรงเหยี่ยน จากนั้นพาชายหนุ่มออกไปจากตำหนัก
ก่อนเดินออกจากตำหนักเซียวหรงเหยี่ยนหันกลับไปมองไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง เมื่อเห็นแววตาของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอ่อนโยน ชายหนุ่มจึงก้าวเท้าเดินออกไปจากตำหนัก
ไป๋ชิงเจวี๋ยกำมือที่ไขว้อยู่ทางด้านหลังแน่น เขามองออกว่าแม้เครื่องแต่งกายของเซียวหรงเหยี่ยนจะคล้ายคลึงกับตอนที่เขาสวมตอนร่วมงานเลี้ยงมาก ทว่า มีหลายจุดที่แตกต่างกัน
แม้ไป๋ชิงเจวี๋ยจะไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาว ทว่า เขาไม่ใช่คนโง่ ตั้งแต่ที่เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยเอ่ยถึงเรื่องการหมั้นหมายของเซียวหรงเหยี่ยนและพี่หญิงใหญ่แล้วพี่หญิงใหญ่ไม่ได้ปฏิเสธ เขาก็รู้แล้วว่าเซียวหรงเหยี่ยนและพี่หญิงใหญ่คบหากันอยู่จริงๆ
ต่อมาเซียวหรงเหยี่ยนถูกพี่หญิงใหญ่เชิญไปพบในตำหนัก จนถึงตอนนี้…บัดนี้ชายหนุ่มยังเปลี่ยนเครื่องแต่งกายใหม่อีก
ไป๋ชิงเจวี๋ยมองตามแผ่นหลังของเซียวหรงเหยี่ยนไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เซียวหรงเหยี่ยนผู้นี้มีวาทศิลป์เป็นเลิศ แค่มองดูก็รู้ว่าเอาใจคนเก่ง
หากเขาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพียงเพราะน้ำชาหกราดก็แล้วไป ทว่า หากเขาทำตัวรุ่มร่ามกับพี่หญิงใหญ่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเช่นนี้ ต่อให้เป็นผู้มีพระคุณไป๋ชิงเจวี๋ยก็ไม่มีทางปล่อยเซียวหรงเหยี่ยนไปแน่
“อาเจวี๋ย…”
เมื่อได้ยินเสียงไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียก ไป๋ชิงเจวี๋ยจึงได้สติ จากนั้นหันกลับไปทำความเคารพพี่หญิงใหญ่ “พี่หญิงใหญ่…”
ไป๋ชิงเหยียนยกมือสื่อให้ไป๋ชิงเจวี๋ยนั่งลงแล้วเอ่ยถาม “จัดการกองทัพของอ๋องต่างๆ เหล่านั้นเรียบร้อยดีหรือไม่”
ไป๋ชิงเจวี๋ยนั่งลงฝั่งตรงข้ามไป๋ชิงเหยียน จากนั้นพยักหน้า “ข้าจัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ ข้าส่งพวกเขาไปอยู่ในสังกัดของแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อขอรับ แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อ แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและเสิ่นเหลียงอวี้ล้วนเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว เดิมทีพวกเขาอย่างมาทำความเคารพพี่หญิงใหญ่ ทว่า กฎของวังหลวงค่อนข้างเคร่งครัด เมื่อได้ยินว่าพี่หญิงใหญ่หลับไปแล้ว พวกเขาจึงไม่ได้มารบกวนขอรับ”
เมื่อเข้ามาในวังหลวง ทุกอย่างจึงไม่สะดวกเหมือนอยู่ในจวนไป๋
เมื่อไป๋ชิงเหยียนได้ยินนามเหล่านี้ก็รู้สึกราวกับได้ยินนามของในครอบครัว ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ชอบตาร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย “พี่กำลังรอพวกเขาอยู่พอดี อาเจวี๋ย เจ้าไปเชิญแม่ทัพเหล่านั้นมาด้วยตัวเองที พี่จะเตรียมสุรารอต้อนรับพวกเขาที่ศาลาแม่ทัพ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ชิงเจวี๋ยเด่นชัดขึ้นเช่นเดียวกัน เขารีบลุกขึ้นยืนโค้งกายคำนับพี่สาว “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ!”
“เว่ยจง…” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกเว่ยจงที่ยืนอยู่นอกตำหนัก
เว่ยจงรีบเดินเข้ามาด้านในทันที “ฝ่าบาท…”
“เตรียมสุราที่ศาลาแม่ทัพที ให้คนเชิญจิ่นซิ่ว อาอวิ๋น จิ่นเจา จิ่นหวาและจิ่นเซ่อมาด้วย”
——————————————–