สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 980 กลับมาแล้ว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 980 กลับมาแล้ว

“ท่านแม่ ท่านแสดงสีหน้าชัดเจนเกินไปเจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงเบา

เมื่อเห็นบรรดาขันทีและนางกำนัลออกจากตำหนักไปหมดแล้ว ทั่วทั้งตำหนักว่างเปล่า ต่งซื่อจึงวางตะเกียบลงตามเดิม จากนั้นใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก ดวงตาทั้งสองข้างของนางแดงก่ำ ทว่า ยังคงปากแข็ง

“อาเจวี๋ย เสี่ยวอู่ เสี่ยวลิ่ว เสี่ยวชีใกล้จะเดินทางไปยังหนานเจียงแล้ว แม้แค่ใจหายเท่านั้น แม่มีอารมณ์อันใดกัน”

“เช่นนั้น อาเป่านำนกแก้วยักษ์สีสันสวยงามมาให้ท่านแม่ อย่างน้อยท่านแม่ก็ควรมองมันสักนิดนะเจ้าคะ…”

ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางกรงนกแก้วยักษ์ที่แขวนอยู่ตรงระเบียงแวบหนึ่ง นกแก้วยักษ์กระพือปีกอย่างแรงท่ามกลางแสงอาทิตย์ เป็นที่สะดุดตาบรรดาขันทีและนางกำนัลยิ่งนัก

ไป๋ชิงเหยียนเหลือบมองไปด้านนอกแวบหนึ่ง เมื่อไม่เห็นมีผู้ใดเดินมา หญิงสาวจึงกำชับมารดาเสียงเบาอีกครั้ง

“ท่านแม่ แม้จะพบหน้ากันได้ ทว่า ท่านแม่ห้ามแสดงอารมณ์ออกมามากเกินไปนะเจ้าคะ ขันทีและนางกำนัลในวังหลวงล้วนหูตาเร็ว ท่านแม่ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ดีเพื่อความปลอดภัยของอาอวี๋ ท่านแม่ทำได้เพียงพบหน้าอาอวี๋และเห็นว่าเขาปลอดภัยดีเท่านั้น แม้แต่ฉินหมัวมัวก็ห้ามรู้ฐานะที่แท้จริงของอาอวี๋นะเจ้าคะ!”

ต่งซื่อรีบตั้งสติมั่นในทันที เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของบุตรชาย ไม่ว่าอย่างไรต่งซื่อก็ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้ได้เหมือนวันพิธีราชาภิเษก

“แค่แม่ได้พบหน้าอาอวี๋แม่ก็พอใจมากแล้ว!” ต่งซื่อกลั้นน้ำตาที่จะไหลออกมากพลางหันไปกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “แม่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แม่รับรองว่าแม้แต่ฉินหมัวมัวก็จะจับพิรุธแม่ไม่ได้”

ไป๋ชิงเหยียนกุมมือต่งซื่อหลวมๆ

“อาเป่าเชื่อท่านแม่เจ้าค่ะ ท่านแม่ทานสิ่งใดรองท้องก่อนสักนิดเถิดเจ้าค่ะ วันนี้อาเป่าตื่นไปว่าราชการแต่เช้า หิวมากแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ไม่ยอมทาน อาเป่าจึงไม่กล้าทานเจ้าค่ะ”

ต่งซื่อหัวเราะกับคำกล่าวของบุตรสาว นางเอื้อมมือไปเขกศีรษะของบุตรสาวเบาๆ จากนั้นตักโจ๊กให้บุตรสาวด้วยตัวเอง

“ฉินหมัวมัวตื่นมาทำให้เจ้าแต่เช้าตรู่ กล่าวว่าเจ้าต้องลำบากออกว่าราชการแต่เช้า นางใส่เม็ดพริกไทยเพิ่มรสชาติให้เจ้าด้วย เจ้าต้องทานเยอะๆ นะ”

“เจ้าค่ะ…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นรับถ้วยโจ๊กมาจากต่งซื่อ

หญิงสาวยังทานโจ๊กไม่หมดถ้วยก็ได้ยินด้านนอกรายงานว่าอ๋องหน้ากากผีแห่งหรงตี๋มาขอพบ

ไป๋ชิงเหยียนก้มมองโจ๊กในถ้วยของตัวเอง จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง

“ข้ายังทานอาหารเช้ากับท่านแม่ไม่เสร็จ เจ้าไปถามอ๋องหน้ากาผีแห่งหรงตี๋ทีว่าเขาจะมาร่วมรับประทานอาหารเช้ากับพวกเราหรือไม่”

เว่ยจงปะหลาดใจ เขาเงยหน้ามองไปทางต่งซื่อ เมื่อไม่เห็นต่งซื่อคัดค้านจึงรีบรับคำและออกไปเชิญอ๋องหน้ากากผีเข้ามาด้านใน

ไป๋ชิงอวี๋กำเสื้อของตัวเองแน่น เขาหันไปสั่งให้อาผูหลู่รออยู่ด้านนอกตำหนัก จากนั้นเดินตามเว่ยจงเข้าไปยังตำหนักโซ่วเหอ

“เชิญพ่ะย่ะค่ะ…” เว่ยจงผายมือเชิญอ๋องหน้ากากผีเข้าไปในตำหนัก

“กระหม่อมคารวะไทเฮาและฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”

น้ำเสียงแหบพร่าของไป๋ชิงอวี๋ดังขึ้น นกแก้วยักษ์ที่อยู่ตรงระเบียงกระพือปีกอย่างแรงด้วยความตกใจ

“ฉินหมัวมัว เอาสัตว์ตัวนั้นออกไปไกลๆ…” ต่งซื่อควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นางรีบแสร้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนความรู้สึกสงสาร

ฉินหมัวมัวรับ จากนั้นสั่งให้ขันทีสองคนยกกรงนกแก้วยักษ์ออกไปห่างๆ

ต่งซื่อกำเสื้อของตัวเองแน่น นางมองไปทางไป๋ชิงอวี๋พลางพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

“เชิญท่านอ๋องนั่งก่อน” ไป๋ชิงเหยียนผายมือเชิญไป๋ชิงอวี๋นั่งลง ไป๋ชิงอวี๋ก้มหน้าไม่กล้าสบตามารดาและพี่สาวของตัวเอง จากนั้นนั่งลงบนโต๊ะกลม

ไป๋ชิงเหยียนกุมมือต่งซื่อที่วางอยู่ใต้โต๊ะและสั่นไม่หยุดแน่น จากนั้นกล่าวกับไป๋ชิงอวี๋

“ไม่ทราบว่าท่านอ๋องรับประทานอาหารเช้ามาแล้วหรือไม่ รังเกียจร่วมประทานด้วยกันหรือไม่”

“ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทานมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงอวี๋ไม่กล้าถอดหน้ากากของตัวเองออกต่อหน้ามารดาและพี่สาว ไม่กล้าให้พวกนางเห็นใบหน้าของเขาในตอนนี้

ต่งซื่อคิดว่าไป๋ชิงอวี๋ทำไปเพราะต้องการปิดบังฐานะที่แท้จริงของตัวเองจึงพยักหน้า

“ในเมื่อท่านอ๋องทานมาแล้วก็ไม่ต้องฝืนทานอีกหรอก”

“ท่านอ๋องมาเพราะเรื่องสัญญาพันธมิตรระหว่างสองแคว้นอย่างนั้นหรือ…” ไป๋ชิงเหยียนแสร้งถามอย่างจริงจัง

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมได้ยินว่าเหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยแห่งซีเหลียงมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทตั้งแต่เช้า กระหม่อมจึงทนอยู่เฉยไม่ไหวพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงอวี๋กล่าว

ไป๋ชิงเหยียนใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปาก จากนั้นหันไปกล่าวกับเว่ยจง “นำอาหารพวกนี้ไปเก็บ ให้คนที่เหลือออกไปจากตำหนักด้วย”

เว่ยจงรู้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการสนทนาเป็นการส่วนตัวจึงสั่งให้นางกำนัลเก็บอาหารบนโต๊ะ จากนั้นพาบรรดาขันทีที่เหลือออกไปรออยู่นอกตำหนักทั้งหมด

เมื่อประตูตำหนักใหญ่ถูกปิดลง ต่งซื่อน้ำตาไหลพรากอย่างห้ามไม่อยู่อีกต่อไป นางมองไปทางไป๋ชิงอวี๋นิ่ง

ไป๋ชิงเหยียนกุมมือมารดาแน่น ต่งซื่อจึงรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก ไม่กล้าส่งเสียงร้องไห้ออกมา

สองสายตาประสานกัน ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำ เมื่อเห็นอาอวี๋กำมือที่วางอยู่บนตักแน่น หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปตบมือของน้องชายเบาๆ จากนั้นกุมไว้อย่างหลวมๆ การกระทำทุกอย่างไร้ซึ่งคำพูด มีชีวิตรอดมาพบกันอีกครั้งคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว

“ท่านแม่ พี่หญิง…” น้ำเสียงแหบพร่าของไป๋ชิงอวี๋ทุ้มต่ำกว่าเดิม

คำว่า “ท่านแม่” ราวกับมีดนับพันเล่มกรีดลงบนร่างของต่งซื่อจนนางปวดร้าวไปทั้งร่าง นางไม่กล้าแม้แต่จะร้องไห้ออกมา

บุตรชายของนางคือบุรุษหนุ่มรูปงาม เดิมทีน้ำเสียงของเขาไพเราะจับใจ เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ ทว่า นอกเหนือจากความเสียใจแล้ว ต่งซื่อรู้สึกขอบคุณสวรรค์ที่เมตตาให้อาอวี๋มีชีวิตรอดกลับมา…

น้ำตาของไป๋ชิงเหยียนไหลพรากเช่นเดียวกัน หญิงสาวกุมมืออาอวี๋แน่นพลางฝืนยิ้มออกมา นางขอบคุณบรรพบุรุษไป๋ที่คอยปกป้องคุมครองทายาทตระกูลไป๋อยู่บนสวรรค์ ขอบคุณสวรรค์ที่ให้อาอวี๋มีชีวิตรอดกลับมา

ไป๋ชิงเหยียนอยากลูบใบหน้าของน้องชาย ทว่า อาอวี๋สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าเอาไว้

ไป๋ชิงอวี๋กุมมือพี่สาวของตัวเองแน่น ลุกขึ้นยืนคำนับมารดาและพี่สาวทั้งน้ำตา จากนั้นคุกเข่าคำนับศีรษะแนบพื้น

คุณชายห้าแห่งตระกูลไป๋ไป๋ชิงอวี๋กลับถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยแล้วขอรับ…

นี่คือประโยคที่ไป๋ชิงอวี๋อยากกล่าวออกมามากที่สุดและเป็นประโยคที่คนตระกูลไป๋อยากได้ยินมากที่สุดเช่นเดียวกัน

ทว่า ตอนนี้…

ไป๋ชิงอวี๋ยังไม่สามารถกล่าวมันออกมา

เขาทำได้เพียงก้มศีรษะคำนับมารดาและพี่สาวสามครั้ง

ต่งซื่อลุกขึ้นยืนพลางถลาเข้าไปใกล้ไป๋ชิงอวี๋อย่างทนไม่ไหว ทั้งๆ ที่ใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา ทว่า นางพยายามกัดฟันไม่ให้เปล่งเสียงร้องไห้ออกมา นางเอื้อมมือที่สั่นเอาออกไปหวังลูบใบหน้าของบุตรชาย ทว่า นางไม่กล้าถอดใบหน้าของเขาออกเพราะกลัวผู้อื่นเข้ามาเห็น นางจึงทำได้เพียงรั้งตัวบุตรชายเข้ามากอดไว้แน่นราวกลัวว่าบุตรชายจะหายไปอีกครั้ง กลัวว่านี่เป็นเพียงความฝันของนาง เมื่อตื่นขึ้นมานางจะไม่พบผู้ใดอีก เหลือเพียงนางคนเดียวเท่านั้น!

ไป๋ชิงอวี๋ขบกรามพลางกอดตอบมารดาแน่น

ตอนก่อนออกเดินทางไปรบท่านแม่อยากกอดเขา ทว่า เขาไม่ยอมให้ท่านแม่กอดเพราะคิดว่าตัวเองโตเป็นหนุ่มแล้ว

ทว่า ต่อมาเมื่ออยู่ที่หรงตี๋ เขามักฝันถึงอ้อมกอดและรอยยิ้มของมารดาอยู่เสมอ

ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้กลับมาแล้ว ทว่า ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะกล่าวว่ากลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย

เขาจะมอบหรงตี๋และซีเหลียงเป็นของขวัญวันขึ้นครองราชย์ของพี่หญิง วันที่ใต้หล้ารวมเป็นหนึ่งเขาจะกลับมาคุกเข่าต่อหน้ามารดา พี่หญิงและทุกคนในตระกูลไป๋อย่างผ่าเผย จากนั้นกล่าวว่าเขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว…

************************

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท