สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 992 ไม่ทันตั้งตัว

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 992 ไม่ทันตั้งตัว

“ในเมื่อจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทรงทราบว่ากระหม่อมเพิ่งเดินทางไปถึงต้าโจวในวันพิธีราชาภิเษก พระองค์ทรงไม่คิดบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะว่าก่อนหน้านี้กระหม่อมอาจซ่อนตัวอยู่ที่ซีเหลียง”

ไป๋ชิงฉีมองไปทางจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงด้วยสายตาราบเรียบ ทั้งๆ ที่ดูเป็นคนเย็นชาและเยือกเย็น

ถึงแม้คำกล่าวของเขาจะดูไม่ค่อยเกรงใจ ทว่า อาจเป็นเพราะใบหน้าที่ดูอ่อนโยนใบนั้นจึงทำให้ชายหนุ่มดูเป็นคนสุขุมและน่าคบหา

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกำหมัดแน่น แสร้งทำเป็นสงบนิ่งเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น จากนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม “ท่านทูตกล่าววาจาเปิดเผยดีจริง”

ไป๋ชิงฉีพยักหน้าให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียง “กระหม่อมไม่ได้ต้องการทำให้ฝ่าบาทลำบากพระทัย ไม่ได้เสียดายที่การฝึกฝนของค่ายหู่อิงถูกเผยแพร่ ทว่า กองทัพไป๋จะไม่ยอมให้สหายร่วมทัพของตัวเองถูกกักขังอยู่ที่แคว้นอื่น! กองทัพไป๋เป็นคนรักพวกพ้อง หวังว่าฝ่าบาทจะทรงเข้าพระทัย! หากเป็นเพียงการเข้าใจผิด ฝ่าบาททรงให้คนพาลูกน้องของกระหม่อมไปตรวจสอบที่ค่ายทหารหั่วอวิ๋นดูสักครั้ง หากไม่มีคนของกองทัพไป๋อยู่ที่นั่นจริงๆ กระหม่อมและจักรพรรดินีแห่งต้าโจวจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ของฝ่าบาทไว้ไม่ลืมพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงรู้ดีว่าไป๋ชิงฉีคงตรวจสอบที่ตั้งของค่ายทหารหั่วอวิ๋นมาอย่างละเอียดแล้วจึงได้กล่าวออกมาอย่างถูกต้องเช่นนี้ บัดนี้เขาแค่ต้องการข้ออ้างในการเข้าไปในค่ายทหารอย่างเปิดเผยเท่านั้นเอง

ไป๋ชิงฉีเพิ่งกลับไปยังต้าโจว ทว่า เขากลับรีบเดินทางมาทีซีเหลียงโดยไม่รอให้หลี่จือเจี๋ยเจรจาเรื่องสัญญาเสร็จอาจเป็นเพราะเรื่องนี้…

“แน่นอนว่าหากฝ่าบาททรงไม่อนุญาตก็ถือเป็นเรื่องสมเหตุสมผลพ่ะย่ะค่ะ” ไป่ชิงฉียกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “กระหม่อมเข้าใจได้ ทว่า อาจจดจำจนขึ้นใจ…”

นี่คือการข่มขู่

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงนึกถึงสัญญาสงบศึกที่เคยทำกับต้าจิ้นที่ด่านชิวซาน นางรู้สึกอัปยศขึ้นมาทันที

แคว้นอ่อนแอไม่มีสิทธิ์ต่อรองกับแคว้นที่แข็งแกร่งกว่า

จู่ๆ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงก็นึกถึงคำที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหลี่จือเจี๋ยที่ด่านชิวซานขึ้นมาได้…

คิดขอร้องผู้อื่นก็ควรทำตัวให้เหมือนคนมาขอร้อง อย่าวางมาดต่อหน้าผู้ชนะ ผู้ที่อ่อนแอกว่าไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนี้

ไป๋ชิงเหยียนยังกล่าวอีกว่าหากแคว้นซีเหลียงดับสูญลง พวกเขาจะมีความมั่นใจและเกียรติยศใดหลงเหลือให้มาวางมาดต่อหน้าผู้อื่นเช่นนี้อีก

แคว้นอ่อนแอไม่มีสิทธิ์กล่าวคำว่าอัปยศต่อหน้าแคว้นที่แข็งแกร่งกว่า

ทว่า นางจะจดจำความอัปยศในวันนี้ไว้ นางจะทำให้ซีเหลียงที่อ่อนแอในวันนี้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง นางจะทำให้ซีเหลียงแข็งแกร่งจนกลายเป็นคู่แข่งของต้าโจวและต้าเยี่ยนอีกครั้ง จะเข้าร่วมแย่งชิงการเป็นหนึ่งในใต้หล้าเช่นเดียวกัน

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงฝืนยิ้มพลางพยักหน้า “ในเมื่อท่านทูตไม่วางใจ จะส่งคนไปตรวจสอบสักครั้งก็ได้”

ไป๋ชิงฉีทำความเคารพจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง “คนของกระหม่อมรออยู่นอกวังหลวง รบกวนฝ่าบาทส่งคนพาพวกเขาไปยังค่ายหั่วอวิ๋นตอนนี้ด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะได้วางใจพ่ะย่ะค่ะ”

ได้คืบจะเอาศอก…

ทว่า ซีเหลียงกำลังอ่อนแอ จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทำได้เพียงพยักหน้า จากนั้นหันไปสั่งขันที่ยืนอยู่ข้างกาย

“ไปบอกให้แม่ทัพอวิ๋นพาคนของทูตต้าโจวไปยังค่ายทหารหั่วอวิ๋น ให้คนของต้าโจวตรวจสอบว่าในค่ายทหารหั่วอวิ๋นมีคนของกองทัพไป๋อยู่หรือไม่ ทูตของต้าโจวจะได้วางใจ”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงมองไปทางไป๋ชิงฉียิ้มๆ ไป๋ชิงฉีหยัดกายตรงพลางก้มศีรษะขอบคุณจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเล็กน้อย

“พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับคำแล้วเดินออกจากตำหนักไป

เมื่ออวิ๋นพั่วสิงที่รออยู่นอกตำหนักฟังคำของขันทีจบ เขาก็เข้าใจจุดประสงค์ของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงทันที

เขานึกไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงฉีที่เพิ่งมาถึงซีเหลียงจะรู้เรื่องค่ายหั่วอวิ๋นรวดเร็วถึงเพียงนี้ เขาเม้มปากแน่น จากนั้นกวักมือเรียกขันทีเข้ามาใกล้พลางกระซิบข้างหูขันทีเสียงเบา “ไปบอกให้แม่ทัพหลี่รีบมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารหั่วอวิ๋นเดี๋ยวนี้ จะปล่อยให้ผู้ใดเห็นอวิ๋นหลานไม่ได้เด็ดขาด…”

“ขอรับ!” ขันทีรับคำแล้วรีบวิ่งจากไปทันที

เมื่ออวิ๋นพั่วสิงเห็นขันทีวิ่งจากไปแล้วจึงหันไปสั่งองครักษ์ข้างกายอย่างไม่รีบร้อน

“เจ้ากลับไปที่จวนอวิ๋น บอกว่าข้าสั่งให้ท่านชายสองพาทูตของต้าโจวไปยังค่ายทหารหั่วอวิ๋นด้วยตัวเอง”

“ขอรับ!”

อวิ๋นพั่วสิงหันกลับไปมองประตูไม้แกะสลักบานใหญ่ของตำหนักที่ยังคงปิดสนิท เขาเริ่มรู้สึกหนักอึ้งในใจ

ภายในตำหนัก

ไป๋ชิงฉีทำความเคารพจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอีกครั้ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ฝ่าบาททรงมีเมตตา ต้าโจวย่อมตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ กระหม่อมมีเรื่องบางอย่างอยากทูลให้ฝ่าบาททราบ ทว่า กระหม่อมไม่ได้ต้องการทำลายสถานการณ์ของราชสำนักซีเหลียงในตอนนี้…”

“ท่านทูตเชิญกล่าวมาได้เลย” จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงมองไปทางไป๋ชิงฉีนิ่ง

“เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยแห่งซีเหลียงเดินทางนำของขวัญชิ้นใหญ่ไปมอบให้ต้าโจวเพื่อหวังเป็นพันธมิตรกับต้าโจว ทว่า ที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวของกระหม่อมยังไม่ตกลงทำสัญญานี้เป็นเพราะตระกูลทั้งแปดของซีเหลียงเคยลอบส่งคนไปพบรัชทายาทแห่งต้าจิ้นเพื่อทำสัญญาสงบศึกกับต้าจิ้น พวกเขาขอให้ต้าจิ้นช่วยเหลือซีเหลียงตอนที่พระองค์ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ ทว่า น่าเสียดายที่ต้าเหลียงเกิดเรื่องขึ้นก่อน เรื่องนี้จึงยังไม่สำเร็จ”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงมองไปทางไป๋ชิงฉีนิ่งราวกับกำลังประมวลความน่าเชื่อถือในคำกล่าวของไป๋ชิงฉี

“ฝ่าบาทน่าจะทรงทราบดีว่าก่อนที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวของกระหม่อมจะขึ้นครองราชย์ รัชทายาทแห่งต้าจิ้นมักปรึกษาเรื่องสำคัญกับจักรพรรดินีแห่งต้าโจวทุกเรื่อง นี่คือเหตุผลที่ต้าโจวเป็นกังวลและยังไม่ยอมตกลงทำสัญญากับซีเหลียง” ไป๋ชิงฉีมองสบตาที่สงบราบเรียบของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียง จากนั้นกล่าวต่อ “จักรพรรดินีแห่งต้าโจวส่งกระหม่อมมาเป็นทูตในครั้งนี้โดยให้อำนาจการตัดสินใจกับกระหม่อมอย่างเต็มที่ ที่กระหม่อมเดินทางมาถึงซีเหลียง ทว่า ไม่ยอมมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเสียทีเป็นเพราะกระหม่อมกำลังตรวจสอบอยู่ว่าฝ่าบาทมีอำนาจควบคุมซีเหลียงไว้ในมือจริงหรือไม่”

“ต่อให้บัลลังก์ของซีเหลียงเปลี่ยนคนสืบทอด…” จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงยกยิ้มมุมปาก “ไม่ว่าผู้ใดขึ้นมานั่งบนบัลลังก์แห่งนี้ พวกเขาล้วนอยากเป็นพันธมิตรกับต้าโจวทั้งสิ้น จักรพรรดินีแห่งต้าโจวกลัวว่าหากซีเหลียงเกิดการเปลี่ยนแปลง จักรพรรดิองค์ใหม่ที่ขึ้นครองราชย์จะไม่ยกดินแดนให้ต้าโจวตามสัญญาหรืออย่างไร ท่านทูตต้องการให้เราผิดใจกับตระกูลสูงศักดิ์ทั้งแปดตระกูลอย่างนั้นหรือ”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงดูเหมือนจะนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ นางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ท่านทูตบอกเราเรื่องนี้เพราะต้องการให้เราทะเลาะกับตระกูลทั้งแปด ภายในของซีเหลียงจะได้เกิดความวุ่นวายขึ้นอย่างนั้นหรือ”

ไป๋ชิงฉียิ้มน้อยๆ จากนั้นโค้งคำนับจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอีกครั้ง

“ฝ่าบาททรงพระปรีชาชาญยิ่งนัก”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงนึกไม่ถึงว่าไป๋ชิงฉีจะยอมรับออกมาง่ายๆ เช่นนี้ นี่คือสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของนาง…

บางทีอาจเป็นเพราะต้าโจวในตอนนี้แข็งแกร่งมา พวกเขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวซีเหลียง ยิ่งไม่จำเป็นจ้องหวาดกลัวจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอย่างนาง

“เช่นนั้นท่านทูตมาปรากฏตัวที่ซีเหลียงเพราะต้องการทำสัญญาเป็นพันธมิตรหรือต้องการยุแยงให้ซีเหลียงแตกคอกันเองกันแน่” จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงเอ่ยถาม

“แน่นอนว่าหากกระหม่อมทำให้ซีเหลียงแตกคอกันเองภายในได้ กระหม่อมก็ไม่จำเป็นต้องทำสัญญาพันธมิตรอีก ทว่า หากกระหม่อมทำไม่สำเร็จ พวกเราจะได้กำหนดวันเจรจาเรื่องการทำสัญญาพันธมิตรกันพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงฉีกล่าว

“ท่านทูตตรงไปตรงมาจนเราตั้งตัวไม่ทันจริงๆ”

จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกล่าวยิ้มๆ

“ยิ่งตกลงเรื่องการทำสัญญาพันธมิตรได้เร็วเท่าใดยิ่งดี ท่านทูตกลับที่พักไปก่อนเถิด เราจะรีบปรึกษาเรื่องนี้กับขุนนางในราชสำนักโดยเร็วที่สุด”

************************

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท