สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1018 ตัดสินใจ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1018 ตัดสินใจ

ไป๋จิ่นถงกลับมา ชุนเถาดีใจมากเช่นเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนยืนคิดอยู่ตรงระเบียงทางเดินครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยเรียกเว่ยจง

เว่ยจงรีบถลาเข้าไปด้านหน้า “คุณหนูใหญ่…”

“เจ้ารีบส่งคนไปสืบที่เมืองหานว่าสัตว์ใหญ่อย่างช้ากลัวสิ่งใด…” ไป๋ชิงเหยียนหยุดคิดแล้วกล่าวต่อ “ทางที่ดีนำช้างกลับมาสักสองสามตัวด้วย”

ถึงแม้เป็นสัตว์ใหญ่ ดูไม่น่าเกรงกลัวต่อสิ่งใด ทว่า ไม่ว่าอย่างไรมันก็เป็นเพียงสัตว์ ขึ้นชื่อว่าสัตว์ย่อมมีจุดอ่อนและสิ่งที่หวาดกลัว เตรียมการไว้ล่วงหน้าไม่ใช่เรื่องผิด นางควรทำความรู้จักกับมันให้มากกว่านี้

ไป๋ชิงเหยียนเตรียมกลับไปยังตำหนักก็เห็นหมอหงและอิ๋นซวงยืนรอนางอยู่ที่นั่นแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นนางหันหลังกลับจึงรีบเข้ามาทำความเคารพ “คุณหนูใหญ่!”

อิ๋นซวงที่ใบหน้ายังมีเศษขนมติดอยู่ทำความเคารพไป๋ชิงเหยียนอย่างถูกกฎระเบียบ จากนั้นเอ่ยทักอย่างนอบน้อม “คุณหนูใหญ่!”

“ท่านหมอหง…” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางอิ๋นซวงยิ้มๆ จากนั้นยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เด็กสาวพลางชี้ไปที่มุมปาก

เมื่อเห็นหมอหงเหลือบมองมาทางตน อิ๋นซวงรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดมุมปากของตัวเอง “ข้าไม่ได้แอบกินนะเจ้าคะ!”

หมอหงถอนหายใจออกมาเล็กน้อย จากนั้นหันไปกล่าวกับอิ๋นซวง “ไปเถิด ไปกินเสีย”

เมื่ออิ๋นซวงได้ยินแววตาจึงเป็นประกายขึ้นมาทันที เด็กสาวรับคำและวิ่งจากไปอย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าขนมจะหายไป

“คุณหนูใหญ่” หมอหงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่แต่งงานมาหนึ่งเดือนแล้ว น่าจะตรวจเจอชีพจรตั้งครรภ์แล้วขอรับ พวกเราควรประกาศเรื่องที่คุณหนูใหญ่ตั้งครรภ์ให้ทุกคนรับรู้ ทางที่ดีควรเลือกเวลาที่บรรดาหลู่ไท่เว่ยอยู่ด้วยขอรับ”

หมอหงต้องการสื่อว่าวันนี้คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะประกาศเรื่องการตั้งครรภ์ของไป๋ชิงเหยียน เขาอยากให้ไป๋ชิงเหยียนแสร้งแสดงอาการแพ้ท้องออกมา

ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนไม่มีอาการแพ้ท้องใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นคลื่นไส้ อาเจียนหรือง่วงซึม ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่มีโอกาสเรียกหมอหงไปตรวจต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย

“ได้ ข้าทราบแล้ว ท่านหมอหงไม่ต้องเป็นห่วง” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

ภายในตำหนัก กลุ่มของหลู่ไท่เว่ยปรึกษาจนได้แผนการออกมาแล้ว เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเข้ามาจึงรีบลุกขึ้นยืนทำความเคารพ

“ทุกท่านนั่งลงเถิด…” ไป๋ชิงเหยียนโบกมือ

บัดนี้ต้าโจวกำลังเตรียมพร้อมเรื่องการทำสงครามกับซีเหลียง เดิมทีหลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคง ต่งซือถูและเสนาบดีทั้งหกกรมไม่เห็นด้วยที่จะเปิดศึกกับซีเหลียง ทว่า ไป๋ชิงเหยียนวิเคราะห์สถานการณ์ในใต้หล้าให้คนเหล่านี้ฟัง พวกเขาจึงเข้าใจว่าหากต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ต้าโจวต้องยึดครองซีเหลียงให้ได้

ซีเหลียงชอบยอมจำนนตอนที่ตัวเองอ่อนแอ ทว่า หากพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นมาเมื่อใด พวกเขาจะบุกจู่โจมอย่างเต็มที่ ชาวบ้านแถบชายแดนซีเหลียงและต้าโจวไม่มีทางอยู่ร่วมกันได้

ชาวบ้านของต้าเว่ย ต้าจิ้นและต้าเยี่ยนล้วนเคยถูกซีเหลียงข่มเหงรังแกและบุกโจมตีเมืองด้วยกันทั้งสิ้น เรื่องเหล่านี้ล้วนมีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสิ้น

ถึงแม้ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ไป๋ชิงเหยียนจะเปิดศึกกับซีเหลียง ทว่า ขุนนางใหญ่เหล่านี้ต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน

พวกเขาต้องวางแผนเรื่องเสบียงอาหาร การโยกย้ายกำลังทหารและแผนการป้องกันต้าเยี่ยนกันอย่างละเอียด

ไป๋ชิงเหยียนบอกเรื่องที่ซีเหลียงต้องการทำสัญญาพันธมิตรกับแคว้นเทียนเฟิ่งให้ขุนนางเหล่านี้ฟัง ต้าโจวต้องเตรียมรับมือตั้งแต่เนิ่นๆ

เมื่อปรึกษากับบรรดาขุนนางในราชสำนักอย่างจริงจัง ไป๋ชิงเหยียนจึงลืมเรื่องที่หมอหงกำชับไปเสียสนิท หมอหงที่เตรียมการกับไป๋ชิงเหยียนดีแล้วยืนรออยู่หน้าตำหนักตั้งแต่ฟ้าสว่างจนฟ้ามืด ทว่า ไป๋ชิงเหยียนก็ยังไม่ส่งเว่ยจงออกมาตามเขาเข้าไปตรวจชีพจรเสียที แม้แต่อิ๋นซวงยังผล็อยหลับไปบนโต๊ะแล้ว

หมอหงถอนหายใจยาวออกมา เขาทำได้เพียงแบกกล่องยาเดินไปหน้าตำหนัก จากนั้นกล่าวกับเว่ยจง “เว่ยกงกง รบกวนเรียนคุณหนูใหญ่ทีว่าข้ามาตรวจอาการของคุณหนูใหญ่ตามคำสั่งของฮูหยิน เดิมทีข้าควรตรวจตั้งแต่กลางวัน ทว่า กลับรอมาจนถึงตอนนี้ จะปล่อยให้เวลาผ่านไปนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว”

เว่ยจงหันกลับไปมองในตำหนักที่จุดไฟสว่าง ไม่รู้ว่าบรรดาขุนนางกำลังปรึกษาเรื่องใดที่ความเห็นไม่ตรงกันอยู่ เสียงถกเถียงกันดังออกมาถึงนอกตำหนัก “ท่านหมอหงรอสักครู่ ข้าจะไปทูลฝ่าบาทขอรับ”

เว่ยจงเดินเข้าไปในตำหนัก เขาเดินอ้อมเสาหินตรงไปหาไป๋ชิงเหยียน

“ฝ่าบาท ท่านหมอหงได้รับคำสั่งจากฮูหยินให้มาตรวจอาการของฝ่าบาท ถึงเวลาตรวจชีพจรนานแล้ว ทว่า ฝ่าบาททรงยุ่งอยู่ ท่านหมอหงจึงได้แต่รออยู่นอกตำหนักพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนจึงนึกขึ้นได้ว่านางลืมเรื่องประกาศตั้งครรภ์ไปเสียสนิท หญิงสาวกระแอมออกมาเล็กน้อย แสร้งมองไปทางหลิ่วหรูซื่อและเสิ่นเทียนจือที่กำลังถกเถียงกันอยู่นิ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “เชิญท่านหมอหงเข้ามาได้…”

ไม่นานหมอหงเดินถือกล่องยาตามหลังเว่ยจงเข้ามา เขาวางกล่องยาลงด้านข้างอย่างคล่องแคล่ว สั่งให้ขันทีปูที่นั่งให้เขาข้างกายไป๋ชิงเหยียน จากนั้นหยิบหมอนตรวจชีพจรออกมาตรวจให้ไป๋ชิงเหยียน

หลิ่วหรูซื่อเห็นเหตุการณ์จึงลดเสียงที่เถียงกับเสิ่นเทียนจือให้เบาลง

เขาเห็นหมอหงคลำตรวจชีพจรของไป๋ชิงเหยียนอยู่พักใหญ่ จากนั้นลุกขึ้นยืนโค้งกายคำนับหญิงสาวพลางกล่าวเสียงดังลั่น “ขอแสดงความยินดีกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงพระครรภ์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

หลู่ไท่เว่ยได้ยินจึงรู้สึกดีใจมาก เขารีบโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน “ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

ต่งชิงผิงดีใจเช่นเดียวกัน เขาหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นคำนับไป๋ชิงเหยียน

“ขอแสดงความยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราอย่ามาทะเลาะต่อหน้าพระพัตร์เลย ให้ฝ่าบาททรงพักผ่อนเถิด พวกเราปรึกษาเรื่องที่เหลือกันเองแล้วค่อยมาทูลรายงานฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทตัดสินพระทัยภายหลัง”

เช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น

หลิ่วหรูซื่อกำหมัดแน่น เขาอดเป็นห่วงร่างกายของไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ ทว่า เขาไม่เห็นสิ่งผิดปกติจากร่างกายของหญิงสาว เขาจำได้ว่าสตรีตั้งครรภ์จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ควรเร่งเตรียมการเรื่องเสบียงอาหาร บัดนี้ซีเหลียงหันไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นเทียนเฟิ่งแล้ว พวกเราควรระมัดระวังตัวให้มาก!”

“ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ” หลู่ไท่เว่ยโค้งกายคำนับ จากนั้นหันไปส่งสัญญาณให้พวกเสิ่นจิ้งจงเก็บของให้เรียบร้อยเพื่อจากไป

ไม่นานข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแพร่กระจายไปทั่วทั้งต้าโจว เมื่อชาวบ้านและขุนนางที่เป็นห่วงจักรรรพินีแห่งต้าโจวที่สูญเสียสามีไปรับรู้ข่าวนี้ต่างตื่นเต้นดีใจแทนหญิงสาว พวกเขาคิดว่าจักรพรรดินีแห่งต้าโจวที่เสียใจกับการจากไปของสามีต้องมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้งเพราะเด็กในครรภ์

ไป๋จิ่นถงนอนหลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งวังหลวงเต็มไปด้วยข่าวการตั้งครรภ์ของจักรพรรดินี ไป๋จิ่นถงนึกว่าตัวเองยังหลับอยู่ เมื่อวานนางไปพบพี่หญิงใหญ่ทันทีที่มาถึงเมืองหลวง ทว่า นางมองไม่ออกเลยว่าพี่หญิงใหญ่กำลังตั้งครรภ์

ไป๋จิ่นถงไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเป็นกังวลดี

เมื่อคารวะยามเช้าต่งซื่อและมารดาเสร็จ ไป๋จิ่นถงจึงรีบไปพบพี่หญิงใหญ่ที่ตำหนักทันที

ไป๋ชิงเหยียนสั่งไว้ก่อนแล้วว่าหากไป๋จิ่นถงมาเข้าเฝ้าไม่จำเป็นต้องรายงาน ให้เข้ามาด้านในได้เลย เมื่อไป๋จิ่นถงเดินเข้ามาจึงเห็นพี่หญิงใหญ่นั่งอยู่หน้ากองฎีกาที่สุมเป็นภูเขา ชุนเถาและชุนจือคุกเข่าอยู่ด้านข้าง คนหนึ่งถือพัดพัดให้พี่หญิงใหญ่ อีกคนฝนหมึกให้

“คุณหนูสาม!” ชุนเถารีบทำความเคารพไป๋จิ่นถง

ชุนจือวางพัดในมือลง จากนั้นทำความเคารพไป๋จิ่นถงอย่างนอบน้อม “คุณหนูสาม”

***********************

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท