ตอนที่ 1030 ล้นหลาม
ความจริงเฉวียนอวี๋รู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนเหมาะสมที่จะนั่งอยู่บนบัลลังก์นี้มากกว่าอดีตรัชทายาท
เขาเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะได้เห็นใต้หล้ารวมเป็นหนึ่ง ไป๋ชิงเหยียนสถาปนาแคว้นต้าโจวขึ้นมา เฉวียนอวี๋เชื่อว่าเขาจะได้เห็นวันที่ใต้หล้าสงบสุขอย่างแท้จริง
เมื่อเฉวียนอวี๋จากไป ไป๋ชิงเหยียนหันไปสั่งเว่ยจง “ส่งคนไปหาซื้อจวนขนาดย่อมที่บ้านเกิดของเฉวียนอวี๋ให้เขาสักเรือน ซื้อสาวใช้สองสามคนไว้คอยดูแลเขาด้วย…”
ไป๋ชิงเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นกล่าวต่อ “หาที่นาและร้านค้าให้เขาสักสองสามแห่ง เช่นนี้เขาจะได้มีรายได้ไว้เลี้ยงชีพตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเขา”
“ฝ่าบาททรงมีเมตตตามากพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยจงกล่าว “บ่าวจะจัดการให้เรียบร้อยพ่ะย่ะค่ะ”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
กลางดึก หลูผิงกลับมารายงานไป๋ชิงเหยียนก่อนที่หญิงสาวจะเข้านาน “คุณหนูใหญ่ คนหนีรอดไปได้คนหนึ่งขอรับ ซุนเหวินเหยาบอกว่าคนผู้นั้นคือหัวหน้าของพวกเขา ข้าสั่งให้หน่วยตรวจเมืองออกตามหาเขาอย่างลับๆ เพื่อไม่เป็นการรบกวนชาวบ้าน ทว่า ข้าคิดว่าเขาจะหลบซ่อนตัวอยู่แถวจวนฉินขอรับ”
“ได้…” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ไม่จำเป็นต้องไล่ตามคนที่หนีรอดไปได้ องครักษ์ลับของราชวงศ์จิ้นล้วนจงรักภักดีต่อเจ้านายของตน นับตั้งแต่ที่จักรพรรดิต้าจิ้นสิ้นพระชมน์ พวกเขากลายเป็นคนไม่มีนาย เขาต้องกลับมาแก้แค้นให้เจ้านายของตัวเองแน่ รอจับตัวเขาในงานแข่งขันว่าวที่จะจัดขึ้นในวันเกิดของเสี่ยวซื่อก็ได้!”
“แพร่ข่าวออกไปว่าข้าและบรรดาฮูหยินของตระกูลไป๋จะไปร่วมงานแข่งขันว่าวด้วย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
หลูผิงพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้วขอรับ ทว่า คุณหนูใหญ่อย่าไปที่งานแข่งขันว่าวเลยขอรับ คุณหนูใหญ่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ไม่ควรเอาตัวเองไปเสี่ยงขอรับ”
“ค่อยดูวันนั้นอีกที ปล่อยข่าวออกไปก่อนแล้วกัน”
“ขอรับ!” หลูผิงรับคำแล้วจากไป
วันที่สิบเจ็ด เดือนสิบคือวันเกิดของเกาอี้จวิ้นจู่ ราชวงศ์จะจัดงานแข่งขันว่าวให้ชาวบ้านได้ร่วมสนุกขึ้นที่นอกเมือง ผู้เข้าร่วมการแข่งขันส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนจากตระกูลขุนนาง ทว่า ชาวบ้านธรรมดาสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้เช่นกัน ไม่เหมือนทุกครั้งที่ชาวบ้านมักถูกกั้นให้มุงดูอยู่แต่ด้านนอก
เกาอี้จวิ้นจู่ชักชวนให้สตรีหม้ายที่แต่งงานใหม่ไปร่วมสนุกในงานแข่งขันว่าวที่นอกเมืองด้วย ผู้ชนะจะได้เงินรางวัลเป็นทองหนึ่งร้อยตำลึง อีกทั้งยังได้รางวัลพิเศษจากจักรพรรดินีอีกด้วย
สตรีหม้ายที่แต่งงานใหม่ส่วนใหญ่ต่างไม่ใช่คนร่ำรวย เมื่อได้ยินว่ามีเงินรางวัลจึงอยากไปร่วมการแข่งขันด้วย ชาวบ้านบางคนเริ่มออกไปฝึกเล่นว่าวที่นอกเมืองตั้งแต่เนิ่นๆ รอที่จะได้เป็นผู้ชนะในการแข่งขันที่จะจัดขึ้นในวันที่สิบเจ็ด เดือนสิบ
บรรดาพ่อค้าคือคนที่ตื่นเต้นเป็นกลุ่มแรก พ่อค้าบางคนไปจับจองที่ตั้งร้านค้าตั้งแต่เนิ่นๆ
คนที่มีจุดประสงค์แอบแฝงเริ่มเตรียมแผนการของตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ เช่นเดียวกัน
ข่าวลือเรื่องกฎหมายสนับสนุนให้สตรีหม้ายจากครอบครัวธรรมดาแต่งงานใหม่ ทว่า ไม่สนับสนุนให้สตรีตระกูลสูงศักดิ์แต่งงานใหม่แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงอย่างรุนแรงมากขึ้นทุกที กระทั่งมีคนในโรงสุราเริ่มวิจารณ์ว่าในเมื่อสตรีหม้ายแต่งงานใหม่มีข้อดีมากมายเช่นนั้น เหตุใดจักรพรรดินี ไทเฮาและบรรดาฮูหยินตระกูลไป๋จึงไม่แต่งงานใหม่บ้าง
หลิ่วหรูซื่อได้รับเชิญจากต่งฉางหยวนและหลี่หมิงรุ่ยให้ไปเป็นกรรมการในงานแข่งขันว่าว หากมีผู้ใดก่อเรื่องขึ้น หลิ่วหรูซื่อถูกไหว้วานให้ช่วยแก้ปัญหา ห้ามให้ระบอบการปกครองใหม่เกิดปัญหาขึ้นเด็ดขาด เมื่อหลิ่วหรู่ซื่อได้ยินข่าวลือที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงจึงรู้สึกเดือดดาลมาก เขารีบไปบ่นให้หลู่จิ้นฟัง
หลู่จิ้นวิเคราะห์ให้หลิ่วหรูซื่อฟัง หลิ่วหรูซื่อจึงเข้าใจว่าเกาอี้จวิ้นจู่เชิญสตรีหม้ายที่แต่งงานใหม่ไปร่วมแข่งขันว่าวและจัดงานแข่งขันว่าวเพื่อร่วมสนุกกับชาวบ้านเพราะต้องการถกเถียงกับคนที่นินทาเรื่องตระกูลไป๋ต่อหน้าชาวบ้านทุกคน
หลิ่วหรูซื่อรีบอำลาหลู่จิ้น จากนั้นกลับจวนไปเตรียมตัว
ฟางซื่ออยู่ในห้องของตัวเองด้วยความกระวนกระวาย นางเดินวนไปมาในห้องไม่หยุด เมื่อมองเห็นผูหลิ่วในชุดกระโปรงสีเขียวอ่อนเดินกลับมาผ่านทางหน้าต่างแกะสลักประณีต ฟางซื่อจึงรีบสั่งให้สาวใช้รับใช้อยู่ในห้องออกไปก่อน จากนั้นเดินไปนั่งลงที่เตียงไม้สีแดงข้างหน้าต่าง
ผูหลิ่วแหวกม่านเดินเข้ามาด้านใน คางเรียวขาวของนางเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผูหลิ่วใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อที่ใบหน้า จากนั้นเดินอ้อมฉากกั้นเข้าไปด้านใน ก้าวเข้าไปทำความเคารพฟางซื่อ “ฮูหยิน ข้าให้คนส่งจดหมายไปแล้วเจ้าค่ะ กำชับเขาแล้วว่าฮูหยินใจร้อน ให้คนรีบนำจดหมายไปส่งให้ถึงโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ”
ฟางซื่อถามต่อ “คนส่งจดหมายไว้ใจได้หรือไม่”
“ฮูหยินไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ บุตรชายของหญิงชราเย่เป็นคนนำไปส่งให้เจ้าค่ะ เด็กนั่นเป็นคนคล่องแคล่ว หญิงชราเย่จงรักภักดีต่อเรามากเจ้าค่ะ” ผูหลิ่วกล่าว
แม้ผูหลิ่วจะกล่าวเช่นนี้ ทว่า ฟางซื่อก็ยังภาวนาให้บุตรชายของหญิงชราเย่นำจดหมายไปมอบให้ถึงมือพี่ชายของนางโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินทางมาถึงเมืองหลวงก่อนวันที่สิบเจ็ด เดือนสิบให้ได้
“ฮูหยิน เกิดสิ่งใดขึ้นหรือเจ้าคะ” ผูหลิ่วไม่ได้สงสัยเนื้อหาในจดหมาย ทว่า เมื่อเห็นท่าทีร้อนใจของฟางซื่อจึงอดเป็นห่วงไม่ได้ ผูหลิ่วถามขึ้นเสียงเบา “ให้บ่าวช่วยฮูหยินคิดดีหรือไม่เจ้าคะ”
ฟางซื่อเกือบหลุดกล่าวออกไป โชคดีที่กลืนถ้อยคำลงไปได้ทัน
ไม่ใช่ว่านางไม่เชื่อใจผูหลิ่ว ทว่า หากกล่าวออกไปต้องโดนผูหลิ่วห้ามปรามแน่นอน ผูหลิ่วเป็นคนขี้ขลาดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
บัดนี้คนของตระกูลบรรพบุรุษไป๋เริ่มวางแผนหาผลประโยชน์เข้าตัวกันทั้งสิ้น สตรีหม้ายของตระกูลไป๋ถูกนินทามากขึ้นทุกวัน ทุกคนล้วนกล่าวว่าราชวงศ์ควรทำตัวเป็นแบบอย่าง หากมีกฎหมายสนับสนุนให้สตรีหม้ายแต่งงานใหม่ ควรเริ่มต้นจากราชวงศ์เป็นอันดับแรก
เมื่อคิดได้ว่าฮูหยินของตระกูลไป๋จะแต่งงานใหม่หรือไป๋ชิงเหยียนจะแต่งตั้งสามีคนใหม่ เมื่อคิดได้ว่าอาจได้แต่งงานกับไทเฮา ผู้ใดจะไม่หวั่นไหวกัน
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องการแต่งตั้งสามีคนใหม่ของไป๋ชิงเหยียน คนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ไม่มีสิทธิ์อย่างแน่นอน ทว่า บรรดาฮูหยินตระกูลไป๋และไทเฮาอาจยังพอมีหวังอยู่บ้าง
ตระกูลบรรพบุรุษไป๋ล้วนได้รับข่าวนี้แล้ว มีคนตั้งใจจะก่อเรื่องขึ้นในงานแข่งขันว่าว หากมีคนบีบจนไป๋ชิงเหยียนจนตรอก บางทีบรรดาฮูหยินของตระกูลไป๋อาจยอมแต่งงานใหม่เพื่อให้การปกครองระบอบใหม่ของไป๋ชิงเหยียนดำเนินไปอย่างราบรื่นต่อไป
คนตระกูลบรรพบุรุษไป๋รู้สึกว่าแทนที่จะให้บรรดาฮูหยินตระกูลไป๋แต่งงานออกเรือนไปกับผู้อื่น ไม่สู้แต่งงานกับคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋ดีกว่า ไป๋ชิงเหยียนเคารพบรรดาอาสะใภ้ของตัวเองมาก ผู้ใดได้แต่งงานกับอาสะใภ้ของไป๋ชิงเหยียน ไป๋ชิงเหยียนย่อมเห็นแก่หน้าของอาสะใภ้ของตัวเองช่วยเหลือพวกเขาบ้าง
ที่สำคัญบรรดาฮูหยินตระกูลไป๋ล้วนมีใบหน้างดงามโดดเด่นด้วยกันทุกคน ตอนนั้นองค์หญิงใหญ่เป็นคนคัดเลือกลูกสะใภ้เหล่านี้ด้วยตัวเอง สินเดิมของพวกนางล้วนมีอย่างล้นหลาม
บางคนกล้าถึงขั้นอยากแต่งงานกับต่งซื่อ หากได้แต่งงานกับต่งซื่อ พวกเขาจะกลายเป็นพ่อเลี้ยงของไป๋ชิงเหยียนจักรพรรดินีแห่งต้าโจวทันที! เมื่อมีฐานะเช่นนี้คงใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวงได้ตามอำเภอใจ ต่อให้เป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวก็ต้องเคารพพ่อเลี้ยงอย่างเขา
เมื่อไป๋ฉีเหอได้ยินเรื่องนี้จึงรีบเข้าวังไปรายงานเรื่องนี้ให้ไป๋ชิงเหยียนทราบทันที จากนั้นปรึกษาหาทางแก้ไขกับไป๋ชิงเหยียน ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนกำลังผลักดันระบอบการปกครองใหม่ ไป๋ฉีเหอกลัวว่าหากเขาบุ่มบ่ามจัดการกับตระกูลบรรพบุรุษไป๋ในตอนนี้ ผู้อื่นอาจยกเรื่องนี้ขั้นมาเป็นประเด็นได้
ฟางซื่อแอบได้ยินเรื่องนี้เข้าพอดีจึงรู้สึกตื่นเต้น นางรีบเขียนจดหมายให้คนนำไปส่งให้พี่ชายที่เพิ่งสูญเสียภรรยาไปเมื่อปีที่แล้วทันที ขอเพียงบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ นางไม่สนว่าแผนการของนางจะชั่วร้ายหรือสกปรกเพียงใด