สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1032 ร่วมสนุกกับชาวบ้าน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1032 ร่วมสนุกกับชาวบ้าน

เยว่สือได้รับคำสั่งให้นำบันทึกของจีโฮ่วมามอบให้ไป๋ชิงเหยียน ทว่า ยังไม่ทันเดินทางถึงเมืองหลวงก็ได้ยินข่าวว่าวันนี้เกาอี้จวิ้นจู่จัดการแข่งขันว่าวขึ้นที่นอกเมืองเพื่อร่วมสนุกกับชาวบ้าน ไป๋ชิงเหยียนและบรรดาฮูหยินตระกูลไป๋จะเดินทางไปร่วมงานด้วย

เยว่สือมีจดหมายที่เจ้านายของเขาเขียนด้วยตัวเองมามอบให้ไป๋ชิงเหยียนอีกฉบับ ดังนั้นเขาจึงมุ่งหน้าไปยังภูเขาจินฮุยแทนที่จะเข้าไปในเมืองหลวง

ระหว่างทางเยว่สือนึกขึ้นได้ว่าตนอาจพบองรักษ์ลับของตระกูลไป๋ เขาจึงซื้อเนื้อแห้งและขนมหวานไปแบ่งให้องครักษ์ลับเหล่านั้นทานด้วยโนเวลพีดีเอฟ

แม้จะกล่าวว่าเป็นการร่วมสนุกกับชาวบ้าน ทว่า ฐานันดรแตกต่างกัน ชาวบ้านจึงถูกทหารรักษาพระองค์กันให้อยู่ด้านนอกอีกชั้นหนึ่ง ทว่า ถึงแม้จะยืนอยู่ด้านนอก ชาวบ้านยังสามารถมองเห็นว่าวที่อยู่บนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน เมื่อคิดได้ว่าอีกสักครู่พวกเขาจะได้พบหน้าจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ทุกคนจึงมารวมตัวกันอยู่ที่นอกเมือง

เซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีล้วนรับรู้ว่าเยว่สือคือองครักษ์ข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยน เมื่อเห็นเยว่สือเดินมาแต่ไกล พวกเขาจึงรีบสั่งให้คนพาเยว่สือมาพบ จากนั้นสอบถามว่าช่วงนี้เยว่สือหายไปอยู่ที่ใด

เยว่สือทำความเคารพใต้เท้าทั้งสอง จากนั้นกล่าวยิ้มๆ “ข้ากลับไปแคว้นเว่ยมาขอรับ ฝ่าบาททรงมีรับสั่งให้ข้ากลับไปขนตำราของนายท่านส่งมาที่นี่ทั้งหมด เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทจะเสด็จมาที่นี่วันนี้ ข้าจึงไม่ได้เข้าไปในวัง ทว่า มาที่นี่แทนขอรับ”

“ข้าจะให้คนพาเจ้าไปพักผ่อนในกระโจมก่อน เมื่อฝ่าบาทเสด็จมาถึง ข้าจะทูลฝ่าบาทให้” ฝูรั่วซีตบไปที่แขนของเยว่สือเบาๆ ในใจคิดว่าจะทูลฝ่าบาทว่าเยว่สือผู้นี้ไม่เลวทีเดียว เมื่อเยว่สือจัดการเรื่องของเซียวหรงเหยี่ยนเสร็จ เขาจะขอให้เยว่สืออยู่รับตำแหน่งในค่ายทหาร

เยว่สือคือองครักษ์ข้างกายของเซียวหรงเหยี่ยน จักรพรรดินีของพวกเขาแต่งงานกับเซียวหรงเหยี่ยนแล้ว เยว่สือถือเป็นลูกน้องของจักรพรรดินีเช่นเดียวกัน หากฝ่าบาทของพวกเขายังรักเซียวหรงเหยี่ยนอยู่ เยว่สือจะมีอนาคตที่กว้างไกลในแคว้นต้าโจวแน่นอน ไม่แน่วันหน้าเขาอาจกลายเป็นองครักษ์ข้างกายของทายาทในครรภ์ของฝ่าบาท

เซียวหรงเหยี่ยนอยากให้เยว่สือมาอยู่ปกป้องไป๋ชิงเหยียนและบุตรในท้องเช่นเดียวกับที่ฝูรั่วซีคิด ทว่า ไป๋ชิงเหยียนไม่ขาดแคลนยอดฝีมือ อีกอย่างต่งซื่ออาจคิดว่าเซียวหรงเหยี่ยนส่งเยว่สือมาอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนเพราะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง ดังนั้นเซียวหรงเหยี่ยนจึงไม่กล้าทำเช่นนั้น

ไม่นานรถม้าของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวและไทเฮาเคลื่อนขบวนมาอย่างเอิกเกริก ทหารรักษาพระองค์กันชาวบ้านไว้ด้านข้างสองข้าง

ธงสัญลักษณ์เฮยฟานไป๋หมั่งสีดำขลิบทองโบกสะบัดอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน พลทหารม้าเหล็กหนึ่งพันนายขี่ม้าตามมาติดๆ ด้วยฝีเท้าที่พร้อมเพรียงจนชาวบ้านนิ่งอึ้ง องครักษ์พกดาบเดินตามอยู่ทางด้านหลัง ด้านหลังพัดขนนกและผ้าประจำตำแหน่งคือบรรดาขันทีในชุดหรูหราและนางกำนัลที่เดินประคองกระถางธูปหอมไว้ในมือ…

ต่อมาคือรถม้าคันหรูหลายต่อหลายคัน ทหารรักษาพระองค์ในชุดเกราะสีสันสนใสเดินขนาบข้างขบวนทั้งสองข้าง เสียงรองเท้าหนังดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ

ชาวบ้านบางคนที่คุกเข่าอยู่สองข้างทางเงยหน้าขึ้นมองขบวนรถม้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ พวกเขาอยากเห็นจักรพรรดินีหรือสตรีตระกูลไป๋ที่นั่งอยู่ในรถม้า ทว่า กลับเห็นเพียงผ้าม่านลายประณีตที่ปกคลุมอยู่ทั้งสี่ด้านของรถม้าเท่านั้น

ภายในงาน กระโจมของครอบครัวขุนนางถูกจัดให้อยู่ใกล้หรือไกลกระโจมของจักรพรรดินีแห่งต้าโจวตามตำแหน่งของขุนนางและความสนิทสนมกับจักรพรรดิแห่งต้าโจว ครอบครัวของเหล่าขุนนางต่างออกจากกระโจมมายืนต้อนรับจักรพรรดินี

ไป๋ฉีเหอพาคนตระกูลบรรพบุรุษไป๋ออกมาจากกระโจม เมื่อเห็นรถม้าของจักรพรรดินี ไป๋ฉีเหอนำบรรดาตระกูลบรรพบุรุษไป๋คุกเข่าคำนับเป็นกลุ่มแรก

วันนั้นหลังจากที่กลับจากวังหลวง ไป๋ฉีเหอเรียกรวมตัวตระกูลบรรพบุรุษไป๋ทุกคนที่เดินทางมาอยู่ในเมืองหลวง คนที่หวังอาจเอื้อมแต่งงานกับฮูหยินตระกูลไป๋ไม่เพียงโดนไป๋ฉีเหอตีจนขาหัก พวกเขายังถูกขับไล่ออกจากตระกูลเพื่อเป็นตัวอย่างอีกด้วย

ครั้งนี้วิธีการของไป๋ฉีเหอเด็ดขาด ทำให้บรรดาคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋หวาดกลัวได้จริงๆ บัดนี้พวกเขาต่างล้มเลิกความคิดนี้ไปแล้ว ทว่า ฟางซื่อภรรยาของไป๋ฉีเหอกลับอยากให้พี่ชายของตัวเองได้แต่งงานกับฮูหยินตระกูลไป๋อยู่

พี่ชายของฟางซื่อเดินทางมายังเมืองหลวงทันทีที่ได้ยินข่าว เขาไม่เพียงพาบุรุษในตระกูลที่ยังไม่ได้แต่งงานมาด้วย เขายังสตรีที่พอดูได้ในตระกูลที่อายุถึงเกณฑ์แต่งงาน ทว่า ยังไม่ได้หมั้นหมายมาด้วยเช่นกัน เขาอยากถือโอกาสนี้ให้เด็กๆ ได้พบหน้ากัน

พี่ชายของฟางซื่อไม่ใช่คนโลภมาก เขาไม่กล้าอาจเอื้อมแต่งงานกับฮูหยินของตระกูลไป๋ เขาแค่อยากอาศัยความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลไป๋หาคู่ครองที่ดีในเมืองหลวงให้เด็กในตระกูลฟางเท่านั้น

ขอเพียงอาศัยบารมีของตระกูลไป๋แต่งงานกับตระกูลสูงศักดิ์ในเมืองหลวง วันหน้ากิจการของพวกเขาคงราบรื่นกว่าเดิมมาก

ที่สำคัญหลังจากไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์ในถึงตอนนี้ หญิงสาวไม่ได้แต่งตั้งบรรดาศักดิ์ให้คนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋แม้แต่คนเดียว แสดงว่าไป๋ชิงเหยียนไม่พอใจคนในตระกูลบรรพบุรุษไป๋มาก ขอเพียงฟางซื่อไม่ทำสิ่งใดผิดพลาด เมื่อถึงวันสำคัญอย่างวันสิ้นปี ไป๋ชิงเหยียนต้องพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้แน่นอน ไป๋ฉีเหอคือประมุขตระกูลไป๋ บรรดาศักดิ์ของเขาย่อมสูงไม่น้อย ถึงตอนนั้นฟางซื่อจะกลายเป็นฮูหยินเก้ามิ่ง เขาต้องรอบคอบเพื่อฟางซื่อดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เขาบอกเรื่องนี้กับฟางซื่อแล้ว ทว่า ฟางซื่อกลับลอบด่าพี่ชายตัวเองว่าขี้ขลาดอยู่ในใจ ฟางซื่อตั้งใจลงมือทำทุกอย่างโดยปิดบังพี่ชายของตัวเอง

ฟางซื่อคิดว่าไม่ว่าอย่างไรฮูหยินตระกูลไป๋ก็ต้องไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกายชุดใหม่ ถึงแม้ไม่ไปนางก็มีวิธีทำให้พวกนางต้องไปเปลี่ยนชุดอยู่ดี

ฟางซื่อแทบนำสินเดิมเกือบทั้งหมดของตัวเองออกมาใช้เพื่อแผนการนี้ นางเชื่อว่าทุกอย่างต้องสำเร็จแน่นอน

ถึงเวลานั้นเมื่อฮูหยินคนใดในตระกูลไป๋ลุกไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย นางจะให้คนล่อพี่ชายของนางออกไปสนทนาตามลำพัง นางต้องหาโอกาสจัดฉากให้คนทั้งสองอยู่ด้วยกันได้แน่

ฟางซื่ออยากให้พี่ชายของตัวเองลงเอยกับฮูหยินสี่หวังซื่อมากที่สุด หวังซื่อเป็นคนขี้ขลาดและอ่อนแอ นางไม่เด็ดเดี่ยวและร้ายกาจเหมือนฮูหยินคนอื่นๆ ของตระกูลไป๋ วันหน้าหากแต่งงานกับพี่ชายของนาง พี่ชายคงควบคุมหวังซื่อได้ง่ายกว่า

ที่สำคัญฟางซื่อตรวจสอบแล้วว่าสินเดิมของหวังซื่อไม่ได้ด้วยไปกว่าฮูหยินคนอื่นของตระกูลไป๋ ควบคุมง่าย สินเดิมล้นหลาม หากตระกูลฟางได้เงินจากสินเดิมของหวังซื่อคอยช่วยเหลือ กิจการของตระกูลฟางต้องรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน

การเลือกหวังซื่อมีข้อดีมากที่สุด…

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าไป๋ชิงเหยียนไม่สามารถมีบุตรได้ ฟางซื่อจึงคิดว่าไป๋ชิงผิงบุตรชายของนางมีโอกาส ทว่า ผู้ใดจะคิดว่าคุณชายตระกูลไป๋เหล่านั้นจะมีชีวิตรอดกลับมา

ต่อมาไป๋ชิงเหยียนที่มีบุตรไม่ได้กลับตั้งครรภ์ขึ้นมา ฟางซื่อจะไม่ตกใจได้อย่างไร

บัดนี้คุณชายตระกูลไป๋ที่มีชีวิตรอดกลับมามีเพียงไป๋ชิงเจวี๋ยบุตรชายของหวังซื่อคนเดียวที่ร่างกายครบสามสิบสอง หากเด็กในท้องของไป๋ชิงเหยียนเป็นอันใดขึ้นมาหรือคลอดออกมาเป็นเด็กผู้หญิง ฟางซื่อไม่เชื่อว่าไป๋ชิงเหยียนที่มีบุตรยากจะโชคดีตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง!

ถึงเวลานั้นไป๋ชิงเหยียนต้องยกบัลลังก์ให้บุตรชายของหวังซื่อแน่!

เช่นนี้พี่ชายของนางจะมีฐานะประหนึ่งไท่ซ่างหวง[1] พี่ชายของนางจะไม่ตบรางวัลให้ผู้ที่ทำให้เขาได้สมหวังอย่างนางอย่างนั้นหรือ

ฟางซื่อตัดสินใจอย่างแน่วแน่ นางปิดบังแม้กระทั่งผูหลิ่ว เลือกใช้บ่าวรับใช้ที่ซื่อสัตย์ซึ่งเป็นสินเดิมของตัวเองทั้งหมด

ร่างที่ผอมเพรียวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วของไป๋ชิงเหยียนยังมองไม่ออกว่าหญิงสาวตั้งครรภ์ หญิงสาวเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ประกอบกับเครื่องแต่งกายที่หลวมสบาย หญิงสาวจึงดูไม่เหมือนสตรีที่กำลังตั้งครรภ์

เมื่อต่งซื่อ ไป๋ชิงเหยียนและบรรดาฮูหยินตระกูลไป๋นั่งลงบนที่นั่งของตัวเองเรียบร้อย บรรดาครอบครัวขุนนางจึงแยกย้ายกลับกระโจมของตัวเอง

[1]ไท่ซ่างหวง จักรพรรดิที่ยกบัลลังก์ให้โอรสโดยที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่

โรแมนติกแนะนำ

ดูเพิ่มเติม

[1]ไท่ซ่างหวง จักรพรรดิที่ยกบัลลังก์ให้โอรสโดยที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่

จบ

————————–

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท