ตอนที่ 1043 พื้นฐาน
ฉีเหล่าไท่จวินทานขนมที่ไป๋หว่านชิงป้อนให้โดยไม่รังเกียจน้ำลายที่ติดอยู่ที่มือของหลานสาวตัวน้อย เมื่อเห็นว่าใบหน้าของหลานสาวเต็มไปด้วยเศษขนมจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดปากให้หลานสาวยิ้มๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู
ด้านหลังของฉีเหล่าไท่จวินคือหมัวมัวร่างท้วมคนหนึ่งซึ่งอายุราวๆ ห้าสิบต้นๆ นางสวมชุดผ้าไหมสีเขียวอ่อนสลับดำ ทั้งๆ ที่สนทนาอยู่กับฮูหยินห้าฉีซื่อด้วยรอยยิ้ม ทว่า กลับเอื้อมมือเช็ดน้ำตาที่หางตาของตัวเองตลอดเวลา
“พอเถิดหมัวมัว ข้าอยู่สบายดีไม่เห็นหรืออย่างไร” ฉีซื่อกล่าวปลอบโยน “ข้าบอกไปแล้วว่าที่กล่าวว่าร่างกายทรุดโทรมอย่างหนักหลังคลอดเสี่ยวปาเป็นเพียงเรื่องที่ข้ากุขึ้นเพื่อหลอกคนเหล่านั้น มิเช่นนั้นพวกนั้นต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็นไม่จบสิ้น หมัวมัวหยุดร้องไห้เถิด!”
“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ!” หมัวมัวใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาด้วยตาที่แดงก่ำพลางรับคำ “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ ทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าดีใจที่ได้พบคุณหนูต่างหากเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้สั่งให้เว่ยจงตะโกนรายงานว่านางเดินเข้ามาแล้ว มิเช่นนั้นคนชราในตำหนักปี้สุ่ยต้องลุกขึ้นทำความเคารพนาง นี่คืองานเลี้ยงในครอบครัว ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากให้มากพิธี
ต่งถิงเจินเห็นไป๋ชิงเหยียนจับมือชุนเถาเดินเข้ามาด้านในจึงรีบลุกขึ้นยืน “ญาติผู้พี่มาแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ เหล่าไท่จวินรีบจับมือของบุตรสาวและลูกสะใภ้เตรียมลุกขึ้นยืนทำความเคารพ
“ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี วันนี้คืองานเลี้ยงในครอบครัว ชิงเหยียนคือลูกหลานของทุกท่าน” ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพต่งเหล่าไท่จวิน มารดา ป้าสะใภ้และน้าสะใภ้ของตัวเองด้วยรอยยิ้มเป็นลำดับแรก จากนั้นหันไปทำความเคารพญาติผู้ใหญ่ของอาสะใภ้คนอื่นๆ จากนั้นนั่งลงบนที่นั่งประมุขพร้อมกับต่งซื่อ
เหล่าไท่จวินทุกคนล้วนเป็นคนฉลาด ก่อนหน้านี้พวกนางอยากเขียนจดหมายมาขอหนังสือหย่าแทนบุตรสาวของตัวเองเพราะเห็นว่าสามีของบุตรสาวจากไปแล้ว ถึงแม้ต่อไปบุตรสาวจะไม่แต่งงานใหม่อีก ทว่า ในตระกูลมีบิดา พี่ชายและน้องชายของนางคอยคุ้มครองย่อมดีกว่าอยู่เป็นหม้ายในตระกูลไป๋ ทว่า บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินี หญิงสาวดีต่อบุตรสาวของพวกนางมาก พวกนางไม่เพียงวางใจ ทั้งยังซาบซึ้งในน้ำใจของไป๋ชิงเหยียนมาก
วันรุ่งขึ้นหลังจากไป๋ชิงเหยียนออกว่าราชการตอนเช้าเสร็จ มีคนมารายงานว่าช้างที่ส่งมาจากต้าเหลียงมาถึงแล้ว ไม่เพียงเท่านี้ เมื่อฝู่กั๋วจวินไป๋จิ่นซิ่วทราบว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการช้าง หญิงสาวจึงให้คนตามหาครูฝึกช้างเพื่อส่งมาให้หญิงสาวด้วย
ช้างถูกส่งมาจากต้าเหลียงทั้งหมดยี่สิบกว่าตัว ทว่า อากาศระหว่างทางมาต้าโจวไม่อบอุ่นเท่าแคว้นต้าเหลียง ดังนั้นช้างจึงล้มป่วยและล้มตายไปจำนวนหนึ่ง ครูฝึกช้างพยายามหาผ้าห่มที่หนาที่สุดมาคลุมให้ความอบอุ่นแก่ช้าง เมื่อเดินทางมาถึงต้าโจวจึงเหลือเพียงช้างที่ยังมีลมหายใจอยู่เพียงเก้าตัวเท่านั้น ช้างเป็นสัตว์ใหญ่จึงให้พวกมันอาศัยอยู่ที่ค่ายทหารนอกเมืองหลวง
ไป๋ชิงเหยียนให้เว่ยจงเตรียมรถม้าให้พร้อม เมื่อนางพบเยว่สือเสร็จจะออกเดินทางไปยังค่ายทหารนอกเมืองทันที
ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเสร็จ ยังไม่ทันได้ออกไปพบเยว่สือก็ได้รับข่าวที่ไป๋ชิงฉีส่งมาจากหนานเจียงเสียก่อน…กองทัพช้างที่ไป๋จิ่นถงเคยเล่าให้ฟังปรากฏกายขึ้นที่ซีเหลียง กองทัพช้างไม่ได้เผชิญหน้ากับกองทัพไป๋ซึ่งๆ หน้า เพียงแค่ตั้งฐานทัพประชิดเขตแดนของสองแคว้น สายลับในซีเหลียงส่งข่าวมาบอกว่ากองทัพช้างมีเสื้อขนสัตว์ที่ทำขึ้นเพื่อคุ้มกันผิวหนังของช้างด้วย
ไป๋ชิงฉีสั่งให้กองทัพไป๋ทุกคนเตรียมพร้อมตลอดเวลา อีกทั้งส่งจดหมายไปยังเติงโจวเพื่อขอให้ผู้ตรวจการเมืองเติงโจวต่งชิงเยว่ซึ่งเป็นน้าชายของไป๋ชิงเหยียนยกทัพมาช่วยเหลือหากเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้น
ไป๋ชิงเหยียนกำจดหมายของไป๋ชิงฉีแน่น ในเมื่อไป๋ชิงฉีส่งจดหมายไปหาน้าชายของนาง น้าชายต้องหาทางส่งจดหมายให้อาอวี๋รับรู้อย่างแน่นอน ไม่แน่ตอนนี้อาอวี๋อาจรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ที่แคว้นเทียนเฟิ่งต้องการขนสัตว์ ไป๋จิ่นถงจึงยุยงให้ชาวบ้านซีเหลียงละทิ้งการทำนา หันไปทอผ้าและออกล่าขนสัตว์แทนขึ้นมาโนเวลพีดีเอฟ
ไป๋ชิงเหยียนยังไม่รู้ภูมิประเทศที่แน่ชัดของแคว้นเทียนเฟิ่ง ทว่า แคว้นเทียนเฟิ่งไม่มีขนสัตว์อย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงให้ไป๋จิ่นถงหาทางส่งขนสัตว์ไปยังแคว้นเทียนเฟิ่งด้วย!
เมื่อได้อ่านจดหมายที่ไป๋ชิงฉีส่งมาในตอนนี้ ไป๋ชิงเหยียนพอจะเดาสิ่งใดได้บ้างแล้ว บางทีตอนนั้นแคว้นเทียนเฟิ่งคงคิดทำเสื้อขนสัตว์เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กองทัพช้างของตัวเองแล้ว เช่นนี้กองทัพช้างจะได้เดินทางไปแคว้นซีเหลียง ต้าโจวหรือต้าเยี่ยนได้โดยที่ไม่หนาวตาย!
เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดิของแคว้นเทียนเฟิ่งไม่ใช่จักรพรรดิที่รักสงบอย่างแน่นอน!
ไป๋ชิงเหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเอ่ยสั่งเว่ยจง “ส่งคนไปบอกให้หลู่ไท่เว่ย เสิ่นซือคง ต่งซือถู เสนาบดีกรมทหารจางตวนหนิง เสนาบดีกรมการคลังเว่ยปู้จิ้งไปรอพบข้าที่นอกเมืองอีกครึ่งชั่วยามเพื่อเดินทางไปค่ายทหารพร้อมข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เว่ยจงรับคำ
เยว่สือรอไป๋ชิงเหยียนอยู่ในห้องตำราก่อนแล้ว เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนสั่งให้ขันทีและนางกำนัลรออยู่ด้านนอก หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องตามลำพัง เยว่สือจึงยิ้มออกมา จากนั้นก้าวเข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “คารวะฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นเอ่ยถามเยว่สือ “เขาอยู่ต้าเยี่ยนสบายดีหรือไม่”
ได้ยินว่าหลังจากที่อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนเดินทางกลับไปต้าเยี่ยน ชายหนุ่มทุ่มเทแรงกายแรงใจไปกับการจัดการเชื้อพระวงศ์จนตระกูลมู่หรงด่าทอเขาด้วยความไม่พอใจ อีกทั้งมีการส่งคนไปลอบสังหารมู่หรงเหยี่ยน สุดท้ายจักรพรรดิองค์น้อยมู่หรงลี่ออกมาขอร้องอาเก้าของตัวเองด้วยองค์เอง มู่หรงเหยี่ยนจึงทำเพียงประหารครอบครัวที่ส่งคนมาสังหารตนเท่านั้น ส่วนคนอื่นเพียงแค่โดนโทษสถานเบา เรื่องนี้จึงยุติลงอย่างสงบ
แม้จะรู้ดีว่ามู่หรงเหยี่ยนและหลานชายของเขากำลังแสดงละครตบตาผู้อื่น ทว่า ไป๋ชิงเหยียนอดเป็นห่วงไม่ได้
“ฝ่าบาทไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ นายท่านสบายดีพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่คิดถึงฝ่าบาทและเจ้านายน้อยในครรภ์ของฝ่าบาทมากเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” เยว่สือเอื้อมมือลูบศีรษะพลางยิ้มออกมาอย่างใสซื่อ
ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยิบจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วบนโต๊ะมาถือไว้ จากนั้นกล่าวกับเยว่สือ “ยังมีอีกเรื่องที่ข้าอยากให้เจ้ารีบกลับไปรายงานเจ้านายของเจ้าที่ต้าเยี่ยน แคว้นเทียนเฟิ่งยื่นมือเข้าช่วยเหลือแคว้นซีเหลียงแล้ว บัดนี้กองทัพช้างหนึ่งกองทัพของเทียนเฟิ่งเดินทางถึงซีเหลียงแล้ว ตอนนี้ตั้งค่ายประชิดอยู่ที่ชายแดนของสองแคว้น!”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เยว่สือตะลึง สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที เยว่สือเคยได้ยินเจ้านายของตัวเองเอ่ยถึงแคว้นเทียนเฟิ่งมาก่อน ได้ยินว่าอาวุธของแคว้นเทียนเฟิ่งไร้เทียมทาน กองทัพช้างมีพลังทำลายล้างมหาศาล
“เมื่อแคว้นเทียนเฟิ่งซึ่งมีกองทัพช้างที่แข็งแกร่งและอาวุธที่ไร้เทียมทานเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ล้วนไม่เป็นผลดีต่อต้าโจวและต้าเยี่ยนทั้งสิ้น!” ไป๋ชิงเหยียนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเยว่สือ ยื่นจดหมายให้เขา “กองทัพช้างเดินทางถึงแคว้นซีเหลียงก่อนกำหนด เจ้าบอกให้เจ้านายของเจ้าเตรียมรับมือให้ดี ข้าคิดว่าจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงอาจชักศึกเข้าบ้านแล้ว”
เยว่สือรับจดหมายมาด้วยมือทั้งสองข้างพลางมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยสีหน้าจริงจัง ตั้งแต่ที่ไป๋ชิงเหยียนแนะนำให้ต้าเยี่ยนพึ่งพาชาวบ้านเพื่อยึดแคว้นหนานเยี่ยนกลับมา เยว่สือเชื่อใจในวิธีรบและการประเมินสถานการณ์รบของไป๋ชิงเหยียนมาก
“หากเป็นเช่นนั้นจริง กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งอาจไม่บุกโจมตีต้าโจวเป็นแคว้นแรก เพราะตอนนี้ต้าโจวคือแคว้นที่แข็งแกร่งที่สุด! แคว้นแข็งแกร่ง ทหารแข็งแกร่ง พวกเขาไม่กล้าเสี่ยง พวกเขาต้องเลือกโจมตีหรงตี๋ไม่ก็ต้าเยี่ยนก่อนแน่นอน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวเสียงขรึม “พวกเขาน่าจะเลือกโจมตีหรงตี๋เป็นแคว้นแรก ทว่า ต้าโจวไม่มีทางปล่อยให้ผู้ใดโจมตีหรงตี๋แน่!”
ส่วนต้าเยี่ยน แม้จะยึดครองหนานเยี่ยนและแคว้นเว่ยได้ ทว่า พื้นฐานแคว้นต้าเยี่ยนไม่ได้ร่ำรวยเท่าต้าโจว หากแคว้นเทียนเฟิ่งอยากลองเชิง พวกเขาต้องเลือกโจมตีต้าเยี่ยนก่อนแน่