สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1046 ฝากฝัง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1046 ฝากฝัง

ฝูรั่วซีและหวังสี่ผิงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“แม้ช้างจะตัวหนัก ทว่า งวงของมันคล่องแคล่วมาก งวงช้างยาวจนสามารถรัดตัวคน…หรือโยนคนออกไปไกลได้ ไม่ต้องคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาเลย” เสิ่นจิ้งจงที่นั่งเงียบอยู่พักใหญ่วางถ้วยชาในมือลง เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนพลางกล่าวขึ้น “จากจดหมายที่กองทัพไป๋ส่งมาให้ ที่งวงของช้างมีเกราะเหล็กป้องกันอยู่ ยากจะหาจุดอ่อนของมัน”

“งวง…” ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่เคาะลงบนโต๊ะ จากนั้นลุกขึ้นยืนพลางเดินไปด้านหน้าสองก้าว

“ประสาทรับกลิ่นของช้างเป็นเช่นไร”

บรรดาหลู่ไท่เว่ยเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียนขึ้นมาทันที

“ฝ่าบาทต้องการใช้ประสาทรับกลิ่นของช้างโจมตีจุดอ่อนของกองทัพช้างหรือพ่ะย่ะค่ะ”

จางตวนหนิงรู้สึกว่าวิธีนี้ได้ผล

“รีบไปตามครูฝึกมาสักสองคน!” ต่งชิงผิงหันไปตะโกนสั่งด้านนอก

ไม่นานครูฝึกสองสามคนเดินกลับมาในกระโจมอีกครั้ง จางตวนหนิงถามพวกเขาว่าช้างมีประสาทรับกลิ่นที่เร็วกว่าปกติใช่หรือไม่ ครูฝึกเหล่านั้นตะลึงไปชั่วขณะ

หนึ่งในครูฝึกนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “ใช่ขอรับ บางทีอาจเป็นเพราะจมูกของมันค่อนข้างยาว ประสาทรับกลิ่นของช้างจึงค่อนข้างเร็วขอรับ ข้าเคยได้ยินครูฝึกเล่าต่อกันมาว่าก่อนหน้านี้ช้างเคยป่วยหนัก หากนำสมุนไพรไปกองรวมๆ กัน ช้างจะแยกออกมาได้อย่างแม่นยำขอรับ…”

ครูฝึกอีกคนนึกขึ้นได้จึงรีบกล่าวเสริม “ดังนั้นครูฝึกอย่างพวกเราจึงต้องสร้างความคุ้นเคยกับช้างให้ได้มากที่สุด บอกพวกกันว่าสมุนไพรชนิดใดสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยได้ เช่นนี้ช้างจะจึงไม่ล้มป่วยตายอย่างง่ายดายขอรับ”

“พวกเราล้วนเป็นครูฝึกช้าง ช้างเหล่านี้อาศัยอยู่กับพวกเรามาตั้งแต่เล็ก ทว่า บรรพบุรุษของเคยรับหน้าที่จับช้างแทนเจ้านาย เจ้านายของบรรพบุรุษข้าเคยค้างาช้างมาก่อน ตอนเด็กๆ ข้าเคยได้ยินท่านปู่บอกว่าช้างอาศัยงวงในการหาของกิน เวลาพวกเราจับช้างจึงมักใช้ของที่ช้างชอบกินที่สุดเป็นเหยื่อล่อให้ช้างมาติดกับขอรับ” ครูฝึกผู้นั้นรวบรวมความกล้าเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน จากนั้นก้มหน้าลงอีกครั้ง “มนุษย์ต้องอยู่ให้ห่างจากเหยื่อล่อ เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจึงค่อยเข้าไปใกล้ มิเช่นนั้นช้างจะรู้ว่ามนุษย์อยู่แถวนั้นด้วย ข้าจึงคิดว่าช้างมีประสาทรับกลิ่นที่ดีกว่าสุนัขล่าขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากทั้งสองท่านแล้ว แม่ทัพหลินพาครูฝึกทั้งสองกลับไปพักผ่อนที”

“ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

ครูฝึกช้างสองคนก้มศีรษะคำนับอย่างพร้อมเพรียง

“รวบรวมข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดส่งไปให้แม่ทัพของกองทัพไป๋โดยเร็วที่สุด แม่ทัพเหล่านั้นจะได้ลองใช้วิธีนี้กับช้างเหล่านั้นก่อนที่จะเปิดศึกกันขึ้นจริงๆ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

“กระหม่อมจะรับผิดชอบเรื่องนี้เองพ่ะย่ะค่ะ” จางตวนหนิงอาสารับผิดชอบเรื่องนี้ “กระหม่อมจะส่งข่าวไปให้หนางเจียงภายในวันนี้พ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากท่านแล้ว”

เมื่อจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ไป๋ชิงเหยียนต้องเดินทางกลับวังหลวงแล้ว หญิงสาวกำชับให้หลินคังเล่อดูแลช้างเหล่านี้ให้ดี หากวันหน้าเกิดสงครามขึ้น ชัยชนะของต้าโจวขึ้นอยู่กับช้างฝูงนี้แล้ว

ไป๋ชิงเหยียนจะให้ขนทำเสื้อขนสัตว์ให้ช้างเหล่านี้โดยเร็วที่สุด เมื่อช้างปรับตัวได้แล้ว นางจะให้ช้างเหล่านี้และครูฝึกช้างออกเดินทางไปยังหนานเจียง ให้พวกเขาอาศัยอยู่บริเวณตอนเหนือของแม่น้ำจิง เช่นนี้จะได้นำจุดอ่อนของช้างไปรายงานให้สนามรบด่านหน้ารับรู้ได้เร็วที่สุด

การปรากฏตัวของกองทัพช้างของแคว้นเทียนเฟิ่งทำให้เหล่าขุนนางคนสำคัญของแคว้นต้าโจวเคร่งเครียดมาก พวกเขารวบรวมสติเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เตรียมโยกย้ายเสบียง กำลังทหาร บรรยากาศตึงเครียดจากหลู่ไท่เว่ยและเสนาบดีทั้งหกกรมทำให้ขุนนางในราชสำนักและเหล่าทหารตึงเครียดไปตามๆ กัน

การเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังช่วงฤดูใบไม้ผลิสิ้นสุดลงแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่ชาวบ้านกำลังเตรียมตัวสำหรับอากาศหนาว ทว่า พวกเขากลับเห็นกองกำลังทหารจากเมืองต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหว

เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารชาวซีเหลียงที่มีอำนาจทางทหารอยู่ในมือก่อความวุ่นวายหากต้าโจวเริ่มทำสงครามที่หนานเจียง นอกจากพลทหารทางน้ำของต้าเหลียงแล้ว ไป๋ชิงเหยียนส่งกองทัพหลักของต้าเหลียงไปยังหนานเจียงทั้งหมด จากนั้นให้หวังสี่ผิงนำทัพไปดูแลต้าเหลียงแทนดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เดิมทีทหารบางส่วนของต้าเหลียงรู้สึกไม่พอใจ ทว่า เมื่อได้ยินว่ากองทัพไป๋อยู่ที่หนานเจียงทั้งหมด พวกเขาจึงไม่กล่าวสิ่งใดอีก ยอมเดินทางไปยังหนานเจียงแต่โดยดี

เมื่อชาวบ้านเห็นการเปลี่ยนแปลงของค่ายทหารจึงเริ่มรับรู้ว่ากำลังจะเกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง ชาวบ้านที่มีญาติทำงานอยู่ในจวนว่าการรับรู้ข่าววงในมาเล็กน้อย พวกเขาเล่าว่าซีเหลียงกำลังจะก่อความวุ่นวายดังนั้นฝ่าบาทจึงส่งทหารไปคุ้มกันชายแดนซีเหลียง

เจ้าเมืองของเมืองต่างๆ ได้ยินว่ามีกองทัพช้าง ทว่า เจ้านายสั่งห้ามไม่ให้พวกเขาบอกเรื่องนี้ให้ชาวบ้านรับรู้ มิเช่นนี้นชาวบ้านอาจตื่นตระหนกได้

เมืองหลวงอยู่ใกล้กับวังหลวง ครอบครัวของขุนนางในราชสำนักต่างรับรู้เรื่องกองทัพช้างแล้ว พวกนางอดปาดเหงื่อแทนกองทัพที่หนานเจียงไม่ได้

เพราะมีเรื่องกองทัพช้าง ช่วงนี้ไป๋จิ่นจื้อและเซียวรั่วเจียงจึงอยู่ศึกษาพฤติกรรมของช้างกับครูฝึกในค่ายทหารนอกเมือง

ไป๋จิ่นจื้อคิดว่าแม้แคว้นเทียนเฟิ่งและซีเหลียงจะไม่กล้าบุกโจมตีต้าโจวในตอนนี้ ทว่า ต้าโจวต้องหาวิธีควบคุมช้างเหล่านี้ให้ได้จึงจะปลอดภัยที่สุด

วันที่ยี่สิบเก้า เดือนสิบ รัชศกหยวนเหอปีที่หนึ่ง เซียวรั่วไห่ เฉินชิ่งเซิงที่ได้รับคำสั่งเดินทางไปยังแคว้นเทียนเฟิ่งและเสิ่นชิงจู๋ที่ถูกไป๋ชิงเหยียนส่งตัวไปยังหนานเจียงอย่างลับๆ เดินทางกลับมาเมืองหลวงพร้อมกัน พวกเขาบังเอิญพบกับไป๋จิ่นจื้อที่กลับมาจากค่ายทหารพอดี ทั้งสี่คนจึงเข้าไปในวังหลวงพร้อมกัน

เซียวรั่วไห่และเฉินชิ่งเซิงกลับมาอย่างกะทันหันจึงไม่ได้ส่งคนไปรายงานให้ไป๋ชิงเหยียนทราบ ชุนเถากำลังอยู่เป็นเพื่อนไป๋ชิงเหยียนตรวจฎีกา เมื่อได้ยินเว่ยจงรายงานว่าเฉินชิ่งเซิงกลับมาแล้ว มือที่ช่วยไป๋ชิงเหยียนฝนหมึกอยูจึงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ ชุนเถารีบมองไปนอกตำหนักทันที

ไป๋ชิงเหยียนวางพู่กันในมือลง จากนั้นกล่าวกับเว่ยจงยิ้มๆ “รีบเชิญพวกเขาเข้ามา”

กล่าวจบไป๋ชิงเหยียนจึงหันไปมองชุนเถาที่เอาแต่จ้องไปทางประตูตำหนัก “ญาติผู้พี่ของเจ้าเดินทางกลับมาครั้งนี้ ข้าจะจัดงานแต่งงานให้พวกเจ้า เช่นนี้ท่านแม่ของข้าจะได้สบายใจเสียที”

ใบหน้าของชุนเถาแดงก่ำ นางเอ่ยเรียกอย่างเขินอาย “คุณหนูใหญ่…”

ชุนเถาคือบุตรสาวของแม่นมของต่งซื่อ แม้ไม่ใช่บุตรแท้ๆ ทว่า แม่นมของต่งซื่อรักชุนเถาประหนึ่งบุตรสาวแท้ๆโนเวลพีดีเอฟ

ก่อนแม่นมของต่งซื่อจะจากโลกนี้ไป นางกุมมือต่งซื่อแน่นพลางฝากฝังชุนเถาไว้กับต่งซื่อ จากนั้นบอกความลับนี้ให้ต่งซื่อรู้

ชุนเถาคือบุตรสาวของน้องสาวของแม่นมต่งซื่อ แม่ของชุนเถาสิ้นใจตอนตั้งท้องชุนเถา แม่นมของต่งซื่อเป็นคนรับรู้ว่าเด็กในครรภ์ของน้องสาวยังดิ้นอยู่จึงผ่าท้องของน้องสาวเพื่อช่วยชุนเถาออกมา

ทว่า แม่สามีของชุนเถาคิดว่าชุนเถาคือเด็กอัปมงคลจึงไม่ยอมรับชุนเถา แม่นมของต่งซื่อจึงเลี้ยงดูชุนเถาราวกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง ชุนเถาคือญาติคนเดียวบนโลกใบนี้ของนางแล้ว

ต่งซื่อคิดว่าแม่นมเลี้ยงชุนเถาไว้ข้างกายเพื่อคลายเหงา นึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะซับซ้อนเช่นนี้ เมื่อแม่นมของต่งซื่อจากไป ต่งซื่อจึงรับชุนเถามารับใช้ข้างกายไป๋ชิงเหยียน บอกกับทุกคนในจวนว่าชุนเถาคือบุตรสาวของแม่นมของนางเพื่อไม่ให้ผู้ใดรังแกชุนเถา

ต่งซื่อเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของชุนเถามาก นางรู้สึกว่าควรหาคู่ครองที่ดีให้ชุนเถาจึงจะไม่เป็นการทำผิดกับแม่นมของนางที่ฝากฝังชุนเถาไว้ให้นางดูแล

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท