ตอนที่ 1086 ตายเปล่า
หัวหน้าองครักษ์ไป๋ที่พุ่งคอใส่ดาบเซถลาไปด้านหลัง แผ่นหลังปะทะกับแผ่นอกของทหารซีเหลียงจนเซล้มลงบนพื้น
หัวหน้าองครักษ์ไป๋ที่พร้อมตายล้มทับศพของทหารซีเหลียงที่อยู่บนพื้น เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่ยืนง้างสายธนูอยู่บนกำแพงท่ามกลางหิมะที่ตกหนัก ขอบตาของเขาร้อนผ่าวขึ้นทันที
“คุ้มกันฝ่าบาท!” ทหารซีเหลียงตะโกนลั่น ช้างที่หลี่เทียนฟู่นั่งอยู่ถอยหลังหนีทันที พลทหารโล่รีบถลาไปด้านหน้าด้วยท่าทีเตรียมพร้อม
“ไป๋ชิงเหยียน! เจ้ากล้าสังหารทหารซีเหลียงของข้าอย่างนั้นหรือ” หลี่เทียนฟู่ใช้สองมือจับเสลี่ยงแน่น นางตวาดไป๋ชิงเหยียนเสียงดังลั่น แทบอยากลุกขึ้นยืนจากเสลี่ยงด้วยความโมโห
เสิ่นคุนหยางเห็นหลี่เทียนฟู่ชี้นิ้วมาทางไป๋ชิงเหยียนจึงแทบอยากจะตัดนิ้วมือของสตรีผู้นั้นทิ้ง เขากำดาบที่เอวแน่นพลางตะโกนลั่น “พลธนูเตรียมพร้อม!”
เมื่อพลธนูและพลทหารหน้าไม้ที่ย่อกายชิดกำแพงเมืองได้ยินคำสั่งของเสิ่นคุนหยางจึงจุ่มลูกธนูลงไปในถังน้ำมันที่ไฟลุกโชน ง้างสายธนูเต็มเหนี่ยว จากนั้นยิงไปทางกองทัพซีเหลียงและกองทัพช้างที่กำลังล้อมเมืองผิงหยางอยู่
ลูกธนูลอยไฟลอยผ่านหิมะตกลงบนพื้น เมื่อพลทหารโล่ของซีเหลียงเห็นลูกธนูเพลิงลอยมาจากกำแพงเมืองไม่มีที่สิ้นสุดจึงต่างพากันถอยหลังหนี
ธนูไฟลุกโชนนับพันดวงสว่างขึ้นบนกำแพงเมืองที่ไม่เคยพังทลายนับร้อยปีท่ามกลางหิมะที่ตกกระหน่ำ แม่ทัพเทียนเฟิ่งซึ่งนั่งอยู่บนหลังช้างศึกรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลขึ้นมาทันที
ในฐานะแม่ทัพเขามีประสาทสัมผัสที่ไวต่ออันตราย เขารู้สึกว่ากำลังมีอันตรายบางอย่างค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเขาราวกับงูพิษซึ่งเลื้อยลงมาจากที่สูง พร้อมจะฉกขาเขาตลอดเวลา…
เขารู้สึกว่านี่คือสัญญาณเตือนจากเทพเจ้า เขารู้สึกหวาดกลัว ทว่า อดรู้สึกหวั่นไหวกับคำกล่าวโน้มน้าวของหลี่เทียนฟู่ไม่ได้ หากจับเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวได้เขาจะมีความดีความชอบใหญ่หลวง เขาคือแม่ทัพที่เทพเจ้าเลือกให้แคว้นเทียนเฟิ่ง แคว้นเทียนเฟิ่งจงรักภักดีต่อเทพเจ้า เทพเจ้าต้องปกป้องคุ้มครองเขาแน่นอน!
แม่ทัพเทียนเฟิ่งซึ่งมีรอยสักรูปนักรบบนใบหน้ามีสีหน้าลังเลขึ้นมาทันที
หลี่จือเจี๋ยเดินขึ้นไปบนกำแพงเมืองก็ได้ยินเสียงตวาดลั่นของหลี่เทียนฟู่และเสียงทุ้มต่ำของเสิ่นคุนหยาง
หลี่จือเจี๋ยที่เพิ่งสนทนากับหลิ่วหรูซื่อได้ไม่นานถูกพาตัวมายังกำแพงเมือง เมื่อเห็นเทียนเฟิ่งและหลี่เทียนฟู่พากองทัพช้างมาล้อมเมืองผิงหยางเอาไว้จึงกำหมัดแน่นทันที
ระหว่างทางที่มาที่นี่เขาได้ยินแล้วว่าแคว้นเทียนเฟิ่งดักจับตัวเกาอี้จวินระหว่างทางที่เกาอี้จวินเดินทางกลับมายังเมืองผิงหยาง กองทัพใหญ่ของซีเหลียงล้อมเมืองผิงหยางเอาไว้ องครักษ์ไป๋เสียสละชีพของตัวเองช่วยเกาอี้จวินกลับมาอย่างปลอดภัยโนเวลพีดีเอฟ
บัดนี้ทหารสังกัดของหลี่เทียนฟู่กำลังจับตัวองครักษ์ไป๋เป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่ไป๋ชิงเหยียน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการประกาศสงคราม แคว้นเทียนเฟิ่งเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไรถึงได้ปล่อยให้หลี่เทียนฟู่อาละวาดเช่นนี้!
เขายอมรับว่าเขาเดินทางเข้ามาในเมืองผิงหยางเพื่อต้องการยุให้ต้าโจวและเทียนเฟิ่งทำสงครามกัน เช่นนี้พวกเขาจะได้มีโอกาสช่วยให้จักรพรรดินีแห่งซีเหลียงกลับขึ้นครองบัลลังก์อีกครั้ง
ทว่า ตอนนี้สี่แคว้นกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเชื่อมไมตรี เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเทียนเฟิ่งจะกล้านำกองทัพช้างมาบีบให้ต้าโจวมอบตัวเขาคืนให้ซีเหลียงในฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงที่กองทัพช้างอ่อนแอที่สุดเช่นนี้
หลี่จือเจี๋ยมองดูเหล่าองครักษ์ไป๋และทหารซีเหลียงที่ถูกไป๋ชิงเหยียนยิงธนูปลิดชีพ เขารู้สึกเหงื่อท่วมตัวทั้งๆ ที่หิมะตก
แม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงแห่งซีเหลียงทำสงครามกับกองทัพไป๋มาหลายปี แม่ทัพอวิ๋นพั่วสิงเคยกล่าวว่ากองทัพไป๋รักพวกพ้องมาก หากไม่ใช่สถานการณ์คับขันจริงๆ พวกเขาไม่มีทางปล่อยให้ทหารของตัวเองตายเปล่าแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนคงแลกตัวเขากับองครักษ์ไป๋เหล่านั้นใช่หรือไม่
ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน มิเช่นนั้นไป๋ชิงเหยียนคงไม่ให้คนพาเขาขึ้นมาบนกำแพงเมืองเช่นนี้
หลี่จือเจี๋ยรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนฉลาดเพียงใด บางทีไป๋ชิงเหยียนอาจเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาจะนำปัญหามาให้นาง เขาสร้างปัญหาใหญ่ให้ต้าโจว ตอนนี้องครักษ์ไป๋ยังอยู่ในมือของหลี่เทียนฟู่อีก จากนิสัยของไป๋ชิงเหยียนหญิงสาวต้องแลกตัวเขากับองครักษ์เหล่านั้นแน่นอน
หลี่จือเจี๋ยไม่กลัวตาย ขอเพียงการตายของเขาทำให้ต้าโจวและเทียนเฟิ่งทำสงครามกันก็ถือว่าเขาบรรลุเป้าหมายแล้ว
ทว่า เขากลัวว่าเมื่อต้าโจวส่งมอบตัวเขาให้ซีเหลียงแล้ว ต้าโจวจะทำสัญญาพันธมิตรกับเทียนเฟิ่ง เช่นนั้นหลี่เทียนฟู่ต้องหาโอกาสสังหารหลี่เทียนเจียวทิ้งแน่นอน เมื่อซีเหลียงตกอยู่ในกำมือของหลี่เทียนฟู่ ซีเหลียงคงไม่มีวันข้างหน้าแล้ว
หลี่เทียนฟู่คือคนเสียสติที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว นางพร้อมทำลายซีเหลียงเพื่อแก้แค้นให้ลู่เทียนจัว
แม้หลิ่วหรูซื่อจะเป็นขุนนางบัณฑิต ทว่า บัดนี้ฝ่าบาทของเขาอยู่ในเมืองผิงหยาง ศัตรูบุกล้อมเมืองเขาจะทนอยู่เฉยได้อย่างไร เมื่อได้ยินว่าฝ่าบาทเสด็จไปยังกำแพงเมือง หลิ่วหรูซื่อจึงรีบสวมเสื้อคลุมหนาแล้วมุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองทันที
แม่ทัพที่ได้รับคำสั่งจากไป๋ชิงเหยียนให้อพยพชาวบ้านไปยังประตูทิศเหนือเพื่อป้องกันเทียนเฟิ่งและซีเหลียงบุกโจมตีเมืองขี่ม้าสวนทางกับหลิ่วหรูซื่อเข้าไปในเมือง ตะโกนบอกให้ชาวบ้านรีบอพยพหนี
ลมพัดแรงจนหลิ่วหรูซื่อแทบลืมตาไม่ขึ้น ใจของเขาตึงเครียดตลอดเวลา สงครามที่กำลังมาเยือนทำให้หลิ่วหรูซื่อซึ่งไม่เคยออกรบมาก่อนใจเต้นรัว เขาอยากยืมดาบสักเล่มมาถือไว้ หากศัตรูบุกเข้ามาในเมืองได้สำเร็จ เขาต้องคุ้มกันฝ่าบาทหนีไปก่อน ตอนนี้หญิงสาวกำลังตั้งครรภ์อยู่ หญิงสาวจะสู้รบกับศัตรูเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้เด็ดขาด ทว่า ทหารเหล่านั้นจะมีดาบเหลือให้ขุนนางบัณฑิตอ่อนแออย่างเขาถือได้อย่างไรกัน
เมื่อหลี่เทียนฟู่เห็นหลี่จือเจี๋ย โทสะที่กำลังเดือดดาลใกล้ถึงขีดสุดจึงสงบลงอีกครั้ง หญิงสาวมองไปทางหลี่จือเจี๋ยด้วยแววตาเยือกเย็น จากนั้นตะโกนลั่น “หลี่จือเจี๋ย เจ้าคิดว่าเจ้าหนีมายังต้าโจวแล้วข้าจะทำอันใดเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวหวาดกลัวกองทัพช้างจนเตรียมส่งมอบตัวเจ้าให้ข้าแล้ว”
หลี่เทียนฟู่จงใจกล่าวยุแยง นางต้องการบีบให้ต้าโจวลงมือ
คำกล่าวของหลี่เทียนฟู่ยั่วโมโหทหารต้าโจวได้สำเร็จ ทว่า ไม่มีคำสั่งจากไป๋ชิงเหยียนและเสิ่นคุนหยาง ต่อให้พวกเขาอยากก็ไม่กล้ายิงธนูออกไปอยู่ดี
ไป๋ชิงเหยียนพยายามควบคุมโทสะของตัวเองเพื่อความปลอดภัยขององครักษ์ไป๋เหล่านั้น นางต้องยื้อเวลาให้อาอวี๋และเฉิงหย่วนจื้อให้ได้นานที่สุด
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่เทียนฟู่ด้วยแววตาเย็นชา จากนั้นหันไปสั่งเสิ่นคุนหยาง “ให้คนพาตัวหลี่จือเจี๋ยไปแลกตัวองครักษ์ไป๋กลับมา…”
“พ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นคุนหยางรับคำ
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่จือเจี๋ยที่หน้าถอดสี จากนั้นกล่าวเสียงนิ่ง “ท่านเป็นคนชักนำคนมาที่นี่ องครักษ์ไป๋ของข้าอยู่ในมือของเทียนเฟิ่งและซีเหลียง ข้าต้องแลกตัวท่านกับองครักษ์ไป๋ของข้า ส่วนท่านจะรอดชีวิตหรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับชะตาของท่านเอง!”
สีหน้าของหลี่จือเจี๋ยย่ำแย่ลงกว่าเดิม ไป๋ชิงเหยียนรู้เรื่องทุกอย่างตั้งแต่แรกจริงๆ ด้วย เขาโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน
“ขออภัย กระหม่อมแค่กลัวว่าต้าโจวจะไม่กล้าเปิดศึกกับเทียนเฟิ่ง ดังนั้นจึง…”
จำเป็นต้องบีบให้ทั้งสองแคว้นเปิดศึกกัน
ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากฟังคำอธิบายของหลี่จือเจี๋ยอีกต่อไป นางหันไปกล่าวกับเสิ่นคุนหยาง
“พาตัวไปได้!”