ตอนที่ 25 ข้าซวยขนาดนี้เชียว!
โต๊ะหินม้านั่งหินคือสิ่งที่เกวียนเทียมวัวสองคันบรรทุกมา รวมกันแล้วมีช่างหินสี่คนยกเข้าประตูใหญ่ วางตรงตำแหน่งเหมาะสมใต้ต้นพุทราตามจี้หยวนชี้แนะ
ด้วยเหตุนี้โต๊ะม้านั่งกับค่าแรง จี้หยวนจ่ายไปหนึ่งตำลึงเงิน กล่าวได้ว่าเป็นสิ่งของซึ่งแพงที่สุดของค่าใช้จ่ายครั้งนี้แล้ว นายช่างสี่คนวางสิ่งของรับเงินค้างชำระเสร็จ ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ออกจากเรือนสันติไป จี้หยวนคิดเชิญดื่มน้ำอย่างสุภาพก็ยังพูดไม่ทัน
ตอนนี้จี้หยวนมีสถานที่พักผ่อนแล้ว เขานั่งบนม้านั่งหินภายในลาน มองคนพวกนั้นยุ่งง่วนอยู่ภายในเรือนหลักเรือนข้าง เดินไปชี้บอกว่าอะไรควรวางตรงไหนเป็นระยะๆ
‘ความจริงพ่อค้าในตลาดยุคโบราณนี้ค่อนข้างมีความเป็นมืออาชีพ มือเท้าว่องไวขนาดนี้เชียว!’
ทั้งเมื่อลองมองลองฟังพวกหญิงแต่งงานแล้วกับชายทำความสะอาดนั่น ไม่เห็นต้องทุ่มเทเกินไปจริงๆ เดิมบอกว่าครึ่งวันย่อมเก็บกวาดเสร็จ ตอนนี้จี้หยวนคาดว่าด้วยวิธีทำงานจนเหงื่อไหลไคลย้อยของพวกเขา อย่างมากแค่ชั่วยามกว่าก็เลิกงานแล้ว!
สิ่งน่าสนใจคือบางร้านมาส่งของแต่กลับไม่เข้าประตูเช่นร้านขายผ้าห่ม ลูกจ้างบางคนย้ายของเข้ามาก่อนรับเงินค้างชำระแล้วจากไป ไม่พูดมากความถึงขั้นไม่เหลือบมองทั่ว ดูเหมือนมีเรื่องด่วนอะไร
มีแค่กลุ่มคนซึ่งจ้างมาเก็บกวาดปกติหน่อย ยามเก็บกวาดลูกจ้างซึ่งมือไม้ว่องไวไม่เหลวไหลแม้แต่น้อย ต่อให้มีคนอยากพูดคุยก็มีผู้ดูแลกลุ่มคอยห้าม ไม่รู้ว่าการทำงานต้องจริงจังเช่นนี้หรือไม่
‘คนโบราณบากบั่นนัก!’
จี้หยวนทอดถอนใจในใจประโยคหนึ่งก่อนเท้าคางเหม่อลอยต่อ
งานทำความสะอาดมีกระบวนการกำจัดฝุ่นเป็นสำคัญ ทำความสะอาคเศษฝุ่นทุกห้องรอบหนึ่ง จากนั้นค่อยใช้ผ้าหมาดและไม้ถูพื้นเช็ดอีกรอบ ยังมีคนฉาบกระดาษหน้าต่างใหม่อีกครั้งด้วย
นอกจากสงสัยแล้วจี้หยวนยังใช้มือลองกดโดยเฉพาะ พบว่ากระดาษติดหน้าต่างเช่นนี้แข็งแรงมาก คล้ายกระดาษมันซึ่งใช้ทำร่ม ไม่แตะน้ำลายแล้วสามารถเจาะทะลุได้เหมือนที่แสดงในโทรทัศน์แม้แต่น้อย ต่อให้ลมพัดฝนสาดก็ไม่มีปัญหาแน่
…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ฟังพวกคนภายในห้องยุ่งง่วนไม่หยุด จี้หยวนซึ่งกำลังหาวพลันผงะในใจทันที หันหน้าไปทางบ่อนั่นตามจิตใต้สำนึก ขมวดคิ้วมองอยู่นาน
ด้วยการทำความสะอาดต้องใช้น้ำ แผ่นปิดบนบ่อนี้นำออกแล้ว เมื่อครู่เขารู้สึกว่าทิศทางนี้หนาวอยู่บ้าง ตอนนี้เมื่อมองไปปากบ่อดำสนิท ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกเงาต้นไม้ปกคลุมหรือไม่
เมื่อจี้หยวนเบิกตากว้างเล็กน้อย คล้ายเห็นว่าเงามืดใต้บ่อยิ่งดูยิ่งไม่พอใจ รู้สึกเห็นแล้วเจือความมืดดำ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในสมองหวนนึกถึงภาพยนตร์สยองขวัญบางเรื่องที่เคยดูเมื่อชาติก่อนอย่างอดไม่ได้ ทำให้จี้หยวนขนลุกชันอยู่บ้าง
‘ทำตัวเองเสียขวัญจริงๆ!’
จี้หยวนลูบแขนพลางย้ำกับตัวเองว่าอย่าคิดเชื่อมโยงกันมั่ว
“ท่านจี้ ท่านจี้?”
เวลานี้มีเสียงอึกทึกสนั่นหูเหมือนดังมาจากขอบฟ้า ทำเอาจี้หยวนตกใจสะดุ้งโหยง
จี้หยวนตัวสั่นตกใจตื่น คราวนี้จึงพบว่าที่แท้เมื่อครู่ตนถึงกับนอนคว่ำบนโต๊ะหิน
เมื่อหันมามอง คนช่วยงานที่จ้างมาทำความสะอาดคฤหาสน์พวกนั้นยกถังกับเครื่องมือมาในลานแล้ว รวมทั้งสิ้นแปดคนยืนอยู่ข้างกายตน
“ท่านจี้ พวกเราทำความสะอาดเสร็จแล้ว ท่านจะลองดูหรือไม่”
“ทำความสะอาดเสร็จแล้วหรือ เร็วขนาดนี้เชียว”
“เอ่อ แหะๆ ใช่แล้ว ท่านลองดูเถอะ หากไม่พอใจพวกเราทำความสะอาดอีกครั้งได้”
ในเมื่อพูดขนาดนี้แล้ว จี้หยวนลุกขึ้นจากม้านั่งหิน
“ได้ ข้าลองดูหน่อย!”
เมื่อเดินวนรอบสองสามห้อง ยื่นมือเช็ดซอกตรงขอบหน้าต่างตลอด ยื่นศีรษะมองใต้เตียงและทุกมุม โดยส่วนใหญ่ถือว่าเก็บกวาดสะอาดมาก
วันนี้ตอนไปว่าจ้างหลายคนเมื่อได้ยินว่าอยู่ตรงมุมตรอกเทียนหนิวล้วนบอกปัดว่าทางไกลไม่ยอมมา ส่วนขบวนนี้จี้หยวนต้องเพิ่มเงินเท่าหนึ่งถึงยอมมา แต่ตอนนี้ดูท่าว่าคุ้มค่าที่จ่ายไป
เมื่อออกมาถึงลาน พวกเขายืนรออยู่ตรงนั้น
“ไม่เลว ลำบากทุกท่านแล้ว”
จี้หยวนหยิบถุงเงินออกมา เทเหรียญห้าอีแปะออกมากองหนึ่ง นับมาสี่สิบเหรียญต่อหน้าพวกเขา จากนั้นค่อยเพิ่มอีกสองเหรียญไว้ด้านบน
“นี่คือค่าแรง เกินมาสิบอีแปะถือว่าเชิญทุกท่านดื่มชา!”
“ขอบคุณท่านจี้!”
“ขอบคุณท่านจี้!”
“เช่นนั้นพวกเราไปก่อนนะขอรับ”
ท่ามกลางเสียงกล่าวขอบคุณของทุกคน ชายที่เป็นหัวหน้ารีบประคองเงินขึ้นมาพลางบอกลา
“ได้ๆ เดินทางปลอดภัย ขอไม่ไปส่ง!”
จี้หยวนวางท่าสุภาพสง่างาม ผงกศีรษะยิ้มน้อยๆ ถึงอย่างไรชุดใหม่วันนี้ก็ไม่เสแสร้ง ยังไงก็ต้องฝึกฝน
แต่การตอบสนองทั้งหมดของคนช่วยงานกลุ่มนี้ล้วนกระตือรือร้นนัก ดูไม่ออกว่าเป็นเพราะเห็นแก่เงินหรือมารยาทของจี้หยวนกันแน่
กระทั่งเสียงฝีเท้าของคนกลุ่มนี้เดินห่างออกไปหน่อย จี้หยวนจึงได้ยินเสียงกระซิบอยู่บ้างรางๆ
“บ้านหลังนี้ไม่เลวเลยจริงๆ!!”
“เฮ้อ ท่านจี้คนนั้นไม่เลวนัก ดูเหมือนว่าเป็นคนมีความรู้!”
“ชื่อเรือนนี้รู้สึกคุ้นหูอยู่บ้าง…”
ผู้เป็นหัวหน้าฟังคำพูดนี้แล้วกล่าวเร่ง
“ไม่ต้องพูดแล้ว เดินเร็วหน่อยๆ!”
“ดูไม่ออกว่าท่านนั้นอายุเท่าไหร่ แต่รูปร่างหน้าตางามเหลือเกิน!”
“ยังพูดอีก รีบเดินเร็ว รูปงามมีประโยชน์อะไร”
…
เอาล่ะ เมื่อฟังถึงช่วงประโยคสุดท้ายจี้หยวนพอใจแล้ว แต่ดูไม่ออกว่าอายุเท่าไหร่หมายความว่าอะไร หรือเห็นว่าตนแก่แล้ว รูปงามมีประโยชน์อะไร ดีกว่าน่าเกลียดอย่างไรเล่า!
เวลานี้ดวงอาทิตย์คล้อยลงทางตะวันตก ใกล้ค่ำแล้ว
แม้ว่าขั้นตอนตกแต่งบางห้องยังค่อนข้างพอเป็นพิธี แต่อย่างน้อยก็ถือว่าสมบูรณ์ตามแบบของมันแล้ว จี้หยวนนั่งอยู่ในลานทั้งเหม่อลอยอยู่บ้าง
น่าเสียดายว่าไม่มีอินเทอร์เน็ต ไม่มีมือถือ ทั้งไม่มีพวกจอมยุทธ์น้อยไร้เดียงสาคอยเรียกท่านจี้เป็นพักๆ
“เฮ้อ โดดเดี่ยวอยู่บ้างแล้ว… เฮือก…”
จี้หยวนผู้ถอนใจพลันหันหน้ามองบ่อน้ำนั่นเหมือนคนบ้า ลุกขึ้นเดินไปทางนั้น หยิบแผ่นไม้นั่นขึ้นมาปิดปากบ่อใหม่อีกครั้งดังปึง
“ฮู่ว… ค่อยสบายใจหน่อย ชาติก่อนแม่งควรดูภาพยนตร์สยองขวัญน้อยหน่อย ทำตัวเองเสียขวัญจริง!”
…
กลางดึกเสียงยามดังผ่านราตรีเงียบสงัดมาแต่ไกล ทั้งดังเข้าหูของจี้หยวนด้วย
ป๊อก… ป๊อกๆ…
“ปลอดภัยไร้กังวล…”
ป๊อก… ป๊อกๆ…
“ปลอดภัยไร้กังวล…”
…
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คืนนี้จี้หยวนพลิกตัวไปมาด้วยนอนไม่หลับ นอนนับแกะ ออกกำลังกาย ทั้งลองทำทุกวิถีทางแล้วก็ไม่เป็นผล
เมื่อผู้เฝ้ายามเคาะเกราะบอกเวลา จี้หยวนซึ่งหลับตาอยู่เพิ่งรู้ว่าตนถึงกับอดนอนมาจนยามสามแล้ว การเคาะเกราะสามครั้งเรื่องนี้เขายังพอเข้าใจ
แม้ว่าความจริงแค่เท่ากับช่วงห้าทุ่มกว่าเท่านั้น แต่ตอนนี้ฟ้ามืดเร็วทั้งไม่มีกิจกรรมนันทนาการอะไร การนอนเร็วตื่นเช้าจึงเป็นหลักการร่วมกันของที่นี่
‘หรือข้าคนแซ่จี้ยังติดเตียง หรือกล่าวว่ามีบ้านแล้วตื่นเต้นเกินไป?’
จี้หยวนที่กำลังคิดเช่นนี้พลันรู้สึกว่าอากาศเย็นลงไม่น้อยโดยไม่รู้ตัว
แกร๊ก… แ… กร๊… ก…
เสียงขูดแผ่นไม้เก่าดังมาจากในลานนอกประตู เบามาก แต่กลับหนีไม่พ้นหูของจี้หยวน
จี้หยวนหวาดสะดุ้ง ยังฟังโดยละเอียดเงียบๆ หวังว่าเมื่อครู่แค่หูฝาด
แอ๊ด…
แผ่นไม้ตรงปากบ่อซึ่งทับด้วยหินถูกพลิกขึ้นมาทีละน้อย ส่งเสียงเหมือนแผ่นไม้ต้านทานไม่อยู่
จี้หยวนที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาทันที ความคิดเชื่อมโยงนานัปการตอนกลางวันวาบผ่านสมองทั้งหมด สันหลังเย็นวาบถึงศีรษะเป็นระลอก เหงื่อผุดพรายบนหน้าผากเปลี่ยนเป็นแตกพลั่กเหมือนเล่นมายากล
แอ๊ด…
ปึง!
นั่นคือเสียงก้อนหินซึ่งทับบนแผ่นไม้ร่วงลงพื้น หัวใจจี้หยวนเต้นรัวตามการร่วงหล่นของก้อนหิน
แผ่นไม้ร่วงลงด้านข้าง เส้นผมแน่นหนาพ้นออกมาจากปากบ่อ…
อึก…
เมื่อความหนาวเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ จี้หยวนกลืนน้ำลายหลายอึก ดึงผ้าห่มบนเตียงมาด้วยการเคลื่อนไหวเนิบช้า ก่อนคลุมหัวตัวเองเงียบๆ
‘แ… ม่… ง… ข้าจี้หยวนคงไม่ซวยขนาดนี้กระมัง! เจ้านายหน้าบัดซบ!’