เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 121 คุมเทพกับผนึกร่าง

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 121 คุมเทพกับผนึกร่าง

สามคนด้านนอกอาศัยความเร็วเหนือขีดจำกัดวิชายุทธ์ของกายหยาบ แยกกันหลบหนีไปสามทิศทาง หนึ่งในนั้นวิ่งห่างไปหลายสิบจั้งก่อนหกคะเมนล้มลงกับพื้น ใช่ว่าสะดุดแต่จิตมารปราณมารออกจากร่าง

‘บทจะหนีก็หนี ตรงไปตรงมาอย่างนี้เชียว?’

จี้หยวนขมวดคิ้ว เห็นชัดว่าดูถูกพลังน่าหวาดหวั่นของ ‘วิชาคุมเทพ’ ขณะเดียวกันเงาร่างเขาก้าวออกไป ตามเงาร่างหนึ่งในนั้นราวย่นย่อระยะทางเหลือเพียงคืบ

แม้จี้หยวนรู้ตัวว่าความจริงตนไม่มีวิชาอะไรมาจับเป็นมารทั้งสาม แต่อย่างน้อยก็ลองดูได้

ถึงว่าจิตมารนั่นว่องไวตามร่างจอมยุทธ์ ทว่าไม่เร็วเท่าจี้หยวน แค่สิบกว่าก้าวก็ถูกตามทัน

คนก่อนหน้าวิ่งหนีเหมือนฝ่าม่านฝนมากมาย แต่ยามจี้หยวนตามราวหยาดฝนแฉลบผ่านกาย

ยามยังไม่ประชิดตัวคนผู้นั้น ข้างกายจี้หยวนมีน้ำฝนมากมายกลายเป็นสายน้ำ รวมแล้วมีประมาณหลายสิบเส้น ก่อตัวเป็นห่วงทรงเกลียว

เมื่อจี้หยวนสะบัดแขนเสื้อ คล้ายเซียนนำทาง น้ำฝนทะลวงผ่านม่านฝนทั่วฟ้าอย่างรวดเร็วชั่วพริบตา คลุมร่างจอมยุทธ์ซึ่งปราณมารพุ่งทะยานออกมา

สายน้ำบีบแน่นจนเหมือนโซ่เหล็ก

ตึง…

จอมยุทธ์เสียการทรงตัวโดยไม่ตั้งตัว ล้มลงบนทางภูเขา ทั้งตัวกลิ้งบนทางเขาเพราะแรงเฉื่อยหลายรอบ ละอองน้ำมากมายสาดกระเซ็น สายน้ำเหมือนเชือกมัด ทำให้เขาไม่อาจขยับเขยื้อน

เห็นว่ากายหยาบไม่อาจวิ่งหนี ปราณมารบนตัวลุกโชนทันที คิดหนีออกจากกายหยาบ

จี้หยวนรีบฝ่าม่านฝนมา เมื่อเห็นภาพนี้เขาคิดอะไรไม่ออกชั่วขณะ ตัดสินใจใช้ความคิดซึ่งไม่สุกงอมสำแดงวิชาออกมา

เสียงธรรมบัญชาเจือปราณโลกาสวรรค์หลายสายบ่มเพาะ เขายื่นมือชี้ไปทางจอมยุทธ์ซึ่งล้มลงกับพื้น

“ผนึก!”

ครู่ต่อมาจอมยุทธ์ได้ยินแล้วตัวแข็งทื่อ คล้ายกลไกทุกอย่างเสียการตอบสนอง ปราณมารแผ่ซ่านยิ่งถูกกักอยู่ในกายเนื้อ เหลือแค่แววตาหวาดกลัวมองจี้หยวนเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

‘ได้ผลจริงด้วย?’

จี้หยวนเวียนหัวเล็กน้อย ด้วยสภาวะจิตเขาตอนนี้ ในใจยังตื่นเต้นยิ่ง แม้ว่ามองอย่างไรก็เป็นเจ้าตัวจ้อย แต่เป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไร

นี่เป็นถึงวิชาผนึกร่างเชียว! ภายในกลยุทธ์เจิดจรัสกับคัมภีร์นอกรีตล้วนไม่เคยปรากฏบันทึกวิชาเช่นนี้ แค่ชาติก่อนจี้หยวนเคยเห็นจากละครโทรทัศน์เรื่องไซอิ๋ว

เอาเถอะ ความจริงจี้หยวนรู้ว่าวิชาประหลาดนี้ห่างไกลจากวิชาผนึกร่างตามความจำชาติก่อนอยู่มาก ตอนนี้แค่ใช้บัญชาตัดปราณมารซึ่งส่งผลต่อกายเนื้อร่างหยาบ ผนึกปราณมารอยู่ในร่างเท่านั้น

แต่ต้านการทำให้จี้หยวนเห็นทิศทางความเป็นไปได้ไม่ไหว!

ตอนนี้สองมารที่เหลือหนีห่างไปไกลมากแล้ว โดยเฉพาะผู้หลบหนีไปแค่ปราณมารคนนั้นยังเหินฟ้าด้วย จี้หยวนหมดหนทาง เอื้อมไม่ถึง

ทว่าแค่หมดหนทางจับตัว ถ้าคิดกำจัดกลับง่ายมาก

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เทียบกับการบอกว่าสามคนนี้เป็นมาร มิสู้บอกว่าเป็นแค่จิตมารเข้มข้นไม่ธรรมดาสามสายดีกว่า ทั้งปราณมารยังเหมือนมาจากแหล่งเดียวกัน มากหรือน้อยโดยคร่าวคือพอกัน

จี้หยวนไม่พิจารณามากอีก หันมากล่าวเสียงเบากับกระบี่เครือเขียว

“ไปเถอะ”

ชิ้ง…

เสียงกระบี่ออกจากฝักดังพร้อมแสงกระบี่ พริบตาต่อมาก็เกือบตามปราณมารนั่นทัน แสงเยียบเย็นวาบผ่านบดขยี้ แสงกระบี่พุ่งฟันไปอีกทิศทาง ตวัดหมุนกลางป่า ผู้ใช้วิชาตัวเบาห้อตะบึงอีกคนพลันล้มคว่ำกลางสายฝนระหว่างหลบหนีรวดเร็ว แฉลบหินผากลิ้งออกไปไกล

ไม่นานจี้หยวนหิ้วผู้ถูกปราณมารสิงทั้งสายน้ำพันรอบนั่นกลับมา

หน้าประตูอารามเทพภูเขาหมอกสลายนานแล้ว เผยร่างภูตสวมชุดคลุมสั้นประหลาด มือเท้าขนปุกปุย ตรงหน้าผากมีตุ่มนูน สันหลังโก่งงอ

ตอนนี้ภูตยืนตัวสั่นงันงกตรงประตูอารามเทพภูเขา ไม่กล้าแม้แต่หอบหายใจ เห็นจี้หยวนกลับมาพลางมองมาทางตน เขากลั้นหายใจทันที จากนั้นจึงเหมือนตอบสนองกลับมาก่อนรีบเอ่ยปาก

“ทะ เทพภูเขาใบตองกงมู่ฮว่า คารวะท่านเซียน น้อมฟังคำสั่งท่านเซียน!”

ขณะกล่าวยังทำท่าตลกเหมือนเลียนแบบคนประสานมือคารวะ

ทำให้เขาตกใจแล้ว ทั้งพิสูจน์ว่าวิชาคุมเทพของตนได้ผลจริงๆ จี้หยวนไม่คิดรับประโยชน์แล้วอวดฉลาด เหวี่ยงคนในมือเข้าอารามลวกๆ รีบประสานมือคารวะตอบเทพภูเขาเช่นกัน

“เทพภูเขากงไม่ต้องมากพิธี ครั้งนี้เรียกท่านมาโดยพลการ ด้วยคิดขอความช่วยเหลือจากท่าน…”

ขณะกล่าวจี้หยวนชี้เด็กชายหมดสติตรงนั้น

“วิญญาณเด็กคนนี้น่าจะหลบหนีอยู่กลางเขาใบตอง ไม่แน่ว่าอาจมีผู้ถูกจิตมารสิงร่างไล่ตามหลังด้วย ช่วยนำวิญญาณของเด็กคนนั้นกลับมา ส่วนผู้ถูกมารสิงมันย่อมจัดการ”

เมื่อจี้หยวนพูดจบกระบี่เครือเขียวซึ่งลอยกลับมาปรากฏตัว

แม้ว่าเทพภูเขาใบตองไม่เห็นกระบี่เครือเขียว แต่เมื่อครู่ได้ยินเสียงกระบี่ครวญและมองเห็นแสงกระบี่ ตอนนี้ยังเห็นกระบี่เซียนอยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินคำสั่งของจี้หยวนเขายิ่งไม่กล้าละเลย

“รับคำสั่งท่านเซียน ข้าน้อยจะไปทันที!”

เมื่อกล่าวประโยคนี้จบเงาร่างภูตพลันกลายเป็นหมอกหมุนวน โฉบพุ่งเข้าไปกลางทิวเขาเบื้องหน้า กระบี่เครือเขียวสัมผัสถึงการขับเคลื่อนพลังของเทพภูเขา ลอยตามไปกลางอากาศ

ภายในอารามเทพภูเขา ตั้งแต่เริ่มการเปลี่ยนแปลงชวนตะลึงจนถึงตอนนี้พวกโม่ถงต่างพูดอะไรไม่ออก มองการเปลี่ยนแปลงตรงประตูอารามเทพภูเขาอย่างอึ้งงัน

“ท่านจี้… พวกเรา… เอ่อ…”

โม่ถงคิดพูดอะไรบ้าง แต่กลับพบว่าลิ้นเหมือนพันกัน ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

บทสนทนาเมื่อครู่ถือเป็นเรื่องรอง สิ่งสำคัญที่สร้างความตกตะลึงต่อจิตใจทุกคนภายในอารามอย่างแท้จริงคือภาพยามจี้หยวนเรียกเทพภูเขาใบตองมา สภาพจิตใจไม่ต่างจากสามมารยามเห็นภาพนี้นัก

ต่อให้โดนลาเตะสมองจนโง่มาก่อน ตอนนี้ย่อมนึกออกว่าคืนนี้เจอเทพเซียน นอกจากตื่นเต้นแล้วยังรู้สึกมึนงงทำอะไรไม่ถูกด้วย

จี้หยวนแค่ยืนตรงประตูอารามมองสายฝน ก่อนหันกลับมามองคนพวกนี้ รู้สึกว่าไม่มีอะไรจะกล่าวต่อ เรื่องราวก็เป็นอย่างที่พวกเขาเห็น เขาแค่กล่าวปลอบประโยคหนึ่ง

“วิญญาณนายน้อยพวกเจ้าเทพภูเขาย่อมตามกลับมา ไม่ต้องกังวล รอสักครู่ก็พอ!”

พวกเขาได้ยินแล้วมองรูปปั้นเทพภูเขาในอารามตามจิตใต้สำนึกอีกครั้ง แม้เทพภูเขาที่ปรากฏตัวเมื่อครู่ต่างจากรูปปั้นเทพอยู่บ้าง แต่โดยรวมถือว่าคล้ายคลึงจริงๆ

ในที่สุดตอนนี้พวกโม่ถงก็หายใจทั่วท้องบ้าง นอกจากหญิงสาวคนหนึ่งในนั้นซึ่งอุ้มเด็กอยู่ไม่อาจลุกขึ้น คนอื่นทยอยลุกขึ้นมาประสานมือขอบคุณจี้หยวน

กลางเขาใบตอง วิญญาณเด็กวัยเจ็ดแปดขวบคนหนึ่งวิ่งตะบึงอยู่ในป่า ด้านหลังมีจอมยุทธ์แคล่วคล่องคนหนึ่งไล่ตามอยู่ตลอด

ทั่วร่างจอมยุทธ์คนนี้ปกคลุมด้วยปราณดำ แม้แต่เบ้าตายังดำสนิท ลึกล้ำน่ากลัวกว่าสีรัตติกาลมืดมิด

“เจ้าเด็กน้อยวิ่งเก่งนักนะ อย่าคิดว่าหนีไปได้ตลอด ไม่นานกายเนื้อของเจ้าย่อมถูกจับ ถึงตอนนั้นต่อให้เจ้ายอมทิ้งกายเนื้อเป็นผีเร่ร่อน พวกเราก็มีวิธีดึงวิญญาณเจ้ากลับไป!”

“อย่าตามข้าๆ ข้าไม่อยากเป็นผีเร่ร่อนๆ! อ๊าก…”

วิญญาณของเด็กชายตัวน้อยหนีพลางร้องไห้จ้า เสียงแหลมตอนท้ายดังขึ้นเพราะเห็นว่าตรงหน้าพลันมีร่างสันหลังโก่งงอท่าทางเหมือนปีศาจผลุบออกมาจากข้างหินผา

“ปีศาจ…!”

แม้ว่าร่างคนไม่ใช่ผีไม่เชิงซึ่งตามมาด้านหลังจะน่ากลัว แต่ในสายตาเด็กสุดท้ายยังมีรูปร่างเหมือนคน แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าเหมือนปีศาจอย่างสมบูรณ์ ทำให้เขาตกใจจนร้องว่าไม่เอาๆ

เทพภูเขาใบตองเห็นว่าอีกด้านแสงกระบี่วาบผ่านมาแล้ว จอมยุทธ์ตามล่าวิญญาณนั่นลงมาจากกิ่งไม้โดยใช้วิชาตัวเบา ขยับคอเล็กน้อยก่อนรีบตามวิญญาณเด็กคนนั้นไป

“เด็กน้อยไม่ต้องกลัว ข้าเป็นเทพภูเขาใบตองแห่งนี้ มาตามเจ้ากลับไปโดยเฉพาะ…!”

“เจ้าเป็นปีศาจ…!”

ยามร้องไห้โฮเด็กน้อยไม่มีความคิดจะหยุดแม้แต่น้อย

เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

Status: Ongoing
เพราะกระดานหมากเก่าๆ จี้หยวน พนักงานบริษัทธรรมดาๆ จึงข้ามมิติมาสู่โลกใหม่ในร่างขอทานตาเกือบบอด เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องใช้ไหวพริบของคนยุคปัจจุบันและกลหมากพัฒนาตัวเองให้แกร่งกล้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท