เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 125 เรือเล่า

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 125 เรือเล่า

ซาลาเปาสี่ลูกทางบ้านผู้เฒ่าเฉินน่าจะห่อเอง ไส้ค่อนข้างแน่น ซาลาเปาผักเค็มเล็กน้อย

หลังจากกินเสร็จจี้หยวนขยำใบบัวแห้งเป็นก้อน โยนเข้าพงหญ้าบนฝั่ง ปล่อยให้ธรรมชาติย่อยสลาย ส่วนเชือกป่านเก็บไว้บนเรือรอคืนผู้เฒ่าเฉินคราวหน้า

เขาจิบสุราอึกหนึ่งพลางมองคันเบ็ดเขียวขจีด้านข้าง ดูเหมือนสถานการณ์วันนี้ไม่เหมาะจะตกปลานัก

ตอนกินซาลาเปาเสร็จ มีปลาใหญ่หลายตัวว่ายผ่านก้นแม่น้ำ แม้เงาหลังดำสนิทไม่ใหญ่เท่ามังกรเจียว แต่ใหญ่กว่าเรือประทุนข้างล่างตัวเขา

สายตาจี้หยวนมองไปทางใต้ ภูตปีศาจเผ่าวารีมากเช่นนี้ต่างรีบมุ่งไปทางนั้น บางจุดของแม่น้ำเทียมฟ้าต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ แต่ดูจากท่าทางไม่เร่งรีบของสัตว์น้ำซึ่งผ่านมา คงไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนหรือเลวร้ายอะไร

ถึงอย่างไรเรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับคนธรรมดานอกแม่น้ำเทียมฟ้า ทั้งไม่เกี่ยวกับจี้หยวน สาเหตุที่ภูตเผ่าวารีรวมตัวกัน ต่อให้อยากรู้อยากเห็นแค่ไหนไม่ไปสาวความได้ยิ่งดี

นานเข้าอากาศยิ่งเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นโดยไม่รู้ตัว

วันนี้จี้หยวนยกคันเบ็ดขึ้นมาอย่างจนปัญญาอยู่บ้าง มองเหยื่อตกปลาซึ่งสมบูรณ์ไม่สึกหรอ ข้องใส่ปลาด้านข้างยังว่างเปล่าเหมือนเดิม

“เฮ้อ…ตกปลาไม่ได้แล้ว!”

ผ่านมากี่วันแล้ว เขาตกปลาไม่ได้ตลอด คิดว่าหลายวันนี้ชาวประมงริมแม่น้ำเทียมฟ้าคงไม่ดีไปกว่ากัน แต่สุดท้ายตอนนี้ก็ไม่ใช่ฤดูจับปลา คาดว่ามีชาวประมงออกเรือไม่เท่าไร

แต่เราคนแซ่จี้อยากดื่มน้ำแกงปลามาก ช่วงนี้ฝากผู้เฒ่าเฉินซื้อปลาสดมายังไม่ได้

แต่ละช่วงเวลาจะมีภูตปีศาจเผ่าวารีว่ายผ่าน จี้หยวนนับดูโดยคร่าว แค่พวกที่เขาเห็นก็หลายสิบแล้ว

ทั่วต้าเจินมีปีศาจไม่เท่าไร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกมรรควิถีสูง จี้หยวนจึงสงสัยนักว่าแม้แต่ปีศาจเผ่าวารีนอกอาณาจักรคงมากันไม่น้อยใช่หรือไม่

‘ยังไม่ฉลองปีใหม่เลย สัตว์น้ำไม่นิยมเรื่องพวกนี้กระมัง’

ขณะกำลังคิดเช่นนี้ริมฝั่งมีเสียงควบม้าและเสียงล้อดังมาแต่ไกล จี้หยวนหันมองไปบนฝั่งตามเสียง พบว่าบนทางห่างไกลมีขบวนรถม้ามุ่งมาทางนี้

เมื่อรถม้าเข้ามาใกล้ จี้หยวนสังเกตการณ์ ภายในรถม้าสองสามคันมีปราณบุ๋นไหลวน น่าจะเป็นก้งซื่อที่เข้าเมืองมาสอบ ทักษะไม่มีทางต่ำเกินไป ดูท่าว่าทรัพย์สินทางบ้านยิ่งไม่น้อย

เวลานี้ท้องฟ้าเริ่มมีผลึกหิมะโปรยปราย ดึงดูดความสนใจของจี้หยวนไปยังทิวทัศน์งามจากฟากฟ้า

คำนวณแล้วว่านี่คือหิมะแรกของปีนี้ ทั้งเป็นหิมะแรกซึ่งจี้หยวนเห็นในชาตินี้ด้วย

เขายื่นมือออกไปรับ ผลึกหิมะถูกอุณหภูมิของฝ่ามือละลายทันที ยกไหสุราด้านข้างขึ้นมาเปิดจุกไม้ออก จี้หยวนนึกสนุกเหมือนเด็กคนหนึ่ง ใช้ปากขวดรับผลึกหิมะข้างกาย

ริมทางรถม้าเคลื่อนผ่านมา มีบัณฑิตเลิกม่านรถม้ามองริมแม่น้ำ เห็นบนฟ้าหิมะโปรยปรายแม่น้ำกว้าง ทั้งเห็นคนตกปลาสวมงอบคลุมชุดฟางบนเรือโดดเดี่ยว

“สมเป็นเขตเมืองหลวง ทิวทัศน์งามนัยล้ำลึก!”

“หึๆ…พี่ซื่อมีสุนทรีย์นัก แต่ข้าจะแข็งตายแล้ว!”

บัณฑิตอีกคนที่อยู่ด้านข้างกุมผ้าขนสัตว์ซึ่งห่มอยู่แน่น มือเขี่ยถ่านเตาผิง

ภายในขบวนรถม้ามีชายฉกรรจ์สวมเสื้อคลุมขนสัตว์ควบม้าออกจากแถวมาใกล้ฝั่ง ตะโกนถามจี้หยวน

“ฝีพาย…รู้หรือไม่ว่าท่าเรือจ้วงหยวนยังอยู่อีกไกลเท่าไร”

ได้ยินอีกฝ่ายตะโกนคุยกับตน จี้หยวนวางไหสุราพลางหันมองพวกเขา ส่งเสียงตะโกนตอบเช่นกัน

“เลียบแม่น้ำไปทางใต้ อีกสิบกว่าลี้ก็ถึงแล้ว…”

บุรุษขี่ม้าประสานมือมาทางเรือประทุน จากนั้นค่อยควบม้ากลับขบวน

เห็นคนขบวนนี้มาอย่างสบายๆ จี้หยวนอดคิดว่าอาจารย์อิ๋นสหายสนิทของตนจะมาอย่างไรไม่ได้

ตระกูลอิ๋นไม่ใช่เศรษฐี แต่ไม่ถือว่ายากจน อากาศหนาวเงินเหมารถม้าคงมีกระมัง อีกทั้งอำเภอหนิงอันยากเจอดาวบุ๋นเจิดจรัส ทางอำเภอต้องช่วยเต็มกำลังแน่

จี้หยวนมองส่งขบวนรถจากไป ดื่มสุราแช่หิมะตามแบบตระกูลจี้ ในใจรู้สึกว่าสุราอร่อยขึ้นหน่อย

ขณะเดียวกันภายในเขตแดนภูผาธารา จี้หยวนขับเคลื่อนความคิดดึงปราณโอสถหลายสายออกจากเตาโอสถมาเสริมตัวหมากตามปกติ ทุกสามวันเขาจะทำเช่นนี้ครั้งหนึ่ง

ตอนนี้ตัวหมากซึ่งเด่นชัดที่สุดยังเป็นหมากดำของเจ้าภูเขาลู่ แต่จี้หยวนคาดว่าเจ้าภูเขาลู่ต้องฝึกปราณจนแปลงกายสำเร็จจึงจะควบรวมเป็นหมากดำอย่างสมบูรณ์

แต่ยามปีศาจฝึกปราณ การแปลงกายเป็นคนคือหนึ่งในบททดสอบใหญ่ที่สุด ไม่ใช่เรื่องที่ทำสำเร็จได้ภายในวันเดียว ต่อให้จี้หยวน ‘ป้อนโอสถ’ เป็นระยะก็ยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้เวลานานเท่าไร

เปรียบเทียบกับความไม่ร้อนรนของจี้หยวน ปัจจุบันภายในจวนบาดาลแม่น้ำเทียมฟ้าสภาพจิตใจของผู้คุมงานสองคนไม่ค่อยดีแล้ว

เทพแม่น้ำอิงรั่วหลีนั่งบัญชาในตำหนัก มองเหล่าสัตว์น้ำเริ่มตกแต่งเรือนหลัก ยังมีสัตว์น้ำนำปะการังกลางสมุทรมาประดับ เทพแม่น้ำซึ่งดูเหมือนทำหน้าเรียบเฉยในใจลนลานเกินทน

ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง มีเงามังกรส่องแสงเข้าสู่จวนเทพแม่น้ำ กลายเป็นบุรุษชุดแพรคนหนึ่งหน้าตำหนัก เป็นพี่ชายนามอิงเฟิงนั่นเอง

เมื่อเห็นอิงเฟิงเดินเข้ามา อิงรั่วหลีรีบลุกขึ้น

“เป็นอย่างไรบ้าง”

อิงเฟิงส่ายหัวเล็กน้อย

“ยังหาไม่เจอ…”

อิงเฟิงกล่าวประโยคนี้จบแล้วเดินเข้ามาใกล้ มองซ้ายมองขวา เอ่ยเสียงเบาอย่างลับๆ ล่อๆ อยู่บ้าง

“ข้อเสนอคราวก่อนของเจ้า…อาจต้องนำมาพิจารณาจริงแล้ว…”

เมื่อกล่าวจบสองพี่น้องสบตากัน ต่างทำหน้าจนปัญญา เทพแม่น้ำเทียมฟ้ากับบุตรมังกรที่น่าเกรงขาม ถูกบีบจนกลายเป็นเช่นนี้ถือว่าพบเห็นได้น้อย

แต่สองพี่น้องซึ่งก่อนหน้านี้ยังหน้านิ่วคิ้วขมวด ออกอาการอึ้งงันกะทันหัน จากนั้นค่อยมองไปทางเหนือ เผยสีหน้ายินดีทันที

ริมแม่น้ำเทียมฟ้า ขบวนรถม้าซึ่งเดินทางผ่านจี้หยวนไปไม่นาน ชายฉกรรจ์สวมเสื้อคลุมเติมถ่านเตาผิงให้คุณชายบนรถ ก่อนรีบขี่ม้าติดตามมา

แต่หันมองไปด้านหลังโดยไม่ตั้งใจ พบว่าข้างเรือเล็กริมฝั่งแม่น้ำนอกระยะหลายสิบจั้ง ถึงกับมีคนสวมชุดหรูหรายืนอยู่

“แปลกจริง เมื่อครู่ตรงนั้นมีคนผู้นี้อยู่ด้วยหรือ”

พวกพ้องได้ยินข้อสงสัยของเขาจึงหันกลับไปมอง

“พวกเราเพิ่งผ่านมา เมื่อครู่เหมือนว่าไม่เห็นกระมัง…”

แต่ทั้งสองคนไม่คิดมากขนาดนั้น บางทีตนอาจไม่สังเกตเห็นว่ามีคนเดินมาจากทางอื่น

อีกด้านหนึ่งเดิมจี้หยวนยังดื่มสุรา แต่ผงะในใจกะทันหัน ยามวางไหสุราลงจึงพบว่าริมแม่น้ำมีคนยืนอยู่

ยังสวมชุดยาวคอกลม ท่าทางยังคงเดิม เป็นมังกรเฒ่าอิงหงนั่นเอง

“หึๆๆๆ… ความสง่างามของท่านจี้ยังคงเดิม ชุดฟางสวมงอบนั่งเรือประทุน ดูหิมะดื่มลำพังบนแม่น้ำ!”

จี้หยวนรีบลุกขึ้นประสานมือคารวะชายชรา

“ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสอิง อย่าถือสาว่าข้าจี้หยวนมาถึงทางเข้าบ้านผู้อาวุโสแล้วไม่ไปเยี่ยมเยียน!”

มังกรเฒ่าคารวะตอบจี้หยวน ปากหัวเราะลั่นอย่างเบิกบาน

“ฮ่าๆๆๆ…ท่านรู้อยู่แล้วว่าข้าไม่อยู่บ้าน แน่นอนว่าไม่มีทางไปเยี่ยม เดิมคิดว่าครานี้ท่านจี้คงไม่มางาน ไม่คิดว่าท่านจะมารอข้าอยู่ที่นี่แล้ว ท่านเตรียมของขวัญอะไรมาหรือไม่”

ของขวัญ? ของขวัญอะไร

จี้หยวนมึนงงอยู่บ้าง แต่ไม่รอให้เขาเอ่ยถามอย่างอักอ่วน ตัวมังกรเฒ่ายิ้มระรื่นกล่าว

“พูดเล่นๆ ท่านจี้เดินทางมาอวยพรวันเกิดปีศาจเผ่าวารีอย่างข้าโดยเฉพาะ ถือว่าเห็นแก่หน้ามากแล้ว ไป ตามข้าไปจวนบาดาลแม่น้ำเทียมฟ้าเถอะ!”

วันเกิด?

การตอบสนองแรกของจี้หยวนคือมิน่าภูตปีศาจเผ่าวารีถึงข้ามแดนมามากขนาดนี้ ที่แท้ก็เป็นงานเลี้ยงวันเกิดเจินหลง ดูท่าว่าปีศาจน้ำข้ามแดนคงถือว่าน้อยแล้ว อีกอย่างการเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดเจินหลง ถึงแม้ผ่านเขตการปกครองของวิญญาณเทพบางแห่ง แปดส่วนก็คงหลีกทางไม่ขวางนัก

แต่…ผู้อาวุโสอิงเชิญตนไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดหรือ

‘เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่การเชิญเราคนแซ่จี้เข้าถ้ำปีศาจหรืออย่างไร!’

นึกภาพแล้วคงงามเกินไปอยู่บ้างแล้ว

“เอ่อ ผู้อาวุโสอิง มิสู้พวกเราร่วมดื่มบนเรือเล็กนี้เป็นอย่างไร ข้าคนแซ่จี้ขอกล่าวยินดีกับท่านล่วงหน้า ใต้น้ำ…ผู้ฝึกปราณอย่างข้าไปคงไม่ค่อยสะดวกใช่หรือไม่ อีกอย่างเรือประทุนลำเล็กนี้ข้าจี้หยวนเช่ายืมมา ทิ้งไว้ที่นี่คงไม่ดี…”

อิงหงตามหาจี้หยวนมาสามปีกว่า สุดท้ายยังอัดอั้นอยู่บ้าง ครานี้มีหรือจะให้โอกาสจี้หยวนหาข้ออ้าง

“ฮ่าๆๆ…ท่านกังวลมากไปแล้ว ทุกคนล้วนชอบสุราทั้งนั้น ท่านต้องไปชิมสุราชั้นเลิศจากสัตว์น้ำทั่วทิศ ส่วนเรือเล็กลำนี้ ท่านยิ่งไม่ต้องห่วง!”

มังกรเฒ่าพูดจบแล้วกระโดดลงบนเรือเล็ก สะบัดมือจนเรือเล็กสะเทือน จมลงใต้ผิวน้ำทั้งอย่างนั้น

เสียงคลื่นน้ำดังซ่า…

จี้หยวนยังไม่ทันนั่งดีๆ เมื่อได้สติกลับมาเรือประทุนก็จมลงใต้น้ำแล้ว ขับเคลื่อนไปทางใต้ผ่านก้นแม่น้ำ

ขบวนรถม้าเบื้องหน้า ชายคนนั้นยังรู้สึกแปลกอยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อเดินมาอีกพักใหญ่จึงหันกลับไปอีกครั้ง

แต่หันกลับมาครานี้กลับอึ้งงัน เขารีบขยี้ตา เมื่อมองอีกครั้งริมแม่น้ำที่เดิมถามทางว่างเปล่าไร้สรรพสิ่ง กวาดมองบนแม่น้ำทางอื่นก็ไม่เห็นอะไร

‘เรือเล่า’

เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

Status: Ongoing
เพราะกระดานหมากเก่าๆ จี้หยวน พนักงานบริษัทธรรมดาๆ จึงข้ามมิติมาสู่โลกใหม่ในร่างขอทานตาเกือบบอด เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องใช้ไหวพริบของคนยุคปัจจุบันและกลหมากพัฒนาตัวเองให้แกร่งกล้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท