เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 147 งานเลี้ยงที่จวนอ๋อง

เซียนหมากข้ามมิติ

ตอนที่ 147 งานเลี้ยงที่จวนอ๋อง

แต่เรื่องของคุณชายสามผู้นั้นจี้หยวนไม่ต้องให้ความสนใจ ส่งมอบให้อาจารย์อิ๋นรับมือเองแล้วกัน

จี้หยวนตัดสินใจเดินห่างออกไปหลายก้าว ประสานมือคารวะเงาร่างของมังกรเฒ่าที่เข้ามาใกล้ ทว่าไม่ได้พูดอะไร

มังกรเฒ่าเข้ามาใกล้แล้วยังทำความเคารพจี้หยวนอีกครั้ง ฝ่ายหลังผายมือไปอีกด้าน ทั้งคู่จึงเดินไปยังมุมหนึ่งของถนนอย่างรู้กัน สายตามองแผงลอยบนถนนที่กำลังแออัดของอิ๋นจ้าวเซียน

“ท่านจี้จะรอพ้นการสอบคัดเลือกวสันต์แล้วค่อยออกจากจังหวัดจิงจีหรือ”

เหมือนกับประกาศสอบระดับเมืองนั่นแหละ การสอบคัดเลือกวสันต์ที่ต้าเจินหมายถึงการสอบขุนนางของเมืองหลวง เดิมทีเกี่ยวข้องกับการสอบทั่วไปเท่านั้น แต่ตอนนี้มันหมายถึงผลสุดท้าย เช่น การสอบหน้าพระที่นั่ง

จี้หยวนมอง ‘คุณชายสาม’ ผู้นั้นที่เข้าใกล้แผงลอยของอิ๋นจ้าวเซียนแล้ว เขาไม่ได้ใช้อำนาจไล่ผู้คน เพียงอ้อมไปยืนดูอิ๋นจ้าวเซียนเขียนตัวหนังสือจากด้านข้างอย่างสนอกสนใจ

พอได้ยินคำถามของมังกรเฒ่า จี้หยวนชี้ ‘คุณชายสาม’ ผู้นั้น ไม่ได้ตอบคำถาม กลับย้อนถามเสียด้วยซ้ำ

“ท่านอิงรู้หรือไม่ว่าบุรุษที่มาใหม่ผู้นั้นเป็นใคร”

มังกรเฒ่ามองตามที่จี้หยวนชี้ เห็นคนผู้นั้นมีสง่าราศีอยู่บ้าง ข้างๆ ยิ่งมีนักรบคนธรรมดาที่เลือดลมพุ่งพล่านยืนอยู่ในทิศทางต่างๆ หลายคน ครั้นมองดูให้ละเอียดก็เห็นสีปราณบนกายคนผู้นั้นลอยขึ้น มีสีม่วงกลุ่มหนึ่งแทรกอยู่ภายใน

“ท่าทางจะเป็นสมาชิกราชวงศ์คนหนึ่ง?”

“ถูกต้อง คนผู้นี้ออกมาเที่ยวเล่นชอบเรียกตัวเองว่า ‘คุณชายสาม’ แต่ที่จริงแล้วคือ ‘จิ้นอ๋อง’ โอรสองค์ที่สามของฮ่องเต้ต้าเจินในปัจจุบัน”

“อ๋อ โอรสองค์ที่สามของฮ่องเต้ต้าเจิน”

มังกรเฒ่าเริ่มหมดความสนใจ ถึงแม้แม่น้ำเทียมฟ้าจะติดกับจังหวัดจิงจี ความรุ่งเรืองหรือเสื่อมโทรมของราชวงศ์ต้าเจินไม่มีความหมายอะไรในสายตาเขา เทียบกันแล้วอิ๋นจ้าวเซียนได้รับความสนใจจากมังกรเฒ่ามากกว่าอีก

จี้หยวนมองมังกรเฒ่า

“แม้ต้าเจินจะมีทายาทมากมายที่แต่งตั้งเป็นไท่จื่อได้ แต่ฮ่องเต้ในตอนนี้ยังหนุ่มแน่น ทรงอำนาจ และมีบุคลิกเฉพาะตัว จึงไม่ยอมแต่งตั้งไท่จื่อเสียที สำหรับโอรสองค์โตที่ค่อนข้างอายุมากแล้วยิ่งรู้สึกขัดตา”

มังกรเฒ่าเริ่มสนใจขึ้นมาแล้ว

“ท่านจี้คิดว่าจิ้นอ๋องผู้นี้อาจจะเป็นว่าที่ไท่จื่อ แม้กระทั่งฮ่องเต้องค์ต่อไปของต้าเจินหรือ”

“ฮ่าๆ พูดได้เพียงว่ามีความเป็นไปได้ ทว่าเขาแสดงความเฉียบแหลมมากเกินไป ท่ามกลางการต่อสู้ครั้งใหญ่มีอันตรายซ่อนอยู่ทุกที่”

มังกรเฒ่ามุ่นคิ้วมองสหายผู้นี้ กลับไม่รู้สึกว่าคำพูดนี้มีปัญหาอะไร เพียงรู้สึกว่าบางครั้งเขามองจี้หยวนไม่ออกอยู่บ้างจริงๆ ราวกับสนอกสนใจทุกอย่าง อีกทั้งราวกับไม่ค่อยสนใจอะไรสักเท่าไร

“ท่านจี้ วันนี้วันที่สามสิบแล้ว สำหรับมนุษย์นับเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง สำหรับข้าเองก็นับว่ามีความหมายพิเศษเช่นกัน มิสู้ตามข้ากลับวังน้ำเป็นอย่างไร แน่นอนว่าจะพาอิ๋นจ้าวเซียนไปด้วย บัณฑิตผู้นี้ไม่เลวเลยจริงๆ”

จี้หยวนมองสีหน้าท่าทางจริงจังของมังกรเฒ่า รีบส่ายหน้า

“ปัญญาชนฝักใฝ่ในบ้านเมือง อย่าให้อาจารย์อิ๋นสัมผัสเรื่องเหนือธรรมชาติเลยจะดีกว่า อีกทั้งข้าคนแซ่จี้ก็สนใจเรื่องนี้อยู่บ้างเช่นกัน จิ้นอ๋องผู้นี้ไม่ได้เตรียมตัวเข้าร่วมงานเลี้ยงของวังหลวง แต่มาหาอิ๋นจ้าวเซียนด้วยเหตุใด อ้อ จริงสิ ฮ่องเต้ผู้นี้ไม่ชอบจัดงานเลี้ยงในวังหลวง…”

พูดถึงตรงนี้แล้วจี้หยวนค่อยเชื้อเชิญมังกรเฒ่า

“กลับไปกินดื่มที่วังน้ำอาจจะน่าเบื่อ มิสู้ท่านอิงร่วมเดินชมเทศกาลบนโลกมนุษย์กับข้าคนแซ่จี้เป็นอย่างไร โดยเฉพาะสีสันของเมืองหลวง เห็นทีช่วงเวลาเปลี่ยนเข้าปีใหม่เช่นนี้คงมีอะไรน่าดูอยู่บ้าง”

มังกรเฒ่าฟังแล้วเผยรอยยิ้ม จะทำสิ่งใดต้องดูว่าทำกับใคร ก่อนหน้านี้เขาย่อมไม่รู้สึกสนใจเรื่องพวกนี้ แต่ในเมื่อจี้หยวนเสนอ เขาย่อมสนใจขึ้นมาแล้ว

“ในเมื่อท่านจี้มีอารมณ์สุนทรีย์ ข้าจะเดินเล่นกับท่านก็แล้วกัน”

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จี้หยวนไม่คิดปรากฏตัวต่อหน้าอิ๋นจ้าวเซียนแล้ว ยิ้มแล้วผายมือไปข้างๆ เข้าใกล้แผงลอยของอิ๋นจ้าวเซียนพร้อมกับมังกรเฒ่า ทว่าเงาร่างของทั้งสองคนกลับเริ่มเลือนรางไม่จริง จึงถูกมองข้ามไปในสายตาของคนธรรมดา

ตอนนี้แม้แต่บัณฑิตคนอื่นบนถนนดาวบุ๋นก็มุงดูแผงลอยของอิ๋นจ้าวเซียนไม่น้อยเลย

อิ๋นจ้าวเซียนมีความสามารถเป็นเลิศจริงๆ กลอนคู่ที่เขาเขียนไม่เพียงลายมือสวยโดดเด่น แต่ยังมีความหมายงดงามครบถ้วน เหนือชั้นกว่าบัณฑิตคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด สื่ออวี้เซิงที่อยู่ข้างๆ กลายเป็นคนช่วยเก็บเงินเฉพาะกิจไปแล้ว

ทว่าเขียนมากเข้าก็เมื่อยมืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้อิ๋นจ้าวเซียนนวดข้อมือไปหลายรอบแล้ว โชคดีที่ถึงคนมุงดูจะยังมาก แต่คนที่ซื้อตัวหนังสือจริงๆ ยังไม่มาก

“น้ำแข็งหิมะละลาย ภูผาแม่น้ำงดงามสดสวย คิมหันต์ลาจากวสันต์มาเยือน แดนเซียนปรากฏให้เห็นอีกครา”

“เขียนได้ดีจริงๆ!”

“ใช่ ได้ยินมาว่าคนผู้นี้เป็นเจี้ยหยวนของรัฐจี มีนามว่าอิ๋นจ้าวเซียน!”

“จริงหรือ มิน่าล่ะ!”

ไม่รู้เหมือนกันว่าใครพูดออกไป อิ๋นจ้าวเซียนเพิ่งตั้งแผงอยู่ตรงนี้ได้สองวันก็เริ่มโด่งดังแล้ว โดยเฉพาะวันนี้

จนเขียนกลอนคู่บทนี้เสร็จ ไม่มีคนเข้ามาขอให้เขียนตัวหนังสือชั่วคราว ‘คุณชายสาม’ ที่มองดูอยู่ข้างๆ ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยปาก

“อิ๋นเจี้ยหยวน ยังจำข้าได้หรือไม่”

ขณะพูด ข้ารับใช้ข้างๆ กั้นกลุ่มคนอย่างเงียบเชียบ ขับไล่บัณฑิตและคนอื่นๆ ที่มุงดูออกไป คนอื่นเห็นเช่นนี้แล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก

“เหตุใดไล่คน…”

“นั่นสิ ข้ายังอยากซื้อตัวอักษรนะ!”

“ชู่…ไม่ต้องพูดแล้ว”

“ไปเถอะๆ…อย่าหาเรื่องเลย…”

อิ๋นจ้าวเซียนหันไปมองจิ้นอ๋อง อึ้งงันไปชั่วครู่ แน่นอนว่าเขารู้จักคนผู้นี้ ทว่าไม่รู้ชื่อ ทำได้เพียงตอบไปว่า

“จำได้”

“ฮ่าๆ จำได้ก็ดี ข้าอ่าน ‘วาทหมู่ปักษา’ และ ‘ธรรมรู้แจ้ง’ ของเจ้าจบแล้ว เขียนได้ยอดเยี่ยมมาก ก่อนหน้านี้อาจารย์มาที่จวนข้าก็ได้อ่าน ‘วาทหมู่ปักษา’ เช่นกัน อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจ วันนี้มีงานเลี้ยงที่จวน พลันนึกได้ว่าอิ๋นเจี้ยหยวนจากบ้านมาหลายพันลี้ต้องเหงาแน่ หวังว่าอิ๋นเจี้ยหยวนจะให้เกียรติ ตามข้าไปร่วมงานเลี้ยงเป็นอย่างไร”

“ข้า…”

อิ๋นจ้าวเซียนมองสถานการณ์รอบข้าง คล้ายกับไม่กล้าพูดคำว่า ‘ไม่’ ออกมาเช่นกัน

“เคารพมิสู้เชื่อฟัง!”

ขณะพูด อิ๋นจ้าวเซียนมองหาสื่ออวี้เซิง สุดท้ายพบว่าอีกฝ่ายถูกข้ารับใช้ของ ‘คุณชายสาม’ ผู้นี้ไล่ไปอยู่ข้างๆ แล้ว อีกทั้งไม่คิดจะผ่อนผันให้ด้วย

“เช่นนั้นไปกันตอนนี้เลยเถอะ แผงของเจ้าก็ให้บัณฑิตตระกูลสื่อผู้นั้นช่วยเก็บกวาดแล้วกัน”

จิ้นอ๋องตัดสินใจแทนทั้งสองคน จากนั้นหมุนกายจากไป อิ๋นจ้าวเซียนจนใจทำได้เพียงวางพู่กัน กล่าวขอโทษสื่ออวี้เซิงเสียงหนึ่งแล้วจึงตามผู้คุ้มกันสองคนไป

สื่ออวี้เซิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง นี่ไม่เท่ากับลักพาตัวไปหรือ

เขากัดฟันไหว้วานผู้อื่นให้ดูแลแผงให้ จากนั้นเร่งฝีเท้าไว้ไปรายงานทางการ

อิ๋นจ้าวเซียนไม่เคยคิดเลยว่างานเลี้ยงจะอยู่ที่จวนอ๋อง ยิ่งไม่คิดเลยว่า ‘คุณชายสาม’ ผู้นี้จะเป็นถึงจิ้นอ๋อง

ฮ่องเต้ต้าเจินในตอนนี้มีนิสัยแปลกประหลาด ชอบจัดงานเลี้ยงในเวลากลางวัน ส่วนตอนเย็นในวังกลับว่างเปล่า บางครั้งจะพาสนมไปเยี่ยมเยียนจวนของโอรสที่ใกล้ชิด ด้วยคิดว่าในวังตำหนักสูงไม่ค่อยมีอะไร สนุกสนานมิสู้จวนอ๋องของโอรสหลายคน

วันนี้ฮ่องเต้ไปที่จวนอู๋อ๋องแล้ว ส่วนจิ้นอ๋องจัดงานเลี้ยงขนาดกะทัดรัดในจวน ผู้เข้าร่วมไม่ใช่อ๋องหรือขุนนางใหญ่ แต่ล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้น

โถงงดงามของจวนอ๋องทำให้อิ๋นจ้าวเซียนตาลายอยู่บ้าง เขาไม่คิดตกเหมือนกัน ตนเองเป็นแค่เจี้ยหยวนจากรัฐจีเล็กๆ มีความคุณงามความดีอะไรให้เข้าร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้ได้

ทว่าจี้หยวนที่มากับมังกรเฒ่ากลับมีความคิดบางอย่าง

ตลอดทางพวกข้ารับใช้ทักทาย ‘ท่านอ๋อง’ ที่เดินเข้ามา อิ๋นจ้าวเซียนเหมือนกับยายหลิวเข้าสู่อุทยานต้ากวน ไม่กล้าพูดจา ได้แต่เดินตามไป

“ท่านนี้คงเป็นอิ๋นเจี้ยหยวนกระมัง”

เสียงหนึ่งดังมาจากในจวนอ๋อง ทำเอาอิ๋นจ้าวเซียนสะดุ้งตกใจ ส่วนจิ้นอ๋องประสานมือคารวะผู้มาเยือนแล้ว

“อาจารย์! นี่ก็คือเจี้ยหยวนอิ๋นจ้าวเซียน ผู้นำทางด้านวรรณกรรมในรัฐจีของยุคนี้”

“มิกล้าๆ!”

“ฮ่าๆ ไม่ต้องเกรงใจ ข้าคนแซ่หลี่อ่าน ‘วาทหมู่ปักษา’ และ ‘ธรรมรู้แจ้ง’ แล้ว ความสามารถของอิ๋นเจี้ยหยวนทำให้ข้าคนแซ่หลี่นับถือนัก! ตอนนั้นข้าพูดกับจิ้นอ๋องไว้ อัจฉริยะระดับนี้จะต้องคว้าไว้ให้อยู่หมัด ไม่เช่นนั้นคนอื่นต้องแย่งไปเป็นแน่”

คำพูดนี้ทำให้อิ๋นจ้าวเซียนร้อนผ่าวที่แผ่นหลัง องค์ชายแบ่งพวกไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่ตอนนี้ขี่หลังเสือลงยากแล้ว

“ท่านหลี่ชมเกินไปแล้ว ชมเกินไปแล้ว!”

จิ้นอ๋องเห็นอาจารย์ตนคุยถูกคอกับอิ๋นจ้าวเซียนจึงเตรียมออกไป ด้วยมีธรรมเนียมที่จะต้องเข้าวังก่อนค่ำเพื่อเชิญเสด็จพ่อตนเอง

“อาจารย์คุยกับอิ๋นเจี้ยหยวนไปก่อนนะขอรับ ข้าจะเข้าวังสักหน่อย”

“ท่านอ๋องไปเถอะ ข้าจะดูแลอิ๋นเจี้ยหยวนเอง เขาหนีไปไหนไม่ได้แล้ว! ฮ่าๆๆๆ…”

จิ้นอ๋องจากไปด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ส่วนอิ๋นจ้าวเซียนยิ้มแห้งๆ

“ฮ่าๆๆ อิ่นเจี้ยหยวนไม่ต้องเครียด วันนี้เป็นงานเลี้ยงของจิ้นอ๋อง ไม่มีขุนนางใหญ่ในราชสำนัก จิ้นอ๋องชื่นชมในความสามารถของเจี้ยหยวนมากถึงได้เชิญมา อีกเดี๋ยวนั่งข้างๆ ข้าคนแซ่หลี่แล้วกัน!”

“ขอบคุณท่านหลี่ ขอพูดตามตรงไม่ปิดบัง ข้าคนแซ่จี้เหงื่อออกเต็มหลังแล้ว”

คำตอบนี้ของอิ๋นจ้าวเซียนทั้งจริงใจและน่าสนใจ เย้าหลี่มู่ซูได้แล้ว

“ฮ่าๆ…เชิญเถอะ พวกเราไปคุยเรื่อง ‘วาทหมู่ปักษา’ ที่ตำหนักข้างกันดีกว่า”

“เชิญท่านหลี่ก่อน!”

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว อิ๋นจ้าวเซียนทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลย

จี้หยวนและมังกรเฒ่ายืนอยู่ที่จวนจิ้นอ๋อง เห็นอิ๋นจ้าวเซียนอึดอัดใจอยู่ตลอดแต่กลับไม่ปรากฏตัวช่วยเหลือ ฝ่ายมังกรเฒ่าพูดขึ้นว่า

“อาจารย์อิ๋นผู้นี้ได้รับการต้อนรับดีทีเดียว ความสง่างามและชอบธรรมใช้ไม่ค่อยได้ผลกับสถานการณ์ที่ต้องเกรงอกเกรงใจเช่นนี้สักเท่าไรนะ!”

เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

Status: Ongoing
เพราะกระดานหมากเก่าๆ จี้หยวน พนักงานบริษัทธรรมดาๆ จึงข้ามมิติมาสู่โลกใหม่ในร่างขอทานตาเกือบบอด เพื่อเอาตัวรอดในโลกที่ไม่คุ้นเคย เขาจึงต้องใช้ไหวพริบของคนยุคปัจจุบันและกลหมากพัฒนาตัวเองให้แกร่งกล้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท