ตอนที่ 23 เริ่มการแข่งขัน
ไป๋เยี่ยมองหน้าจอโปร่งแสงและถอนหายใจออกมา รางวัลก็จับไปหมดแล้ว ของที่ใช้ได้ก็ใช้หมดแล้ว ตอนนี้เขาไม่มีเงินฝากหรือบิลเลย อืม พยายามต่อไป!
สถานที่สอบคือห้องประชุมขนาดใหญ่ที่จุคนได้ราวๆ สองพันคน พวกไป๋เยี่ยได้ที่นั่งแบบสุ่ม ไม่มีการจัดใดๆ อันที่จริงสถานที่แบบนี้สำหรับการแข่งขันแบบออฟไลน์แล้วก็ไม่แย่นัก
รอบคัดเลือกมีไว้เพื่อคัดคนเท่านั้น ส่วนของจริงน่ะมันคือรอบระดับมณฑลกับรอบระดับประเทศต่างหาก
ไม่นานนักก็มีแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชั่น [เริ่มนับถอยหลัง โปรดเตรียมตัวให้พร้อม แจ้งเตือน: ห้ามปิดแอปพลิเคชั่นระหว่างทำข้อสอบ หากออกจากแอปพลิเคชั่นจะถือว่าสละสิทธิ์สอบ]
ไป๋เยี่ยเคยทำข้อสอบผ่านอินเทอร์เน็ตมาก่อน มันเป็นแบบนี้จริงๆ หน้าจอโทรศัพท์จะต้องค้างอยู่หน้าแอปพลิเคชั่น ห้ามเปลี่ยนไปหน้าอื่น ยกเว้นว่าล็อกเอาท์จากแอปพลิเคชั่นแล้ว
เวลานับถอยหลังไปหนึ่งนาทีแล้ว เริ่มไวมาก!
เมื่อไป๋เยี่ยเข้าสู่หน้าตอบคำถามแล้วก็ได้รับแจ้งเตือน [ในเวลาสามชั่วโมงนี้ ยิ่งจำนวนข้อที่ถูกเยอะคะแนนก็ยิ่งสูง!]
จำนวนข้อยิ่งเยอะ? ไม่จำกัดคะแนนเต็มเลยเหรอ
ถึงแม้ว่าห้องประชุมจะใหญ่ แต่อาจารย์คุมสอบก็เยอะเหมือนกัน เว้นแค่ไม่กี่ก้าวก็เจออาจารย์เดินคุมแล้ว
ไป๋เยี่ยคิดในใจว่า ในเมื่อนับแค่จำนวนข้อ งั้นก็แปลว่าแค่ทำโจทย์เหรอ คิดได้ดังนั้นไป๋เยี่ยก็รีบทำโจทย์ทันที
อวัยวะตันทั้งห้า โน้ตดนตรีทั้งห้า สีทั้งห้า และรสทั้งห้าที่สัมพันธ์กับธาตุทั้งห้า ได้แก่ ไม้ ไฟ ดิน ทอง น้ำ มีอะไรบ้าง เป็นข้อสี่ตัวเลือก
ไป๋เยี่ยท่องเรื่องพวกนี้ไว้หมดแล้ว!
ตับ หัวใจ ม้าม ปอด ไต!
ตัวโน้ตทั้งห้า
เจี่ยว จื่อ กง ซาง อวี่!
สีทั้งห้า
สีเขียว สีแดง สีเหลือง สีขาว สีดำ
รสทั้งห้าล่ะ
เปรี้ยว ขม หวาน เผ็ด เค็ม!
ไป๋เยี่ยทำข้อสอบไวมาก ทันทีที่โจทย์ปรากฏขึ้นมา ไป๋เยี่ยใช้เวลาอ่านโจทย์ไม่ถึงสองวินาทีก็ได้คำตอบแล้ว
แน่นอน ถ้าเจอข้อยากๆ ที่ต้องคิดล่ะ
ขอโทษที แต่ไป๋เยี่ยก็แค่เดาแล้วข้ามข้อแบบนั้นไปเลย!
ในเมื่อเป็นคลังโจทย์ก็เถอะ ก็คงไม่ได้มีโจทย์เพียงไม่กี่ร้อยข้อหรอก สิ่งที่ไป๋เยี่ยต้องการคือทำคะแนนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ใช่อัตราการทำถูกร้อยเปอร์เซ็นต์!
คิดได้ดังนั้นเขาก็เร่งมือให้ไวกว่าเดิม
ขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ส่วนกลางกำลังฉายรายการใหม่บนช่องที่สิบซึ่งเป็นช่องการศึกษา รายการนั้นมีชื่อว่า ‘ยาจีนของพวกเรา’
พิธีกรเป็นพิธีกรหน้าใหม่ทั้งสองคน เหลียงหย่งและฉีปิง
“วันนี้เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือกของงานแข่งขันความรู้แพทย์แผนจีน ด้วยเหตุนี้ รายการของเราจึงได้เชิญอาจารย์ทั้งสองท่านมา อาจารย์จางเสวียเวิ่นและอาจารย์หลี่ซื่อเต๋อ”
ฉีปิงชี้โทรศัพท์ในมือแล้วเอ่ยขึ้นกับหน้าจอใหญ่ “พวกเราได้รับสิทธิพิเศษผ่านการอนุมัติจากสำนักงานการจัดการแพทย์แผนจีนให้ถ่ายทอดสดขั้นตอนการสอบให้ทุกท่านรับชมได้”
เหลียงหย่งยิ้ม “วันนี้เราจะมาสัมผัสบรรยากาศการสอบในรอบแรกกัน แน่นอนทุกท่านวางใจได้ ในการสอบรอบต่อๆ ไป พวกเราก็จะถ่ายทอดสดและติดตามต่อไปเหมือนกัน”
“เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจถึงมาตรฐานทั่วไปของการสอบ พวกเราจึงได้เชิญอาจารย์ทั้งสองท่านมาให้คำอธิบายถึงความยากของข้อสอบและคาดการณ์ว่าต้องทำคะแนนกี่คะแนนจึงจะเข้าสู่รอบระดับมณฑลได้”
“จริงสิ ผมจะบอกความลับให้ทุกท่านฟัง เราดูความคืบหน้าในการทำข้อสอบของผู้เข้าแข่งขันแต่ละท่านว่าตอนนี้ทำไปกี่คะแนนแล้วได้ทางเวทีของพวกเรา โปรดดูที่หน้าจอครับ”
เหลียงหย่งชี้ไปที่หน้าจอ ทันใดนั้นหน้าจอขนาดใหญ่ก็กลายเป็นฐานข้อมูลแทน ด้านหน้าคือเลขประจำตัวผู้สอบและด้านหลังคือคะแนน
ฉีปิงถาม “ศาสตราจารย์คิดว่าคะแนนสอบครั้งนี้ผ่านเกณฑ์ไหมคะ”
จางเสวียเวิ่นยิ้ม “ผมคิดว่า สำหรับบางคน แค่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ก็ถือว่าผ่านแล้ว บางคนต่อให้ได้คะแนนสูงก็ไม่ได้แปลว่าผ่าน เหมือนอาจารย์หลี่ เขาทำได้ไม่กี่ร้อยคะแนนก็พอใจแล้วละครับ”
หลี่ซื่อเต๋อไม่สนใจมุกของจางเสวียเวิ่นแล้วกล่าวต่อ “อันที่จริง ผมเข้าประชุมหลายรอบมากกว่าจะมีการสอบครั้งนี้ นี่คือก้าวแรกอันกล้าหาญของพวกเรา ซึ่งก็คือก้าวแรกของแพทย์แผนจีนเช่นกัน ขอเพียงแค่ผู้คนคอยติดตาม การแพทย์แผนจีนจะต้องเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นแน่!”
อาจารย์หลี่พูดต่อ “แล้วก็เรื่องคะแนน ก็เหมือนกับที่อาจารย์จางบอกนั่นแหละ คนทั่วไปทำคะแนนได้ถึงหนึ่งร้อยคะแนนก็ถือว่าไม่แย่ นักศึกษาด้านการแพทย์แผนจีนทำได้สักสองร้อยคะแนนก็ถือว่าใช้ได้ ส่วนนักศึกษาป.โทและป.เอกด้านการแพทย์แผนจีน ผมคิดว่าควรได้สักสามถึงสี่ร้อยคะแนนจึงจะถือว่าผ่าน ส่วนบุคลากรในวิชาชีพนี้อย่างอาจารย์จางก็คงอ่านโจทย์แล้วตอบได้เลย ฮ่าๆ”
เหลียงหย่งได้ฟังก็หัวเราะตามไปด้วย “ถ้าอย่างนั้นทั้งสองท่านคิดว่ามณฑลไหนจะได้คะแนนเยอะที่สุดครับ”
จางเสวียเวิ่นส่ายหัว “อันนี้คงพูดไม่ได้หรอก มียอดฝีมือด้านการแพทย์แผนจีนเยอะแยะไปหมด ถึงจะบอกว่าพวกเราเป็นอาจารย์ระดับประเทศก็เถอะ แต่ก็อาจจะไม่ได้ต่างจากเหล่ายอดฝีมือที่ไม่เปิดเผยชื่อมากเท่าไหร่หรอก เพราะการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดยังไงล่ะ! แต่ถ้าต้องบอกความแตกต่างของแต่ละเขตล่ะก็ ผมคิดว่าน่าจะเป็นจิงตู ไห่ซื่อ กว่างโจว ชวนสู่ หนานจิง จินซื่อละมั้ง อย่างไรการพัฒนาของการแพทย์แผนจีนตามสถานที่เหล่านี้ก็ไม่แย่นัก”
ฉีปิงจึงเอ่ยแนะนำทุกคน “ได้ยินมาว่าอาจารย์จางเป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนปักกิ่งใช่ไหมคะ ดูท่านจะมีความเชื่อมั่นในตัวนักศึกษานะคะเนี่ย”
เหลียงหย่งก็หัวเราะด้วย “ตอนนี้นะครับ เวลาสอบได้ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เอาละ โชว์สถิติให้ทุกท่านได้เห็นกันเถอะ และเพื่อที่จะปกปิดตัวตนของผู้เข้าสอบ พวกเราจะแสดงเพียงเขตและหมายเลขประจำตัวผู้เข้าสอบเท่านั้น”
ทันใดนั้น ชื่อจำนวนร้อยชื่อก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
อันดับ+เลขประจำตัว+คะแนน
จู่ๆ ผู้คนก็ต่างพากันตกตะลึง!
ลำดับที่หนึ่ง มณฑลจิ้นซี xxx0055 คะแนน: 512 คะแนน!
ลำดับที่สอง เมืองจิงตู xxx0193 คะแนน: 390 คะแนน
ลำดับที่สาม เมืองจิงตู xxx0001 คะแนน: 388 คะแนน
ลำดับที่สี่ เมืองจิงตู xxx0019 คะแนน: 388 คะแนน
…………
ลำดับที่เก้าสิบแปด เมืองชวนสู่ xxx1821 คะแนน: 378 คะแนน
ลำดับที่เก้าสิบเก้า มณฑลเจ้อเจียง xxx8391 คะแนน: 377 คะแนน
ฉีปิงเอ่ยขึ้นตามความเคยชิน “ทุกท่านเห็นบนหน้าจอไหมคะ การแข่งขันดุเดือดจริงๆ เลยค่ะ ผู้ที่อยู่ในหนึ่งร้อยอันดับแรกนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ คะแนนเบียดกันมาก ทุกท่านจะเห็นได้ว่าอันดับมีการเปลี่ยนแปลงทุกวินาที แสดงว่าผู้เข้าแข่งขันของเรานี่เก่งไม่แพ้กันเลยนะคะ…เอ๋! เดี๋ยวนะ! อันดับที่หนึ่ง! เขาทำได้ห้าร้อยสิบสองคะแนน ไม่สิ ในไม่กี่สิบวินาทีที่เราคุยกัน เขาก็ทำไปห้าร้อยยี่สิบคะแนนแล้ว! นี่คนใช่ไหมคะเนี่ย”
เพียงชั่วพริบตาเดียว ทุกคนก็หันไปให้ความสนใจกับอันดับหนึ่งแทน!
ทุกคนไม่ได้สังเกตคะแนนของอันดับหนึ่งเพราะว่าอันดับค่อนข้างอยู่ติดกับหัวกระดาน คะแนนของทั้งร้อยคนนั้นก็อยู่ประมาณสามร้อยแปดสิบ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ทว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าที่หนึ่งจะทำคะแนนถึงห้าร้อยคะแนน!
ฉีปิงอึ้งไปชั่วครู่ เธอสงบสติอารมณ์ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรต่อไปดีแล้ว!