ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 34 แต่งงานหรือย้ายออกไป

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 34 แต่งงานหรือย้ายออกไป

ตอนที่ 34 แต่งงานหรือย้ายออกไป

เซี่ยเหวินปิงและเซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ล่วงรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จากปากของเซี่ยเจ๋อหลี่

เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสองก็รู้สึกสลดลง

แม้เดิมทีเซี่ยเจ๋อน่าจะเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัว แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องร้ายแรง แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป หากพวกเขาทำตามแผนการได้สำเร็จจริง ๆ และถึงตอนนั้นฉินมู่หลานเสื่อมเสียชื่อเสียง ตระกูลเซี่ยของพวกเขาเองก็จะโดนวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน

พวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเซี่ยเจ๋อน่าทำแบบนี้เพื่ออะไร หล่อนจะให้ตระกูลเซี่ยของพวกเขาล่มจมหรือ

เมื่อหลี่เสวี่ยเยี่ยนกลับมาแล้วเห็นว่าครอบครัวของตนมานั่งรวมตัวกันอยู่ตรงนี้ จึงกวาดสายตามองด้วยความแปลกใจ หลังจากนั้นจึงเดินไปหาฉินมู่หลาน พลางเอ่ยกระซิบถาม “มู่หลาน เกิดอะไรขึ้นหรือ?”

ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น จึงไม่เอ่ยพูดสิ่งใดไปมากกว่านี้ ยิ้มแล้วเอ่ยถาม “พี่สะใภ้ วันนี้ไปทำงานมาเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็เอ่ยอย่างมีความสุข “ก็พอได้ ปรับตัวได้แล้วล่ะ”

เมื่อเอ่ยจบ หล่อนก็จับมือของฉินมู่หลานพลางเอ่ยพูด “มู่หลาน ฉันได้เป็นพนักงานโรงงานอาหารแล้ว วันนี้ฉันไปรายงานตัวกับฝ่ายบุคคลเรียบร้อยแล้วด้วย ถึงจะเป็นเพียงตำแหน่งลูกจ้างชั่วคราว แต่จากนี้ไปก็ซื้ออาหารกินได้ ต้องขอบคุณเธอสำหรับเรื่องทั้งหมดนี้นะ”

เมื่อได้กลายมาเป็นพนักงานโรงงาน หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็รู้สึกว่าตนเองแตกต่างจากเมื่อก่อนแล้ว

ฉินมู่หลานได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยพร้อมทั้งรอยยิ้ม “พี่สะใภ้ ไม่ต้องขอบคุณหรอก พี่แค่ตั้งใจทำงานก็พอแล้วค่ะ”

“อื้มๆ ฉันจะตั้งใจทำงานอย่างดีเลย”

หลี่เสวี่ยเยี่ยนรีบให้คำมั่น แต่ก็ยังรู้สึกแปลกใจกับบรรยากาศที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จึงหันมองฉินมู่หลานแล้วเอ่ยกระซิบถาม “มู่หลาน ที่บ้านมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

ในขณะนี้เซี่ยเจ๋อเหว่ยก็ได้เดินเข้ามา เมื่อเขาเห็นภรรยาเอ่ยถามไม่หยุด จึงรีบดึงตัวหล่อนไปอย่างรวดเร็ว พลางเอ่ย “พอแล้ว อย่าพูดอีกเลย”

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของสามี หลี่เสวี่ยเยี่ยนจึงมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าที่บ้านต้องเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นแน่นอน

ในขณะเดียวกัน หล่อนก็นึกไปถึงระหว่างทางกลับหมู่บ้าน ผู้คนในหมู่บ้านต่างจับกลุ่มพูดคุยกันด้วยท่าทางตื่นเต้น หรือเรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จะเป็นเรื่องที่ผู้คนในหมู๋บ้านต่างพูดคุยกัน?

เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่ยอมปล่อยให้หลี่เสวี่ยเยี่ยนคาดเดาด้วยตัวเองมากไปกว่านี้ เขาจึงเล่าทุกอย่างให้ฟัง แล้วเอ่ยปิดท้าย “คุณดูสีหน้าพ่อกับแม่สิ เป็นเพราะแบบนี้พวกเราถึงต้องเงียบกัน”

ถึงอย่างไร หลี่เสวี่ยเยี่ยนก็หันมองไปทางฉินมู่หลาน

“น้องสะใภ้ก็ยอดเยี่ยมเสียจริง ไม่เพียงแต่ขัดขวางแผนการของเย่เสี่ยวเหอกับเฝิงจื้อหมิงได้ แต่ยังจับพวกเขาเปลือยต่อหน้าทุกคน เธอช่างเยี่ยมยอดอะไรขนาดนี้”

เป็นเพราะวันนี้ต้องไปทำงานวันแรก จึงทำให้พลาดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ หล่อนจึงรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย

แต่ภายในใจกลับคิดว่าต้องเตรียมรับมือกับเซี่ยเจ๋อน่าให้มากยิ่งขึ้น

น้องสามีไม่ชอบมู่หลาน จึงยอมร่วมมือกับคนนอกเพื่อที่จะกำจัดมู่หลาน ต้องการจะทำให้ชื่อเสียงของมู่หลานเสื่อมเสีย หากต่อไปในภายภาคหน้าน้องสามีไม่ชอบใคร หล่อนก็คงจะเล่นงานคนนั้น

ในขณะนี้ เซี่ยเหวินปิงก็ได้มองฉินมู่หลานพลางเอ่ยถาม “มู่หลาน เซี่ยเจ๋อน่าจะตื่นเมื่อไหร่หรือ?”

เมื่อฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้น จึงลุกขึ้นยืนพลางเอ่ยตอบ “เดี๋ยวฉันไปฝังเข็มให้อีกสองครั้งดีกว่าค่ะ ไม่อย่างนั้นหากปล่อยให้นอนอยู่แบบนี้ หล่อนอาจจะตื่นมาอีกทีในเช้าของอีกวันก็เป็นได้”

เซี่ยเหวินปิงพยักหน้าพลางเอ่ย “มู่หลาน นั่นต้องทำให้เธอลำบากใจแน่เลย ที่ต้องไปปลุกนังดื้อด้านนั่นขึ้นมา”

ฉินมู่หลานก้มพยักหน้าให้ พลางเดินตรงไปที่ห้องของเซี่ยเจ๋อน่า

เซี่ยเจ๋อหลี่ตามไปด้วย ตามติดฉินมู่หลานอยู่อย่างเงียบ ๆ แล้วไปที่ห้องของเซี่ยเจ๋อน่าด้วยกัน

หลังจากฉินมู่หลานฝังเข็มให้เซี่ยเจ๋อน่าสองครั้งแล้ว หล่อนจึงค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา

ทันทีที่เซี่ยเจ๋อน่าลืมตาตื่นขึ้นและได้พบกับฉินมู่หลาน ความทรงจำของหล่อนได้หยุดอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย จึงเอ่ยถามด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด “ฉินมู่หลาน เธอทำอะไรกับฉัน”

ฉินมู่หลานไม่เอ่ยสิ่งใด แล้วหันหลังเดินออกจากประตูไป

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่เอ่ยสิ่งใดเช่นกัน จับตัวเซี่ยเจ๋อน่าให้ลุกขึ้น แล้วพาหล่อนออกมาที่โถงรวมโดยไม่ได้กล่าวสิ่งใดสักคำ

ตอนนี้เซี่ยเจ๋อน่ายังไม่มีปฏิกิริยาอะไร แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่รองของตนกลับมาแล้ว สีหน้าของหล่อนจึงเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“พี่รอง พี่…พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

เซี่ยเจ๋อหลี่ไม่ได้ตอบ เพียงแค่มองไปที่เซี่ยเหวินปิงและเหยาจิ้งจือ พลางเอ่ยขึ้นว่า “พ่อครับแม่ครับ หล่อนอยู่ตรงนี้แล้ว”

เซี่ยเหวินปิงเป็นคุณพ่อผู้ใจดีมาโดยตลอด ไม่เคยตีลูกของตนเลยสักครั้ง แต่ในครั้งนี้เขาพุ่งเข้าไปตบเซี่ยเจ๋อน่าเข้าอย่างจัง

“นังผู้หญิงดื้อด้าน ดูสิ่งที่แกทำลงไปสิ”

“พ่อ…พ่อตบหนู”

เซี่ยเจ๋อน่ากุมใบหน้าของตัวเอง พลางมองไปที่เซี่ยเหวินปิงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

ในความทรงจำของหล่อน พ่อเป็นคนใจดีและเข้าถึงง่ายเสมอ แถมยังใจดีกับพวกพี่น้องมากด้วย แต่ครั้งนี้พ่อกลับตบหล่อน

เหยาจิ้งจือยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง คิดอย่างเอ่ยบางสิ่งที่อยู่ในใจสองคำ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ลูกสาวของตนทำแล้วก็รู้สึกประหม่าที่จะเอ่ยพูดจาไปมากกว่านี้

“ฮึ…คิดสิว่าแกทำอะไรลงไป ตบครั้งเดียวนี่ยังถือว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ”

หลังพยายามสงบอารมณ์ลง เซี่ยเหวินปิงก็หันไปมองเหยาจิ้งจือพลางเอ่ยถาม “ที่ผมบอกคุณครั้งก่อน จัดการไปถึงไหนแล้ว?”

เหยาจิ้งจือได้ยินดังนั้น จึงเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็ว “กำหนดวันไว้แล้วค่ะ”

ครอบครัวนั้นค่อนข้างพึงพอใจในตัวของเซี่ยเจ๋อน่า ด้วยฐานะของตระกูลเซี่ยในหมู่บ้านจัดได้ว่าค่อนข้างดี จึงมีคนไม่น้อยที่อยากแต่งงานกับเซี่ยเจ๋อน่า

ตอนแรกเซี่ยเจ๋อน่าไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร แต่หลังจากฟังการสนทนาอยู่นาน ในที่สุดก็เข้าใจได้ว่าพ่อกับแม่กำลังจะจับตนแต่งงานออกเรือนไป

“ไม่…หนูไม่แต่ง ถ้าอยากแต่งก็แต่งกันเองสิ”

เซี่ยเหวินปิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ถึงแกไม่อยากก็ต้องแต่ง อยู่อย่างนี้ต่อไปก็มีแต่เรื่อง เดิมทีฉันก็อยากให้แกอยู่บ้านหลังเดิมสบาย ๆ ต่อไปอีกสักสองปี แต่ไม่คิดเลยว่าแกไม่เพียงทำตัวสบาย ๆ เท่านั้น แต่ยังจะทำให้บ้านแตก”

เซี่ยเจ๋อน่าไม่ยอมรับ

“เป็นเพราะฉินมู่หลานชัดๆ ตั้งแต่นังนี่แต่งเข้ามาในครอบครัวเรา บ้านเราก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ขอแค่หล่อนออกไป ครอบครัวของพวกเราก็จะดีเอง หนูไม่ได้ทำอะไรผิด”

เมื่อเห็นว่าเซี่ยเจ๋อน่ายังไม่ยอมรับว่าตนเองผิด สีหน้าของเซี่ยเหวินปิงจึงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด

“เป็นความผิดของพวกเราเอง เป็นเพราะพวกเราไม่สั่งสอนแกให้ดี ถ้าแกไม่อยากแต่งงาน อย่างนั้นก็มีอีกทางเลือก ฉันจะส่งแกไปอยู่กับฝั่งคุณปู่คุณย่า พวกเขาจะมารับแกกลับไปอยู่ด้วย อย่างนั้นน่าจะสุขใจทั้งสองฝ่าย”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อน่าก็ยิ่งปฏิเสธเสียงแข็งเข้าไปใหญ่

“ไม่…หนูไม่อยากไปอยู่กับคุณปู่คุณย่า”

แม้ตั้งแต่เล็กคุณปู่กับคุณย่าจะใจดีมาตลอด แต่พวกเขาอาศัยอยู่บนภูเขาอันห่างไกล

เมื่อตอนที่พ่อของพวกเขาแยกครอบครัวออกมา เขาก็อยากพาคุณปู่คุณย่ามาอยู่ด้วยกัน เพียงแต่ท่านทั้งสองเพียงอยากจะอยู่ที่เดิม ไม่อยากไปไกลจากบ้าน จึงไม่ตามพวกเขามาที่หมู่บ้านชิงซาน

หากเทียบกับการอยู่บนเขาแล้ว หมู่บ้านชิงซานดีกว่าเป็นไหน ๆ

“จะแต่งงานหรือย้ายไปอยู่กับฝั่งคุณปู่คุณย่า แกเลือกมาข้อหนึ่ง”

เมื่อเอ่ยจบ เซี่ยเหวินปิงก็ไม่ต้องการจะเอ่ยสิ่งใดอีก จึงหันหลังแล้วเดินจากไป

เหยาจิ้งจือเห็นว่าสามีของตนเอาจริงในครั้งนี้ จึงหันไปเอ่ยกับเซี่ยเจ๋อน่า “คนที่พ่อแกให้ไปดูตัวด้วยจัดว่าดีอยู่นะ พรุ่งนี้แกจะได้เจอเขา”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ทางเดียวที่จะจบทุกอย่างก็คือเอาตัวนังน่าไปปล่อยป่าค่ะ ให้ดิ้นรนเอาตัวรอดกลับบ้านเอง โดนเสือขย้ำหมีตะปบกินผลไม้พิษหรือหนาวตายอยู่ในป่าก็เรื่องของเธอ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท