ตอนที่ 46 จบกันแบบไม่สวย
ตอนที่ 46 จบกันแบบไม่สวย
เมื่อฉินมู่หลานก้าวเข้าประตูมา เซี่ยเจ๋อน่าก็สังเกตเห็นได้ในทันที
เมื่อได้พบพี่สะใภ้รองอีกครั้ง เซี่ยเจ๋อน่าก็ยังรู้สึกเกลียดอีกฝ่ายอยู่ลึก ๆ ในใจ หากไม่ใช่เพราะฉินมู่หลาน ครอบครัวคงไม่รีบร้อนจับหล่อนแต่งงาน และหล่อนคงไม่ต้องแต่งงานกับเกาหยวนอย่างกะทันหันเช่นนี้
ถึงแม้ว่าเกาหยวนจะค่อนข้างดีกับหล่อน แต่เป็นเพราะรีบร้อนแต่งงาน ครอบครัวฝั่งสามีจึงไม่สนับสนุน โดยเฉพาะแม่ของเกาหยวนที่คอยสร้างปัญหาอยู่ไม่เว้น ทำให้ช่วงสองวันที่ผ่านมานี้หล่อนไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าใด
“เฮ้…นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรากลับบ้านแล้ว ได้ยินว่าได้ค่าลิขสิทธิ์บทความด้วยเหรอ เก่งจังเลย”
ได้ยินน้ำเสียงเย้ยหยันของเซี่ยเจ๋อน่า ฉินมู่หลานก็ไม่ได้หันมองหล่อนแต่อย่างใด กลับหันมองเหยาจิ้งจือแล้วเอ่ยขึ้น “แม่คะ ฉันกลับห้องก่อนนะคะ”
เหยาจิ้งจือทราบเรื่องที่เกิดกับสะใภ้รองเป็นอย่างดี จึงไม่สบอารมณ์กับลูกสาวมานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ลูกสาวของตนยังเป็นคนเปิดประเด็นก่อน ดังนั้นจึงไม่ได้เอ่ยอะไรมาก เพิ่ยงแค่พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ได้ เธอไปพักผ่อนเถอะ”
แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเจ๋อน่าก็ไปยืนขวางหน้าฉินมู่หลานพลางเอ่ยขึ้น “พี่สะใภ้รองที่แสนดีของหนู หนูกำลังคุยกับพี่อยู่ไม่ได้ยินเหรอ พี่หูหนวกหรือไง”
“เซี่ยเจ๋อน่า เธอคงไม่คิดว่าเรื่องครั้งที่แล้วจะจบง่าย ๆ หรอกใช่ไหม ฉันไม่ได้รังควานอะไรเธอ เป็นเธอที่คอยก่อกวนฉันอยู่ตลอด ฉันขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรดีกับตัวเธอ”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อน่าก็หัวเราะขึ้นมา
“ฮ่าๆ…ฉินมู่หลาน ฉันจะยุ่งกับเธอแล้วจะทำไม เธอจะทำอะไรฉันได้เหรอ”
“เพียะ…”
ฉินมู่หลานไม่พูดพร่ำทำเพลง ตบหน้าของเซี่ยเจ๋อน่าดังฉาดหนึ่ง “ฉันอยากทำแบบนี้มานานแล้วล่ะ ติดที่ได้แต่เก็บงำเอาไว้ แต่เธอดันเสนอหน้ามาหาเรื่องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ตบสั่งสอนสักหน่อยคงไม่เห็นภาพ”
“โอ๊ย…ฉินมู่หลาน…”
เซี่ยเจ๋อน่ากอบกุมใบหน้าของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ไม่เคยคิดเลยว่าฉินมู่หลานจะตบหน้าตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ขณะที่ยกมือหวังจะสู้กลับ ฉินมู่หลานก็คว้าข้อมือของหล่อนไว้เสียก่อน
“เธอปล่อยฉันนะ”
เซี่ยเจ๋อน่าพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่เหมือนจะไม่มีทางหลุดพ้น
เกาหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างหันมองฉินมู่หลานด้วยท่าทางตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่สะใภ้รองกับเซี่ยเจ๋อน่า ทำไมหล่อนถึงลงไม้ลงมือในทันทีที่ไม่พอใจ ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือนอกจากแม่ยายที่ดูกังวลใจแล้ว สมาชิกในครอบครัวคนอื่นกลับไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดเลย
เหยาจิ้งจืออดรนทนไม่ได้อีกต่อไป จึงหันมองฉินมู่หลานพลางเอ่ยขึ้น “มู่หลาน เป็นความผิดของน่าน่าเอง เธอปล่อยมันเถอะนะ”
แม้ว่าฉินมู่หลานจะตบลูกสาวของตน แต่ใครบอกให้ลูกสาวสร้างปัญหากันเล่า
ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานจึงหันมองเหยาจิ้งจือด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะเหวี่ยงตัวเซี่ยเจ๋อน่าออกไปอีกด้านอย่างแรง
“แม่ พวกแม่ไม่เห็นเหรอ มันตบหน้าหนู ทำไมยังบอกว่าเป็นความผิดหนูอีกล่ะ เห็นได้ชัดว่าคนที่ตบเป็นมันนะ” เซี่ยเจ๋อน่ารู้สึกว่าในครอบครัวนี้ไม่มีที่สำหรับตนเองอีกต่อไปแล้ว
ในตอนนั้นเอง เซี่ยเหวินปิงก็ได้เอ่ยขึ้น “เซี่ยเจ๋อน่า แกกับเกาหยวนไปจดทะเบียนสมรสกันหรือยัง?”
อันที่จริงแล้วตอนที่ฉินมู่หลานกลับมา เซี่ยเจ๋อน่ากับเกาหยวนก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน ดังนั้นตระกูลเซี่ยจึงยังไม่ได้เอ่ยถามอะไร
เซี่ยเจ๋อน่าได้ยินดังนั้น หล่อนจึงหยิบขนมที่พกติดตัวออกมา พลางเอ่ย “พ่อ หนูกับเกาหยวนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว วันนี้ที่มาที่นี่ ก็เพราะอยากจะมาบอกกล่าวพวกพ่อกับแม่ และมอบขนมแต่งงานให้ตามธรรมเนียม”
“ปัง…”
เซี่ยเหวินปิงกระแทกถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง “ดูเหมือนว่าแกจะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้าเลยสินะ ฉันบอกแกแล้วไง ว่าถ้าแกจดทะเบียนสมรสกับเกาหยวน ฉันจะไม่ถือว่ามีแกเป็นลูกสาวอีก”
เซี่ยเจ๋อน่าไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้นเลย
“พ่อ พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว ทำไมพ่อถึงยังไม่พอใจอะไรอีก หนูเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อ ถ้าบอกว่าจะตัดขาดก็จะขาดกันเลยใช่ไหม”
เซี่ยเหวินปิงไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่ยื่นมือออกไปพลางเอ่ยถาม “สมุดทะเบียนบ้านอยู่ไหน?”
เซี่ยเจ๋อน่านำสมุดทะเบียนบ้านมาด้วย หล่อนส่งมันให้กับเซี่ยเหวินปิงในทันที
หลังจากเซี่ยเหวินปิงรับมันมา ก็เอ่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา “เอาเถอะ พวกแกกลับไปกันซะ แล้วต่อไปอย่ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก”
“พ่อ…”
เซี่ยเจ๋อน่าไม่คิดว่าพ่อจะยืนกรานหัวชนฝาขนาดนี้ “พ่อไม่พอใจอะไรในตัวของเกาหยวนอย่างนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่าเขาดีกว่าคนที่พ่อแนะนำให้ไปดูตัวด้วยอยู่ตั้งหลายขุม”
เซี่ยเหวินปิงไม่ต้องการที่จะเอ่ยพูดอะไรอีก จึงหันมองไปทางเซี่ยเจ๋อเหว่ยก่อนจะเอ่ยขึ้น “อาเหว่ย แกมัวรออะไรอยู่เล่า ลากคนนอกออกไปซะ”
“พ่อ เอาจริงเหรอ”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยคิดไม่ถึงว่าเซี่ยเหวินปิงจะยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้
“ทำไม ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อฟังคำพูดฉันแล้วเหรอ เซี่ยเจ๋อน่าไม่ใส่ใจคำพูดฉันไปคนหนึ่งแล้ว แกยังจะเป็นเหมือนมันอีกเหรอ”
“ไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้น จึงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าไปหาเกาหยวนและเซี่ยเจ๋อน่าพลางเอ่ยว่า “พอแล้ว พวกนายกลับไปกันเถอะ”
ในที่สุดเกาหยวนก็ตระหนักได้ว่าพ่อตาของเขาคนนี้เกลียดเขามากแค่ไหน เขาไม่เคยคิดดูถูกที่ว่าตระกูลเซี่ยเป็นชาวชนบทเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับไม่ให้เกียรติตนเลย คิดว่าการมีลูกชายเป็นพลทหารนั้นเป็นเรื่องวิเศษมากนักหรือ
เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของเกาหยวนก็มืดมนลงทันที
นอกจากนี้เซี่ยเจ๋อน่าก็จ้องมองไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยก่อนจะเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ ถ้าฉันไม่ไป พี่จะลงมือจริงเหรอ”
“น้องเล็ก ในเมื่อพ่อพูดแบบนั้น พี่ต้องขอโทษด้วย”
เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่ได้พยายามกระชากตัวเซี่ยเจ๋อน่า แต่ผลักเกาหยวนออกไปแทน “กลับไปเถอะ”
อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ชอบเกาหยวนนี่สักเท่าไหร่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าจะยิ้มแย้มตลอดที่เข้ามาหา แต่แววตากลับดูแข็งกร้าวและดุเดือด อย่าคิดว่าเขาไม่ทันเห็นเชียว
เกาหยวนโดนผลัก ในใจจึงรู้สึกโกรธขึ้นทันที
เขาไม่ใช่คนนิสัยดีแต่เดิมอยู่แล้ว ตอนนี้จึงร็สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อมองไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยซึ่งรูปร่างสูงกำยำ แล้วหันมองเซี่ยเหวินปิงที่ยังแข็งแรงอยู่นั้น เขาที่ด้อยกว่าจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองคนนี้ที่ทำฟาร์มมาตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน
“เหอะ ไม่ต้องรีบไล่หรอก ฉันเดินเองได้”
เมื่อเห็นเกาหยวนเดินออกไปข้างนอก เซี่ยเจ๋อน่าจึงได้แต่ก้าวเดินตามให้ทัน แต่หลังจากออกนอกประตูมาได้ หล่อนก็หันกลับไปมองเซี่ยเหวินปิง เหยาจิ้งจือ และคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้าจงเกลียดจงชัง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าพวกพ่อไม่ต้องการลูกสาวคนนี้ ถ้าอย่างนั้นหนูก็ไม่ต้องการพ่อแม่แบบพวกคุณเหมือนกัน ตอนแรกหนูคิดอยากแต่งงานเข้าไปอยู่ในเมืองก็เพื่อต่อไปข้างหน้าจะช่วยเหลือพวกพ่อได้มากขึ้น แต่ดูสิ่งที่พวกพ่อทำกับหนูสิ ต่อไปหนูเองก็จะไม่สนใจพวกคุณอีกแล้ว”
“น่าน่า…”
เมื่อมองไปที่ลูกสาวที่ตนตั้งท้องมาเกือบสิบเดือน สายตาของเหยาจิ้งจือก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหวินปิงก็ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ปล่อยมันไป ฉันอยากเห็นว่ามันไปแต่งงานในเมืองแล้วต่อไปชีวิตของมันจะเป็นยังไง”
หลังจากเกาหยวนและเซี่ยเจ๋อน่ากลับไปแล้ว เหยาจิ้งจือก็อดไม่ได้ที่จะหันไปตำหนิใส่สามี “คุณอยากตัดพ่อตัดลูกกับมันจริงเหรอ คุณมีแต่จะทำให้เรื่องมันยากขึ้น”
“คุณเองก็คิดว่าผมพูดเล่นอย่างนั้นใช่ไหม”
“คุณ…คุณทำจริงเหรอ”
สีหน้าของเหยาจิ้งจือเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เดิมทีหล่อนคิดว่าสามีของตนอาจแค่โกรธ แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นว่าสามีพูดจริงทำจริง
ฉินมู่หลานปรายตามองเซี่ยเหวินปิงด้วยความประหลาดใจ รู้สึกประหลาดใจกับความคิดของเขานิดหน่อย
หลี่เสวี่ยเยี่ยนที่จากเดิมเงียบไปตั้งแต่ต้นก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้ฉินมู่หลานอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “มู่หลาน ถ้าอย่างนั้นต่อไปเซี่ยเจ๋อน่าก็จะไม่มาที่บ้านแล้วใช่ไหม ได้แต่หวังว่าหล่อนจะทำได้จริงนะ”
กับน้องสามีคนนี้ หล่อนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ต้องติดต่อกันอีกต่อไป
“หวังว่าอย่างนั้นค่ะ”
ถึงแม้ว่าเซี่ยเหวินปิงจะเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นก็ตาม แต่สายเลือดย่อมตัดกันไม่ขาดได้ง่าย ๆ ดังนั้นเมื่อฉินมู่หลานหายประหลาดใจในตอนแรกแล้ว ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก เธอยังคิดอยากเขียนบทความอีกฉบับก่อนดข้านอนสักหน่อยด้วย
“พี่สะใภ้คะ ถ้าอย่างนั้นหนูกลับห้องก่อนนะ”
“อ้าๆ ได้ เธอรีบไปพักผ่อนเถอะ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
กลับมาถึงบ้านก็ปากดีเลยนะนังน่า โดนไปสักฉาดเน้น ๆ เป็นไง ถ้าเป็นผู้แปลนะจะฟ้อนตบแบบแม่การะเกดให้ปากแดงแบบไม่ต้องทาลิปเลย
ได้ยินชัดยัง ว่าพ่อตัดลูกแล้วก็คือตัดจริงๆ ทีหลังไม่ต้องกลับมานะ
ไหหม่า(海馬)