ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 46 จบกันแบบไม่สวย

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 46 จบกันแบบไม่สวย

ตอนที่ 46 จบกันแบบไม่สวย

เมื่อฉินมู่หลานก้าวเข้าประตูมา เซี่ยเจ๋อน่าก็สังเกตเห็นได้ในทันที

เมื่อได้พบพี่สะใภ้รองอีกครั้ง เซี่ยเจ๋อน่าก็ยังรู้สึกเกลียดอีกฝ่ายอยู่ลึก ๆ ในใจ หากไม่ใช่เพราะฉินมู่หลาน ครอบครัวคงไม่รีบร้อนจับหล่อนแต่งงาน และหล่อนคงไม่ต้องแต่งงานกับเกาหยวนอย่างกะทันหันเช่นนี้

ถึงแม้ว่าเกาหยวนจะค่อนข้างดีกับหล่อน แต่เป็นเพราะรีบร้อนแต่งงาน ครอบครัวฝั่งสามีจึงไม่สนับสนุน โดยเฉพาะแม่ของเกาหยวนที่คอยสร้างปัญหาอยู่ไม่เว้น ทำให้ช่วงสองวันที่ผ่านมานี้หล่อนไม่ค่อยมีความสุขสักเท่าใด

“เฮ้…นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรากลับบ้านแล้ว ได้ยินว่าได้ค่าลิขสิทธิ์บทความด้วยเหรอ เก่งจังเลย”

ได้ยินน้ำเสียงเย้ยหยันของเซี่ยเจ๋อน่า ฉินมู่หลานก็ไม่ได้หันมองหล่อนแต่อย่างใด กลับหันมองเหยาจิ้งจือแล้วเอ่ยขึ้น “แม่คะ ฉันกลับห้องก่อนนะคะ”

เหยาจิ้งจือทราบเรื่องที่เกิดกับสะใภ้รองเป็นอย่างดี จึงไม่สบอารมณ์กับลูกสาวมานานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ลูกสาวของตนยังเป็นคนเปิดประเด็นก่อน ดังนั้นจึงไม่ได้เอ่ยอะไรมาก เพิ่ยงแค่พยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “ได้ เธอไปพักผ่อนเถอะ”

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเจ๋อน่าก็ไปยืนขวางหน้าฉินมู่หลานพลางเอ่ยขึ้น “พี่สะใภ้รองที่แสนดีของหนู หนูกำลังคุยกับพี่อยู่ไม่ได้ยินเหรอ พี่หูหนวกหรือไง”

“เซี่ยเจ๋อน่า เธอคงไม่คิดว่าเรื่องครั้งที่แล้วจะจบง่าย ๆ หรอกใช่ไหม ฉันไม่ได้รังควานอะไรเธอ เป็นเธอที่คอยก่อกวนฉันอยู่ตลอด ฉันขอเตือนว่าอย่ายุ่งกับฉันอีก ไม่อย่างนั้นจะไม่มีอะไรดีกับตัวเธอ”

เมื่อได้ยินคำพูดของฉินมู่หลานเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อน่าก็หัวเราะขึ้นมา

“ฮ่าๆ…ฉินมู่หลาน ฉันจะยุ่งกับเธอแล้วจะทำไม เธอจะทำอะไรฉันได้เหรอ”

“เพียะ…”

ฉินมู่หลานไม่พูดพร่ำทำเพลง ตบหน้าของเซี่ยเจ๋อน่าดังฉาดหนึ่ง “ฉันอยากทำแบบนี้มานานแล้วล่ะ ติดที่ได้แต่เก็บงำเอาไว้ แต่เธอดันเสนอหน้ามาหาเรื่องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ตบสั่งสอนสักหน่อยคงไม่เห็นภาพ”

“โอ๊ย…ฉินมู่หลาน…”

เซี่ยเจ๋อน่ากอบกุมใบหน้าของตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ไม่เคยคิดเลยว่าฉินมู่หลานจะตบหน้าตัวเองต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ขณะที่ยกมือหวังจะสู้กลับ ฉินมู่หลานก็คว้าข้อมือของหล่อนไว้เสียก่อน

“เธอปล่อยฉันนะ”

เซี่ยเจ๋อน่าพยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่เหมือนจะไม่มีทางหลุดพ้น

เกาหยวนที่ยืนอยู่ด้านข้างหันมองฉินมู่หลานด้วยท่าทางตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพี่สะใภ้รองกับเซี่ยเจ๋อน่า ทำไมหล่อนถึงลงไม้ลงมือในทันทีที่ไม่พอใจ ที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือนอกจากแม่ยายที่ดูกังวลใจแล้ว สมาชิกในครอบครัวคนอื่นกลับไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดเลย

เหยาจิ้งจืออดรนทนไม่ได้อีกต่อไป จึงหันมองฉินมู่หลานพลางเอ่ยขึ้น “มู่หลาน เป็นความผิดของน่าน่าเอง เธอปล่อยมันเถอะนะ”

แม้ว่าฉินมู่หลานจะตบลูกสาวของตน แต่ใครบอกให้ลูกสาวสร้างปัญหากันเล่า

ได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานจึงหันมองเหยาจิ้งจือด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ก่อนจะเหวี่ยงตัวเซี่ยเจ๋อน่าออกไปอีกด้านอย่างแรง

“แม่ พวกแม่ไม่เห็นเหรอ มันตบหน้าหนู ทำไมยังบอกว่าเป็นความผิดหนูอีกล่ะ เห็นได้ชัดว่าคนที่ตบเป็นมันนะ” เซี่ยเจ๋อน่ารู้สึกว่าในครอบครัวนี้ไม่มีที่สำหรับตนเองอีกต่อไปแล้ว

ในตอนนั้นเอง เซี่ยเหวินปิงก็ได้เอ่ยขึ้น “เซี่ยเจ๋อน่า แกกับเกาหยวนไปจดทะเบียนสมรสกันหรือยัง?”

อันที่จริงแล้วตอนที่ฉินมู่หลานกลับมา เซี่ยเจ๋อน่ากับเกาหยวนก็เพิ่งมาถึงเช่นกัน ดังนั้นตระกูลเซี่ยจึงยังไม่ได้เอ่ยถามอะไร

เซี่ยเจ๋อน่าได้ยินดังนั้น หล่อนจึงหยิบขนมที่พกติดตัวออกมา พลางเอ่ย “พ่อ หนูกับเกาหยวนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว วันนี้ที่มาที่นี่ ก็เพราะอยากจะมาบอกกล่าวพวกพ่อกับแม่ และมอบขนมแต่งงานให้ตามธรรมเนียม”

“ปัง…”

เซี่ยเหวินปิงกระแทกถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง “ดูเหมือนว่าแกจะไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ฉันพูดไปก่อนหน้าเลยสินะ ฉันบอกแกแล้วไง ว่าถ้าแกจดทะเบียนสมรสกับเกาหยวน ฉันจะไม่ถือว่ามีแกเป็นลูกสาวอีก”

เซี่ยเจ๋อน่าไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดนั้นเลย

“พ่อ พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว ทำไมพ่อถึงยังไม่พอใจอะไรอีก หนูเป็นลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อ ถ้าบอกว่าจะตัดขาดก็จะขาดกันเลยใช่ไหม”

เซี่ยเหวินปิงไม่เอ่ยสิ่งใด เพียงแต่ยื่นมือออกไปพลางเอ่ยถาม “สมุดทะเบียนบ้านอยู่ไหน?”

เซี่ยเจ๋อน่านำสมุดทะเบียนบ้านมาด้วย หล่อนส่งมันให้กับเซี่ยเหวินปิงในทันที

หลังจากเซี่ยเหวินปิงรับมันมา ก็เอ่ยพูดอย่างตรงไปตรงมา “เอาเถอะ พวกแกกลับไปกันซะ แล้วต่อไปอย่ามาเหยียบที่บ้านหลังนี้อีก”

“พ่อ…”

เซี่ยเจ๋อน่าไม่คิดว่าพ่อจะยืนกรานหัวชนฝาขนาดนี้ “พ่อไม่พอใจอะไรในตัวของเกาหยวนอย่างนั้นหรือ เห็นได้ชัดว่าเขาดีกว่าคนที่พ่อแนะนำให้ไปดูตัวด้วยอยู่ตั้งหลายขุม”

เซี่ยเหวินปิงไม่ต้องการที่จะเอ่ยพูดอะไรอีก จึงหันมองไปทางเซี่ยเจ๋อเหว่ยก่อนจะเอ่ยขึ้น “อาเหว่ย แกมัวรออะไรอยู่เล่า ลากคนนอกออกไปซะ”

“พ่อ เอาจริงเหรอ”

เซี่ยเจ๋อเหว่ยคิดไม่ถึงว่าเซี่ยเหวินปิงจะยืนกรานหนักแน่นเช่นนี้

“ทำไม ตอนนี้ไม่มีใครเชื่อฟังคำพูดฉันแล้วเหรอ เซี่ยเจ๋อน่าไม่ใส่ใจคำพูดฉันไปคนหนึ่งแล้ว แกยังจะเป็นเหมือนมันอีกเหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้นอยู่แล้ว”

เซี่ยเจ๋อเหว่ยได้ยินดังนั้น จึงลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินเข้าไปหาเกาหยวนและเซี่ยเจ๋อน่าพลางเอ่ยว่า “พอแล้ว พวกนายกลับไปกันเถอะ”

ในที่สุดเกาหยวนก็ตระหนักได้ว่าพ่อตาของเขาคนนี้เกลียดเขามากแค่ไหน เขาไม่เคยคิดดูถูกที่ว่าตระกูลเซี่ยเป็นชาวชนบทเลยด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับไม่ให้เกียรติตนเลย คิดว่าการมีลูกชายเป็นพลทหารนั้นเป็นเรื่องวิเศษมากนักหรือ

เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของเกาหยวนก็มืดมนลงทันที

นอกจากนี้เซี่ยเจ๋อน่าก็จ้องมองไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยก่อนจะเอ่ยขึ้น “พี่ใหญ่ ถ้าฉันไม่ไป พี่จะลงมือจริงเหรอ”

“น้องเล็ก ในเมื่อพ่อพูดแบบนั้น พี่ต้องขอโทษด้วย”

เซี่ยเจ๋อเหว่ยไม่ได้พยายามกระชากตัวเซี่ยเจ๋อน่า แต่ผลักเกาหยวนออกไปแทน “กลับไปเถอะ”

อันที่จริงแล้วเขาเองก็ไม่ได้ชอบเกาหยวนนี่สักเท่าไหร่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะแสดงสีหน้าจะยิ้มแย้มตลอดที่เข้ามาหา แต่แววตากลับดูแข็งกร้าวและดุเดือด อย่าคิดว่าเขาไม่ทันเห็นเชียว

เกาหยวนโดนผลัก ในใจจึงรู้สึกโกรธขึ้นทันที

เขาไม่ใช่คนนิสัยดีแต่เดิมอยู่แล้ว ตอนนี้จึงร็สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เมื่อมองไปที่เซี่ยเจ๋อเหว่ยซึ่งรูปร่างสูงกำยำ แล้วหันมองเซี่ยเหวินปิงที่ยังแข็งแรงอยู่นั้น เขาที่ด้อยกว่าจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสองคนนี้ที่ทำฟาร์มมาตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน

“เหอะ ไม่ต้องรีบไล่หรอก ฉันเดินเองได้”

เมื่อเห็นเกาหยวนเดินออกไปข้างนอก เซี่ยเจ๋อน่าจึงได้แต่ก้าวเดินตามให้ทัน แต่หลังจากออกนอกประตูมาได้ หล่อนก็หันกลับไปมองเซี่ยเหวินปิง เหยาจิ้งจือ และคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้าจงเกลียดจงชัง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าพวกพ่อไม่ต้องการลูกสาวคนนี้ ถ้าอย่างนั้นหนูก็ไม่ต้องการพ่อแม่แบบพวกคุณเหมือนกัน ตอนแรกหนูคิดอยากแต่งงานเข้าไปอยู่ในเมืองก็เพื่อต่อไปข้างหน้าจะช่วยเหลือพวกพ่อได้มากขึ้น แต่ดูสิ่งที่พวกพ่อทำกับหนูสิ ต่อไปหนูเองก็จะไม่สนใจพวกคุณอีกแล้ว”

“น่าน่า…”

เมื่อมองไปที่ลูกสาวที่ตนตั้งท้องมาเกือบสิบเดือน สายตาของเหยาจิ้งจือก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด

แต่ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหวินปิงก็ยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ปล่อยมันไป ฉันอยากเห็นว่ามันไปแต่งงานในเมืองแล้วต่อไปชีวิตของมันจะเป็นยังไง”

หลังจากเกาหยวนและเซี่ยเจ๋อน่ากลับไปแล้ว เหยาจิ้งจือก็อดไม่ได้ที่จะหันไปตำหนิใส่สามี “คุณอยากตัดพ่อตัดลูกกับมันจริงเหรอ คุณมีแต่จะทำให้เรื่องมันยากขึ้น”

“คุณเองก็คิดว่าผมพูดเล่นอย่างนั้นใช่ไหม”

“คุณ…คุณทำจริงเหรอ”

สีหน้าของเหยาจิ้งจือเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ เดิมทีหล่อนคิดว่าสามีของตนอาจแค่โกรธ แต่ดูเหมือนจะกลายเป็นว่าสามีพูดจริงทำจริง

ฉินมู่หลานปรายตามองเซี่ยเหวินปิงด้วยความประหลาดใจ รู้สึกประหลาดใจกับความคิดของเขานิดหน่อย

หลี่เสวี่ยเยี่ยนที่จากเดิมเงียบไปตั้งแต่ต้นก็เริ่มขยับเข้ามาใกล้ฉินมู่หลานอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “มู่หลาน ถ้าอย่างนั้นต่อไปเซี่ยเจ๋อน่าก็จะไม่มาที่บ้านแล้วใช่ไหม ได้แต่หวังว่าหล่อนจะทำได้จริงนะ”

กับน้องสามีคนนี้ หล่อนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่ต้องติดต่อกันอีกต่อไป

“หวังว่าอย่างนั้นค่ะ”

ถึงแม้ว่าเซี่ยเหวินปิงจะเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นก็ตาม แต่สายเลือดย่อมตัดกันไม่ขาดได้ง่าย ๆ ดังนั้นเมื่อฉินมู่หลานหายประหลาดใจในตอนแรกแล้ว ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจอีก เธอยังคิดอยากเขียนบทความอีกฉบับก่อนดข้านอนสักหน่อยด้วย

“พี่สะใภ้คะ ถ้าอย่างนั้นหนูกลับห้องก่อนนะ”

“อ้าๆ ได้ เธอรีบไปพักผ่อนเถอะ”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

กลับมาถึงบ้านก็ปากดีเลยนะนังน่า โดนไปสักฉาดเน้น ๆ เป็นไง ถ้าเป็นผู้แปลนะจะฟ้อนตบแบบแม่การะเกดให้ปากแดงแบบไม่ต้องทาลิปเลย

ได้ยินชัดยัง ว่าพ่อตัดลูกแล้วก็คือตัดจริงๆ ทีหลังไม่ต้องกลับมานะ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท