ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 75 สามีภรรยาพบกัน

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 75 สามีภรรยาพบกัน

ตอนที่ 75 สามีภรรยาพบกัน

เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน เจ้าผอมก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “ลูกพี่ครับ ให้หมอมู่ฝังเข็มให้ท่านก่อนไหมครับ ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น”

อวี๋ตงพูดเสริมว่า: “ใช่แล้วครับลูกพี่ เราจะดำเนินการกันต่อ หลังจากที่หล่อนฝังเข็มเสร็จแล้วก็ได้ครับ”

เมื่อคืนเขาไปพบหมอหลายคน และเห็นประสิทธิภาพของยาที่ฉินมู่หลานผลิตแล้ว ทักษะทางการแพทย์ของผู้หญิงคนนี้ดีมากจริง ๆ เนื่องจากเธอบอกว่าการฝังเข็มเวลาเดิมนั้นจะดีกว่า ก็แสดงว่าเธอต้องมีเหตุผล

“ก็ได้ งั้นมาฝังเข็มกันก่อน”

ชางไห่พูด ก่อนมองฉินมู่หลานแล้วพูดว่า “งั้นก็ต้องรบกวนหมอมู่ด้วย”

“ไม่มีปัญหาค่ะ”

ฉินมู่หลานก้าวเข้าไป แล้วเริ่มฝังเข็มให้ชางไห่ หลังจากที่เธอกำลังยุ่งอยู่สักพัก จู่ ๆ ข้างนอกก็มีความเคลื่อนไหวบางอย่าง ชายวัยกลางคนร่างผอมสูงคนหนึ่งยืนขึ้น แล้วพูดว่า “ฉัน… ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” พูดจบก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ชายคนนั้นไปเข้าห้องน้ำ ก็มีอีกหลายคนเริ่มแสดงสีหน้าแปลก ๆ และดูเหมือนอยากจะพูด

ชางไห่อดไม่ได้ที่จะมองออกไป

ตอนนี้แหละ

ขณะที่ชางไห่กำลังมองออกไป ฉินมู่หลานก็หยิบผงแป้งออกมา ขณะเดียวกัน ก็มองชางไห่แล้วพูดว่า “หัวหน้าไห่อย่าขยับ ไม่อย่างนั้นถ้าฝังเข็มผิดจะแย่นะคะ”

“เจ้านายครับ ท่านทำการฝังเข็มต่อเลยครับ เดี๋ยวอวี๋หนานกับผมจะดูแลส่วนที่เหลือเองครับ” อวี๋ตงรีบบอก แม้แต่อวี๋หนานก็พยักหน้า

แต่ทันทีที่ทั้งสองพูดจบ ก็มีอีกหลายคนลุกขึ้นยืน และพูดว่า “หัวหน้า พี่ตง พี่หนาน พวกเราขอไปเข้าห้องน้ำกันก่อนนะครับ”

ก่อนที่คนเหล่านั้นจะออกไป อวี๋ตงก็ถามด้วยสีหน้าบูดบึ้ง: “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกแกสองคนต้องไปเข้าห้องน้ำด้วย?”

“พี่ตง พวกเราปวดท้องครับ”

หลังจากพูด คนเหล่านั้นก็ทนไม่ไหวแล้ว จึงรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำโนเวลพีดีเอฟ

ขณะนี้ฉินมู่หลานฝังเข็มเสร็จแล้ว และกำลังรอเวลาดึงเข็มออก เธอจึงเดินเข้าไปหาพวกเขาช้า ๆ แล้วพูดว่า “ไปกินอะไรที่ทำให้ไม่สบายท้องหรือเปล่าคะ? ให้ฉันช่วยจับชีพจรพวกคุณไหม?” ขณะที่พูด เธอได้เดินไปหาอวี๋ตงและอวี๋หนานแล้ว และยกมือขึ้นอย่างใจเย็น

ขณะที่ฉินมู่หลานกำลังจะลงมือ ชางไห่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง

ตอนนี้แหละ…

ฉินมู่หลานฉวยโอกาสในตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึง สาดผงยาทั้งหมดที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อไปทางอวี๋ตง อวี๋หนานและเจ้าผอม

ตอนแรกทุกคนเริ่มวิ่งไปข้างหน้าแล้ว เมื่อพวกเขาเห็นการเคลื่อนไหวของฉินมู่หลาน พวกเขาก็ตอบสนองทันที: “หมอมู่ คุณกำลังทำอะไร ทำไมจู่ ๆ เจ้านายของพวกเราถึงล้มลง คุณทำอะไรกับเขาหรือเปล่า แล้วเมื่อกี้ขว้างอะไรใส่เรา?”

“อ่า… หมอมู่มีฝีมือการรักษายอดเยี่ยมจริง ๆ เธอคงวางยาพวกเราไปแล้ว”

ชางไห่ที่อยู่ด้านบนไม่ได้หมดสติไป แต่เพียงแค่ล้มลงกับพื้น และจ้องมองฉินมู่หลานด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อ

เมื่อเห็นว่าชางไห่ฟื้นแล้ว ฉินมู่หลานก็ขมวดคิ้ว ปริมาณยาที่เธอใช้กับชางไห่นั้นไม่น้อยเลย แต่เขาก็ยังไม่สลบ

หลังจากที่อวี๋ตง อวี๋หนานและคนอื่น ๆ ได้ยินสิ่งที่ชางไห่พูด พวกเขาทุกคนก็จ้องมองฉินมู่หลาน สายตาค่อย ๆ แปรเป็นอำมหิต “หมอมู่ เธอกำลังทำอะไรอยู่ เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าที่พวกเราไม่ฆ่าเธอ ก็เพราะเธอมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม”

แต่ทันทีที่อวี๋ตงพูดจบ เขาก็ทรุดตัวลงกับพื้น

อวี๋หนานเป็นคนคว้าอวี๋ตงไว้ แล้วบอกให้เขาไปนั่งบนเก้าอี้ ขณะที่คนอื่นค่อย ๆ หมดสติไป แม้แต่เจ้าผอมก็มองฉินมู่หลานด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ ก่อนที่จะหมดสติไป เขามองหมอมู่คนนี้ในแง่ดีมาก แต่สุดท้ายหมอคนนี้ก็ยังอยากวางแผนหักหลังพวกเขา คนแบบนี้สมควรตาย

ในไม่ช้า คนส่วนใหญ่ก็หมดสติไปในเวลาเดียวกัน นอกจากอวี๋หนาน หลายคนไม่สามารถควบคุมอาการปวดท้องได้ และมีกลิ่นเหม็นเล็ดลอดออกมา

อวี๋หนานมองพรรคพวกที่เกือบจะถูกกวาดล้าง จากนั้นมองฉินมู่หลานด้วยสีหน้าน่ากลัว แล้วพูดว่า “เธอทำอย่างอื่นด้วยหรือเปล่า ไม่งั้นพวกเขาทุกคนคงไม่ปวดท้อง”

ก่อนที่ฉินมู่หลานจะทันได้ตอบ เจ้าหน้าบากที่นั่งอยู่ตรงมุมก็เดินช้า ๆ เข้ามา

“อวี๋หนาน ยังจะถามอะไรอีกล่ะ นังผู้หญิงสารเลวคนนี้ก็ต้องเป็นคนทำแน่นอน หล่อนมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่เหรอ นอกจากการรักษาคนแล้ว หล่อนยังต้องรู้วิธีใช้ยาเพื่อทำร้ายคนด้วย” ในตอนท้ายของประโยค เขารีบพูดว่า “นายรีบไปดูหัวหน้าไห่ แล้วปล่อยผู้หญิงคนนี้ไว้ให้ฉันจัดการเอง”

เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าบาก อวี๋หนานก็มองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดว่า “เจ้าหน้าบาก เป็นเพราะนายที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้มาปรากฏตัวที่นี่ นายคงไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ใช่ไหม?” แต่เขาเป็นห่วงชางไห่จริง ๆ หลังจากพูดแล้ว เขาก็รีบไปอยู่ข้างชางไห่ แต่เนื่องจากเขาก็ถูกวางยาด้วย การเคลื่อนไหวของเขาจึงไม่คล่องแคล่วเหมือนปกติ

ชางไห่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่ง เมื่อเห็นอวี๋หนานเข้ามาใกล้ก็ถามว่า “อวี๋หนาน แกเป็นยังไงบ้าง?”

“เจ้านายไม่ต้องห่วงครับ ถึงจะโดนวางยานิดหน่อย แต่ก็ยังสบายดี พวกเราจะไม่ปล่อยให้นังผู้หญิงที่วางแผนหักหลังเราหนีไปได้แน่นอนครับ”

ได้ยินดังนั้น ชางไห่ก็ยกยิ้มเย็นชา: “ดีแล้ว ตอนแรกฉันเห็นว่าผู้หญิงคนนี้สามารถรักษาฉันได้ ฉันก็เลยช่วยเหลือหล่อนในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ แต่สุดท้ายหล่อนก็แอบวางแผนหักหลังเรา เธอเป็นนังงูพิษที่จิตใจชั่วร้ายที่สุดจริง ๆ”

ฉินมู่หลานค่อย ๆ ถอยหนี เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าบากไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เลย เช่นเดียวกับอวี๋หนานที่ยังคงยืนตัวตรงได้ ส่วนชางไห่ก็ยังมีสติ เธอรู้ว่าวันนี้สิ่งต่าง ๆ จะยุ่งยากเล็กน้อย คนเหล่านี้ไม่ค่อยเป็นอะไรเลย และไม่ได้ปวดท้องด้วยซ้ำ เกิดอะไรขึ้น

ในเวลานี้เจ้าหน้าบากค่อย ๆ ก้าวเข้าหาฉินมู่หลาน ด้วยสายตาบ้าคลั่ง

“นังตัวดี วันนี้เธอต้องตายแบบไร้ที่กลบฝัง”

“เจ้าหน้าบาก อย่าเพิ่งฆ่าหล่อน จับตัวหล่อนมา แล้วค่อยคิดบัญชีกับหล่อนเมื่อถึงเวลา” ชางไห่เหลือบมองเจ้าหน้าบาก แล้วออกคำสั่ง

เจ้าหน้าบากได้ยินดังนั้นจึงตอบว่า “ได้ครับ”

ฉินมู่หลานวิ่งตรงไปที่ประตูเมื่อเห็นเจ้าหน้าบากวิ่งเข้าหา แต่เจ้าหน้าบากรวดเร็วกว่า เขาอยู่ข้างหลังเธอแล้ว และกำลังเอื้อมมือออกไปคว้าเธอ

“ระวัง.”

ฉินมู่หลานทำท่ายกมือขึ้นเหมือนเมื่อครู่นี้

เจ้าหน้าบากคิดว่าเธอยังมีผงยาเหลืออยู่อีก เขาจึงถอยหลังไปหนึ่งก้าว แล้วรีบปิดปากปิดจมูก

แต่ฉินมู่หลานแสร้งทำเช่นนั้น แล้วรีบวิ่งต่อไปที่ประตู

เมื่อเจ้าหน้าบากเห็นดังนั้นก็รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเหวี่ยงกำปั้นต่อยด้วยความโกรธ

ฉินมู่หลานเห็นแล้วก็รีบหลบอย่างรวดเร็ว แล้วถือโอกาสเตะเจ้าหน้าบาก แต่กลับเตะพลาด เจ้าหน้าบากเบี่ยงตัวหลบได้อย่างง่ายดาย

ฉินมู่หลานรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าหน้าบากแน่นอน เธอจึงหาทางวิ่งออกไปทุกครั้งที่มีโอกาส

เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าบากยังจับฉินมู่หลานไม่ได้ อวี๋หนานก็พูดด้วยความรังเกียจ: “เจ้าหน้าบาก นายมัวทำอะไรอยู่” หลายคนมองว่าหมอมู่คนนี้พอมีทักษะอยู่บ้าง แต่ในสายตาของพวกเขา ฉินมู่หลานรู้แค่เพลงมวยที่สวยแต่กระบวนท่า แต่เอามาใช้การจริงไม่ได้เลย

ฉินมู่หลานเองก็รู้ว่าตนไม่สามารถเอาชนะเขาได้แน่นอน เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับคนโหดร้ายเหล่านี้ ฝีมือต่อสู้ของเธอแทบจะสู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ จนถึงตอนนี้ เธอจึงยังไม่ได้แตะประตูเลยด้วยซ้ำ ในที่สุด เจ้าหน้าบากก็เข้ามาใกล้เธอเรื่อย ๆ

“กรี๊ด…”

ฉินมู่หลานยืนหยัดได้อยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายเธอก็ถูกเจ้าหน้าบากต่อยเข้าที่ไหล่ จนล้มลงกับพื้น

“เฮอะ… ฉันจะดูว่าเธอจะหนีไปไหนได้อีก”

เมื่อเจ้าหน้าบากเห็นฉินมู่หลานล้มลงกับพื้น สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง และกำลังจะเหยียบเธอ

“หยุด…”

ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก แล้วทีมหน่วยรบพิเศษสวมชุดลายพรางที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก็รีบเข้ามา แม้ว่าพวกเขาจะวาดลายพรางบนใบหน้า แต่ฉินมู่หลานก็จำได้อย่างรวดเร็วว่าผู้นำคือเซี่ยเจ๋อหลี่

“อา…”

เธออ้าปาก แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ เพราะกลัวว่าข้อมูลของเขาจะรั่วไหล แต่ขณะนี้ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา และหัวใจก็เต็มไปด้วยความตื้นตัน เมื่อเห็นร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เย้ ได้เจอกันแล้ว พี่หลี่มาในช่วงเวลาที่เกือบจะสิ้นหวังพอดีเลย

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท