ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก – ตอนที่ 96 เชี่ยวชาญการรักษา

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 96 เชี่ยวชาญการรักษา

ตอนที่ 96 เชี่ยวชาญการรักษา

ฉินมู่หลานเห็นว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ฟื้นแล้ว จึงหยุดมือลง ก่อนจะมองเขา “สหายฟู่ไปรับฉันมาน่ะค่ะ ตอนนี้ขอฉันดูแผลของคุณหน่อยสิคะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้นจึงหันมองฟู่ซวี่ตง จากนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แค่พยักหน้าแล้วบอก “ได้สิ”

และในตอนนั้นเอง ในที่สุดถานเล่อเวยก็ได้สติ หล่อนหันมองฉินมู่หลานอย่างไม่เชื่อสายตา ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เธอ…เธอคือภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่เหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”

เฉินเฉี่ยวเซียงที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน พวกหล่อนทราบจากปากของหวังเจียเหอว่าภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่เป็นหญิงสาวบ้านนอกที่ทั้งอ้วนทั้งน่าเกลียด ช่างต่างจากคนสวยใบหน้านิ่งสุขุมตรงหน้านี้เหลือเกิน หรือว่าหวังเจียเหอจะหลอกพวกหล่อนกัน

ฉินมู่หลานรู้สึกรำคาญถานเล่อเวยตั้งแต่แรกแล้ว หลังจากได้ยินคำพูดของหล่อน จึงหันมองหล่อนอย่างครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าหล่อนคงเป็นคนที่แอบปลื้มเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงไม่ชอบใจเธอนัก แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้ หลังจากเปิดผ้าพันแผลออกก็ได้เห็นอาการบาดเจ็บที่ขาของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ชัดเจน

เซี่ยเจ๋อหลี่เองก็ได้เห็นเช่นกัน เขาลืมเสียสนิทว่าขาของตัวบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้จะมีผ้าพันแผลพันเอาไว้ แต่บาดแผลก็ดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงหดขากลับมาทันที “มู่หลาน มันน่ากลัวนะ ตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ด้วย อย่ามองเลย”

ตอนแรกถานเล่อเวยก็ไม่ค่อยชอบฉินมู่หลาน หลังจากได้ยินว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ สายตาจึงฉายแววริษยาเข้าไปใหญ่

ฉินมู่หลานฟังคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว ก็คว้าขาข้างที่บาดเจ็บของเขาเอาไว้แล้วเอ่ยขึ้น “อย่าขยับ เดี๋ยวฉันจะลองดูหน่อย”

หลังจากนั้นก็แตะมือลงบนขาของเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างเบามือ จากนั้นก็ลองกดจิ้มไปทุกที่ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

บนขาขวาของเซี่ยเจ๋อหลี่มีรอยเย็บมากมาย บาดแผลยาวลามตั้งแต่น่องไปจนถึงข้อเท้า เขาจึงมีอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ฟู่ซวี่ตงบอกว่าขาข้างขวาของเขาอาจจะใช้งานไม่ได้ ถึงแม้จะรักษาเอ็นร้อยหวายของเขาได้หายขาดแล้ว แต่ก็จะทิ้งผลข้างเคียงตามมา หากคนอย่างพวกเขาที่ต้องออกไปทำภารกิจบ่อย ๆ มีจุดอ่อนที่ขา เช่นนั้นก็รับรองได้ว่าต้องเป็นอันตราย

คิดดังนั้น ฉินมู่หลานก็หันมองเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วเอ่ยขึ้น “อาการบาดเจ็บตรงขาต้องรีบผ่าตัดด่วนเลย ไม่อยากนั้นจะทิ้งผลข้างเคียงเอาไว้”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ตกใจ

แต่ฟู่ซวี่ตงก็เอ่ยขึ้นก่อน “น้องสะใภ้ ขาของอาหลี่ได้รับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้วครับ หลังจากนี้ต่อไป…หมอบอกแค่ว่าต้องดูแลตัวเองให้ดี แล้วบอกว่าอาจจะ…” เมื่อเอ่ยจบ เขาก็ไม่สามารถพูดต่อไปได้ อันที่จริงแล้วคุณหมอบอกเอาไว้ว่า ขาของเซี่ยเจ๋อหลี่จะต้องมีผลข้างเคียงทิ้งไว้อย่างแน่นอน เขาอาจจะทำภารกิจต่อไปไม่ได้แล้ว และอาจต้องโดนปลดออกจากกองทัพและเปลี่ยนสายอาชีพด้วย

แค่คิดถึงเรื่องพวกนั้น ฟู่ซวี่ตงก็รู้สึกหายใจติดขัดนิดหน่อย ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา หากไม่ใช่เพราะช่วยเขาไว้ เซี่ยเจ๋อหลี่คงไม่ต้องมาบาดเจ็บเช่นนี้

แต่ถึงอย่างนั้น ฉินมู่หลานได้หันไปบอกเซี่ยเจ๋อหลี่ “ฉันมาเพื่อผ่าตัดให้คุณ เดี๋ยวจะทำให้ขาของคุณดูดีเหมือนเดิมโดยไม่ทิ้งผลข้างเคียงอะไรแน่นอนค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินเช่นนั้น จึงหันมองฉินมู่หลานด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “คุณผ่าตัดได้หรือ?”

ฉินมู่หลานพยักหน้า แล้วเอ่ยขึ้น “ค่ะ ฉันทำได้ คุณแค่หาคนมาช่วยเตรียมห้องผ่าตัดให้ฉันเท่านั้น คุณอยากให้ฉันช่วยรักษาให้ไหมคะ?”

เซี่ยเจ๋อหลี่มองลึกเข้าไปในดวงตาของฉินมู่หลาน จากนั้นจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “ครับ”

“เดี๋ยวก่อน…”

ฟู่ซวี่ตงคิดว่าเขาแค่ฟังผิดไป แต่เมื่อมองสีหน้ามั่นใจของฉินมู่หลานกับเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็ทำได้เพียงรู้สึกเหลือเชื่อ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความไม่ค่อยมั่นใจนัก “น้องสะใภ้ คุณรักษาอาการบาดเจ็บของเซี่ยเจ๋อหลี่ได้จริงเหรอ?”โนเวลพีดีเอฟ

ฉินมู่หลานเพียงต้องการผ่าตัดให้เซี่ยเจ๋อหลี่โดยเร็ว หากต้องใช้เวลามากขึ้นอีกหนึ่งนาที มันก็จะทำให้อาการบาดเจ็บที่ขาของเขาฟื้นฟูได้ช้ามากขึ้น เธอจึงเมินคำพูดของฟู่ซวี่ตง แต่กลับมองไปที่เซี่ยเจ๋อหลี่เพื่อเป็นการกระตุ้นเขาแทน “เร็วเข้าค่ะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่ที่ได้รับบาดเจ็บก็คิดว่าคงไม่มีอะไรที่แย่ไปกว่านี้แล้ว เขาจึงหันไปเอ่ยกับฟู่ซวี่ตง “ซวี่ตง นายรีบไปติดต่อโรงพยาบาลให้หน่อย ให้ช่วยเตรียมเครื่องมือ แล้วหลังจากนั้นมู่หลานจะผ่าตัดให้ฉัน”

เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่ ฟู่ซวี่ตงก็ยังไม่ขยับไปไหน แต่กลับหว่านล้อมโดยใช้เหตุผลแทน “อาหลี่ อยากให้อาซ้อผ่าให้จริงเหรอ ขาของนายได้รับการผ่าตัดไปแล้วนะ หมอก็บอกว่ายังมีหวังที่จะฟื้นตัว เราควรจะไปถามหมอเลี่ยวก่อนดีไหม”

หมอเลี่ยวเป็นแพทย์เจ้าของไข้ที่ทำการผ่าตัดให้เซี่ยเจ๋อหลี่ก่อนหน้านี้ มีทักษะทางการแพทย์ที่ดีมาก ฟู่ซวี่ตงจึงเชื่อมั่นในตัวของหมอเลี่ยว

ฉินมู่หลานเห็นฟู่ซวี่ตงยืนนิ่ง ใบหน้าจึงมืดมนลงทันที “คุณไม่ไปช่วยเตรียมตัวล่ะคะ ไม่อยากให้ขาของอาหลี่ดีขึ้นเหรอ”

“น้องสะใภ้ ผมอยากให้ขาของอาหลี่หายอยู่แล้ว แต่ว่าผม…”

เดิมทีฟู่ซวี่ตงต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เมื่อเห็นท่าทางเย็นชาของฉินมู่หลาน เขาก็พูดไม่ออก ทำได้เพียงไปจัดเตรียมของตามความต้องการของทั้งคู่เท่านั้น

เมื่อเห็นว่าฟู่ซวี่ตงกำลังจะไป ถานเล่อเวยก็รีบรั้งแล้วพูดขึ้น “ฟู่ซวี่ตง นายจะบ้าเหรอ หล่อนดูเหมือนคนรู้วิธีผ่าตัดหรือไง ถ้าขาของสหายเซี่ยอาการหนักมากขึ้นจะทำยังไง”

ฟู่ซวี่ตงก็กังวลเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขาหันกลับไปมองฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่ จึงรับรู้ได้ว่าพวกเขาสองคนตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้ารับการผ่าตัด จึงไม่เอ่ยพูดอะไร แล้วรีบวิ่งไปติดต่อโรงพยาบาล

ในตอนแรกโรงพยาบาลไม่เห็นชอบด้วย สุดท้ายเวินโหย่วเหลียงจึงต้องออกโรง แล้วขอให้พวกเขาเตรียมห้องผ่าตัด ตอนนี้เองหมอเลี่ยวที่ทำการผ่าตัดให้เซี่ยเจ๋อหลี่ในตอนแรกได้เดินมาด้วยใบหน้าบูดบึ้งและบอกว่าจะร่วมทำการผ่าตัดครั้งนี้ เขาอยากจะเห็นนักว่าฝีมือการรักษาของญาติผู้ป่วยคนนี้ดีขนาดนั้นเลยหรือ ถึงมั่นใจว่าจะรักษาอาการบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้นได้

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด

ตอนแรกถานเล่อเวยต้องการก่อกวน แต่ก็โดนห้ามเอาไว้ จึงทำได้เพียงมองดูประตูห้องผ่าตัดที่ปิดอยู่ด้วยความกังวล

ฉินมู่หลานเห็นเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังจ้องมองเธออย่างใจจดใจจ่อ จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปลอบใจ “คุณวางใจเถอะค่ะ มันไม่เป็นไรหรอก ขาของคุณจะไม่มีผลข้างเคียงอะไรเกิดขึ้น แค่นอนหลับไปสักตื่นหนึ่งก็เรียบร้อยแล้ว”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดดังนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่จึงหลับตาลง

หมอเลี่ยวที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่าฉินมู่หลานกำลังเอ่ยพูดจาไร้สาระ อาการบาดเจ็บแบบนี้จะไม่หลงเหลืออาการข้างเคียงได้อย่างไร แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เอ่ยอะไรมาก เพียงแค่มองฉินมู่หลานอย่างเงียบ ๆ

หลังจากที่ฉินมู่หลานหยิบเข็มทองที่ถือติดตัวออกมา เธอก็เริ่มลงมือ ก่อนอื่นได้ทำการจิ้มเข็มลงบนขาขวาของเซี่ยเจ๋อหลี่อย่างรวดเร็ว จากนั้นบาดแผลก็โดนเปิดออกอีกครั้ง

สีหน้าของหมอเลี่ยวซีดลง เมื่อคิดว่าฉินมู่หลานทำปากแผลที่เย็บปิดเอาไว้ของเซี่ยเจ๋อหลี่พังหมดจนเขาอาจจะต้องเย็บใหม่ แต่หลังจากที่ได้เห็นการกระทำของฉินมู่หลานอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็ค่อย ๆ หลงใหลไปกับภาพที่เห็นตรงหน้า ทำไมมือคนเราถึงได้รวดเร็วพลิ้วไหวเช่นนี้ ดูจากการเคลื่อนไหวแล้วก็ทราบได้ทันทีว่าเธอเคยมีประสบการณ์มาก่อน

กลายเป็นว่าญาติคนไข้ของเซี่ยเจ๋อหลี่มีฝีมือการรักษาที่ยอดเยี่ยมจริง ดูเหมือนฝีมือของเขาจะเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ฉินมู่หลานยุ่งอยู่กับหน้าที่ของตัวเอง จึงไม่มีเวลามาใส่ใจหมอเลี่ยว โชคดีที่สุดท้ายแล้วหมอเลี่ยวก็ไม่ได้ตกตะลึงอะไร นอกจากนี้ยังเข้ามาช่วย เธอจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

จนกระทั่งการผ่าตัดสิ้นสุดลง ผ่านไปเป็นเวลาทั้งหมดสามชั่วโมง และ ฉินมู่หลานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในท้ายที่สุด ก่อนจะหันมองเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วยกยิ้มพร้อมเอ่ยพูดด้วย “อาหลี่ ขาของคุณเรียบร้อยแล้วนะคะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ยังไงหนอ ใช้เทคนิคการฝังเข็มร่วมกับการเย็บแผลแบบสมัยใหม่งี้เหรอ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

Status: Ongoing
เมื่อแพทย์สาวมือฉมังพบว่าตนเองได้กลายเป็นหญิงอ้วนผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่เป็นที่รักของสามี เธอจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก[嫁七零糙汉后,我双胞胎体质藏不住]ผู้แต่ง : 钰儿เรื่องย่อหลังผชิญวรหนักจนวูบ ฉินมู่หลาน แพทย์สาวมือฉมังก็พบว่าตนองได้มาสวมร่างของหญิงอ้วนหลานสาวผู้เชี่ยวชาญด้นสมุนไพรในยุค 70 ผู้ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากได้สามีหล่อเหลานิสัยดีผู้แสนเย็นขาจากความลั่งรักของตัวเองจจับเขามาแต่งงด้วยสำเร็จ ซึ่งกรสวมวิญญาณในครั้งนี้เธอได้รับภารกิจหลักสามอย่าง หนึ่งคือสร้างเนื้อสร้างตัว สองคือลดน้ำหนักให้ตนเองทำงานทำการสะดวกขึ้น และสามคือทำให้สามีเป็นฝ่ายคลั่งรักเธอแทน คุณหมอฉินจะทำสำเร็จหรือไม่ จะเปลี่ยนเป็นฉินมู่หลานคนใหม่ที่สามีคลั่งรักได้หรือไม่กันนะ?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท