ตอนที่ 105 เจียงเฉิง
ตอนที่ 105 เจียงเฉิง
เวินโหย่วเหลียงได้ยินคำพูดของเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็หันมองเขาเป็นระยะ กระนั้นก็เข้าใจได้ว่าน้องสะใภ้เกือบต้องตายและแท้งลูกเพราะเรื่องนี้ เขาจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ งั้นก็เอาแบบนี้แล้วกัน”
เห็นเวินโหยวเหลียงพูดแบบนี้ เซี่ยเจ๋อหลี่จึงพยักหน้าพร้อมเอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณครับท่านผบ.”
เวินโหย่วเหลียงโบกมือหลังจากได้ยินสิ่งนี้แล้วกล่าวต่อ “ต้องขอบคุณอะไรกันเล่า ให้พูดตามตรงก็เป็นเพราะพวกเราไม่ได้ดูแลที่นี่ให้ดีจนมีเรื่องเกิดขึ้นกับภรรยาของนาย แต่ตอนนี้หล่อนอยู่ที่โรงพยาบาลทหาร ถ้านายไม่มีธุระอะไรที่ต้องทำแล้ว ก็ไปรับหล่อนเถอะ”
“ขอบคุณครับท่านผบ. ถ้าอย่างนั้นผมไปก่อนนะครับ”
เซี่ยเจ๋อหลี่นึกถึงฉินมู่หลานอยู่ตลอด จึงอยากเห็นหน้าเธอด้วยตาตัวเองสักที แล้วอยากถามเธอด้วยว่ารู้สึกกลัวบ้างไหม
แต่ว่า…
ก่อนออกเดินทาง เซี่ยเจ๋อหลี่ก็ได้เตรียมการบางอย่างอีกครั้ง ครั้งนี้เขาต้องการให้ถานเล่อเวยชดใช้ เขาจะทำให้ทุกคนได้รู้นิสัยที่แท้จริงของถานเล่อเวย เขาอยากจะเห็นนักว่าคนนิสัยไม่ดีเช่นนี้ วงการไหนจะยังอยากรับหล่อนเข้าทำงานอีก
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบมุ่งหน้าตรงไปที่โรงพยาบาลทหาร
ส่วนทางด้านฉินมู่หลานนั้น หลังจากทำการผ่าตัดให้เจียงเฉิงแล้ว ก็นั่งลงเพื่อพักผ่อนทันที
หมอเลี่ยวเห็นดังนั้นจึงรีบเอ่ยถาม “หมอฉิน เป็นอย่างไรบ้าง อยากจะไปที่ห้องพักเพื่อพักผ่อนหน่อยไหมครับ”
เขาทราบว่าตอนนี้ฉินมู่หลานกำลังตั้งครรภ์ เมื่อคิดว่าตนเองเป็นคนเชิญมาที่นี่และทำให้อีกฝ่ายก็เหนื่อย จึงรู้สึกผิดนิดหน่อย
แต่อาการบาดเจ็บของเจียงเฉิง ทำให้เขาต้องยอมออกหน้าขอร้องเธออีกครั้ง
ฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้น “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อย พักสักนิดก็ดีขึ้นแล้ว”
แม้เจียงเฉิงจะยังมึนงงกับฤทธิ์ยาสลบ แต่เขาก็รู้สึกตัวบ้างแล้ว จ้องมองไปที่ฉินมู่หลาน พลางเอ่ยถาม “หมอฉิน ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหมครับ?”
เดิมทีเขาไม่เชื่อมือหมอหญิงที่อยู่ตรงหน้าสักเท่าไร เพราะเธอยังดูอายุน้อย แล้วทักษะการแพทย์จะไปดีได้อย่างไรกัน
แต่หมอเลี่ยวกลับชื่นชมเธอมาก ระหว่างที่เธอกำลังทำการผ่าตัดก็ขยับเคลื่อนไหวรวดเร็ว มือนิ่งมั่นคงและละเอียดรอบคอบ แสดงให้เห็นว่าฝีมือการรักษาของเธอดีมากเพียงใด แต่ดูแล้วสุขภาพร่างกายของหมอฉินดูจะไม่ค่อยดีเท่าใดนัก หลังจากผ่าตัดเสร็จจึงฝืนต่อไม่ไหว
“ฉันไม่เป็นไรจริง ๆค่ะ”
ฉินมู่หลานฟื้นตัวแล้ว ขณะเดียวกันก็หันมองเจียงเฉิงด้วยรอยยิ้มแล้วกล่าว “คุณถือว่าโชคดีมากค่ะ แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น เจียงเฉิงก็เพียงแต่รู้สึกเหลือเชื่อมาก “จริงเหรอครับ ขาซ้ายของผมยังมีหวังอยู่เหรอครับ?”
“แน่นอนค่ะ ฉันบอกว่าได้ก็ต้องได้”
สีหน้าของฉินมู่หลานในเวลานี้เต็มไปด้วยความมั่นใจ จึงทำให้ผู้คนเชื่อตามคำพูดของเธอโดยไม่รู้ตัว
เจียงเฉิงอดไม่ได้ที่จะตะลึงเมื่อเห็นฉินมู่หลานเป็นเช่นนี้ หลังจากนั้นก็เริ่มผุดรอยยิ้มขึ้นมา แล้วพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยครับหมอฉิน”
หมอเลี่ยวมองเจียงเฉิงด้วยสีหน้าสบายใจ ก่อนจะพูดขึ้น “ในเมื่อหมอฉินยืนกรานแบบนั้นแล้ว อย่างนั้นอาการบาดเจ็บของคุณก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะครับ ครั้งก่อนขาของสหายเซี่ยเจ๋อหลี่ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน ทางโรงพยาบาลของเราก็ทำอะไรไม่ได้เลย ต่างคิดว่าเขาต้องออกจากกองทัพแน่แล้ว แต่หมอฉินก็ได้ลงมือผ่าตัดให้ ตอนนี้สหายเซี่ยเจ๋อหลี่หายดีจากอาการบาดเจ็บแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้กลับเข้าทีมและเริ่มฝึกซ้อมแล้วด้วยครับ”
เจียงเฉิงรู้จักเซี่ยเจ๋อหลี่อยู่แล้ว ได้ยินว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ไม่คิดเลยว่าอาการของเขาจะสาหัสมากขนาดนี้
“ดูเหมือนว่าทั้งเซี่ยเจ๋อหลี่กับผมจะโชคดีมากเลยนะครับที่ได้พบหมอฉิน”
หมอเลี่ยวเอ่ยต่อพร้อมรอยยิ้ม “คุณน่ะโชคดีแล้ว หมอฉินเป็นภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่ เขาก็ต้องได้เจอเธออยู่แล้วครับ เป็นเพราะเซี่ยเจ๋อหลี่ได้รับบาดเจ็บครั้งก่อน หมอฉินถึงได้มาที่นี่ คุณก็เลยบังเอิญได้มาพบหล่อนเหมือนกัน”
“อะไรนะ…หมอฉินเป็นภรรยาของเซี่ยเจ๋อหลี่เหรอครับ?”โนเวลพีดีเอฟ
เจียงเฉิงพลันมีสีหน้าประหลาดใจ ได้แต่รู้สึกเหลือเชื่อ
“เซี่ยเจ๋อหลี่แต่งงานแล้วเหรอ?” เขาไม่ได้กลับมานานจนกระทั่งเซี่ยเจ๋อหลี่ก็แต่งงานไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีภรรยาที่ดีขนาดนี้ด้วย ทำไมเจ้าหมอนั่นถึงได้โชคดีทุกอย่างเลยนะ
ฉินมู่หลานได้ยินเจียงเฉิงพูดดังนั้น จึงทราบว่าเขาเองก็รู้จักเซี่ยเจ๋อหลี่เหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาพูดเรื่องนี้
“หมอเลี่ยวคะ รีบพาสหายเจียงกลับวอร์ดกันเถอะค่ะ เขายังต้องได้รับการดูแลอย่างดีต่อไปอีก ฉันจะมาฝังเข็มให้เขาวันเว้นวัน เพื่อไม่ให้ผลข้างเคียงหลงเหลืออยู่”
หมอเลี่ยวได้ยินแล้วจึงรีบพยักหน้า กล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว “ครับ ขอบคุณหมอฉินที่ทำงานอย่างหนักมากเลยครับ”
เมื่อหมอเลี่ยวกับฉินมู่หลานส่งเจียงเฉิงกลับวอร์ดแล้ว เซี่ยเจ๋อหลี่ก็มาพอดี
“มู่หลาน คุณทำงานที่นี่เสร็จหรือยัง สีหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลยนะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
เมื่อเห็นฉินมู่หลาน เซี่ยเจ๋อหลี่ก็รีบก้าวเข้าไปทันที พลางเอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ฉินมู่หลานรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เซี่ยเจ่อหลี่มา “คุณมาได้ยังไงคะ ไม่ต้องซ้อมเหรอ?”
“ผมฝึกซ้อมเสร็จแล้ว ก็เลยมารับคุณ”
เจียงเฉิงเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ด้านข้าง แทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าเซี่ยเจ๋อหลี่ผู้แสนเย็นชาสันโดษจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้
ในใจของเซี่ยเจ๋อหลี่กำลังคิดแต่เรื่องของฉินมู่หลาน และเป็นตอนนี้เองที่เขาเพิ่งเห็นเจียงเฉิงนอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาล
“เจียงเฉิง? ทำไมเป็นนาย?”
ปรากฎว่าคนไข้ที่มู่หลานมารักษาคือเจียงเฉิง เขาไม่รู้มาก่อนเลยจริง ๆ
เจียงเฉิง “……”
เขาหายใจอยู่ตรงนี้มาตลอด แต่เซี่ยเจ๋อหลี่เพิ่งสังเกตเห็นเขาในตอนนี้ “ใช่ ฉันเองล่ะ ฉันบาดเจ็บจากภารกิจครั้งนี้นิดหน่อยน่ะ”
“ของนายคงไม่ได้เรียกว่าบาดเจ็บเล็กน้อยหรอก ขนาดหมอเลี่ยวต้องไปตามตัวมู่หลานมาดูให้แบบนี้” พูดจบก็หันไปถามฉินมู่หลาน “มู่หลาน อาการของเจียงเฉิงเป็นยังไงบ้าง?”
“วางใจได้ เขาไม่เป็นไรแล้วค่ะ ต่อไปฉันจะมาฝังเข็มให้เขาวันเว้นวัน”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานพูดแบบนั้น เซี่ยเจ๋อหลี่ก็โล่งใจ ถึงอย่างไร…เจียงเฉิงก็เป็นลูกชายของผู้บัญชาการของพวกเขา
แต่เมื่อเซี่ยเจ๋อหลี่ได้ยินว่ามู่หลานจะมาโรงพยาบาลวันเว้นวันเพื่อฝังเข็มให้เจียงเฉิง เขาก็รู้สึกไม่สบายใจนิดหน่อย
“มู่หลาน แบบนี้คุณจะเหนื่อยที่ต้องไปกลับไหม ตอนนี้คุณเพิ่งเริ่มตั้งท้องเอง ถ้าเหนื่อยเกินไปคงไม่ดีกับทั้งคุณและลูก”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
พูดจบ เขาก็อดที่จะพูดต่อไม่ได้ “ให้ผมมาส่งคุณที่นี่ทุกวันดีไหม”
เจียงเฉิงทราบว่าฉินมู่หลานกำลังตั้งครรภ์ในตอนนี้เอง จึงไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมหมอเลี่ยวกับเซี่ยเจ๋อหลี่ถึงเป็นกังวลมากขนาดนี้
เมื่อนึกถึงว่าอีกฝ่ายจะต้องมาฝังเข็มให้ตนสักระยะ เขาก็กำลังจะเอ่ยพูดอะไรบางอย่าง แต่แล้วประตูห้องพักผู้ป่วยกลับถูกเปิดออกก่อน
“อาเฉิง…”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ เจียงเฉิงก็หันไปมองด้วยความแปลกใจ หลังพบว่าเป็นพ่อของตนกำลังเข้ามา จึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “พ่อมาได้ไงครับ”
เจียงอันปังเห็นลูกชายดูไม่พอใจก็รู้สึกโล่งใจ จากนั้นก็มองค้อนเขากลับก่อนจะเอ่ยขึ้น “ก็ได้ยินว่าแกบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่เหรอ ฉันถึงได้มาที่นี่ไง”
ในตอนนั้นเอง หมอเลี่ยวก็เอ่ยขึ้น “ผบ.ครับ อาการบาดเจ็บของเจียงเฉิงสาหัสมากจริง ๆ โชคดีที่หมอฉินมาทำการผ่าตัดให้ด้วยตัวเอง จึงทำให้เขาไม่มีผลข้างเคียงอะไร”
ได้ยินเช่นนั้น เจียงอันปังจึงอดที่จะหันมองฉินมู่หลานเสียไม่ได้ หลังจากนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้แล้วเอ่ยกล่าวขึ้น “ผมเคยได้ยินเรื่องของคุณอยู่ ตอนนี้โรงงานยากำลังปรุงสูตรยาตามใบสั่งยาที่คุณให้มา หนึ่งในนั้นคือยาห้ามเลือดและยากระตุ้นการไหลเวียนเลือด ได้ยินว่าให้ผลรักษาดีมาก”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจอคนใหญ่คนโตอีกแล้ว จะมีบทบาทสำคัญหลังจากนั้นไหมนะ
ไหหม่า(海馬)