ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 711 ก่อเรื่อง (ต้น)

ตอนที่ 711 ก่อเรื่อง (ต้น)

อิง​เหนียง​นอน​รอ​ข่าว​อยู่​บน​เตียง​ตลอด​ ​จนกระทั่ง​ถึง​ยาม​จื่อ​ก็​มี​ป้า​รับใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​และ​คุณชาย​น้อย​ห้า​กลับมา​ดึก​เลย​บังเอิญ​เจอกัน​ที่​หน้า​ประตู​พอดี​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​กับ​คุณชาย​น้อย​ห้า​จึง​นอน​ที่​เรือน​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​เจ้าค่ะ​ ​คุณชาย​น้อย​หก​บอกว่า​ ​วันนี้​ดึก​มาก​แล้ว​พรุ่งนี้​เช้า​ค่อย​เข้ามา​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สี่​เจ้าค่ะ​”

อิง​เหนียง​ถอนหายใจ​ ​ให้เงิน​รางวัล​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ ​ใน​ใจ​เอาแต่​นึกถึง​เรื่อง​ที่​จิ​่น​เกอ​ชกต่อย​กับ​คนอื่น​ ​แต่ว่า​ตอนนี้​ลาน​ใน​ปิดประตู​แล้ว​…​นาง​หลับ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ตื่นขึ้น​มา​ฟ้า​ยัง​มืด​อยู่​ ​จึง​เรียก​สือ​เยี​่​ยน​ ​สาวใช้​ที่​เฝ้ายาม​เข้ามา​ถาม​ ​“​ตอนนี้​ยาม​ใด​แล้ว​”

สือ​เยี​่​ยน​คือ​สาวใช้​ที่​ติดตาม​อิง​เหนียง​มาจาก​อวี​๋​หัง​ ​นาง​วิ่ง​ไป​ที่​ดู​นาฬิกาไขลาน​ที่​ห้องโถง​ ​“​ยาม​อิ​๋น​เจ้าค่ะ​ ​ยัง​เช้า​อยู่​ ​ท่าน​นอน​ต่อ​อีก​สักหน่อย​เถิด​!​”

ลาน​ใน​เปิด​ประตู​ยาม​ยาม​เหม่า

อิง​เหนียง​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​“​เจ้า​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ ​ข้า​จะ​ไป​เรือน​ชิง​หยินจ​วี​”

สือ​เยี​่​ยน​ยิ้ม​ ​“​คุณนาย​น้อย​ห้า​ไม่ต้อง​ห่วง​เจ้าค่ะ​ ​ในเมื่อ​คุณชาย​น้อย​ห้า​บอกว่า​จะ​นอน​ที่​เรือน​ของ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​เขา​ก็​ต้อง​นอน​ที่นั่น​แน่นอน​เจ้าค่ะ​ ​แล้วยัง​มีคุณ​ชายน้อย​สอง​อยู่​ด้วย​อีก​”

พวก​นาง​สอง​คนสนิท​สนม​กัน​ ​มักจะ​หยอกล้อ​กัน​บ่อยๆ​ ​แต่​ครั้งนี้​อิง​เหนียง​ไม่รู้​สึก​ตลก​ด้วย​ ​สือ​เยี​่​ยน​รีบ​หุบ​ยิ้ม​ ​ย่อเข่า​คำนับ​ด้วย​ความเคารพ​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​สาวใช้​เข้ามา​รับใช้​อิง​เหนียง​แต่งตัว

อิง​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ชิง​หยินจ​วี​ตั้งแต่​เช้าตรู่

คนใน​เรือน​ชิง​หยินจ​วี​พึ่ง​จะ​ตื่นนอน​ ​บรรดา​สาวใช้​ต่าง​ก็​สะลึมสะลือ​ ​หง​เหวิน​แต่งงาน​ออก​ไป​แล้ว​ ​อาจิน​สาวใช้​ใหญ่​ ​ถึงแม้ว่า​บน​ใบหน้า​จะ​มี​รอยยิ้ม​แต่​ใน​แววตา​ของ​นาง​กลับ​ไร้​ซึ่ง​รอยยิ้ม​

“​คุณนาย​น้อย​ห้า​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ไม่​รอ​ให้​อิง​เหนียง​พูด​อะไร​ก็​รีบ​ต้อนรับ​อิง​เหนียง​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​ทันที​ ​“​จะ​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​สั่นเทา​พร้อม​น้ำตา​คลอ​เบ้า​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​มุม​ปาก​แตก​ ​ใบหน้า​ก็​บวม​เป่ง​ ​ประเดี๋ยว​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ ​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​เล่า​เจ้า​คะ​”

แต่​อิง​เหนียง​กลับ​รีบ​ถาม​ว่า​ ​“​ยัง​มี​แผล​ที่อื่น​อีก​หรือไม่​”

“​ไหล่​ช้ำ​เจ้าค่ะ​”​ ​อาจิน​ส่ายหน้า​ ​“​นอกนั้น​ก็​ไม่มี​แผล​ที่ไหน​อีกแล้ว​”

อิง​เหนียง​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

“​คุณชาย​น้อย​สอง​เข้ามา​ส่ง​คุณชาย​น้อย​หก​แล้วก็​ออก​ไป​ทันที​ ​ถึง​ตอนนี้​ก็​ยัง​ไม่เห็น​เงา​ของ​เขา​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​อาจิน​พูด​เบา​ๆ​ ​“​แต่ว่า​คุณชาย​น้อย​ห้า​ใช้​น้ำเย็น​ประคบ​มุม​ปาก​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​อยู่​ตลอด​”​ ​ใน​น้ำเสียง​มี​ความไม่พอใจ​สวี​ซื่อ​อวี​้

อิง​เหนียง​แปลกใจ

จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ที่​สดใส​ร่าเริง​ของ​จิ​่น​เกอ​ดัง​ออกมา​จาก​ใน​ห้อง​ ​“​พี่สะใภ้​ห้า​ ​เหตุใด​ถึง​มา​เช้า​ขนาด​นี้​เล่า​”

อิง​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​จิ​่น​เกอ​ที่​สวม​เสื้อ​สีฟ้า​เปิดม่าน​ออกมา

ใบหน้า​ของ​เขา​ขาว​ราวกับ​หยก​ ​รอย​ช้ำ​ตรง​มุม​ปาก​เลย​สะดุดตา​เป็นพิเศษ

อิง​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​สงสาร​ ​นาง​ยื่นมือ​ออก​ไป​แตะ​ ​แต่​ก็​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้​เขา​เจ็บ​ ​มือ​ที่​ยื่น​ออก​ไป​หยุดชะงัก​อยู่​กลางอากาศ​ ​นาง​ถาม​เขา​อย่างระมัดระวัง​ ​“​เจ็บ​หรือไม่​”

“​ไม่​เจ็บ​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ฉีก​ยิ้ม​แต่กลับ​กระเทือน​ไป​ยัง​แผล​ที่​มุม​ปาก​ ​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ยิ้ม​ก็​ทำ​สีหน้า​ขมขื่น​ ​ทำให้​เขา​มีสี​หน้า​ตลก​ ​“​ตอนนั้น​ไม่ได้​ระวัง​ ​ตอนนี้​ไม่รู้​สึก​อะไร​แล้ว​ขอรับ​”

“​อยู่​ต่อหน้า​ข้า​ยัง​แสร้งทำ​เป็น​แข็งแกร่ง​?​”​ ​อิง​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​บ่น​ ​“​สุภาพบุรุษ​จะ​ไม่​ให้​ตัวเอง​ตก​อยู่​ใน​ที่​ที่​อันตราย​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ไป​ต่อย​กับ​คนอื่น​ ​ข้า​จะ​คอย​ดู​ว่า​เจ้า​จะ​จัดการ​เรื่อง​ที่​ตามมา​เช่นไร​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หันไป​ถาม​อาจิน​ ​“​มี​ผงกุ​หลาบ​หรือไม่​ ​นำ​ไป​ผสม​กับ​ผง​หูเ​ฝิ่น​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ปิด​แผล​ได้​หรือไม่​”​ ​นาง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ข้ามี​ผงกุ​หลาบ​”​ ​จากนั้น​ก็​ตะโกนเรียก​สือ​เยี​่​ยน​ ​“​…​เจ้า​ไป​นำมา​เร็ว​เข้า​!​”

สือ​เยี​่​ยน​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

“​ข้า​ไม่ใช่​ผู้หญิง​เสียหน่อย​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​ไม่ยอม​รีบ​พูดเสี​ยง​ดัง​ ​“​จะ​ให้​ทา​แป้ง​บน​ใบหน้า​ได้ที่​ไหน​กัน​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​อยู่​ใกล้​ขนาด​นั้น​ ​ถึงแม้ว่า​ท่าน​ย่า​จะ​สายตาสั้น​ ​แต่​ได้กลิ่น​แป้ง​ก็​คงจะ​สงสัย​ ​ไม่​สู้​คิด​หาวิ​ธี​อื่น​ยัง​จะ​ดี​เสีย​กว่า​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​คิด​ว่า​ควร​ทำ​เช่นไร​”​ ​อิง​เหนียง​เบิกตา​กว้าง​ใส่​เขา​ ​“​บอกว่า​เจ้า​หกล้ม​?​ ​เจ้า​เริ่ม​ฝึก​ย่อเข่า​ตั้งแต่​อายุ​หก​ขวบ​ ​ถึง​จะ​ผลัก​ใคร​ล้ม​ได้​แต่​ก็​ผลัก​เจ้า​ไม่​ล้ม​!​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​รีบ​พูด​ ​“​ใช่​แล้ว​ ​เรื่อง​เมื่อวาน​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​ฉั​งอาน​ ​สุย​เฟิง​และ​คนอื่นๆ​ ​เป็น​อะไร​หรือไม่​ ​แล้วยัง​มี​ใคร​รู้เรื่อง​นี้​อีก​ ​ได้ยิน​ว่า​อีก​ฝ่าย​มาจาก​ไหว​อาน​ ​ซ้ำ​ยัง​บอกว่า​หาก​เกิดเรื่อง​ต่อหน้า​พระพักตร์​ฮ่องเต้​ก็​ไม่​กลัว​ ​รู้​หรือยัง​ว่า​พวกเขา​เป็น​ใคร​”

“​ไม่ต้อง​ห่วง​ขอรับ​!​ ​คน​เหล่านั้น​คิด​ว่า​ตัวเอง​เก่งกาจ​ ​ไม่เห็น​คน​ของ​ศาล​ว่าการ​และ​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​อยู่​ใน​สายตา​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​สถานการณ์​เริ่ม​แย่​ก็​ไป​เรียก​คน​มาช​่วย​ ​พวก​ข้า​หนี​ออก​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูด​ด้วย​สีหน้า​ที่​มี​ความภาคภูมิใจ​ ​“​ฉั​งอาน​ ​สุย​เฟิง​และ​คนอื่นๆ​ ​ได้รับบาดเจ็บ​เล็กน้อย​ ​ทายา​ประเดี๋ยวเดียว​ก็​หาย​…​แต่​สำหรับ​ไอ้​คน​พวก​นั้น​ ​คง​ต้อง​นอน​ติด​เตียง​ไป​ปี​ครึ่ง​ ​ไม่ต้อง​หวัง​ที่จะ​ลง​จาก​เตียง​!​”​ ​เขา​พูด​ต่อไป​ ​“​ไม่​ดู​ว่า​เป็น​ที่​ของ​ใคร​ก็​กล้ามา​หยิ่งยโส​โอหัง​ ​มังกร​ยัง​จะ​เกรงกลัว​งู​ใต้ดิน​อย่างนั้น​หรือ​ ​สมน้ำหน้า​พวก​มัน​!​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​ท่าที​ดูถูก​ ​“​องครักษ์​ที่​ข้า​พา​ไป​ด้วย​สอง​สาม​คน​ ​ล้วนแต่​เป็นยอด​ฝีมือ​ของ​จวน​สกุล​เรา​ ​หาก​พวกเขา​เอาชนะ​ได้​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​จวน​สกุล​หย่ง​ผิง​โหว​ของ​เรา​คง​ต้อง​เก็บ​ป้าย​จวน​มาซ​่อน​ไว้​กระมัง​ ​จะ​ได้​ไม่​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า​”

“​พูดจา​เหลวไหล​”​ ​อิง​เหนียง​ตกใจ​ ​“​ทำไม​เจ้า​ถึง​บุ่มบ่าม​เช่นนี้​ ​ชนะ​ก็​พอแล้ว​ ​ทำไม​ต้อง​ต่อย​พวกเขา​ขนาด​นั้น​ ​ควร​ปล่อย​พวกเขา​ไป​ก็​ต้อง​ปล่อย​พวกเขา​ ​ข้า​ได้ยิน​บ่าว​รับใช้​บอกว่า​ ​พวก​เจ้า​เป็น​คน​หาเรื่อง​พวกเขา​ก่อน​…​”

“​ข้า​หาเรื่อง​พวกเขา​ก่อน​?​ ​พวกเขา​มาหา​เรื่อง​ข้า​ก่อน​ต่างหาก​!​”​ ​นาง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​กระโดด​ขึ้น​มารา​วกับ​แมว​ที่​ถูก​เหยียบ​หาง​ ​“​ข้า​ออกมา​จาก​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ ​ไม่​ระวัง​ทำ​ม้า​ของ​พวกเขา​ตกใจ​ ​ข้า​ขอโทษ​พวกเขา​แล้วแต่​พวกเขา​ยัง​ตาม​ไป​ถึง​โรงน้ำชา​ ​ข้า​เห็น​พวกเขา​หยิ่งยโส​โอหัง​ ​อยาก​จะ​ต่อย​คน​ของ​พวกเขา​สัก​สอง​คน​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​บอกว่า​จะ​เลี้ยง​สุรา​ขอขมา​พวกเขา​ที่​หอ​ชุน​ซี​ ​ ​ถือว่า​หายกัน​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​พวกเขา​ไม่เพียงแต่​ไม่​รับ​น้ำใจ​ ​ซ้ำ​ยัง​เรียก​คน​มา​อีก​ตั้ง​หลาย​คน​…​ท่าน​จะ​ให้​ข้า​ทำ​เช่นไร​ ​ข้า​คิด​ว่า​ข้ามี​เมตตา​ที่สุด​แล้ว​ ​หรือ​จะ​ให้​ข้า​ยืน​เฉยๆ​ ​ปล่อย​ให้​พวกเขา​ต่อย​ฝ่าย​เดียว​อยู่​ตรงนั้น​”

อิง​เหนียง​จับ​ช่องโหว่​ใน​คำพูด​ของ​เขา​ได้​ทันที​ ​“​เจ้า​บอกว่า​จะ​ออก​ไป​เดินเล่น​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ไป​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​เล่า​ ​แล้ว​ทำไม​ยัง​ทำให้​ม้า​ของ​พวกเขา​ตกใจ​ ​ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนี้​ ​เจ้า​ขอโทษ​แล้ว​ ​คน​เฝ้า​ประตู​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ใช่​ว่า​จะ​ไม่รู้​จัก​เจ้า​ ​พวก​เจ้า​ทะเลาะ​กัน​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่มี​คน​ของ​จวน​ติ้งกั​๋​วก​งอ​อก​มา​ไกล่เกลี่ย​เลย​ ​แล้วยัง​ปล่อย​ให้​พวกเขา​ตาม​ไป​ถึง​โรงน้ำชา​”

จิ​่น​เกอ​ถูก​นาง​เค้น​ถาม​ ​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ก็​มีเสียง​เบา​ๆ​ ​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ตอนนั้น​เขา​สวม​เสื้อ​บ่าว​รับใช้​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ออกมา​จาก​ซอย​เล็ก​ๆ​ ​ของ​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ ​ทำให้​คน​สอง​สาม​คน​ตกใจ​จน​เกือบจะ​ตก​ม้า​”

“​พี่​สอง​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​หน้าแดง​ด้วย​ความ​เก้อเขิน

อิง​เหนียง​มองออก​ไป

สวี​ซื่อ​อวี​้​ยัง​สวม​เสื้อ​ตัว​เมื่อวาน​ ​สีหน้า​ของ​เขา​มี​ความเหนื่อย​ล้า

“​เขา​สวม​เสื้อ​บ่าว​รับใช้​เลย​ไม่มีใคร​มองออก​ว่า​เขา​คือ​จิ​่น​เกอ​”​ ​เขา​พูด​แล้ว​เดิน​เข้ามา​ ​“​ผู้ว่าการ​กรม​ขนส่ง​เสบียงอาหาร​มีอำนาจ​ใน​ไหว​อาน​ ​เฉิน​จี๋​ ​บุตรชาย​คนเดียว​ของ​เขา​โตมา​กับ​เขา​ที่​ไหว​อาน​ ​ถูก​เลี้ยงดู​ราวกับ​สมบัติ​ล้ำค่า​จึง​ทำให้​เขา​ไม่เห็น​ใคร​อยู่​ใน​สายตา​ ​ครั้งนี้​เขา​กลับมา​เมืองหลวง​ตาม​พระราช​โองการ​ ​จิ​่น​เกอ​ขอโทษ​แล้วก็​วิ่งหนี​ ​ไม่มี​ความจริงใจ​ ​เฉิน​จี๋​จะ​ยอม​ปล่อย​เขา​ไป​ได้​อย่างไร​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​มอง​ไป​ที่​จิ​่น​เกอ​ ​“​เจ้า​ต่อย​ผู้ติดตาม​สอง​คน​ของ​เฉิน​จี๋​บาดเจ็บ​ ​บอกว่า​จะ​เลี้ยง​สุรา​ที่​หอ​ชุน​ซี​ ​ตอนนั้น​พวกเขา​ก็​ตื่นตระหนก​แล้ว​ ​ถาม​ว่า​เจ้า​คือ​คน​ของ​ใคร​ ​แต่​เจ้า​กลับ​บอกว่า​เป็น​สกุล​ญาติ​ของ​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ ​สกุล​ญาติ​ของ​ติ้งกั​๋​วกง​จะ​ออกมา​จาก​ซอย​เล็ก​ๆ​ ​อย่างนั้น​หรือ​ ​คน​เฝ้า​ประตู​จะ​ไม่รู้​จัก​สกุล​ญาติ​ของ​ติ้งกั​๋​วกง​?​ ​แบบนี้​เจ้า​จะ​ให้​เฉิน​จี๋​คิด​อย่างไร​ ​เขา​คิด​ว่า​เจ้า​กำลัง​ล้อเล่น​กับ​พวกเขา​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​ต้อง​โมโห​”

“​พี่​สอง​ขอรับ​”​ ​จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​แห้ง​ ​“​ข้า​เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ดู​ไม่​เกรงกลัว​ราวกับ​มี​คน​หนุนหลัง​ ​ถ้า​บอกว่า​เป็น​คน​สกุล​สวีทำ​ให้​พวกเขา​รู้​ว่า​เรา​คือ​ใคร​ ​หาก​พวกเขา​ฉวยโอกาส​ล่ะ​ขอรับ​ ​พอ​รู้​แล้วก็​หา​โอกาส​ลอบ​โจมตี​ ​ตอนนั้น​ข้า​เลย​บอกว่า​เป็น​คน​ของ​ท่าน​ลุง​สี่​!​”

กลัว​พ่อ​สามี​จะ​รู้​ว่า​เขา​ต่อย​กับ​คนอื่น​ข้างนอก​ ​หรือ​กลัว​คนอื่น​จะ​ล่วงรู้​ตัวตน​ของ​เขา​กัน​แน่​?​ ​อิง​เหนียง​สงสัย​

แต่​สวี​ซื่อ​อวี​้​กลับ​ไม่​ปฏิเสธ​ ​เขา​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​บอกอ​งค​รักษ์​สอง​สาม​คนที​่​บาดเจ็บ​เอาไว้​แล้ว​ ​ช่วงนี้​พวกเขา​ไป​ไหน​มา​ไหน​กับ​เจ้า​ตลอด​ ​แล้วก็​ใกล้​ปีใหม่​แล้ว​ ​ข้า​ให้​ฝ่าย​รักษาการณ์​หยุดงาน​ให้​พวกเขา​ ​หลังจาก​ขึ้นปีใหม่​ ​แผล​ของ​พวกเขา​ก็​คงดี​ขึ้น​ ​สำหรับ​แผล​ของ​เจ้า​…​”​ ​เขา​เหลือบมอง​จิ​่น​เกอ​เป็นนัย​ ​“​เมื่อคืน​ ​ข้า​หา​พ่อ​ลูกคู่​หนึ่ง​เข้ามา​ใน​จวน​ ​ให้​พวกเขา​อยู่​ที่​ลาน​ซีค​ว่า​ทาง​ทิศตะวันออก​…​”

“​พี่​สอง​ขอรับ​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​เข้าใจ​ทันที​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​กอด​แขน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​ข้า​บอก​แล้ว​ ​ด้วย​ความสามารถ​ของ​พี่​สอง​จะ​ไม่มี​แผน​รับมือ​ได้​เช่นไร​ ​พี่สะใภ้​ห้า​ ​ท่าน​เห็น​หรือไม่​เล่า​ว่า​พี่​สอง​มีแผน​เช่นนี้​ ​ถึง​ตอนนั้น​หาก​ท่าน​แม่​หรือ​ท่าน​ย่า​ถาม​ ​ข้า​ก็​จะ​บอกว่า​ข้า​เห็น​สอง​พ่อ​ลูก​ถูก​รังแก​จึง​เข้าไป​ช่วย​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พี่​สอง​ ​ท่าน​ใช้เวลา​คิด​ตั้ง​นาน​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​เลี้ยง​อาหาร​ท่าน​ที่​หอ​แสดง​เอง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​อิง​เหนียง​ว่า​ ​“​พี่​ห้า​ก็​ไป​ด้วย​ ​พี่สะใภ้​ห้า​ชอบ​ทาน​อะไร​ ​ข้า​บอก​ให้​คน​นำ​กลับมา​ให้​ขอรับ​!​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​เห็น​เช่นนี้​ ​สายตา​ของ​เขา​ก็​แฝง​ไป​ด้วย​ความรัก​และ​เอ็นดู​ที่​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น

อิง​เหนียง​ตกใจ​ ​ไม่สน​ใจ​จิ​่น​เกอ​แล้ว​หันไป​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​เช่นนี้​ ​จะ​ได้ผล​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่​พูด​อะไร​ ​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ถาม​จิ​่น​เกอ​ ​“​เจ้า​ไป​ทำ​อะไร​ที่​จวน​ติ้งกั​๋​วกง​ ​มี​ประตู​ดี​ๆ​ ​ไม่​เข้า​ ​เหตุใด​ถึง​ต้อง​สวม​เสื้อ​บ่าว​รับใช้​แล้ว​แอบ​ออกมา​จาก​ใน​ซอย​เล็ก​ๆ​”

จิ​่น​เกอ​พูดไม่ออก

“​ไอ​๊​หยา​ ​สวม​เสื้อ​บ่าว​รับใช้​จะ​ได้​ไม่มีใคร​จับตามอง​อย่างไรเล่า​!​ ​พี่​สอง​ไม่ได้​ฉลอง​ปีใหม่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​นาน​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ขอรับ​ ​ท่าน​ไม่รู้​ว่า​ถนน​ตง​ต้า​และ​ถนน​ซี​ต้า​แออัด​แค่ไหน​ ​ข้า​เลย​สงสัย​ว่า​ทำไม​คน​ทั้ง​เยี​่​ยน​จิง​ล้วนแต่​ไป​อยู่​ที่นั่น​กัน​หมด​…​”

เขา​พูดจา​เหลวไหล

สวี​ซื่อ​อวี​้​มอง​เขา​อย่างเงียบเชียบ

อิง​เหนียง​ตระหนัก​อะไร​ขึ้น​มา​ได้

ครั้งก่อน​นาง​ไป​งานเลี้ยง​ที่​สกุล​เวย​เป่ย​โหว​ ​เหมือน​ได้ยิน​คนพูด​ว่า​ ​จวน​ติ้งกั​๋ว​มีคุณ​ชาย​ท่าน​หนึ่ง​ที่​อยาก​อภิเษกสมรส​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​แล้วยัง​เชิญ​แม่​สามี​มาช​่ว​ยพูด​ให้​…

“​จิ​่น​เกอ​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ ​“​เจ้า​แอบ​ไปดู​คุณชาย​สกุล​ติ้งกั​๋​วก​งค​นนั​้น​ให้​องค์​หญิง​ใหญ่​ใช่​หรือไม่​”

จิ​่น​เกอ​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ

สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​ดังนั้น​สีหน้า​ของ​เขา​ก็​เคร่งขรึม​ ​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

อิง​เหนียง​พูด​ด้วย​ความไม่สบายใจ​ ​“​วันนั้น​ข้า​และ​จิ​่น​เกอ​กำลัง​เล่น​กัน​อยู่​ที่​ลาน​ของ​ท่าน​แม่​…​”

“​ช่างมัน​เถิด​!​ ​ในเมื่อ​พี่สะใภ้​ห้า​รู้​แล้ว​ ​ข้า​เล่า​เอง​ดีกว่า​!​”​ ​เขา​ก้มหน้า​ลง​ ​เอ่ย​ขัด​คำพูด​ของ​อิง​เหนียง​ด้วย​ท่าทาง​อ่อนแรง​ ​“​เรื่อง​อภิเษกสมรส​ของ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​มีตัว​เลือก​มากมาย​ ​แต่​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​ตัดสินใจ​ไม่ได้​สักที​ ​ประเดี๋ยว​ก็​มี​ข่าวลือ​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​ให้​หลานชาย​ของ​โอว​หยาง​หมิง​อภิเษกสมรส​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​ ​ประเดี๋ยว​ก็​มี​ข่าวลือ​ว่า​ฮองเฮา​ถูกใจ​ลูกพี่ลูกน้อง​ของ​ไท่​จื่อ​เฟย​ ​สอง​คน​นี้​องค์​หญิง​ใหญ่​เคย​เห็น​มาก​่อน​แล้ว​ ​บอกว่า​คน​หนึ่ง​เย่อหยิ่ง​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ซื่อบื้อ​ ​หากแต่​งงา​นกั​นคน​เช่นนี้​ไม่​สู้​อยู่​คนเดียว​ยัง​จะ​ดีกว่า​ ​จึง​บอก​ให้​ข้า​ช่วย​แอบ​ไปดู​คนที​่​ถูก​คัดเลือก​ ​นาง​จะ​เลือก​สามี​ด้วยตัวเอง​ขอรับ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท