ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง – ตอนที่ 446 “เจ้าตัวน้อย…..ลำบากเจ้ามากแล้ว”

ตอนที่ 446 “เจ้าตัวน้อย.....ลำบากเจ้ามากแล้ว”

 

ชือหลี “หากมีปัญญาเจ้าก็มาดึงตะปูตรึงมังกรของข้าออกไป ดูสิว่าพวกเราสูสีกันหรือไม่?” 

 

 

เยี่ยอิงในยามนี้กำลังถูกความโกรธเกรี้ยวครอบงำ ไร้ซึ้งเหตุผลใดๆไปแต่แรกแล้ว วิธีการยั่วยุเช่นนี้อาจจะได้ผลก็เป็นได้ 

 

 

ชือหลีได้แต่นำออกมาทดลองดู 

 

 

เยี่ยเฉินมองแผนการของนางออกอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ยกมือห้ามปราม 

 

 

ตอนนี้เสี่ยวอิงกำลังโกรธจัด นางต้องการอาละวาด ในเมื่ออนุคนใหม่นี้ไม่กลัวตาย เช่นนั้นหากถูกนางทุบตีจนตายไปเสียก็ดี 

 

 

ที่ท้าให้ถอดตะปูตรึงมังกร มังกรที่ถูกถอดกระดูกจนการเป็นเพียงแค่ของเล่นไปแล้วอย่างนาง ยังจะเอาชนะเสี่ยวอิงได้อย่างไร? 

 

 

เยี่ยเฉินยิ้มเย็นชา ขณะที่เห็นเขาขยับเสื้อผ้า พลังวิญญาณสายหนึ่งก็พุ่งออกไป ถอนตะปูตรึงมังกรของชือหลีออกมา ได้ยินเสียงหล่นไปด้านข้างกระทบพื้นดังติ้ง 

 

 

เยี่ยเฉินแย้มยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย รอดูน้องสาวของตนเองลงมือทุบตีนังสวะผู้นั้นแต่ฝ่ายเดียว 

 

 

“เสี่ยวอิง นังสวะคนนี้ถือซะว่าพี่ชายชดเชยแทนคำขออภัยให้กับเจ้า ต่อให้ตีจนตายก็ไม่เป็นอะไร” เขาใช้มือยันศีรษะเอาไว้เอ่ยกับเยี่ยอิงอย่างเรียบเรื่อย 

 

 

พอตะปูตรึงมังกรหลุดออกไป ชือหลีก็รู้สึกว่าร่างกายเบาสบายขึ้นมาก 

 

 

นางขับพลังวิญญาณออกมา ร่างกายไหววูบ ก็หลุดออกจากการควบคุมของพวกนางกำนัลอย่างง่ายดาย 

 

 

เยี่ยอิงสีหน้าเคร่งขรึม นางไม่ต้องการสิ้นเปลืองเวลาอีกต่อไป จึงดึงเอาดาบโซ่ของนางออกมาในทันที สบัดไปยังหัวใจของชือหลี 

 

 

เสียง ‘สวบ’ดังขึ้นมาครั้งหนึ่งด้วยความรวดเร็ว ราวกับสายฟ้าสีน้ำเงินฟาดออกมา คิดจะแทงทะลุชือหลีในชั่ววินาที 

 

 

ชือหลีดึงเอาดาบกระดูกมังกรออกมาจากแผ่นหลังอย่างรวดเร็ว สกัดกั้นตรงหัวใจของตนเองเอาไว้ รับกระบวนท่าของเยี่ยอิงอย่างอยากลำบากไปครั้งหนึ่ง 

 

 

ดาบกระดูกมังกรเล่มนี้เดิมทีก็สร้างขึ้นจากกระดูกของนาง ก่อนหน้านี้พอได้รับโลหิตของตู๋กูซิงหลัน จึงถูกปลุกจิตของดาบขึ้นมา 

 

 

จิตของดาบแผ่ออกไป ยามเมื่ออาวุธทั้งสองกระทบกันจึงเกิดเสียงดัง ทั้งยังมีประกายดอกไม้ไฟงดงาม 

 

 

พอเยี่ยอิงได้เห็นดาบกระดูกมังกรเล่มนั้น ก็ยิ่งคิดไปถึงตู๋กูซิงหลัน 

 

 

นังผีที่คอยตามมาหลอกหลอน! 

 

 

ตายไปแล้วก็ยังคงติดอยู่ในใจของพี่ชาย ตอนนี้กระทั่งอาวุธที่นางเคยใช้ก็ยังจะมาปรากฏขึ้นตรงหน้าของตน! 

 

 

ชือหลีรับกระบวนท่าจากนางในครั้งนี้ แม้จะมีดาบกระดูกมังกรคุ้มครองอยู่ แต่ร่างกายก็ยังสะท้านจนชาไปทั้งตัว กระดูกทั่งร่างส่งเสียงเลื่อนลั่นออกมา 

 

 

นางถูกถอดกระดูกมังกรไปเนิ่นนานหลายปี……ฝ่ายตรงข้ามถึงกับเป็นเผ่ามังกรทมิฬ ความแตกต่างทางด้านพละกำลังหากจะเปรียบเทียบกันแล้วก็เหมือนกับเด็กห้าขวบที่ไปท้าสู้กับผู้ใหญ่ 

 

 

ย่อมต้องถูกกดขี่อยู่ฝ่ายเดียว! 

 

 

ทรวงอกของนางถูกดาบโซ่กรีดผ่านไปดาบหนึ่ง กรีดผิวออกมาจนเลือดไหลนอง 

 

 

ชือหลีไม่ได้คิดจะปะทะกับเยี่ยอิงอย่างจริงจัง! 

 

 

เพียงแต่คิดจะอาศัยการยั่วยุนี้มาถอนตะปูตรึงมังกรออกไป สิ่งที่นางต้องการจะทำก็คือ…..การหลบหนี! 

 

 

พาตู๋กูเจวี๋ยหลบหนีออกไป! 

 

 

ช่วงที่ผ่านมา จากคำพูดของเหล่านางกำนัลที่นางได้ฟังมา ทำให้นางพอจะรู้สถานที่คุมขังของตู๋กูเจวี๋ย 

 

 

พอเห็นนางหลบหนี เยี่ยอิงก็เผยอริมฝีปากขึ้น นางดึงดาบโซ่ของตนเองกลับมา ใช้ปลายลิ้นละเลียดชิมเลือด 

 

 

พอได้ชิมรสเลือด ดวงตาสีครามคู่นั้นเปล่งประกายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆด้วยความกระหายเลือด 

 

 

นางคลี่ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ราวกับว่ามีความสุขที่ได้เห็นเหยื่อที่กำลังต่อสู้ดิ้นรนกับความตายอย่างสุดชีวิต 

 

 

เลือดของมังกรทอง…..ยังหวานหอมกว่าผู้อื่นมากมายนัก! 

 

 

นังสวะผู้นี้ ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง อย่างน้อยๆก็สามารถใช้เป็นแหล่งโลหิตได้มิใช่หรือ? 

 

 

เยี่ยอิงสะกิดปลายเท้าเล็กน้อย ก็ไล่ตามไปด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้าฟาดออกมา 

 

 

ชือหลีเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แต่ว่าความเร็วของเยี่ยอิงก็ยังเหนือกว่านางหลายต่อหลายเท่า เพียงพริบตาเดียวก็ไล่ทันนางแล้ว 

 

 

ดวงตาของเยี่ยอิงติดตามแผ่นหลังของนางมา 

 

 

เยี่ยอิงหัวเราะเฮอะฮะ เสียงดัง เหวี่ยงดาบโซ่ในมือออกไปอย่างไร้ความปราณี 

 

 

ชือหลีขยับร่างไหววูบ หลบคมดาบที่กำลังจะพุ่งเข้ามายังกลางแผ่นหลัง แต่ว่าบนตัวดาบมีใบดาบโค้งมากมายหลายใบ สามารถพลิกแพลงแง่มุมได้อย่างพิศดาร ถึงแม้ว่านางจะหลบพ้นได้ในเวลาอันเฉียดฉิว แต่คมดาบก็ยังกรีดผ่านข้อมือของนาง 

 

 

ยามที่ใบดาบกรีดเข้าไปในเนื้อ แม้แต่กระดูกก็ยังถูกฟันไปเกือบครึ่ง 

 

 

ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นมาพุ่งจากกระดูกเข้าสู่หัวใจ ปวดจนชือหลีสั่นสะท้านไปทั้งร่าง 

 

 

แต่ถึงกระนั้นนางก็ไม่กล้าหยุดยั้งแม้แต่น้อย หากแต่มุ่งโผบินตรงไปยังทิศทางที่ขังตู๋กูเจวี๋ยเอาไว้ 

 

 

เยี่ยอิงก็ไม่คิดจะฆ่านางให้ตายในทันที 

 

 

นางเหมือนกับเหยี่ยวราตรีที่กำลังหยอกเย้ากับเหยื่อ ก่อนที่จะจับกิน ก็หยอกเล่นให้หมดสิ้นเรี่ยวแรงเสียก่อน จากนั้นในเมื่อฝ่ายตกอยู่ในความสิ้นหวังจึงค่อยสังหาร 

 

 

หากจะให้ดีที่สุดก็ต้องให้นางสวะนั่นได้เห็นเลือดของตนเองถูกสูบกินทีละหยดๆจนหมด 

 

 

ก็เผ่ามังกรทมิฬของพวกนาง เป็นเผ่าที่กระหายเลือดอยู่แล้ว 

 

 

บนหอสูง นางกำนัลกำลังคุกเข่าอยู่ที่ข้างกายของหวาชางสุ่ย รายงานสถานการณ์เบื้องล่างออกมา 

 

 

“หากอิงเอ๋อร์ชมชอบก็แล้วไป แค่องค์หญิงทะเลตะวันตกผู้หนึ่ง ตายก็ตายไปเถอะ” ดวงเนตรของหวาชางสุ่ยทอประกายเย็นชา “หากว่านางฆ่าไปคนหนึ่งแล้วยังไม่หายโกรธเกรี้ยว เจ้าก็ส่งคนไปจับตัวองค์หญิงอีกสามทะเลมาให้นางฆ่าเสีย” 

 

 

นางกำนัลผู้นั้นพยักหน้ารับ “เพคะ” 

 

 

“ยังมี จัดการเฉือนเนื้อของเจ้ามนุษย์ที่ถูกขังอยู่ในคุกผู้นั้น ไปป้อนปลาเสีย” 

 

 

เบื้องหน้าของหวาชางสุ่ยคือ อ่างเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ ในนั้นมีปลามังกรที่แสนงดงามอยู่หลายตัว  

 

 

แววเนตรของนางโหดเ**้ยมอย่างที่สุด “เจ้าว่า หากเยี่ยจ้านได้รู้ว่า บุตรชายของเขาถูกเฉือนเนื้อมาบด ป้อนให้กับปลาที่เขาเคยเลี้ยงดูมาด้วยมือของตนเอง เขาจะรู้สึกอย่างไร ฮ่า ฮ่า ฮ่า” 

 

 

ฟ้าดินช่างเข้าข้างนางแล้ว ตู๋กูซิงหลันตายแล้วคนหนึ่ง ก็ยังส่งลูกชายอีกคนของเยี่ยจ้านมาให้ได้ตายอย่างอนาถ 

 

 

หึหึหึ…. 

 

 

นี่มิเท่ากับว่า สิ่งที่เยี่ยจ้านติดค้างนางเอาไว้กำลังถูกชดใช้ไล่เรียงกันมาหรอกหรือ? 

 

 

นางกำนัลผู้นั้นมิได้ตอบ เพียงแต่ถอยออกไป ตระเตรียมคนไปแล่เนื้อของตู๋กูเจวี๋ยออกมาเป็นทำเนื้อบด 

 

 

………………….. 

 

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง เพียงแค่ครู่เดียวร่างท่อนบนของชือหลีก็มีแต่บาดแผลทั้งเล็กและใหญ่เต็มไปหมด 

 

 

ที่ลึกที่สุดก็คือแขนซ้าย ที่เกือบจะถูกตัดขาดออกมา จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากระดูกถูกเฉือนไปครึ่งหนึ่ง 

 

 

บนหน้าผากของนางมีแต่เหงื่อ ขณะที่มองเห็นคุกที่มืดมิดไปทั้งแถบตรงหน้า ก็เค้นพลังวิญญาณทั่วทั้งร่างออกมา  

 

 

ด้านหน้าคุกไม่มีคนเฝ้ายาม ชือหลีไม่ครุ่นคิดก็รีบบุกเข้าไปแล้ว 

 

 

ในคุกคุมขังตู๋กูเจวี๋ยเอาไว้เพียงคนเดียว 

 

 

ยามที่ชือหลีได้เห็นเขาบุรุษชุดขาวก็ถูกทรมานจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว 

 

 

ริมฝีปากของเขาถูกคนเย็บจนติดกัน รอยแผลแห้งจนตกสะเก็ดไปแล้ว 

 

 

เนื่องเพราะขาดน้ำมาเป็นเวลานาน ร่างกายที่เดิมก็ซูบผอมยามนี้ดูแล้วยิ่งอ่อนระโหยโรยแรง 

 

 

ริมฝีปากขอดแห้งจนลอกออกเป็นแผ่นๆ ทั้วทั้งร่างมีแต่บาดแผล ชุดขาวบนร่างถูกเลือดย้อมจนแดงฉาน บาดเจ็บหนักแล้ว 

 

 

ในคุกไม่เจอราชาสุนัขป่าและติ๊งต๊อง 

 

 

มีเขาเหลืออยู่แค่เพียงผู้เดียว 

 

 

พอมองเห็นชือหลี ดวงตาที่อ่อนล้าของเขาก็มีประกายขึ้นมาเป็นครั้งแรก 

 

 

“อื้อ อื้อ อื้อ …..” เขารีบร้อนลุกขึ้นมา คิดจะพุ่งไปหาชือหลี แต่ว่าทั้งมือและเท้าล้วนถูกล่ามเอาไว้ 

 

 

จนเขาไม่อาจขยับไปหาชือหลีได้ 

 

 

เขาได้ยินพวกเวรยามคุยกันว่า….วันนี้องค์ไท่จื่อจะทรงรับอนุ และชือหลีคือผู้ที่ถูกนำตัวไปเป็นอนุ 

 

 

ดังนั้นเขาจึงคิดหาหนทางส่งติ๊งต๊องและราชาสุนัขป่าออกไป ให้พวกมันไปช่วยนาง 

 

 

คิดไม่ถึงว่า นางกลับบุกเข้ามาในคุกแต่เพียงลำพัง 

 

 

ทั่วทั้งร่างของนางมีแต่บาดแผล…..ที่เหวอะหวะน่ากลัว 

 

 

ชือหลีฝืนความเจ็บปวดทั่วร่างเอาไว้ มองดูสภาพของตู๋กูเจวี๋ย ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว 

 

 

“เจ้าตัวน้อย…..ลำบากเจ้ามากแล้ว” 

 

 

“ข้าจะพาเจ้า…..ออกไป” 

 

 

หากว่าสามารถรอดไปได้……ข้าจะยอมคอยฟังเจ้าพูด ไม่เห็นว่าเจ้าปากมากอีกต่อไป 

 

 

 

 

 

 

 

 

…………………………………………… 

 

 

ไรท์: (กุมหัวแล้วตะโกนว่า รีบหนี!!!) 

 

 

ตอนต่อไป “ดูเหมือนว่าข้าจะชอบเจ้าเข้าแล้ว” 

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง

Status: Ongoing

ตู๋กูซิงหลัน ปรมาจารย์ไสยศาสตร์ลับผู้เลอโฉมแห่งต้าโจวต้องกลายเป็นไทเฮาแม่ม่ายด้วยวัยเพียงสิบห้าปี และถูกคุมขังอยู่ในตำหนักเย็นด้วยข้อหา ‘งดงามจนทำให้อดีตฮ่องเต้ตกพระทัยตาย’ ด้วยเหตุนี้นางจึงตกเป็นที่รังเกียจของ จีเฉวียน ฮ่องเต้องค์ใหม่และเหล่าสนมทั้งสามพันนางของเขา ขณะกำลังคิดหาหนทางประจบฮ่องเต้องค์ใหม่เพื่อให้ชีวิตของนางได้อยู่สุขสบายขึ้นมาบ้าง บรรดาลูกสะใภ้ที่หวั่นใจกลัวว่าแม่เลี้ยงสาวจะเปลี่ยนสถานะมาเป็นคนข้างหมอนก็พากันตบเท้าเข้ามาหาเรื่องนางมิขาดสาย ไหนจะอดีตคนรักอย่าง จีเย่ว์ ที่มาขอคืนดีด้วยอีก คราวนี้ตู๋กูซิงหลันจึงต้องรับศึกหนักทั้งซ้ายและขวา อีกทั้งยังต้องหาทางฟื้นพลังเพื่อตามหาหยกสรรพชีวิตไปด้วย แล้วแบบนี้จะไม่ให้นางปีนออกนอกกำแพงวังได้อย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท