ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 177 ความคิดของเซียวซื่อ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ตอนที่ 177 ความคิดของเซียวซื่อ

เจียงซื่อยังไม่ทันกลับถึงเรือนไห่ถังก็โดนเรียกกลับไปอีก

แม่บ้านจวนหย่งชังปั๋วทำท่าตื้นตันจนแทบหลั่งน้ำตา “ขอบใจเหล่าฮูหยินมาก ซื่อจื่อของพวกเราเป็นห่วงคุณหนูใหญ่ที่จวนนัก จึงจำเป็นต้องรบกวนคุณหนูสี่ไปช่วยดูเสียหน่อย ท่านวางใจได้เลย พวกเราจะดูแลคุณหนูสี่เป็นอย่างดีเจ้าค่ะ”

เฝิงเหล่าฮูหยินยิ้มร่า “ญาติที่อยู่ไกลก็มิอาจเทียบสหายบ้านใกล้เรือนเคียง[1] สมควรเป็นเช่นนี้”

เมื่อนางพูดจบก็หันไปมองเจียงซื่อ พลางเอ่ยกำชับ “ไปถึงก็ดูแลคุณหนูเซี่ยให้ดีล่ะ อย่าไปสร้างความลำบากให้นาง”

เจียงซื่อขานรับ แล้วเดินตามแม่บ้านของจวนหย่งชังปั๋วออกไป

เซียวซื่อสีหน้าเหยเก อดพูดออกมาไม่ได้ “หย่งชังปั๋วซื่อจื่อเด็กมากเสียจริง คิดถึงแต่เพียงแค่มิตรภาพของแม่นางซื่อกับคุณหนูเซี่ย ไม่ได้คิดพิจารณาถึงแง่มุมอื่นเลยรึ”

เฝิงเหล่าฮูหยินชำเลืองมองเซียวซื่อ เอ่ยแฝงเป็นนัย “ยังเด็กแล้วไม่ดีอย่างไร ทุกคนล้วนมีวัยเด็กกันทั้งนั้น อีกอย่างหย่งชังปั๋วซื่อจื่อแม้นยังเด็ก แต่ไม่นานก็ได้เป็นเสาหลักของจวนแล้ว”

เซียวซื่อได้ยินก็มีความคิดผุดขึ้นมาทันที

เหล่าฮูหยินหมายความว่าอย่างไร

หย่งชังปั๋วซื่อจื่อได้รับตำแหน่งก็จริง ทว่ามันเกี่ยวข้องอะไรกับจวนตงผิงปั๋วกัน

“ไม่มีผู้อาวุโสคอยประคับประคอง เด็กที่ยังไม่โตกลายเป็นเสาหลักของจวน เกรงว่าจวนหย่งชังปั๋วคงจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว”

เฝิงเหล่าฮูหยินยิ้มออกมา “ความลำบากชั่วคราวไม่มีความหมายอะไรหรอก ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดมาแย่งตำแหน่งนี้ไปได้ รอวันข้างหน้าตบแต่งภรรยาดีๆ เข้าเรือน ก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าจะดูแลจวนปั๋วได้ไม่ดีพอ”

เดิมนางไม่เห็นด้วยกับการที่เจียงซื่อออกไปเพ่นพ่านข้างนอกบ่อยๆ แต่ในเมื่อหย่งชังปั๋วซื่อจื่อส่งคนมาเชิญ จึงเปลี่ยนความคิดทันที

หย่งชังปั๋วซื่อจื่อกับซื่อเอ๋อร์โตมาด้วยกัน ถ้าเกิดว่าคู่สามีภรรยาหย่งชังปั๋วยังอยู่ บางทีอาจจะรังเกียจที่ซื่อเอ๋อร์เคยถอนหมั้น แต่ผู้คนวัยหนุ่มสาวมักจะไม่สนใจอะไรพวกนี้ ถ้าเกิดนางโชคดี ได้แต่งออกไปก็จะได้เป็นปั๋วฮูหยิน

เซียวซื่อได้ยินเฝิงเหล่าฮูหยินพูดถึงเรื่อง ‘ภรรยา’ ทันใดก็เข้าใจทุกอย่าง

เหล่าฮูหยินอยากให้เจียงซื่อกับหย่งชังปั๋วซื่อจื่อดองกัน

พอคิดถึงตรงนี้ ความไม่พอใจอย่างรุนแรงก็พุ่งทยานขึ้นมาในใจของเซียวซื่อ

หากเจียงซื่อแต่งงานกับหย่งชังปั๋วซื่อจื่อจริงๆ ก็จะได้เป็นปั๋วฮูหยิน หลังจากแต่งงานผ่านไปสามปีก็ยังอายุไม่ถึงยี่สิบด้วยซ้ำ

ไม่มีลูกสาวตระกูลไหนแต่งงานกับตระกูลที่สูงศักดิ์ร่ำรวยและได้เป็นนายหญิงตั้งแต่ยังสาว หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เจียงซื่อจะโชคดีเกินไปแล้ว!

เซียวซื่อเดินออกไปจากเรือนฉือซินอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงเดินไปทางเรือนหยาซิน ในใจก็ยังคิดถึงสิ่งที่เฝิงเหล่าฮูหยินพูดอยู่

“ท่านแม่”

เซียวซื่อรู้สึกตัว ก็เห็นสตรีสองนางทำความเคารพนางอยู่ไม่ไกล จากนั้นกวาดสายตามองไปที่ใบหน้าของพวกนาง

เจียงลี่ คุณหนูห้าปีนี้อายุสิบสี่ เจียงเพ่ย คุณหนูหกอายุสิบสาม ลูกสาวทั้งสองล้วนอยู่ในวัยแรกแย้ม อีกสามปีข้างหน้า ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้ผลิบานเต็มที่พอดี

เซียวซื่ออารมณ์ดีขึ้นมาทันที

เชี่ยนเอ๋อร์เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว วันข้างหน้าไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาขุนนางมาแต่งงานด้วย ทว่าหากอยากแต่งกับนายท่านปั๋วนั้นมันเป็นเรื่องเพ้อเจ้อชัดๆ ข้อนี้นางรู้ดี แต่ว่าสตรีสองนางนี้ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส

หย่งชังปั๋วซื่อจื่อไม่มีครอบครัวคอยควบคุม หากสนใจสตรีผู้ไหนขึ้นมา แล้วดื้อด้านว่าจะแต่งงานด้วย ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามเขาไม่ได้หรอก

นางรู้ดีอีกว่าชายหนุ่มที่อายุยังน้อยจะไม่สนใจฐานะทางสังคมของฝ่ายหญิงมากนัก อย่างเช่นคุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกงท่านนั้นที่ไม่แยแสเจียงซื่อแล้วไปแต่งงานกับหญิงสามัญชนแทน

หึ หึ นั่นขนาดว่าผู้อาวุโสในจวนยังอยู่ครบ

ยิ่งคิดเซียวซื่อก็ยิ่งรู้สึกว่ามันเป็นไปได้ จึงมองสำรวจลูกสาวทั้งสองหัวจรดเท้า

เจียงลี่เป็นเด็กซื่อๆ เชื่องดีนัก แต่นิสัยเช่นนี้เกรงว่าบุรุษอาจจะไม่ชอบ ส่วนเจียงเพ่ย…

เซียวซื่อจ้องหน้าเจียงเพ่ยอยู่นาน

เด็กสาวใบหน้าเรียวเล็ก ภายใต้คิ้วที่โก่งได้รูปเรียงสวยมีดวงตากลมโตคู่หนึ่ง มีชีวิตชีวา เอวบางร่างอ่อนราวกับกิ่งต้นหลิวที่สวยหยาดเหยิ้ม

จะว่าไป สตรีในเรือนล้วนสะสวยงดงามกันทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเจียงซื่อหน้าตาสวยสดงดงามเกินไปถึงได้โดดเด่นกลบคนอื่นไปหมด

เซียวซื่อเลือกไว้ในใจแล้ว จากนั้นเอ่ยกับเจียงเพ่ยขึ้น “เจ้าตามข้ามา”

เจียงเพ่ยถูกเซียวซื่อมองจนลนลาน ในใจได้แต่คิดไตร่ตรองว่ามีตรงไหนที่ขัดตาท่านแม่ ทว่าพอได้ยินนางพูดเช่นนี้ จึงทำได้เพียงแต่เดินตามไปแต่โดยดี

เจียงลี่มองเจียงเพ่ยที่เดินตามหลังเซียวซื่อเข้าห้องไป แล้วขมวดคิ้วออกมาอย่างไม่รู้ตัว

ตั้งแต่พี่รองกลับเรือนมา ท่านแม่ใหญ่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเรื่องของนางกับน้องหก แล้วเหตุใดวันนี้ถึงเรียกน้องหกเขาไปคุยสองต่อสองในห้องล่ะ

เจียงลี่มีลางสังหรณ์ว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ทว่าสุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเดินออกไปเงียบๆ

พอเข้ามาในห้อง เซียวซื่อชี้ไปที่เก้าอี้แกะสลัก “นั่งสิ”

เจียงเพ่ยนั่งลงแค่ครึ่งเก้าอี้ รอเซียวซื่อเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนอย่างเชื่อฟัง

“ข้าจำได้ว่าตอนเด็กเจ้ากับหย่งชังปั๋วซื่อจื่อเล่นด้วยกันบ่อย”

เจียงเพ่ยตะลึง

คุณหนูของจวนหย่งชังปั๋วกับเจียงซื่ออายุเท่ากัน ปกติก็เล่นด้วยกันอยู่แล้ว เช่นนั้นหย่งชังปั๋วซื่อจื่อจึงไปเล่นกับพวกนางบ่อย ตอนนั้นนางอิจฉาตาร้อน เข้าไปเล่นด้วยตั้งหลายรอบ ทว่าพวกเขาไม่สนใจนาง

เจียงเพ่ยไม่เข้าใจสิ่งที่เซียวซื่อต้องการจะสื่อ จึงก้มหน้าลงทำหน้าลำบากใจ

“อีกสามสี่ปีเจ้าก็ถึงเวลาที่เจ้าจะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เวลานี้แม่จะคอยจับตาดูคนที่เหมาะสมให้ แต่เจ้าก็ต้องพยายามด้วยเช่นกัน เจ้ารู้ใช่หรือไม่”

“ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ”

“ดี เจ้าไปเถอะ”

เจียงเพ่ยยิ่งงงเข้าไปใหญ่ ทันทีที่ก้าวออกมาจากประตูก็นึกเข้าใจขึ้นมา ท่านแม่ใหญ่อยากให้ข้าเข้าไปใกล้ชิดกับหย่งชังปั๋วซื่อจื่องั้นรึ

พอคิดได้ เจียงเพ่ยก็หัวใจเต้นแรง

นางได้ยินมาว่าคู่สามีภรรยาหย่งชังปั๋วล้วนไม่อยู่แล้ว แถมหย่งชังปั๋วซื่อจื่อต้องเข้ารับการสืบทอดตำแหน่งในเร็วๆ นี้ด้วย…ช่างเรื่องนี้ก่อนเถอะ นางพึงพอใจในรูปลักษณ์และบุคลิกของหย่งชังปั๋วซื่อจื่อมาก

เจียงเพ่ยนึกไม่ถึงว่าท่านแม่ใหญ่จะสนับสนุนนางให้เข้าไปใกล้ชิดกับหย่งชังปั๋วซื่อจื่อ นางรู้สึกดีใจขึ้นมา

ไม่นึกเลยว่าเรื่องดีๆ เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับนาง!

มีการสนับสนุนจากท่านแม่ใหญ่ เพียงแค่นางสามารถทำให้หย่งชังปั๋วซื่อจื่อมีใจให้ได้ นางก็จะได้กลายเป็นปั๋วฮูหยินที่โดดเด่นไร้ที่ติ ถึงกระนั้นอย่าว่าแต่เจียงซื่อเลย เจียงเชี่ยนพี่สาวที่อยู่เหนือกว่ามาตั้งแต่ไหนแต่ไรก็จะต้องถูกนางเหยียบย่ำอยู่ใต้ฝ่าเท้าไปตลอดชีวิต

เจียงเพ่ยยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น แล้วคุกเข่าทำความเคารพเซียวซื่อ “ของคุณท่านแม่มากเจ้าค่ะ”

เซียวซื่อส่งยิ้มให้เล็กน้อย “ไปเถอะ”

เด็กคนนี้มีไหวพริบ นับจากนี้นางจะจับตาดู หากสำเร็จก็นับว่าช่วยจวนนี้ได้มากเลยทีเดียว แต่หากไม่สำเร็จ ก็แค่ลูกสาวอนุคนเดียวเท่านั้น สละนางไปเสียก็ย่อมได้

……

เจียงซื่อเดินตามแม่บ้านไปที่จวนหย่งชังปั๋ว จู่ๆ เซี่ยอินโหลวก็เดินออกมารับหน้าประตู

ตอนนี้เซี่ยอินโหลวได้เปลี่ยนเป็นชุดผ้าป่านแล้ว ทว่ามันกลับยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาเป็นสง่ามากกว่าเดิมเสียอีก เขาควบคุมความเศร้าไว้ได้ดีมาก เห็นเพียงหางตาที่แดงก่ำเล็กน้อย

“น้องเจียงซื่อ ขอบใจมากที่เจ้ามา ฝากชิงเหยาด้วยนะ”

เจียงซื่อหลับตาพร้อมกับย่อตัว “ พี่เซี่ยวางใจเถอะ ท่านไปจัดการเรื่องของท่านได้เลย ข้าจะดูแลชิงเหยาให้อย่างดี”

เซี่ยชิงเหยาเป็นสตรีในเรือน เรื่องที่ท่านพ่อกับแม่เสียจึงไม่จำเป็นต้องให้นางไปจัดการ ภาระทุกอย่างจึงตกไปอยู่ที่เซี่ยอินโหลว

เจียงซื่อเห็นสายตาของเขา ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว

“เข้าไปเถอะ” เซี่ยอินโหลวหลบมาเดินข้างเจียงซื่อ

เห็นทั้งสองเดินเคียงข้างกันเข้าไปในจวนหย่งชังปั๋วอย่าสนิทสนม อวี้จิ่นโผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ โกรธจนควันแทบออกหู

————————————

[1] ญาติที่อยู่ไกลก็มิอาจเทียบสหายบ้านใกล้เรือนเคียง หมายถึง ยามมีปัญหาเร่งด่วน มักจะเป็นเพื่อนบ้านที่ให้ความช่วยเหลือเราได้มากและทันท่วงที

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท