ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 226 กลับบ้านนอน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

​ริมฝั่ง​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​ในขณะนี้​มีชีวิตชีวา​เฉกเช่น​เวลา​เที่ยงวัน​ ​หลังจาก​ชุย​อี้​และ​อีก​สาม​คน​ถูก​ช่วย​ขึ้น​จาก​น้ำ​ ​คนตรง​นั้น​จึง​ได้​ทราบ​ว่า​เกิดเหตุ​เพลิงไหม้​ขณะที่​เหล่า​คุณชาย​กำลัง​ร่ำ​สุรา​บน​นาวา​ใหญ่​ ​และ​มี​คณิกา​ชาย​ผู้​หนึ่ง​จงใจ​วางเพลิง

​ทว่า​บรรดา​ผู้ตรวจการ​ชั้นผู้น้อย​ไม่ทัน​ได้​ใส่ใจ​เด็กหนุ่ม​ผู้​นั้น​ ​เนื่องจาก​ชุย​อี้​และ​คุณชาย​อีก​สอง​คน​พร่ำ​บอก​เพียง​ว่า​ ​ยัง​หา​ตัว​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​ซึ่ง​เป็น​หลานชาย​เสนาบดี​กรม​พิธีการ​ไม่​พบ​!

​แม้ว่า​จะ​ผ่าน​จุด​ที่​ทั้ง​สี่​กระโดด​ลง​น้ำ​มา​ไกล​แล้ว​ ​ทว่า​ยัง​ไม่​เจอ​ตัว​ ​สถานการณ์​จึง​เริ่ม​เลวร้าย​ลง​ไป​ทุกที

​ลำพัง​บรรดา​เจ้าหน้าที่​ที่สามา​รถ​ดำน้ำ​ได้​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​จึง​ต้อง​ระดม​ผู้​ที่​หาเลี้ยงชีพ​อยู่​ริมฝั่ง​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​มาช​่ว​ยอีก​แรง

​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ​ครั้น​จะ​หา​คนที​่​จมน้ำ​คง​ยาก​เสีย​ยิ่งกว่า​การ​ได้​ขึ้น​สวรรค์​เป็น​ไหน​ๆ

​แม้​เวลา​จะ​ล่วงเลย​ไป​ถึง​เที่ยงคืน​กลับ​ไม่มี​ความคืบหน้า​ ​คน​ส่วนใหญ่​จึง​เตรียมตัว​กลับ​ที่พัก​ ​เหลือ​เพียง​บางคน​ที่​ยัง​เฝ้าดู​สถานการณ์​อยู่​ตรงนั้น

​ผู้ตรวจการ​ชั้นผู้น้อย​ที่​ตรวจสอบ​บริเวณ​ท่าเรือ​เหลืออยู่​เพียง​สิบ​กว่า​คน​ ​แล้ว​ไหน​เลย​จะ​ต้าน​ฝูงชน​ได้​ ​ครั้น​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​กลุ่มคน​ชนชั้นสูง​ที่มา​ล่องเรือ​ก็​ทำได้​เพียง​ปล่อย​ผ่าน​ไป​ดื้อ​ๆ​ ​และ​ไป​เคร่งครัด​ตรวจตรา​กับ​เรือ​ขาย​ดอกไม้​และ​เรือหาปลา​เหล่านั้น​แทน​ ​ถึงกระนั้น​ ​เรือ​ส่วนใหญ่​ก็​มิได้​รับ​การ​ตรวจสอบ​อย่างละเอียด​นัก​ ​เนื่องด้วย​กำลัง​พล​ไม่​เพียงพอ

​เหล่า​ฉิน​แฝง​ไป​กับ​เรือ​เหล่านั้น​และ​รอด​จาก​การ​ตรวจสอบ​ได้​อย่างราบรื่น​ ​ส่วน​นาวา​ของ​อวี​้​จิ​่​นก​็​แล่น​เข้า​ฝั่ง​ได้​โดย​ไม่มี​ผู้ใด​ขวางทาง​เช่นกัน

​บริเวณ​ริมฝั่ง​ถูก​ความมืด​เข้าปก​คลุม​ ​ยาม​ทอดสายตา​ไป​ไกลๆ​ ​จะ​ยิ่ง​รู้สึก​มืดมิด​ยิ่งขึ้น

​เวลา​ในขณะนั้น​เลย​ช่วง​เที่ยงคืน​มา​แล้ว​ ​แสงไฟ​ตาม​บ้านเรือน​ต่าง​หลับใหล​ ​เหลือ​เพียง​ดวงดารา​ส่องแสง​ระยิบระยับ​บน​นภา​สีเข้ม

​“​ให้​เหลิง​อิ่ง​ไป​ส่ง​พวก​เจ้า​แล้วกัน​”​ ​ครั้น​มองดู​ภาพ​หญิงสาว​ใน​คราบ​ชุด​ชายหนุ่ม​ใน​ค่ำคืน​มืดมิด​ ​อวี​้​จิ​่น​ได้​แต่​กลืน​ถ้อยคำ​ที่จะ​ขอ​ไป​ส่ง​เอง​ลงคอ​ไป

​เพราะ​รู้​ว่า​คง​ถูก​อา​ซื่อ​ปฏิเสธ​อย่างไร​้​เยื่อใย

​“​ไม่ต้อง​หรอก​ ​คน​เยอะ​ไป​ก็​ไม่ดี​ ​แค่​เหล่า​ฉิน​ก็​เพียงพอ​แล้ว​”​ ​เจียง​ซื่อ​ปฏิเสธ​อย่างเคย​ ​ทว่า​น้ำเสียง​กลับ​อ่อนโยน​ ​“​ฝาก​ดูแล​พี่​รอง​ของ​ข้า​ด้วย​นะ​”

​อวี​้​จิ​่น​ยิ้ม​บาง​ ​“​วางใจ​ได้​ ​ข้า​จะ​ดูแล​เขา​อย่างดี​”

​เขา​เน้น​คำ​ว่าอย่างดี​ ​เพราะ​ทั้งคู่​ตกลง​กัน​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​ ​ให้​แสร้ง​ว่า​อวี​้​จิ​่น​เป็น​คน​ช่วยชีวิต​เจียง​จั้น​ ​ทว่า​เจียง​ซื่อ​มีคำ​ขอ​อีก​อย่าง​คือ​ให้​อวี​้​จิ​่น​สั่งสอน​เจียง​จั้น​ให้​รู้จัก​เข็ดหลาบ​เสียบ​้าง

​เมื่อ​ได้รับ​คำสั่ง​มอบหมาย​จาก​นางใน​ดวงใจ​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​ตกปากรับคำ​อย่าง​ไม่​รอช​้า

​ส่วน​เรื่อง​มิตรภาพ​ระหว่าง​เขา​และ​เจียง​จั้น​น่ะ​หรือ​ ​หึๆ​ ​ไม่มี​ตั้งแต่แรก​แล้ว

​“​เช่นนั้น​ก็ดี​เจ้าค่ะ​”​ ​เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​และ​จากไป​พร้อม​อาหมาน

​ใน​คืนนี้​ ​พื้นที่​ส่วนใหญ่​ใน​เมืองหลวง​คึกคัก​ไม่น้อย

​เมื่อ​จวน​ท่าน​แม่ทัพ​ ​จวน​ซื่อ​หลาง​และ​จวน​ไท่​ผิงปั​๋ว​ได้​ทราบ​ข่าว​จาก​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​ ​ผู้คน​ใน​จวน​ต่าง​ก็​ตื่นตระหนก​ตกใจ​กัน​เป็นแถว​ ​รีบ​ส่ง​คน​ไปรับ​คุณชาย​ที่​ศาลา​ว่าการ​ทันที

​ส่วน​จวน​เสนาบดี​กรม​พิธีการ​ทราบ​ข่าว​ที่​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​ตกน้ำ​และ​บัดนี้​ยัง​หา​ตัว​ไม่​พบ​ก็​วุ่นวาย​ยิ่งกว่า​ ​จึง​มีคำ​สั่ง​เกณฑ์​คน​มาก​ที่สุด​เท่าที่​จะ​ทำได้​ให้​ไป​ค้นหา​คุณชาย​ที่​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย

​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ ​ผู้ตรวจการ​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​นอนหลับ​ไม่​ลง​เช่นเดียวกัน​ ​ในขณะนั้น​กำลัง​สอบสวน​ชุย​อี้​และ​คุณชาย​อีก​สอง​คน

​“​เกิด​เพลิงไหม้​บน​นาวา​ใหญ่​ได้​อย่างไร​หรือ​”

​เมื่อ​ถูก​ถามถึง​เรื่อง​นี้​ ​ทั้ง​สาม​ก็​รีบ​ตอบ​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ ​“​มี​คณิกา​ชาย​ผู้​หนึ่ง​จงใจ​วางเพลิง​!​”

​“​คุณชาย​ชุย​ ​ไหน​เจ้า​ลอง​ว่า​มา​”

​ครั้น​ได้​ฟัง​คำอธิบาย​สาเหตุ​การ​เกิด​และ​สถานการณ์​หลัง​เหตุ​เพลิงไหม้​แล้ว​ ​เขา​เพียงแต่​ลูบ​เครา​ทว่า​มิได้​เอ่ย​ตอบ​สิ่งใด​ ​ความ​เงียบงัน​ชั่ว​อึดใจ​ทำให้​ทั้ง​สาม​รู้สึก​อัดอั้น​ ​ชุย​อี้​จึง​ตะคอก​เสียงแข็ง​ ​“​ใต้เท้า​เจิน​ ​พวก​ท่าน​ต้องหา​ตัว​ไอ้​คน​นั้น​มา​ให้​ได้​ ​และ​ตัดหัว​มัน​อย่า​เหลือ​!​”

​“​ศาลา​ว่าการ​พระนคร​จะ​ทำ​อย่างสุดความสามารถ​”​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ไม่กล้า​รับรอง

​ไม่รู้​ว่า​ไอ้​ลูก​ผู้ลากมากดี​พวก​นี้​ไป​ก่อกรรมทำเข็ญ​กับ​ผู้คน​ตั้ง​เท่าไหร่​ ​หาก​ใคร่​จะ​ไล่หา​เบาะแส​จาก​กลุ่มคน​ที่​อาฆาต​พยาบาท​คง​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​งมเข็มในมหาสมุทร

​“​พวก​เจ้า​มิได้​สังสรรค์​กัน​แค่​สี่​คน​ใช่​หรือไม่​”

​สิ้น​คำถาม​ของ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ ​ใบหน้า​ของ​ทั้ง​สาม​ก็​พลัน​เปลี่ยนสี

​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เคาะ​นิ้ว​ลง​บน​โต๊ะ​สอบสวน​เบา​ๆ​ ​และ​เอ่ย​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มาจาก​คณิกา​ชาย​ที่​รอดชีวิต​ว่า​พวก​เจ้า​มี​กัน​ทั้งหมด​ห้า​คน​”

​ชุย​อี้​รีบ​เอา​มือ​ตบ​ศีรษะ​ตนเอง​ ​“​จริง​สิ​ ​ยัง​มี​เจียง​จั้น​ ​คุณชาย​รอง​แห่ง​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วอี​กคน​ ​แต่​เขา​ก็​ตกน้ำ​ด้วย​เหมือนกัน​!​”

​สีหน้า​ของ​เจิง​ซื่อ​เฉิง​หม่น​ลง​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ไฉน​พวก​เจ้า​ถึง​ไม่​รีบ​บอก​แต่แรก​”

​ชุย​อี้​บุ้ยปาก​พลาง​บอกอ​ย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​ ​“​พวกเรา​เอง​ก็​ตกใจ​ไม่​แพ้​กัน​ถึง​ได้​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เสีย​สนิท​”

​“​คนที​่​นั่ง​ดื่ม​ด้วยกัน​ยัง​ลืม​กันได​้​ลง​งั้น​หรือ​”​ ​จาก​ประสบการณ์​เจิน​ซื่อ​เฉิง​สัมผัส​ได้​ว่า​พวกเขา​มีเรื่อง​บางอย่าง​ปิดบัง

​“​พวกเรา​มิได้​สนิท​กัน​เสียหน่อย​ ​นั่น​เป็น​คนที​่​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​เรียก​มา​ ​ฉะนั้น​ยาม​เกิดเหตุ​เพลิงไหม้​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนั้น​จึง​รีบ​กระโดด​น้ำ​หนี​จน​ไม่ทัน​ได้​นึกถึง​ใคร​อื่น​”​ ​อีก​สอง​คน​เอ่ย​เสริม

​ใบหน้า​ชุย​อี้​ไม่สบอารมณ์​อย่างยิ่งยวด​ ​“​ใต้เท้า​เจิน​ ​พวกเรา​เป็น​เหยื่อ​ ​พวก​ท่าน​ไม่​รีบ​หา​ตัว​เด็กหนุ่ม​นั่น​มา​ ​แล้วยัง​มาส​อบ​สวน​พวกเรา​ราวกับ​เป็น​ผู้ร้าย​เช่นนี้​ ​มัน​หมายความ​อย่างไร​กัน​แน่​”

​เจิน​ซื่อ​เฉิง​เคาะ​ไม้​ปลุก​สติ​[1]​ลง​บน​โต๊ะ​ ​เหล่า​ผู้ตรวจการ​ชั้นผู้น้อย​ที่​ถือ​ไม้​กระบอง​แม้​จะ​ไม่ได้​ยืน​อยู่​ใน​โถง​นั้น​ยัง​ขานตอบ​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​อย่าง​พร้อม​เพียง​ว่า​ ​“​เวย​อู่​”​ ​ทั้ง​สาม​จึง​สะดุ้งโหยง​ไป​ตาม​ๆ​ ​กัน

​“​นี่​ท่าน​หมายความว่า​อย่างไร​”​ ​แม้​ภายนอก​ทั้ง​สาม​แลดู​แข็งกร้าว​ ​แต่​สภาพ​จิตใจ​ภายใน​ฝ่อ​ไม่มี​ชิ้น​ดี

​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ค่อยๆ​ ​วาง​ไม้​ปลุก​สติลง​ ​“​ก็​แค่​จะ​บอก​คุณชาย​ทั้ง​สาม​ว่า​ ​อย่างนี้​ต่างหาก​ถึง​จะ​เรียกว่า​สอบสวน​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​เพียงแต่​สอบถาม​สถานการณ์​เบื้องต้น​เท่านั้น​ ​แต่​พวก​เจ้า​กลับ​คิด​ว่า​เป็นการ​สอบสวน​ผู้ร้าย​ ​หรือว่า​พวก​เจ้า​ไป​ก่อเรื่อง​ใด​ไว้​”

​“​พวกเรา​ไม่ได้​ทำ​!​”​ ​ทั้ง​สาม​คน​ปฏิเสธ​เสียงแข็ง

​“​ไม่ได้​ทำ​ก็ดี​ ​ลำบาก​เหล่า​คุณชาย​แล้ว​ ​ตอนนี้​กลับ​จวน​ได้​ ​เพียงแต่ว่า​หาก​ข้า​ใคร่​อยากรู้​สิ่งใด​เพิ่มเติม​ ​อาจจะ​ต้อง​เชิญ​คุณชาย​ทั้งหลาย​กลับมา​อีกครั้ง​”​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​หรี่​ตา​พลาง​บอก

​พวก​เด็ก​เหลือขอ​พวก​นี้​ยัง​ไม่ได้เรื่อง​เท่ากับ​ลูกชาย​ของ​เขา​ ​ยัง​ริ​อาจมา​เอ่ย​วาจา​ไร้สาระ​กับ​เขา​อีก

​ครั้น​คิดถึง​ลูกชาย​ที่​แสน​จะ​เฉื่อยชา​ใน​ช่วงนี้​แล้ว​ ​ใจ​ของ​เจิน​ซื่อ​ฉิ​งก​็​ยิ่ง​ไม่​เป็นสุข

​รอ​จน​ชุย​อี้​และ​อีก​สอง​คน​จากไป​แล้ว​ ​เจิน​ซื่อ​เฉิง​ก็​รีบ​สั่ง​ให้​คน​ไป​แจ้ง​ข่าว​กับ​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วทั​นที

​เมื่อ​นึกถึง​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​เจียง​จั้น​ ​เขา​ก็​เริ่ม​ใจคอ​ไม่ดี

​แม้ว่า​เขา​จะ​เห็น​ความตาย​มานับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​ ​แต่​คน​เหล่านั้น​มิได้​เป็น​คนรู้จัก​แต่อย่างใด

หรือว่า​เด็กหนุ่ม​นั่น​จะ​ต้อง​จบชีวิต​ลง​เช่นนี้​งั้น​หรือ

​แล้วยัง​มี​เด็กสาว​นั่น​อีก​ ​หาก​รู้​ว่า​พี่ชาย​เป็น​อะไร​ไป​คง​ปวดใจ​เป็นแน่

​ครั้น​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​ได้​ทราบ​ข่าว​ทั้ง​จวน​ก็​ตก​สู่​วังวน​อลหม่าน​ ​เจียง​อัน​เฉิน​เรียก​รวมพล​บ่าว​รับใช้​ใน​จวน​ไป​ยัง​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​ ​เขา​ส่งเสียง​ปริ​ภาษ​สาปส่ง​ลูกชาย​ไป​ตลอดทาง​ ​“​ไอ้​ลูก​เวร​ ​ถ้า​หา​ตัว​เจอ​เมื่อไหร่​จะ​จับ​ถลก​หนัง​ออก​ให้​หมด​เลย​คอย​ดู​!​”

​ถึง​ปาก​จะ​พร่ำ​ด่า​ลูกชาย​ ​แต่​นัยน์ตา​เป็นประกาย​ด้วย​น้ำ​หยด​ใส​ ​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​กำ​แน่น​จน​ทั้ง​ร่าง​สั่นสะท้าน

​นายท่าน​เจียง​รอง​และ​นายท่าน​เจียง​สาม​เอ่ย​วาจา​ปลอบประโลม​ ​สีหน้า​ของ​ทั้งคู่​ดู​หม่น​ลง​อย่างชัดเจน​ ​เพียงแต่ว่า​ความ​สบาย​อก​สบายใจ​ของ​นายท่าน​เจียง​รอง​ถูก​ความมืด​ยามค่ำคืน​ซ่อนเร้น​เอาไว้​ ​จึง​ไม่มี​ผู้ใด​ทัน​สังเกตเห็น

​ภายใน​เรือน​หยา​ซิน​ ​เอ้อร​์​ไท่​ไท่​เซียว​ซื่อ​แอบ​หัวเราะ​ชอบใจ​อยู่​ใต้​ผ้าไหม​อยู่​สักพัก​ก่อน​จะ​ปรับ​อาการ​ให้​เป็นปกติ​ ​หลังจาก​จัดการ​กับ​อารมณ์​เรียบร้อย​แล้ว​ ​นาง​ก็​เข้าไป​ใน​เรือนฉืน​ซิน​เพื่อ​ปลอบใจเฝิง​เหล่าฮู​หยิน

​หาก​ไม่มี​เจียง​จั้น​ ​เรือน​หลัก​ก็​ไร้​ผู้สืบทอด​ ​เฝ้ารอ​วันที่​นายท่าน​เจียง​รอง​สร้าง​คุณความดี​เหมือน​หย่ง​ชังปั​๋ว​ผู้​อยู่​เรือน​ติดกัน​ ​ไม่ช้าไม่นาน​ตำแหน่ง​ผู้สืบทอด​ก็​จะ​ตก​มาถึง​เขา​อย่างแน่นอน

​ใน​เรือน​ไห่​ถัง​ ​อาหมา​นอด​ทน​ดู​เจียง​ซื่อ​ที่​ค่อยๆ​ ​เปลี่ยน​อาภรณ์​อย่าง​ไม่รีบร้อน​ไม่ได้​อีกต่อไป​จึง​เตือน​ขึ้น​ว่า​ ​“​คุณหนู​ ​เรือน​หน้า​วุ่นวาย​ยิ่งนัก​จน​นายท่า​นอ​อก​ไป​ตามหา​คุณชาย​รอง​แล้ว​นะ​เจ้า​คะ​”

​เจียง​อัน​เฉิน​กลัว​ว่า​ลูกสาว​จะ​เป็นกังวล​จึง​มิได้​เรียก​ให้​บ่าว​รับใช้​นำ​ข่าว​ไป​แจ้ง​ที่​เรือน​ไห่​ถัง​ ​ใน​สายตา​ผู้คน​รอบข้าง​ ​เจียง​ซื่อ​ยังคง​หลับใหล​ไม่รู้​เรื่อง​รู้​ราว​ ​หารู้ไม่​ว่าที่​แท้​แล้ว​เจียง​ซื่อ​เพิ่ง​กลับมา​จาก​การ​วางเพลิง​ฆาตกรรม​

​เจียง​ซื่อ​ที่​เปลี่ยน​อาภรณ์​เรียบร้อย​แล้ว​เดิน​ไป​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​“​อย่า​กังวล​ไป​ ​ไป​นอน​เถอะ​”

​ใน​จวน​วุ่นวาย​ก็ดี​ ​พี่​รอง​ของ​นาง​จะ​ได้​เห็น​ ​หาก​เขา​ไม่รู้​จัก​หลาบจำ​ก็​คง​นำพา​ความเจ็บปวด​มาสู่​คนใน​ครอบครัว​!

​ ​——————

​ ​[1]ไม้​ปลุก​สติ​ คือ​ ​ไม้​ท่อน​สี่เหลี่ยม​ใช้​สำหรับ​เคาะ​โต๊ะ​ให้​คนใน​โถง​เงียบเสียง

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท