ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 263 ฟื้น

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ความกังวลใจ​ของ​เจียง​อี​ทำให้​เจียง​ซื่อ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​พี่ใหญ่​!​ ​เรี่ยวแรง​ของ​ข้า​จะ​มากมาย​เพียงใด​เชียว​ ​ข้า​ฟาด​เข้าไป​แค่​สองครั​้ง​ไม่​ทำให้​ใคร​ถึงแก่ชีวิต​หรอก​”

ใน​คืน​นั้น​นาง​สามารถ​จัดการ​กับ​หยาง​เซิ​่ง​ไฉ​ได้​โดย​ไม่​แม้แต่​จะ​กะพริบตา​ ​แต่​สำหรับ​ชาย​แปลกหน้า​สอง​คน​นี้​ต่อให้​นาง​รู้ดี​ว่า​ในอนาคต​ทั้งสอง​อาจจะ​ทำร้าย​นาง​ได้​ ​แต่​อย่างน้อย​นาง​ก็​ไม่​อาจ​ฆ่า​คน​ได้​เช่น​มด

ถึงอย่างไร​นาง​ก็​ยัง​ใจอ่อน

เจียง​ซื่อ​ก้มหน้า​ลง​มอง​ไป​ยัง​มือ​ของ​ตน​ก่อน​จะ​หัวเราะ​ตนเอง

นั่นสิ​นะ​ ​การ​ที่นาง​ไม่ได้​จัดการ​ฆ่า​พวกเขา​ไป​เสีย​ ​ก็​มีเหตุผล​สำคัญ​อยู่​หนึ่ง​ประการ​ ​สอง​คน​นั้น​มอง​ไป​แล้ว​ดูเหมือน​จะ​กระทำการ​ลับ​ๆ​ ​ล่อ​ๆ​ ​หลังจาก​ได้สติ​กลับคืน​มาคง​จะ​ไม่​ไปร​้​อง​เรียน​กับ​ทาง​วัด​ว่า​ถูก​ใคร​บางคน​ตี​จน​สลบ​ ​แต่​หากว่า​นาง​ทำ​ใคร​ให้​ถึงแก่ชีวิต​ ​คาด​ว่านา​งคง​จะ​ต้อง​พบ​กับ​ใต้เท้า​เจิน​อีกครั้ง

เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่านา​งค​วร​จะ​อยู่​ให้​ห่าง​จาก​ใต้เท้า​เจิน​เป็น​ดี

เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​ไม่มี​ผู้ใด​ถึงแก่ชีวิต​ ​แต่​เจียง​อีก​็​เริ่ม​กังวล​ขึ้น​อีกครั้ง​ ​“​สอง​คน​นั้น​จะ​สืบ​พบ​พวกเรา​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​ยิ้ม​กว้าง​แล้ว​เอื้อมมือ​ออก​ไป​โอบ​แขน​ของ​เจียง​อี​ ​“​วางใจ​เถิด​พี่ใหญ่​ ​วัด​ไป๋​อวิ​๋น​ใหญ่โต​ถึง​เพียงนี้​ ​และ​ใน​วันนี้​ก็​มี​ผู้​แสวงบุญ​มาถ​วาย​เครื่อง​หอมมาก​มาย​ ​คน​เช่น​พวกเขา​คง​ต้องการ​จะ​หลบซ่อน​ตัว​ไม่ต้องการ​เปิดเผย​ตัวตน​หรอก​ ​หาก​ออกมา​สอบสวน​อย่างโจ่งแจ้ง​ ​แน่นอน​ว่า​พวกเขา​ต้อง​เสียเปรียบ​”

“​แต่ว่า​พวกเขา​กำลัง​ตรวจสอบ​ว่า​เจ้า​เป็น​ใคร​ ​หาก​รู้​ว่า​เจ้า​เดินทาง​มา​วัด​ไป๋​อวิ​๋​นก​็​คงจะ​ลำบาก​น่าดู​”​ ​เจียง​อี​ขมวดคิ้ว​เข้าหา​กัน​ ​นาง​ไม่​อาจ​คลายกังวล​ใจ​ได้​เลย

สำหรับ​สตรีที​่​ไม่เคย​ออกมา​จาก​จวน​เช่น​นาง​นี้​ ​เรื่อง​ที่​พบ​ใน​วันนี้​บอก​ได้​ว่า​ช่าง​น่าตื่นเต้น​เหลือเกิน​ ​แม้แต่​ตอนนี้​ขา​ของ​นาง​ก็​ยัง​อ่อนแรง

“​พี่ใหญ่​วางใจ​เถิด​ ​วันนี้​ข้า​เช่า​รถ​มา​ ​อีก​อย่าง​ต่อให้​พวกเขา​รู้​แล้ว​อย่างไรเล่า​ ​พวกเขา​จะ​สงสัย​หรือว่า​ข้า​เป็น​เพียง​ผู้หญิง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​จะ​ใช้​ไม้​ฟาด​พวกเขา​จน​สลบ​ได้​?​”

เจียง​อี​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา​ ​เมื่อ​ได้ยิน​น้องสาว​กล่าว​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​คิด​ว่า​ตัวเอง​ตื่นเต้น​จน​เกินไป

“​พี่ใหญ่​ ​พี่​ควร​จับตามอง​ดู​อา​หยา​เอาไว้​ ​อย่า​ให้​นาง​เอ่ย​ไร้สาระ​ก็​จะ​ไม่มีปัญหา​”

เจียง​อี​พยักหน้า​เบา​ๆ​

ตามปกติ​แล้ว​แม้นาง​จะ​เป็น​คน​อารมณ์ดี​ ​แต่​ก็​แยกแยะ​ถึง​ความสำคัญ​ได้​ ​นาง​จะ​ไม่มีวัน​ปล่อย​ให้​บ่าว​รับใช้​ตัวเล็ก​ๆ​ ​มาทำ​เรื่อง​ของ​นาง​ให้​เสียหาย​แน่​ ​เมื่อ​นึกถึง​ฉาก​ที่​น้องสาว​ทำให้​อา​หยา​ตกใจกลัว​จน​หน้าซีด​ ​อารมณ์​ของ​เจียง​อีก​็​ดู​ซับซ้อน​ขึ้นไป​อีก​ ​ที่แท้​น้อง​สี่​ของ​นาง​ไม่ใช่​เด็กหญิง​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​ดื้อรั้น​และ​เอาแต่ใจ​อีกต่อไป​ ​แต่​นาง​มีทั​กษะ​ใน​การ​ฆ่า​ที่​สตรี​หลาย​คน​ไม่มี​ ​สิ่ง​นี้​ทำให้​เจียง​อี​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ขึ้น​มา​ ​จะ​ว่า​ไป​เป็น​เพราะ​มารดา​จาก​โลก​นี้​ไป​เร็ว​ ​ส่วน​นางใน​ฐานะ​พี่สาว​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​จึง​ทำให้​น้อง​สี่​พัฒนา​ตนเอง​ให้​แข็งแกร่ง​เช่นนี้

“​น้อง​สี่​ ​ใน​ตอนนั้น​เจ้า​ไม่​กลัว​หรือ​ ​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ดวงตา​ของ​เขา​จึง​ลืม​ไม่​ขึ้น​เล่า​”​ ​เมื่อ​คิดถึง​ภาพ​ที่อยู่​ตรงหน้า​เมื่อ​ครู่​ ​เจียง​อีก้อ​รู้สึก​หวาดกลัว​อยู่​เรื่อย

เจียง​ซื่อ​หยิบ​คำพูด​ที่นาง​เตรียม​ไว้​ก่อนหน้านี้​ออกมา​กล่าวว่า​ ​“​ผง​พริก​เข้าตา​ของ​เขา​ ​แน่นอน​ว่า​เขา​คง​ไม่​อาจ​ลืมตา​ได้​”

เจียง​อี​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ ​แต่​ด้วย​ความกลัว​จาก​ประสบการณ์​เมื่อ​สักครู่​ทำให้​นาง​สับสน​ ​นาง​นิ่งเงียบ​ไป​สักพัก​แล้ว​รู้สึก​ว่า​มัน​ช่าง​แปลกประหลาด​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​แปลกประหลาด​ตรงไหน

ทันใดนั้น​เอง​น้ำเสียง​อัน​อ่อนโยน​ของ​ชายหนุ่ม​ก็​ดัง​ขึ้น​ ​“​อี​เหนียง​ ​เจ้า​อยู่​ข้างใน​หรือไม่​”

เจียง​ซื่อ​เรียก​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​”

เจียง​อี​พยักหน้า​อย่าง​รู้เท่าทัน​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ไม่​บอก​กับ​พี่เขย​เจ้า​แน่​”

น้องสาว​นาง​กังวลใจ​ไปมาก​จริงๆ​ ​ต่อให้​ไม่มี​สิ่ง​เหล่านั้น​เกิดขึ้น​ใน​ภายหลัง​ ​แต่​การ​ที่​พบ​ชาย​แปลกหน้า​ใน​กระท่อม​จาก​การ​หลบ​ฝน​ ​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่ใช่​สิ่ง​ที่​น่า​พูดถึง​นัก​ ​แน่นอน​ว่านา​งคง​จะ​ไม่​พูด​มัน​ออก​ไป

เจียง​อี​จัดแจง​เสื้อผ้า​ของ​นาง​ก่อน​จะ​เดิน​ไป​ที่​ประตู​อย่างรวดเร็ว​แล้ว​เปิด​ออก​ ​ยิ้ม​ให้​กับ​จู​จื่อ​อวี​้​กล่าวว่า​ ​“​อยู่​เจ้าค่ะ​ ​น้อง​สี่​ก็​อยู่​ด้วย​”

จู​จื่อ​อวี​้​ยืน​อยู่​นอก​ระเบียง​ตรง​ประตู​ ​สายตา​มอง​เข้าไป​ด้านใน

เจียง​ซื่อ​ย่อเข่า​เล็กน้อย​ ​“​พี่เขย​”

จู​จื่อ​อวี​้​พยักหน้า​แล้ว​กล่าว​ด้วย​รอยยิ้ม​กับ​เจียง​ซื่อ​ว่า​ ​“​ในเมื่อ​น้อง​สี่​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ ​พวก​เจ้า​ก็​สนทนา​กัน​ไป​เถิด​ ​ข้า​จะ​ไป​ที่​ห้อง​รับรอง​ด้าน​ข้าง​”

เสื้อผ้า​ของ​เขา​เปียก​ไป​ครึ่งหนึ่ง​ ​ดูเหมือน​ผม​และ​ใบหน้า​ของ​เขา​ก็​เปียก​ด้วย​ ​เจียง​อี​มอง​แล้ว​ปวดใจ​ยิ่งนัก

เจียง​ซื่อ​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​ ​นาง​รีบ​เดิน​ไป​ที่​ประตู​ ​กล่าวว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ ​พี่เขย​ ​เช่นนั้น​ข้า​ไม่​ขอ​รบกวน​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ตอน​รับประทาน​อาหาร​ข้า​ค่อย​มาหา​พี่​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​ทำท่า​จะ​เดิน​จากไป​ ​ใบหน้า​อัน​ขาวผ่อง​ของ​เจียง​อีก​็​แดง​เรื่อ​ ​แล้ว​กระซิบ​กับ​จู​จื่อ​อวี​้​ว่า​ ​“​ทำ​เรื่องตลก​ให้​น้อง​สี่​เห็น​อีกแล้ว​”

จู​จื่อ​อวี​้​ชำเลือง​มองดู​หญิงสาว​ที่​เดิน​จากไป​ ​จากนั้น​ก็​ละสายตา​มาม​อง​ที่​เจียง​อี​ ​เขา​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เปียก​ฝน​หรือ​”

เจียง​อี​ที่​ปฏิบัติ​ต่อ​จู​จื่อ​อวี​้​อย่างจริงใจ​ตลอดมา​ ​นาง​ทำได้​เพียง​โกหก​ว่า​ ​“​อืม​ ​ข้า​กับ​น้อง​สี่​กำลังจะ​เดิน​กลับมา​ถึง​แล้ว​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ฝน​จะ​รีบ​ตกลง​มา​เสียก่อน​จึง​ทำให้​เสื้อผ้า​เปียกปอน​”

“​ข้า​ได้​กำชับ​ให้​บ่าว​รับใช้​ไป​หยิบ​ร่ม​จาก​อาจู​มา​ ​แต่​ได้ยิน​ว่า​อา​หยา​เดินทาง​มา​เอา​ร่ม​ไป​ก่อนหน้านี้​แล้ว​”​ ​จู​จื่อ​อวี​้​กล่าว​ขึ้น​ลอยๆ​

หัวใจ​ของ​เจียง​อี​จมดิ่ง​ลง​ ​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ประหม่า

“​เป็น​อะไร​หรือ​”

เจียง​อี​ได้​แต่​ยิ้ม​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ถูกต้อง​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​รับใช้​ฝีเท้า​รวดเร็ว​ยิ่ง​ ​เมื่อ​ตอนที่​เกิด​ลม​พัด​ข้า​จึง​ได้​สั่ง​ให้​นาง​กลับมา​เอา​ร่ม​ ​แต่​ฝนตก​หนัก​เหลือเกิน​ ​ต่อให้​กางร่ม​ก็​ยัง​ทำให้​เสื้อผ้า​เปียกปอน​ไป​กว่า​ครึ่ง​ ​มา​เถิด​ข้า​จะ​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ให้ท่าน​ ​หาก​ใส่​เสื้อผ้า​อับ​ชื้น​อาจ​ทำให้​เป็นหวัด​ได้​”

เจียง​อี​เอื้อมมือ​ไป​ปลด​เข็มขัด​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​ ​จู่ๆ​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ก็​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใน​วันนี้​เจ้า​นัด​กับ​น้อง​สี่​ไว้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

มือ​ของ​เจียง​อี​ชะงัก​ลง​ ​“​นาง​ส่งจดหมาย​มาถาม​ข่าวคราว​ของ​ข้า​ใน​ช่วงนี้​ ​เป็นจังหวะ​เหมาะเจาะ​กับ​ที่​ข้า​จะ​เดินทางออก​มา​จึง​ได้​บอก​กับ​นาง​”

“​อ้อ​ ​เช่นนี้​นี่เอง​”​ ​จู​จื่อ​อวี​้​ยก​แขน​ขึ้น​ให้ความร่วมมือ​กับ​นาง​ ​“​สอง​พี่น้อง​เจ้า​มี​ความสัมพันธ์​ที่​ดีนัก​ ​หากว่า​เจ้า​คิดถึง​น้อง​สี่​ก็​ชวน​ให้​นาง​มาที​่​จวน​เรา​เถิด​ ​อย่า​ได้​กังวล​เรื่อง​ของ​ท่าน​แม่​เลย​ ​หาก​ตามปกติ​แล้ว​มี​ญาติ​เดินทาง​มา​เยี่ยมเยียน​ ​ท่าน​แม่​ก็​ไม่ว่า​อะไร​หรอก​”

ดวงตา​ของ​เจียง​อี​รู้สึก​มีน​้ำ​ตา​คลอ​ ​นาง​พยักหน้า​เงียบๆ​

นาง​แต่ง​เข้าไป​ใน​ตระกูล​จู​ก็​หลาย​ปี​แล้ว​ ​และ​ทุกอย่าง​ล้วน​ผ่าน​ไป​ได้ดี​ ​มี​เพียง​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ที่​ทำให้​นาง​รู้สึก​เยือกเย็น​ดุจ​เดิน​อยู่​บน​น้ำแข็ง​ ​นั่น​ก็​คือ​ท่าที​ของเ​เม​่​สามี​ที่​มีต​่​อนาง​ ​แต่​จะ​ว่า​ไป​ ​แม่​สามี​ของ​นาง​ก็​ไม่ได้​เป็น​เฉพาะ​กับ​นาง​แค่​คนเดียว​ ​แต่​เป็น​กับ​รุ่น​ลูกหลาน​ทุกคน​ ​เนื่องจาก​นาง​เป็น​สะใภ้​คนโต​ ​แต่งงาน​กับ​บุตรชายคนโต​ที่​มี​อนาคต​ไกล​ ​ด้วยเหตุนี้​เอง​แม่​สามี​จึง​ได้​เข้มงวด​กับ​นาง​มากกว่า​คนอื่น

เดิมที​เจียง​อี​เป็น​คนที​่​มี​อารมณ์​อ่อนไหว​ ​ประกอบกับ​บัดนี้​นาง​ยัง​ไม่มี​บุตรชาย​จึง​ทำให้​ไม่มั่นคง​เท่าไร​นัก​ ​ตามปกติ​แล้ว​ ​แม้แต่​กลับ​ไป​ที่​จวน​บ้านเกิด​ของ​ตน​ก็​แทบ​นับ​ครั้ง​ได้​ ​หาก​จะ​บอกว่า​นาง​ไม่รู้​สึก​โศกเศร้า​ใจ​ก็​คง​เป็นไปไม่ได้​ ​อีก​อย่าง​ ​ต่อให้​นาง​รู้สึก​คับ​ข้อง​และ​เศร้าโศก​ใจ​เพียงใด​ ​หาก​เทียบ​กับ​ความรัก​ที่​ตน​ได้มา​จาก​ชายหนุ่ม​ผู้​นี้​ ​มัน​ก็​ไม่ได้​สำคัญ​เลย

เมื่อ​จู​จื่อ​อวี​้​เห็น​ดวงตา​ของ​เจียง​อี​แดง​เรื่อ​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ก็​ขยับ​ยิ้ม​ขึ้น​เล็กน้อย

หลังจากที่​เจียง​ซื่อ​เดิน​ออกมา​ ​ก็​พบ​ว่า​เพียง​มี​ฝนปรอย​ๆ​ ​สายลม​เย็น​ที่​พัดพา​อากาศ​บริสุทธิ์​กับ​กลิ่น​ของ​ดิน​โคลน​ปะทะ​มายัง​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​เมื่อ​นาง​สูดดม​เข้าไป​สัมผัส​ได้​ถึง​กลิ่น​แรง​เป็นพิเศษ

เมื่อ​กลับ​ยัง​ห้อง​รับรอง​ ​เจียง​ซื่อ​จึง​ได้​ผ่อนคลาย​ลง​แล้ว​นึก​ไตร่ตรอง​ที่มา​ที่​ไป​ของ​ชาย​สอง​คน​นั้น​ ​หลังจาก​ครุ่นคิด​อยู่​ชั่วครู่​ ​นาง​ก็​ตัดสินใจ​ว่า​เรื่อง​ที่นาง​รู้​เกี่ยวกับ​ชาย​สอง​คน​นี้​ ​หลังจาก​นาง​กลับ​ไป​แล้ว​จะ​ต้อง​บอก​ให้​อวี​้​จิ​่​นรั​บรู​้​อย่างรวดเร็ว

…..

ใน​ศาลา​รกร้าง​ที่อยู่​ลึก​เข้าไป​ ณ​ ​วัด​บน​ภูเขา​ ​ในที่สุด​ชาย​มี​เครา​ก็​ปลุก​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ให้​ตื่นขึ้น

ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ ​อดทน​กับ​ความปวด​หัว​จน​แทบจะ​ระเบิด​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

“​ไม่รู้​!​”

“​ไม่รู้​งั้น​หรือ​”​ ​ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​มีความรู้สึก​เหมือน​แทบ​บ้า

ใน​ตอนนั้น​เขา​ถูก​ไม้​กระบอง​ตี​เข้าที่​ศีรษะ​ ​จึง​ไม่รู้​และ​มอง​อะไร​ไม่ชัด​ ​แต่​เจ้า​หมอนี​่​กลับ​บอกว่า​ไม่รู้​ด้วย

ชาย​เครา​ครึ้ม​ก็​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​เช่นกัน​ ​“​นั่นสิ​ ​เมื่อ​ครู่​ตอนที่​ข้า​เดิน​มาถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ไม่รู้​ว่า​ถูก​อะไร​แทง​เข้าที่​ผิวหนัง​จากนั้น​ดวงตา​ข้า​ก็​ลืม​ไม่​ขึ้น​ ​มัน​มองไม่เห็น​อะไร​เลย​”

“​แล้ว​เหตุใด​เจ้า​จึง​ไม่​เอ่ย​เตือน​ข้า​”

ชาย​เครา​ครึ้ม​ทำ​สีหน้า​ไม่น่า​มอง​ ​“​ใน​ตอนนั้น​ข้า​ไม่​สามารถ​เคลื่อนไหว​หรือ​ส่งเสียง​ใด​ได้​เลย​ ​หนาม​แหลม​ที่​แทง​เข้ามา​ใน​ร่างกาย​ข้า​น่าจะ​มีพิษ​อยู่​”

ชาย​ชุด​คลุม​ยาว​ตรวจดู​บริเวณ​ที่​ชาย​เครา​ครึ้ม​ถูก​หนาม​แทง​ ​พบ​ว่า​เป็น​เพียง​แผล​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เคร่งขรึม​ขึ้น​มาทัน​ใด​ ​“​บาดแผล​เล็ก​เท่านี้​ทำให้​เจ้า​ไม่​อาจ​เคลื่อนไหว​หรือ​ส่งเสียง​ได้​ ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง​ไม่ธรรมดา​จริงๆ​”

เขามอง​ไป​ยัง​รอย​สีแดง​ที่​ทิ้ง​ไว้​บน​ใบหน้า​จน​เกิด​เป็น​คราบ​เนื่องจาก​น้ำตา​ของ​ชาย​เครา​ครึ้ม​ ​ก่อน​จะ​เอื้อมมือ​ไป​เช็ด​แล้ว​ชิม​มัน​ ​ทันใดนั้น​ดวงตา​เขา​ก็​เบิก​กว้าง

ผง​พริก​?

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท