วินาทีที่สู่อ๋องวางดอกเหมยลงตรงหน้าเจียงซื่อ บรรยากาศในงานพลันเงียบสงัด
และเขามีสติมากขึ้นในที่ๆ เงียบสงบเป็นพิเศษนี้
เขาทำอะไรลงไป
ใช่ เขาทำตามสัญชาตญาณของบุรุษ ด้วยการวางดอกเหมยเขียวลงตรงหน้าสตรีที่สวยที่สุดในงาน
มีความเขินอายเล็กน้อย แต่ที่มีมากกว่าคือความรำคาญ แต่ถึงมีความรำคาญมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่กระทำลงไปอย่างหุนหันพลันแล่นนี้ได้แล้ว
ภายในใจของสู่อ๋องแม้มีความปั่นป่วน แต่ใบหน้ายังคงข่มอารมณ์ไว้ได้ เขายกมือขึ้นลูบจมูกแล้วเดินกลับไป
ยังเหลือดอกเหมยอีกห้าดอกที่สามารถมอบให้สตรีได้อีกห้าคน จะว่าไป ความหุนหันพลันแพล่นนี้ก็ไม่มีอะไร
ถึงจะเป็นเช่นนั้น สู่อ๋องก็ใช้หางตาแอบมองจวงเฟยหนึ่งที และสิ่งที่เห็นคือสีหน้าที่นิ่งขึ้นอย่างกะทันหันของจวงเฟย
เวลานี้ จวงเฟยรู้สึกงุนงงจริงๆ
นางไม่เคยคาดคิดเลยจริงๆ ว่าลูกชายที่ฉลาดและสงบเยือกเย็นมาโดยตลอดจะทำเรื่องน่าตะลึงเช่นนี้ได้
เหตุใดเขาถึงมอบดอกเหมยให้กับคุณหนูจวนตงผิงปั๋วที่เคยยกเลิกงานหมั้นมาแล้ว!
หลังจากความรู้สึกตะลึงตกใจผ่านไป ก็คือความโกรธ
นางโกรธที่ลูกชายมักในหญิงงามจนเลอะเลือน นางโกรธที่เสียนเฟยเจ็บป่วยทางสมอง ส่งเทียบเชิญให้คุณหนูจวนตงผิงปั๋ว
ร้อยอารมณ์ความรู้สึกยามตกลงบนใบหน้า กลับเหลือไว้เพียงความนิ่งสงบกับแววตาที่สุขุม การใช้ชีวิตในวังเป็นเวลาหลายปี ทำให้สตรีที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งสูงอย่างจวงเฟยได้รับการฝึกฝนจนชำนาญ ไม่ว่าจะดีใจหรือโกรธ นางก็ไม่มีวันแสดงออกมาทางสีหน้า
ก็ยังดี ดอกเหมยหกดอกกับตัวเลือกพระชายาเอกหกคน คนที่เป็นคนตัดสินพระชายาเอก สุดท้ายก็เป็นนางอยู่ดี
เหล่าสตรีชั้นสูงมองดูสู่อ๋องที่เดินกลับมา ความรู้สึกต่างๆ ประเดประดังเข้ามา ทั้งความผิดหวัง ความประหลาดใจ คิดไม่ตกและไม่เข้าใจผสมผสานกันอยู่ภายในใจ และสุดท้ายก็คือความเจ็บปวด เพราะคุณหนูเจียงเกิดเป็นคนรูปงาม สู่อ๋องเลยมอบดอกเหมยดอกแรกให้นางอย่างนั้นหรือ ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย รูปงามแล้วมีประโยชน์อย่างไร สามารถกิน ดื่ม เลี้ยงดูครอบครัวได้ หรือว่าเป็นผู้ช่วยให้กับสามีได้รึ
ไม่มีสักอย่าง มันก็แค่เปลือกนอกที่ได้มาตั้งแต่เกิดเพียงเท่านั้น!
เหล่าสตรีชั้นสูงคิดอยู่อย่างนั้น ภายในใจนั้นไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก บิดผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กไปมา บิดไปบิดมา…บิดจนผ้าแทบขาด!
และในเวลานั้น อวี้จิ่นอยากบินออกไปเตะสู่อ๋องสักหนึ่งที
เจ้าหกคนชาติชั่ว กล้าดีอย่างไรมามองภรรยาของเขา!
ใช่ ก็อาซื่อมีดีในทุกด้าน เจ้าคนชาติชั่วนี่ยังนับว่าตาถึง แต่ต่อให้ตาถึงอย่างไรก็ไม่ควรมองน้องสะใภ้ นี่มันไร้มโนธรรมสิ้นดี!
อวี้จิ่นสงบลง เมื่อสู่อ๋องเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
หากพูดอย่างมีสติ การกระทำของสู่อ๋องถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขา
เขาเชื่อว่าจวงเฟยกับเสียนเฟยเป็นคนประเภทเดียวกัน เวลาเห็นบุตรชายมอบดอกเหมยให้อาซื่อ ต้องร้อนใจมากๆ แน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ยามเขาเปิดเผยว่าเขาเลือกอาซื่อ จวงเฟยย่อมพลอยเห็นด้วยกับเขาแน่นอน
อ๊าก แต่ก็ยังโกรธอยู่ดี
มีตาหามีแววไม่ พวกนางมีสิทธิ์อะไรมารังเกียจอาซื่อ สักวันพวกนางจะคิดผิด!
มือข้างลำตัวกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้นมา ส่วนสีหน้าของอวี้จิ่นกลับนิ่งเรียบ
เขาจะคอยดูต่อไปว่าสู่อ๋องจะหาเหาใส่ตัวอย่างไรอีก ถ้าหากดอกที่สองก็ยังให้อาซื่อ เขาจะไม่ทนอีกต่อไป
เมื่อต้องมองดูหญิงในใจถูกชายอื่นเลือกไปเลือกมา อวี้จิ่นสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งถึงคำว่าอดทนนั้นมีคมมีดวางบนหัวใจนั้นเป็นอย่างไร
ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างทรมานเสียเหลือเกิน
สู่อ๋องเดินมาถึงตรงข้ามอวี้จิ่นพร้อมกับยิ้มให้และทำมือท่าหนึ่งให้เขา “ตาน้องเจ็ดแล้ว”
“ไม่จำเป็นขอรับ พี่หกเลือกทีเดียวเลยก็ได้” อวี้จิ่นตอบเรียบๆ
สู่อ๋องปฏิเสธ “จะทำเช่นนั้นได้อย่างไรเล่า”
ทั้งสองคนผลัดกันเลือกถึงจะเป็นไปตามกติกา หากเขามอบดอกเหมยหกดอกออกไปทีเดียว เยี่ยนอ๋องก็ต้องเลือกคนที่เหลือจากเขาไม่ใช่หรือ
มันไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก หากแพร่งกระจายออกไป จะคิดว่าเขาวางอำนาจมากไปได้
อวี้จิ่นยิ้มและกล่าว “จะทำให้วุ่นวายทำไมเล่า พี่หกเลือกเสร็จแล้วข้าค่อยเลือกเถอะ จะได้ไม่ต้องลุกนั่งบ่อยๆ”
เมื่อเห็นว่าเขายืนยันเช่นนี้ สู่อ๋องจึงตอบตกลง
อวี้จิ่นใช้สายตาเย็นชามองดูสู่อ๋องกลับไปยังนางกำนัลที่ถือตะกร้า เขาหยิบดอกเหมยดอกที่สองขึ้นมาและเดินไปทางเหล่าหญิงสาว จากนั้นก็วางดอกเหมยลงตรงหน้าคุณหนูโค่วหลิงปัวจากจวนโซ่วชุนโหว ความอึดอัดที่อัดอั้นอยู่ในอกค่อยบรรเทาลงหน่อย
โค่วหลิงปัวมองดอกเหมยบนจานหยกขาว นางหย่อนตาลงเล็กน้อย แล้วใบหูก็แดงขึ้นมา
สู่อ๋องมองใบหูอันละเอียดของหญิงสาว ใบหน้าที่สวยงามแต่เฉยเมยแล่นผ่านวับวาบภายในหัว พลางหัวเราะขึ้นในใจ ช่างเถอะ ต่อให้คุณหนูจากจวนตงผิงปั๋วจะมีหน้าตาสวยแค่ไหน หากเป็นหญิงงามเย็นชาก็ไร้ความน่าสนใจอยู่ดี
กำลังคิดเช่นนี้ แต่เขาก็มองไปทางเจียงซื่ออีกครั้งอย่างอดไม่ได้
เสื้อคลุมสีแดงกุหลาบ กระโปรงสีขาวเรียบ ทรวดทรงที่เพรียวบาง และใบหน้าที่งดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
การปลอบใจตัวเองของสู่อ๋องพังทลายลงทันทีทันใด
เขาพูดโกหก หญิงงามเย็นชาน่าสใจเป็นอย่างมาก! แต่ไม่มีทางได้ครอบครองหรอก อย่าทำร้ายตัวเองเลย
สู่อ๋องที่ดึงสติกลับมาแล้ว ถอนหายใจอย่างแผ่วเบา เขายกริมฝีปากขึ้นยิ้มและกล่าว “การแสดงของคุณหนูทั้งสองยอดเยี่ยม ข้านั้นชื่นชมยิ่งนัก งั้นข้าขอมอบดอกเหมยสองดอกนี้ให้กับพวกเจ้าก็แล้วกัน หวังว่าเหนียงเหนียงทั้งสองกับคุณหนูทุกท่าน คงไม่ว่าข้าตาไม่ถึงหรอกกระมัง”
เขาพูดตรงไปตรงมาถึงเพียงนี้ แต่ในบรรดาการแสดงความสามารถของเหล่าหญิงสาวที่อยู่ในงาน การแสดงของเจียงซื่อกับโค่วหลิงปัวนับว่าน่าชื่นชมมากจริงๆ จึงทำให้การมอบดอกเหมยดอกที่หนึ่งให้เจียงซื่อ กลายเป็นเรื่องที่ไม่มีความลึกซึ้งไปโดยปริยาย
จวงเฟยสีหน้านิ่งเรียบ แต่แววตาเผยรอยยิ้มออกมา
นางคิดอยู่แล้วว่าลูกชายของนางไว้ใจได้
เสียนเฟยเลิกคิ้ว ภายในใจนั้นรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
นึกว่าจะได้เห็นเรื่องน่าขันเสียแล้ว เหตุไฉนถึงล้มเหลวไปเล่า
เสียนเฟยอิจฉาจวงเฟยเสมอมา
ทั้งๆ ที่เข้าวังช้ากว่า รูปลักษณ์ก็ธรรมดาทั่วไป แต่กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงเพราะขับกลอนไปสองบทและยังคงได้รับความโปรดปรานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
นางไม่เคยได้เห็นเรื่องน่าขันของจวงเฟยเลย มันช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
สู่อ๋องหยิบดอกเหมยดอกที่สามขึ้นมา กวาดสายตามองดูหนึ่งรอบแล้วเกิดอาการลังเลเล็กน้อย เขาวางดอกเหมยลงจานหยกที่อยู่ตรงหน้าหญิงชนชั้นสูงท่านนึง
สตรีที่ได้รับดอกเหมยดีใจมาก และพยายามเก็บอารมณ์กลับไปอย่างสุดความสามารถ
หญิงสาวคนอื่นๆ มองว่านางมีชาติตระกูลที่ไม่สูง รูปลักษณ์ก็ไม่โดดเด่นเท่าไร หัวใจถูกบีบให้เจ็บอีกครั้ง สู่อ๋องมอบดอกเหมยให้โค่วหลิงปัวที่เต้นรำได้อย่างสง่างามกับเจียงซื่อที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นก็มากพอแล้ว แต่หญิงคนนั้นได้ดอกไม้ด้วยเหตุผลใดเล่า!
ถ้าเทียบกันแล้ว หญิงคนนั้นยังสู้ตนไม่ได้เลย
เมื่อคิดกันเช่นนี้ เหล่าหญิงสาวพากันคาดหวังอีกครั้ง
ในเมื่อสู่อ๋องให้ดอกเหมยกับสตรีที่ธรรมดาในทุกๆ ด้าน แสดงว่ามีโอกาสได้รับทุกคน
ท่ามกลางความคาดหวังของเหล่าหญิงสาว สู่อ๋องได้มอบดอกไม้ออกไปอีกสามดอก
สตรีที่ได้รับดีใจอย่างออกหน้า ส่วนคนที่ไม่ได้รับก็จุกอกอย่างผิดหวัง
อวี้จิ่นลุกขึ้นเดินไปหยิบดอกเหมยจากตะกร้าในมือของนางกำนัลขึ้นมาหนึ่งดอก
เหล่าหญิงสาวเก็บอาการต่างๆ ที่อยู่ภายในใจทันทีทันใด พลางเฝ้ามองว่าเยี่ยนอ๋องจะมอบดอกเหมยดอกแรกให้กับคนไหน
โดยทั่วไปแล้ว สตรีที่ได้รับดอกเหมยจะไม่ได้รับดอกเหมยของเยี่ยนอ๋องอีก ถ้าเช่นนั้น สตรีที่ยังเหลืออยู่ จะได้รับดอกเหมยอีกหกคน ซึ่งแต่ละคนมีโอกาสไม่น้อย
อวี้จิ่นก้าวเท้าไปทางเจียงซื่อ
“คุณหนูเจียงได้โปรดรับไว้ด้วยนะ” ชายหนุ่มผู้ถือดอกไม้และกำลังอมยิ้ม ได้วางดอกเหมยนั้นลงบนจานหยกที่อยู่ตรงหน้าของเจียงซื่อ
เหล่าสตรีพากันตะลึง รอยยิ้มตรงมุมปากของเสียนเฟยค้างเล็กน้อย ส่วนสู่อ๋องที่แปลกใจเสร็จหลังจากนั้นก็เข้าใจพร้อมกับยิ้มออกมา
ในฐานะบุรุษคนหนึ่ง จะมีใครที่ไม่อยากยืนในตำแหน่งสูงที่สุด หรืออยากนอนกับหญิงสาวที่สวยที่สุดบ้างเล่า
อวี้จิ่นมองเจียงซื่ออย่างลึกซึ้งแล้วจึงหันหลังเดินกลับไปหยิบดอกเหมยดอกที่สอง จากนั้นจึงเดินไปหาเหล่าสตรีอีกครั้ง
เหล่าสตรีคิดเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย อย่าบอกนะว่าเยี่ยนอ๋องจะนำดอกเหมยดอกที่สองให้คุณหนูโค่ว?
ท่านอ๋องสองท่านมอบดอกเหมยให้สตรีที่มีการแสดงเยี่ยมยอด ก็นับว่าเข้าใจได้
แต่ท่ามกลางการคาดเดาต่างๆ นานา อวี้จิ่นหยุดลงตรงหน้าเจียงซื่ออีกครั้ง เขายิ้มและวางดอกเหมยลง “คุณหนูเจียงได้โปรดรับไว้ด้วยนะ”