เฝิงมาหม่าจ้องสาวรับใช้เขม็งด้วยสีหน้าเย็นชา “มัวทำอะไรกันอยู่ ทำไมยังไม่เอายาให้เอ้อร์กูไหน่ไนกิน!”
สาวรับใช้ทั้งสองสบตากัน หนึ่งในนั้นถือถ้วยยาเดินเข้าไปหาเจียงเชี่ยน “เอ้อร์กูไหน่ไน กินยาเถอะเจ้าค่ะ”
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีความคิดเอามีดแทงเจียงซื่อให้เดินทางไปสู่ความตายพร้อมกัน แต่เมื่อทุกอย่างสงบลง มองไปที่ยาสีดำขลับถ้วยนั้น เจียงเชี่ยนก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัว
นางเซถอยหลัง พลางตะโกนลั่น “ข้าไม่กิน พวกเจ้าออกไปให้พ้น!”
เฝิงมาหม่าถอนหายใจ “เอ้อร์กูไหน่ไนป่วยก็ต้องกินยา ท่านไม่ใช่เด็กแล้ว น่าจะเข้าใจเหตุผลนี้ดี”
“เจ้าเป็นผู้ใดกัน เพียงแค่สุนัขรับใช้ข้างกายเหล่าฮูหยิน เห็นข้าตกที่นั่งลำบาก กล้าดีอย่างไรมาเสนอหน้าสั่งสอนเจ้านายอย่างข้า!” เจียงเชี่ยนด่ากราดด้วยความโกรธ
เฝิงมาหม่ายังคงนิ่งแม้ได้ยินที่นางพูด ทว่านัยน์ตากลับฉายแววความโกรธออกมา จึงตะเบ็งเสียงออกไป “รออะไรอยู่เล่า รีบเอายาให้เอ้อร์กูไหน่ไนกิน!”
สาวรับใช้คนหนึ่งเข้าไปจับตัวเจียงเชี่ยนไว้
เจียงเชี่ยนดิ้นขัดขืนสุดชีวิต “ออกไปให้พ้น ข้าไม่กิน!”
ถึงแม้ว่านางจะต้องตาย ก็ไม่ควรต้องตายอย่างน่าสมเพชเช่นนี้!
“เจียงซื่อ ข้าอยากเจอเจียงซื่อ!” เวลานี้เจียงเชี่ยนไม่มีความคิดที่จะไปขอความเมตตาจากเฝิงเหล่าฮูหยินอีกเป็นอันขาด ได้แต่คิดอยากเจอเจียงซื่อ
มีบางอย่างที่หากไม่ถามให้รู้เรื่อง ไม่พูดออกมาตรงๆ นางก็ไม่อาจทำใจให้สบายใจได้!
เฝิงมาหม่าหัวเราะเยาะ “เอ้อร์กูไหน่ไน นี่ท่านไม่รู้จริงๆ หรือว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ใด คุณหนูซื่อคือผู้ใด นั่นคืออนาคตพระชายาอ๋องเชียวนะเจ้าคะ ในจวนปั๋วไม่มีผู้ใดสูงศักดิ์ไปกว่าคุณหนูซื่ออีกแล้ว ไม่ใช่ท่านอยากเจอก็จะเจอได้นะเจ้าคะ อีกอย่างท่านยังทำเรื่องเช่นนั้นกับบคุณหนูเจียงซื่ออีก…”
พอยกเรื่องนี้มาพูด เฝิงมาหม่าก็ส่ายหน้า
เอ้อร์กูไหน่ไนเสียสติไปแล้วจริงๆ โชคดีที่คุณหนูซื่อปลอดภัยดี
“ข้าต้องการพบเจียงซื่อ!” เจียงเชี่ยนออกแรงผลักสาวรับใช้
สาวรับใช้ทั้งสองนึกว่านางจะวิ่งหนี จึงรีบไปขวางที่ประตู แต่ไม่คิดเลยว่าเจียงเชี่ยนจะหันหลังวิ่งเข้าไปข้างใน ไม่นานก็วิ่งกลับออกมาพร้อมกับโยนกล่องไม้แดงลงตรงหน้าเฝิงมาหม่า
ฝากล่องแตกออก เผยให้เห็นเครื่องประดับเพชรพลอย
เฝิงมาหม่าหรี่ตาลง “เอ้อร์กูไหน่ไนหมายความว่าอย่างไร”
เจียงเชี่ยนสงบลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ภายในห้องนี้มีพวกเราแค่สี่คน เซียวมาหม่าและสาวรับใช้อีกสองคน นอกจากนี้ก็ไม่มีผู้ใดรู้แล้ว แต่ว่าข้าขอแค่อย่างเดียว…”
เฝิงมาหม่าละสายตาออกมาจากเครื่องประดับที่ส่องประกายระยิบระยับ แล้วตัดใจพูดออกไป “อย่าเลยเจ้าค่ะเอ้อร์กูไหน่ไน ข้าน้อยเชิญคุณหนูซื่อมาหาท่านไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”
“หากแค่ส่งสารให้ข้าล่ะ”
เฝิงมาหม่ารู้สึกงงงวย
เจียงเชี่ยนชี้ไปที่เครื่องประดับบนพื้น “พวกเจ้าช่วยข้าส่งสารไปหาเจียงซื่อ ไม่ว่านางจะอยากพบข้าหรือไม่ ของพวกนี้ล้วนเป็นของพวกเจ้า”
“นี่…” เฝิงมาหม่าลังเลขึ้นมาทันที
ทรัพย์สินเงินทองนั้นเปลี่ยนใจคนได้ นางรับใช้เหล่าฮูหยินมาครึ่งค่อนชีวิตยังไม่เคยเห็นเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย
ส่วนสาวรับใช้ทั้งสองตาลุกวาวยิ่งกว่านางเสียอีก
เงินมากมายเช่นนี้ เกรงว่าหากแบ่งให้พวกนางเพียงเล็กน้อย มันก็เพียงพอที่จะทำให้พวกนางมีชีวิตที่ดีได้ในอนาคต
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเฝิงมาหม่าก็พยักหน้า “ก็ได้เจ้าค่ะ บอกข้ามาได้เลย หลังจากที่ส่งสารให้แล้วหากคุณหนูซื่อไม่อยากพบท่าน เอ้อร์กูไหน่ไนก็อย่าได้โวยวายก่อเรื่องอีก”
เจียงเชี่ยนยิ้มเยาะ “ได้ แต่ว่าข้าต้องการให้พวกเจ้าสาบานว่าจะส่งสารไปให้ถึงจริงๆ หากรับเงินแต่ไม่ทำตามที่พูดไว้ ก็ขอให้ฟ้าผ่าตาย!”
“ไม่ได้นะเจ้าคะ!” เฝิงมาหม่าปฏิเสธอย่างเด็ดขาด
“ข้าไม่ได้ขอให้พวกเจ้าเชิญนางมาให้ได้สักหน่อย ไม่อยากได้เครื่องประดับพวกนี้ไปอย่างง่ายดายหรือ”
ทุกอย่างเงียบไปพักหนึ่ง แล้วเฝิงมาหม่าก็พยักหน้าออกมา “ก็ได้เจ้าค่ะ”
ทั้งสามยกมือขึ้นสาบานอย่างรวดเร็ว มีสาวรับใช้หนึ่งในนั้นแอบไปส่งสารที่เรือนไห่ถังเงียบๆ
เจียงซื่อทราบเรื่องก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แล้วถอนหายใจพลางเอ่ยขึ้น “หาวิธีจนได้สินะเจียงเชี่ยน”
ตกอยู่ในสภาพนี้แล้วไม่นึกเลยว่าจะยังสามารถบงการสาวรับใช้ของเหล่าฮูหยินมาส่งสารให้ได้ ถือว่ามีความสามารถพอควร
“คุณหนู อย่าไปหาคนเสียสตินะเจ้าคะ”
เจียงซื่อลุกขึ้น “ไปเจอสักหน่อยก็ไม่เสียหาย”
เดิมนางขี้เกียจจะพูดเรื่องบางเรื่องแล้ว แต่ในเมื่อเจียงเชี่ยนไม่ยอม ไปดูสักหน่อยจะได้จบเรื่องสักที
เจียงเชี่ยนคาดไม่ถึงเลยว่าเจียงซื่อจะมาจริงๆ
นางรีบปิดประตูลง ทั้งห้องมีเพียงแค่แสงสลัว บรรยากาศชวนน่าอึดอัด
เมื่อเห็นหญิงสาวสีหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกยืนอยู่ตรงหน้า จู่ๆ เจียงเชี่ยนก็ยิ้มออกมา “ไม่นึกเลยว่าผู้สูงศักดิ์อย่างเจ้าจะมาหาข้าถึงนี่ ไม่กลัวว่าข้าจะทำร้ายเจ้าอีกหรือ”
เจียงซื่อเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าไม่มีเวลามาก พี่รองมีอะไรก็รีบพูดเถอะ”
“พี่รอง?” เจียงเชี่ยนเบิกตาโพลงขึ้นมาทันควัน “คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะยังเรียกข้าว่าพี่รอง! เช่นนั้น เจียงซื่อ ข้าขอถามเจ้าสักหน่อย ความสัมพันธ์ระหว่างเราในอดีตมันดีมากแท้ๆ แล้วข้าทำผิดอะไรต่อเจ้านักหนา จู่ๆ เจ้าถึงได้ทำตัวไม่ดีต่อข้านัก”
เจียงซื่อมองเจียงเชี่ยนด้วยสีหน้าแปลกใจ
“เจ้าเป็นอะไร”
เจียงซื่อยิ้ม “พี่รองคิดหรือว่าเรื่องที่ท่านทำไว้พวกนั้น ข้าจะไม่รู้”
นางก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเอ่ยกระซิบเบาๆ “พี่มันเป็นฆาตกร!”
เจียงเชี่ยนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว มองไปที่เจียงซื่อด้วยความตกใจและรู้สึกจนตรอก มีความรู้สึกอึดอัดเหมือนถูกคนแก้ผ้า
นางรู้เรื่องงั้นรึ
นางรู้ได้อย่างไรกัน!
“เจ้าว่าอะไร…”
เจียงซื่อยิ้มเยาะแล้วเอ่ยขัดจังหวะเจียงเชี่ยนพูดแก้ตัว “กล้าทำแต่ไม่กล้ารับ พี่รอง อย่าให้ข้าต้องดูถูกพี่เลย”
เจียงเชี่ยนอ้าปากพะงาบๆ เรื่องที่สงสัยพวกนั้นหายวับไปราวกับลูกหนังที่ถูกจิ้มแตก
“ในเมื่อพี่รองเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัว”
จู่ๆ เจียงเชี่ยนก็นึกอะไรออกขึ้นมา จึงยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อของเจียงซื่อ “เรื่องที่ซื่อจื่อถูกเปิดโปงเป็นเพราะเจ้าใช่หรือไม่”
เจียงซื่อชำเลืองมองมือที่ซีดเผือดและผอมกะหร่องโดยไม่มีทีท่าเอ่ยปากปฏิเสธ
“เป็นเจ้าจริงรึ!” เจียงเชี่ยนตาแดงก่ำราวกับสัตว์ร้ายที่สูญเสียการควบคุม “นังสารเลว ที่ข้าต้องตกอยู่ในสภาพอับจนไร้หนทางเช่นนี้ก็เพราะเจ้า!”
เจียงซื่อออกแรงดึงปลายเสื้อกลับมา แล้วตวัดมือออกไป
เพี๊ยะ เสียงตบฉาดดังขึ้น ใบหน้าของเจียงเชี่ยนเป็นรอยแดง
เจียงซื่อขมวดคิ้ว “เดิมข้าก็ไม่อยากจะให้มือสกปรก เพียงแต่ไม่นึกเลยว่ามาจนถึงขนาดนี้แล้วเจ้ายังยืนกรานหลงผิดจนโงหัวไม่ขึ้น บอกว่าที่เจ้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เป็นเพราะข้างั้นรึ หากว่ากันตามนั้น ชีวิตของข้าสมควรที่จะถูกเจ้าปองร้ายแล้วถูกฉังซิงโหวซื่อจื่อดูถูกเหยียดหยามและฆ่าข้า จากนั้นเจ้าก็เฉิดฉายเป็นซื่อจื่อฮูหยินต่อไปงั้นรึ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนแม้จะเห็นเฉาซิงอวี้ทำร้ายคนอื่นต่อไปเรื่อยๆ มันถึงจะยุติธรรมกับเจ้ารึ”
เจียงซื่อยิ่งพูดก็ยิ่งเยือกเย็น “จะบอกว่าเป็นทองไม่รู้ร้อนก็คงจะดีเกินไป เกรงว่าหากเฉาซิงอวี้พบเจอกับความลำบากเจ้าก็คงจะช่วยเขาอีก เจียงเชี่ยน ฟังข้าให้ดี ที่เจ้าต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ไม่ใช่เพราะคนอื่น แต่เป็นเพราะตัวเจ้าเอง!”
พูดจบ นางก็หันหลังเดินออกไป
“เจียงซื่อ เจ้ามันคนสารเลว คิดว่าได้เป็นพระชายาอ๋องแล้วจะเชิดหน้าชูตาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดหรือ กรรมจะตามสนองเจ้า กรรมจะตามสนองเจ้าแน่!”
เจียงซื่อชะงักทันที แล้วหันกลับมายิ้ม “อย่างน้อยข้าคงไม่ได้ได้ชดใช้กรรมเพราะเจ้าหรอก สวรรค์ไม่ได้ตาบอดนะ!”
เมื่อประตูเปิดออก เฝิงมาหม่าพาสาวรับใช้อีกสองคนเดินเข้ามาด้วยความเงียบเชียบ
“เอ้อร์กูไหน่ไน กินยาเถอะเจ้าค่ะ”
อ๊ากกก… เกิดการต่อสู้ขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง เจียงเชี่ยนลงไปกลิ้งกับพื้นพร้อมกับแหกปากร้องออกมา จากนั้นเสียงก็ค่อยๆ หายไป
เหล่าฮูหยินส่งสารออกไป แล้วส่งเอ้อร์กูไหน่ไนไปรักษาตัวที่หมู่บ้านนอกเมือง
เจียงเชี่ยนเป็นใบ้ไปแล้ว ก่อนที่นางจะถูกส่งตัวออกจากจวนไป เซียวมาหม่าแอบมาเยี่ยมนาง…