ในบรรดาแฟนคลับของตู๋กูซิงหลัน ไม่เคยขาดคนระดับมหาเศรษฐี
เนื่องเพราะเหล่าคนที่เป็นมหาเศรษฐีต่างก็ยินดีที่จะได้ผูกมิตรกับมหาเศรษฐีด้วยกัน
แน่นอนว่า…..ในสายตาของพวกเขา ไอดอลอย่างเยี่ยซิงหลันก็ถือเป็นมหาเศรษฐีนีคนหนึ่ง
พวกนักข่าวพากันหันไปมอง ก็เห็นผู้ชายที่พึ่งจะพูดออกมาเมื่อครู่นั้น มีอายุประมาณสามสิบกว่าปี เขาสวมใส่เสื้อผ้าเรียบง่าย แต่ว่าขับรถโรลส์-รอยซ์รุ่น Adams ที่มีอยู่เพียงไม่กี่คันในโลก
ปกติแล้วมหาเศรษฐีเหล่านี้มักไม่ต้องไล่ตามดาราดัง ….เพราะปกติแค่พวกเขาถูกใจดาราหญิงคนไหนพวกเธอก็มักจะส่งตัวเองเข้าอ้อมอกของพวกเขาอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว
แต่ว่าสำหรับเยี่ยซิงหลันนั้นไม่เหมือนกัน ……. นางคือบุปผางามที่อยู่สูงสุดเอื้อม ….ที่ได้แต่ชื่นชมเท่านั้น
“คนๆนั้น…คือท่านประธานสือ!”
สมแล้วที่มีอาชีพเป็นนักข่าว….แค่ได้เห็นหน้า และค้นหารูปภาพมาเทียบเคียงดู ก็สามารถจดจำได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร…..คนๆนี้ก็คืออภิมหาเศรษฐีอันดับสิบ…สือเทียนควาง
เมื่อมีคนระดับนี้พูดออกมา ใครบ้างจะไม่เชื่อถือ?
รู้หรือไม่ว่า…..เขามีทรัพย์สินระดับพันล้านเลยนะ!
พอประธานสือเอ่ยปากออกมา นักข่าวเหล่านั้นก็ไม่กล้าพูดมากอีก ….ที่จริงเรื่องที่เยี่ยซิงหลันใช้ร่างกายแลกกับความโด่งดัง…พวกเขาเองก็ไม่เชื่ออยู่แล้ว
เพียงแต่เรื่องนี้แพร่สะพัดอยู่ในอินเตอร์เน็ต จึงจำเป็นจะต้องจับมาเป็นประเด็น เพื่อไล่ตามกระแสก็เท่านั้น
ว่าตามจริงก็คือเพื่อเงินนั่นแหละ
ตู๋กูซิงหลันอดจะมองดูสือเทียนควางแวบหนึ่งไม่ได้….อืม คนคนนี้เป็นรองประธานกลุ่มแฟนคลับของนางน่ะเอง….
ก่อนนั้นเขาเดินทางไปดูการขุดเหมืองของบริษัทที่ซีหลิง เขากับพวกคนงานตกลงไปในเส้นทางที่ดำมืดใต้ดิน ส่วนนางก็บังเอิญโผล่ขึ้นมาจากสุสานโบราณพอดี…..จึงได้บังเอิญช่วยชีวิตน้อยๆของเขาเอาไว้ จากนั้นก็ได้ให้คำแนะนำกับเขาว่าตรงไหนขุดได้ ตรงไหนไม่ควรไปขุด
ผู้ชายคนนี้ถึงกับยึดถือคำพูดของนางเป็นบัญชาของเทพเซียน เพียงในชั่วเวลาสั้นๆก็ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ กลายเป็นมหาเศรษฐีร่ำรวยขึ้นมา
ดังนั้นนับแต่นั้นเป็นต้นมาเขาจึงนับถือผู้มีพระคุณอย่างนางเป็นเทพเจ้าสมบัติ ให้ความเคารพกราบกรานหัวปักหัวปำ
ตอนนี้เขาก้าวออกมาพูดแก้ต่างแทนนาง ย่อมถือว่าเป็นคนดีที่ไม่ลืมตัว
“ประธานสือ…..ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้ ก็แสดงว่าข่าวคาวเกี่ยวกับการขายเรือนร่างพวกนั้นก็คงจะเป็นเรื่องกุขึ้นมาแล้วสินะครับ”
พวกนักข่าวต่างก็ส่งยิ้มออกมา จากนั้นก็ปัดหัวข้อนี้ทิ้งไป
แต่ก็ยังคงไม่คิดจะทิ้งโอกาสดีๆเช่นนี้ไปอย่างแน่นอน
“พวกเราเองก็ต้องการจะเปิดโอกาสให้คุณซิงหลันได้อธิบายและแสดงความบริสุทธิ์…. เรื่องที่คุณหลิงXX และคุณพานXXฆ่าตัวตาย จะว่าอย่างไรก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับคุณซิงหลันอยู่บ้างใช่ไหมละครับ?”
“คุณหลิวXXเป็นนางเอกในละครเรื่องแรกที่คุณซิงหลันเล่น ตอนนั้นพอละครออนแอร์ได้ไม่นาน …..หลิงXXก็แขวนคอฆ่าตัวตายเสียแล้ว ทั้งๆที่เรื่องนี้เธอเล่นเป็นนางเอกแท้ๆ แต่เพราะถูกคุณซิงหลันทั้งเล่นข่มและแย่งซีน จึงกลายเป็นว่าพอละครของเธอออกฉาย เธอก็ถูกรัศมีของคุณข่มจนหมด คนในอินเตอร์เน็ตก็เยาะเย้ยเธอ ด่าทอเธอ…..จนสุดท้ายเธอถึงกับทนต่อไปอีกไม่ไหวต้องฆ่าตัวตายไป”
นักข่าวคนนั้นเกรงว่าผู้คนจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไม่ค่อยได้แล้ว จึงได้ฉวยโอกาสย้ำเตือนขึ้นมาอีกประโยคหนึ่งว่า “เรื่องนี้คุณซิงหลันสมควรจะมีคำอธิบายใช่ไหมเล่า?”
ตู๋กูซิงหลันเหลือบมองดูนักข่าวคนนั้นแวบหนึ่ง รูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่เลวเลยแต่ว่าแววตากลับฉายแววชั่วร้ายแปลกๆ
เห็นชัดว่ามาเพื่อหาเรื่องกันอย่างแน่นอน
ในรถของนางยังมีภูเขาน้ำแข็งอีกสองลูก ตู๋กูซิงหลันย่อมไม่คิดที่จะรั้งอยู่นานเกินไป
เพราะฉะนั้นตั้งแต่ตอนที่ฝูงคนรายล้อมเข้ามา นางก็รีบปิดหน้าต่างหมดทุกด้านแล้ว เพราะไม่อยากให้พวกเขามองเห็นภูเขาน้ำแข็งทั้งสองที่อยู่ในรถ
ไม่อย่างนั้นนางก็คงจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิม
พอSherryถูกผลักออกมาอยู่นอกวงล้อม และได้ยินพวกนักข่าวตั้งคำถามหาเรื่อง เขาก็โกรธเสียจนต้องดื่มยาน้ำตราคุณนายหลับง่ายสบายใจลงไปสองขวดติดๆกัน
ตอนนั้นที่ยายหลิวXXนั่นแขวนคอตาย ก็เพราะไปกลายเป็นมือที่สามในครอบครัวของผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง… พอเห็นว่าเรื่องราวกำลังจะแดงขึ้นมา จึงถูกพวกผู้ใหญ่ในวงการบันเทิงบีบจนตายน่ะสิ!
ตอนหลังจุดจบของผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นก็ได้รับกรรมถึงขั้นเมียทิ้งลูกๆหนีหาย
อืม……เป็นฝีมือของทูนหัวจัดการนั่นแหละ!
เรื่องของคนหลอกลวง…..แค่ตบหน้าครั้งเดียวมันจะไปพออะไร ยัยมือที่สามกับผู้ชายหลอกลวงนั่นต่างก็ไม่ใช่คนดีอะไร!
ยัยมือที่สามถูกผู้ชายหลอกลวงจนต้องฆ่าตัวตาย ผู้ชายที่หลอกลวงคนนั้นจึงถูกลูกพี่หลันใช้เล่ห์กลเล็กๆน้อยทำให้เขาถูกขับไล่ออกจากวงการบันเทิง สุดท้ายต้องมีจุดจบที่ลูกเมียทอดทิ้ง
และเพราะเห็นแก่ที่ลูกชายของเขายังเป็นเพียงเด็กตัวเล็กๆ จึงไม่ได้เอาเรื่องชั่วร้ายของเขาออกมาประกาศให้สาธารณะชนได้รับรู้
ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าความใจดีของลูกพี่หลันในตอนนั้น ย้อนกลับมาแทงนางเสียแล้ว?
Sherry แทบอยากจะพ่นความจริงที่เกิดขึ้นออกไปเสียเดี๋ยวนี้
นักข่าวคนนั้นเห็นตู๋กูซิงหลันรีรอไม่ยอมตอบคำถาม ก็อดจะกล่าวอย่างหยามใจไม่ได้ว่า “ยังมีเรื่องของคุณพานXX ที่เดิมทีก็กำลังจะแต่งงานกับคู่หมั้นอยู่แล้ว ……. แต่เพราะว่าคู่หมั้นของเธอเกิดเปลี่ยนใจมาหลงรักคุณซิงหลัน สุดท้ายคุณพานXXก็เลยไปกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายที่ภูเขาX”
หากฟังจากที่เขาพูดเพียงฝ่ายเดียว เยี่ยซิงหลันก็ถือว่าเป็นนางมารที่ทำร้ายผู้อื่นจริงๆ!
พานXXเป็นดาราหญิงระดับสาม…..คู่หมั้นของเธอก็เป็นแบบเดียวกับเธอ เป็นดาราชายที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่ จะดังก็ไม่ดังจะดับก็ไม่ดับ
ดังนั้นเรื่องนี้ตอนที่เธอกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตาย จึงไม่ค่อยจะเป็นกระแสสักเท่าไหร่
ตอนนี้กลับมีคนขุดคุ้ยขึ้นมา ทั้งใส่สีตีไข่จงใจสาดโคลนลงมาบนหัวของตู๋กูซิงหลัน
คู่หมั้นของของคุณพานXXเป็นไอ้หนุ่มเจ้าชู้ เพราะอยากจะมีชื่อเสียงจึงคิดจะเข้าหาตู๋กูซิงหลัน แต่พอไม่สำเร็จ ก็เลยคิดจะจัดการกับคู่หมั้น แล้วมาใส่ความตู๋กูซิงหลัน วางแผนชั่วสร้างสถานการณ์ให้เกิดชื่อเสียงขึ้นมา…..
แต่ว่าสิ่งที่คนทำย่อมอยู่ในสายตาของเทวดาฟ้าดิน พอเขาวางแผนจัดการผลักคู่หมั้นของตนเองตกหน้าผาไป ตนเองก็ถูกรถชนตาย ดับอนาถตามไปอย่างรวดเร็ว…….เรื่องก็เลยจบไปตั้งแต่ตอนนั้นแบบไม่มีอะไรอีก
ภายในรถ……สีหน้าของจีเฉวียนและซื่อมั่วอึมครึมไม่น่าดูอย่างที่สุด
แต่ว่านักข่าวคนนั้นกลับเขยิบเข้ามาใกล้อีก “คุณซิงหลันเป็นเหตุให้ผู้หญิงถึงสองคนตายไป….แล้วก็ไปแต่งงานเป็นภรรยาน้อยของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง สองปีมานี้เคยรู้สึกสำนึกเสียใจบ้างหรือไม่ครับ? หรือว่าคุณชายZเกิดตาสว่างขึ้นมา …..ก็เลยขับไล่คุณออกจากบ้าน ดูรถที่คุณขับตอนนี้สิผุพังขนาดไหนแล้ว….”
เหล่าแฟนคลับอยากจะตบปากคนคนนี้ให้ปากฉีกนัก! ไอ้นักข่าวหน้าเหม็นคนนี้มาจากที่ไหนกัน บ้านมันถูกขายทิ้งไปแล้วหรือไง?
เขายังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินเสียง ‘บรึ้ม’ ติดๆกัน
ทันใดนั้นรถQQผุๆของตู๋กูซิงหลันก็ระเบิดขึ้น!
ใช้แล้ว มันระเบิด!
ประตูรถระเบิดจนกระเด็นออกมา กระแทกเข้าใส่ร่างของนักข่าวคนนั้น
แรงกระแทกทำเอาเขาถึงกับกระอักเลือดสดๆออกมาในทันที เขาล้มลงไปบนพื้น พักใหญ่ก็ยังลุกไม่ขึ้น
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงอยู่กับที่ ……. บริเวณโดยรอบเงียบสงบราวกับลานประหารไปในทันที
“เปิดปากขึ้นมา ก็มีแต่เรื่องโป้ปด….” น้ำเสียงที่เย็นชาของบุรุษผู้หนึ่งดังมาจากในรถ
เป็นเสียงของซื่อมั่ว ถึงแม้ว่าประตูรถจะถูกระเบิดออกไปแล้ว แต่ว่าผู้คนก็ยังไม่อาจมองเห็นตัวของเขาที่อยู่ภายในรถได้
หากซื่อมั่วไม่ต้องการให้ใครเห็นเขา ก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นเขาได้ทั้งนั้น
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ที่คนอ้าปากพ่นเรื่องโป้ปดได้…..โดยไม่ต้องรับผิดชอบใดๆกับการกระทำของตน” น้ำเสียงของเขาเย็นชาอย่างที่สุด เพียงแต่เมื่อได้ยินแล้ว ก็จะรู้สึกว่าเขาคงจะระคายคออยู่บ้าง
และในขณะที่ผู้คนยังไม่ทันได้มีปฏิกริยาใดๆอยู่นั้น ก็เห็นบุรุษในชุดสีดำน้ำเงินแบบตะวันตกผู้หนึ่งก้าวลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ
ชายผู้นั้น…..หล่อเหลาเกินไปแล้ว
รูปร่างของเขาสูงโปร่งดุจพู่กัน ไม่พูดไม่จาก็เดินไปยังนักข่าวที่นอนอยู่บนพื้น ยกหมัดต่อยลงไปหมัดหนึ่ง
ต่อยลงบนหน้า
จนฟันของนักข่าวแทบจะร่วงหมดปาก เขาถึงได้ค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาหงส์กวาดมองไปยังผู้คนรอบๆด้วยแววตาเย็นยะเยือก
………………………….