ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ – ตอนที่ 654 พายุหิมะ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ผู้อาวุโสฮ​วาชะ​งัก​ไป​ชั่ว​อึดใจ​ก่อน​จะ​รีบ​ตอบ​ ​“​อาฮ​วา​อยู่​ใน​ที่ๆ​ ​ปลอดภัย​ ​พระ​ชายา​มิต​้​อง​กังวล​”

เจียง​ซื่อ​ส่ง​ยิ้ม​ ​นาง​เข้าใจ​สิ่ง​ที่​ผู้อาวุโสฮ​วากำ​ลัง​จะ​สื่อ

ตอนนี้​เจียง​ซื่อ​รู้​แล้ว​ว่ายาย​หลาน​สอง​คน​นี้​หนีรอด​มาจาก​ปฏิบัติการ​ค้นหา​ของ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ได้​อย่างไร

เพราะ​นาง​มีวิชา​แปลงกาย​ ​หลังจาก​ผู้อาวุโสฮ​วา​และ​หลานสาว​หลุด​ออกมา​จาก​ที่คุมขัง​ ​ทั้งคู่​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​จาก​ปลา​ที่ว่าย​เข้าไป​ใน​มหาสมุทร​ ​การ​จะ​หา​ตัว​พวก​นาง​จึง​กลายเป็น​งาน​ยาก​ยิ่ง

ยิ่ง​รถม้า​วิ่ง​ห่าง​จาก​เมืองหลวง​ไป​ไกล​ขึ้น​ ​จำนวน​รถม้า​ที่​สัญจร​สวนมา​ก็​น้อยลง​อย่าง​ถนัดตา

เริ่ม​เข้าสู่​เดือน​สิบสอง​แล้ว​ ​ฉะนั้น​คนที​่​ออก​ไป​ทำงาน​อยู่​ต่างแดน​จึง​ทยอย​เดินทาง​กลับบ้าน​กัน​ไป​หมด​แล้ว​ ​ส่วน​คนที​่​เตรียม​จะ​ออก​ไป​ทำงาน​ก็​เลื่อน​แผนการ​เดินทางออก​ไป​เป็น​หลัง​ปีใหม่

วันฉลอง​ขึ้น​ศักราช​ใหม่​เป็น​วันที่​ครอบครัว​อยู่​กัน​พร้อมหน้า

เจียง​ซื่อ​ในขณะนี้​ก็​ตั้งตารอ​จะ​ได้​เห็น​หน้า​ผู้​เป็น​พี่ชาย​ ​เฝ้ารอ​วันที่​จะ​ได้​พบ​กับ​อวี​้​จิ​่น​ ​ครอบครัว​จะ​ได้​กลับมา​อยู่​พร้อมหน้า​กัน​อีกครั้ง

การ​เดินทาง​ลง​ใต้​ผ่าน​ไป​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​แต่​แล้ว​พายุ​หิมะ​ก็​ถาโถม​เข้ามา

ลมหนาว​โหมกระหน่ำ​ประกอบกับ​กอง​หิมะ​ที่​สุม​ตัว​หนา​เกาะ​พื้นถนน​ ​ทำให้​การ​เดินทาง​เป็นไป​ด้วย​ความยากลำบาก​ ​ความเร็ว​ของ​รถ​ลดลง​วัน​ต่อ​วัน

หลง​ต้าน​เดิน​มา​ข้าง​รถม้า​และ​เคาะ​ตัว​รถ​ ​“​นาย​หญิง​ ​หาก​เดินทาง​ต่อไป​เกรง​ว่า​ม้า​จะ​ไป​ต่อ​ไม่ไหว​ขอรับ​ ​ผู้น้อย​เห็น​ว่า​ข้างหน้า​มี​โรง​เตี​๊​ยม​ ​พวกเรา​หยุดพัก​ที่นี่​กัน​สักครู่​ ​รับประทาน​อาหาร​รอ​ให้​พายุ​หิมะ​สงบ​ลง​ก่อน​ค่อย​เดินทาง​ต่อ​ดี​ไหม​ขอรับ​”

ไม่นาน​นัก​เสียง​ของ​เจียง​ซื่อ​ก็​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านใน​ ​“​ได้​”

รถม้า​เร่งความเร็ว​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​แต่​เมื่อมา​ถึงที่​หน้า​โรง​เตี​๊​ยม​ถึง​ได้​รู้​ว่า​แท้จริง​แล้ว​สถานที่​แห่ง​นั้น​คือ​วัด​ร้าง

วัด​ร้าง​แห่ง​นี้​กว้าง​กว่า​วัด​ซาน​สื่อ​ที่​ชานเมือง​มาก​ ​และ​ไม่ได้​ซอมซ่อ​คร่ำคร่า​เช่น​วัด​นั้น

เจียง​ซื่อ​ลง​จาก​รถม้า​ ​นาง​กวาดสายตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​แล้วจึง​ก้าว​เข้าไป

คณะ​เดินทาง​ครั้งนี้​มี​กัน​ทั้งหมด​สี่​คน​ ​ซึ่ง​ได้แก่​เจียง​ซื่อ​ ​ผู้อาวุโสฮ​วา​ ​หลง​ต้าน​ ​และ​เหล่า​ฉิน​ผู้​เป็น​สารถี

หลง​ต้าน​ตรวจตรา​พื้นที่​ด้านใน​ก่อน​จะ​เลือก​ที่​ที่​เหมาะสม​ ​เขา​จัดวาง​เก้าอี้​ตัว​น้อย​ที่​เตรียม​มา​ ​และ​เชิญ​ให้​เจียง​ซื่อ​และ​ผู้อาวุโสฮ​วานั​่​งคอย​ ​ส่วนตัว​เอง​ไป​เก็บ​เศษไม้​แห้ง​จาก​ภายใน​วัด​มาก​อง​รวมกัน​เพื่อ​ก่อ​กองไฟ

ด้านนอก​พายุ​หิมะ​ยัง​ไม่มี​ทีท่า​จะ​เบา​ลง​ ​ใน​วัด​มี​เพียง​เรียว​แสงส่อง​สลัว​ ​ทันทีที่​กองไฟ​ถูกจุด​ติด​ ​ด้านใน​ก็​สว่าง​โร่

หลง​ต้าน​ส่ง​ยิ้ม​พลาง​บอก​ ​“​ดูแล​้​วที​่​วัด​ร้าง​แห่ง​นี้​คง​เป็น​ที่​กำบัง​พายุ​หิมะ​ให้​ผู้คน​มากมาย​ ​เพราะ​ยัง​มี​ไม้​แห้ง​เหลืออยู่​อีก​มาก​เลย​ขอรับ​”

“​ดูเหมือนว่า​หมู่นี้​ข้า​จะ​ดวง​สมพงศ์​กับ​วัด​ร้าง​อย่างไร​ชอบกล​”​ ​เจียง​ซื่อ​ชำเลือง​ไป​ที่​ผู้อาวุโสฮ​วา​ ​คลี่​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย

ผู้อาวุโสฮ​วาส​่ง​ยิ้ม​กลับมา​แต่​ไม่ได้​เกริ่น​กล่าว

เหล่า​ฉิน​ยืน​เฝ้า​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​พร้อม​เงยหน้า​มอง​ฟ้า

หิมะ​ตกหนัก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ประหนึ่ง​ขน​ห่าน​เกลื่อน​กล​นอยู​่​ทั่ว​ฟ้า​ที่​ไม่รู้​ว่า​จะ​ไป​สิ้นสุด​ตรงไหน

เหล่า​ฉิน​หันกลับ​มา​พูด​กับ​คนที​่​อยู่​ใน​วัด​ ​“​หิมะ​ดูจะ​ตกหนัก​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​เลย​ขอรับ​ ​คาด​ว่า​คงจะ​เดินทาง​ต่อ​ไม่ได้​อีก​สักพัก​ขอรับ​”

หลง​ต้าน​ขมวดคิ้ว​มอง​เจียง​ซื่อ

สำหรับ​พวกเขา​ที่​เคย​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​สมรภูมิ​รบ​มานาน​แรมปี​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​การ​หลบ​ลม​หลบ​ฝน​ใน​วัด​ร้าง​ ​เพราะ​ต่อให้​นอน​เขลง​อยู่​กลาง​ถิ่นทุรกันดาร​ก็​ยัง​ไม่เป็นอะไร​ ​แต่​ร่างกาย​อัน​สูงค่า​ของ​พระ​ชายา​จะ​มา​อยู่​ที่นี่​คง​ไม่​เหมาะ​นัก

ใบหน้า​ของ​เจียง​ซื่อ​ยังคง​นิ่ง​เรียบ​พร้อม​เอ่ย​ ​“​ถ้า​ยัง​ไป​ไม่ได้​ก็​พัก​ที่นี่​ไป​ก่อน​ ​หาก​สุดท้าย​เดินทาง​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ก็​ค้าง​ที่นี่​สัก​คืน​”

แน่นอน​ว่า​หาก​ที่พักแรม​ยิ่ง​สบาย​ก็​ยิ่ง​ดี​ ​แต่​เมื่อ​ออกมา​อยู่​ข้างนอก​ ​เรียบง่าย​เข้า​ไว้​จะ​ดีกว่า

เมื่อ​เจียง​ซื่อ​กล่าว​เช่นนั้น​ ​หลง​ต้าน​ก็​ไม่มี​อะไร​จะ​พูด​ ​เขา​หอบหิ้ว​หม้อ​ใบ​หนึ่ง​มา​แขวน​ไว้​บน​กองไฟ​ ​แล้วจึง​เท​ข้าวสาร​ใส่​ลง​ไป​สำหรับ​ต้ม​ข้าวต้ม

เหล่า​ฉิน​จับ​กระต่ายป่า​ตัว​หนึ่ง​มา​เสียบ​ไม้​ย่าง​บน​กองไฟ

กระต่ายป่า​ตัว​นั้น​กระโดด​ผ่าน​มา​ขณะที่​เหล่า​ฉิน​กำลัง​บังคับ​รถม้า​ ​เขา​เลย​ใช้​แส้​ม้า​ฟาด​เข้าให้​ ​และ​บัดนี้​เจ้า​กระต่ายป่า​ถูก​นำมา​แปรง​สภาพ​เป็น​อาหาร​อัน​โอชะ

ผู้อาวุโสฮ​วากำ​ลัง​ถูกตา​มล​่า​ ​ส่วน​เจียง​ซื่อ​ใน​ตอนนี้​ก็​ปลอม​เป็น​หลานสาว​ของ​นาง​ ​เพื่อ​ไม่​ให้​ตกเป็น​ที่​สังเกต​ของ​หน่วย​องครักษ์​จิ​่น​หลิน​ ​ทั้ง​สี่​จึง​หลีกเลี่ยง​การ​พักแรม​ที่​โรง​เตี​๊​ยม​ระหว่างทาง​

แม้​คณะ​เดินทาง​กลุ่ม​นี้​จะ​ไม่เคย​ค้างแรม​ที่​กลาง​ป่า​ ​แต่​อาหาร​แต่ละ​มื้อ​กลับ​ไม่เคย​ขาด

กลิ่นหอม​ของ​เนื้อ​ย่าง​ลอย​ฟุ้ง

หลง​ต้าน​สูด​จมูด​ฟุดฟิด​พลาง​คลี่​ยิ้ม​ ​“​เหล่า​ฉิน​ ​ช่าง​มีฝีมือ​ยิ่งนัก​”

เหล่า​ฉิน​พลิก​เนื้อ​กระต่าย​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​“​ทำ​มา​หลายครั้ง​เริ่ม​คล่อง​แล้ว​”

หลง​ต้าน​เดิน​เข้ามา​ใกล้​ด้วย​ท่าที​สนอกสนใจ​ ​“​ดู​ไม่​ออก​เลย​ว่า​ ​เจ้า​ชอบ​ย่าง​เนื้อ​”​

“อื​้ม​”​ ​เหล่า​ฉิน​พยักหน้า​ ​สายตา​ยังคง​จดจ้อง​ไป​ที่​เนื้อ​กระต่ายป่า​ที่​ค่อยๆ​ ​เริ่ม​เปลี่ยนเป็น​สีเหลือง​ทอง​ด้วย​ท่าทาง​ขะมักเขม้น

“​เหล่า​ฉิน​ ​เจ้า​ย่าง​เนื้อ​อะไร​เก่ง​ที่สุด​ ​ข้า​จะ​บอกอะ​ไร​ให้​นะ​ ​ข้า​น่ะ​ ​เก่ง​เรื่อง​กิน​เนื้อ​กวาง​…​”​ ​บรรยากาศ​อึมครึม​ใน​ตอน​เดินทาง​แปรเปลี่ยน​เป็น​บทสนทนา​สนุกสนาน

ผู้อาวุโสฮ​วาม​อง​ไป​ที่​หลง​ต้าน​อย่าง​พินิจ​พิศ​จ้อง​ ​นาง​นึก​ฉงน​ใน​ใจ​ว่า​ ​ตัวเอง​ได้ยิน​อะไร​ผิด​ไป​หรือไม่

ถาม​คนอื่น​ว่าย​่าง​เนื้อ​อะไร​เก่ง​ที่สุด​ ​ควรจะ​บอกว่า​ตัวเอง​ย่าง​เนื้อ​อะไร​เก่ง​ที่สุด​เหมือนกัน​ ​มาบ​อก​ว่า​ตัวเอง​กิน​เนื้อ​กวาง​เก่ง​ที่สุด​นี่​ต้องการ​จะ​สื่อ​อะไร​กัน​แน่

นาง​ร่ำเรียน​ภาษา​ต้า​โจว​มาตั​้ง​แต่อ้อนแต่ออก​ ​อีกทั้ง​ยัง​อาศัย​อยู่​ที่​ต้า​โจว​มาตั​้ง​นาน​หลาย​ปี​ ​ไม่เคย​คิด​เลย​ว่า​ภาษา​ต้า​โจว​จะ​ล้ำลึก​ถึง​เพียงนี้​…​

ใน​ตอนนั้น​ ​เหล่า​ฉิน​ที่​กำลัง​ย่าง​เนื้อ​อย่างพิถีพิถัน​เอ่ย​ตอบ​ ​“​ข้า​ย่าง​เนื้อ​หนู​เก่ง​ที่สุด​”

เมื่อก่อน​ยากจน​จึง​จับ​หนูนา​มาย​่า​งกิ​นอยู​่​บ่อยๆ

“​เนื้อ​หนู​รึ​”​ ​หลง​ต้าน​ดึง​มุม​ปาก​ ​สายตา​ที่​จดจ้อง​ไป​ที่​เนื้อ​กระต่าย​สีเหลือง​ทอง​ผิดแปลก​ไป​เล็กน้อย

เหล่า​ฉิน​กล่าว​ด้วย​ใบหน้า​ไม่​สื่อ​อารมณ์​ ​“​สมัย​นั้น​ข้า​นอน​กลางดิน​กิน​กลาง​ทราย​ ​แค่​กิน​เนื้อ​หนูนา​เคล้า​กับ​สุราชั​้น​เลว​ ​มอมเมา​ให้​ตัวเอง​หลับ​ไป​ ​พอตื​่​นก​็​เดิน​เตร็ดเตร่​ไป​เรื่อย​ ​ท้อง​หิว​เมื่อไหร่​ก็​จับ​หนูนา​มาย​่า​งบ​้าง​ ​นก​กระจิบ​บ้าง​ ​พูด​แล้วก็​คิดถึง​วัน​เก่า​…​”

“​สุดยอด​!​”​ ​หลง​ต้าน​ตอบรับ​โดยพลัน

เหล่า​ฉิน​จ้องมอง​ไป​ที่​ตาของ​หลง​ต้าน​พลาง​บอก​ ​“​คิด​แล้วก็​ไม่​อยาก​กลับ​ไป​เป็น​เช่นนั้น​อีกแล้ว​”

คืน​วัน​เก่าๆ​ ​เหล่านั้น​เป็น​เสมือน​ฝันร้าย​ของ​เหล่า​ฉิน​ ​เขา​ใช้ชีวิต​เยี่ยง​ศพ​เดิน​ได้มา​นาน​หลาย​ปี​ ​หาก​จะ​ให้​กลับ​ไป​อีก​คง​ไม่มีวัน​ ​เด็ก​อย่าง​หลง​ต้าน​ที่​ใช้ชีวิต​วนเวียน​อยู่​ใน​ความ​ธรรมดา​จำเจ​กลับ​อิจฉา​อดีต​ของ​เขา​ ​ไอ้​เด็ก​นี่​มัน​โง่​หรือเปล่า

หลง​ต้าน​อ้าปากค้าง​ ​ไป​ต่อ​ไม่​ถูก

เหล่า​ฉิน​นี่​พูด​อะไร​ไม่​ดู​สถานการณ์​เลย​ ​ช่วย​ต่อ​บทสนทนา​ให้​มัน​ลื่นไหล​กว่านี​้​หน่อย​ไม่ได้​หรือ​อย่างไร

เจียง​ซื่อ​ฟัง​บทสนทนา​ของ​ทั้งสอง​แล้ว​เกือบจะ​หลุด​ขำ

เดิมที​นาง​คิด​ว่า​ขาด​อาหมาน​ไป​สัก​คน​ ​ช่วงเวลา​ที่​เดินทาง​ไป​กับ​ผู้อาวุโสฮ​วา​คง​น่าเบื่อ​น่าดู​ ​ไม่รู้​เลย​ว่า​หลง​ต้าน​และ​เหล่า​ฉิน​จะ​คุย​อะไร​สนุก​ๆ​ ​แบบนี้​กับ​เขา​เป็น​ด้วย

กลิ่น​เนื้อ​ย่าง​ฟุ้งกระจาย​ไป​ทั่ว​วัด​ ​พายุ​หิมะ​ด้านนอก​ยัง​เทล​งมา​ไม่ขาดสาย​จน​ไม่รู้​เลย​ว่า​ฟ้า​มืด​ตั้งแต่​เมื่อไหร่

เมื่อ​เห็น​ว่า​เนื้อ​กำลัง​สุก​ได้ที่​ ​เหล่า​ฉิน​ก็​ควัก​กริช​สะอาด​ขึ้น​มา​เตรียม​จะ​หัน​เนื้อ

ขณะที่​คม​แหลม​ของ​กริช​เฉือน​ผ่าน​หนัง​ด้านนอก​สีเหลือง​ทอง​ ​น้ำมัน​จาก​สัตว์​ก็​หยด​ลง​บน​กองไฟ​ทำให้​เปลวเพลิง​โหม​ขึ้น​ ​ใน​จังหวะ​นั้น​ ​เหล่า​ฉิน​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย

ในขณะเดียวกัน​ ​หลง​ต้าน​หุบ​ยิ้ม​และ​เฉ​มอง​เข้าไป​ใน​วัด

ประตู​ไม้​หลุด​หาย​ไป​ตั้งแต่​เมื่อใด​ไม่​อาจ​ทราบ​ ​กรอบประตู​ว่างเปล่า​ไร้​ที่​กำบัง​ ​ลม​เย็นเยือก​โบก​โบย​พัดพา​เกล็ด​หิมะ​เข้ามา​ ​ธง​พุทธ​แขวน​ยาว​ขาดวิ่น​พัด​กระพือ​ไป​ตาม​แรงลม

หลง​ต้าน​จับ​ดาบ​ ​และ​เดิน​ไป​กระซิบ​ข้าง​เจียง​ซื่อ​ ​“​นาย​หญิง​ ​มี​คน​มา​ขอรับ​”

เจียง​ซื่อ​พอ​เดา​ได้​จาก​ปฏิกิริยา​ของ​หลง​ต้าน​และ​เหล่า​ฉิน​ ​นาง​พยักหน้า​เล็กน้อย​พลาง​บอก​ ​“​อย่า​เพิ่ง​ตื่นตระหนก​ไป​ ​ไม่แน่​ว่า​เขา​อาจจะ​เหมือน​พวกเรา​ที่​หา​ที่​หลบ​พายุ​หิมะ​”

วัด​ร้าง​แห่ง​นี้​ตั้งอยู่​ระหว่างทาง​ ​ในเมื่อ​พวก​นาง​เข้ามา​ได้​ ​คนอื่นๆ​ ​ก็​เข้ามา​ได้​เช่นกัน

บรรยากาศ​กลับ​สู่​สภาวะ​ปกติ​ใน​ช่วงเวลา​สั้น​ๆ

“​เหล่า​ฉิน​ ​เนื้อ​สุกรึ​ยัง​”​ ​หลง​ต้าน​ยิ้ม​ร่า​พลาง​ถาม

เหล่า​ฉิน​พลิก​เนื้อ​กระต่าย​อีกครั้ง​และ​เปลวเพลิง​ก็​ลุกขึ้น​ตรงหน้า​อีกครั้ง​ ​“​ใกล้​แล้ว​”

ใน​ทันใดนั้น​ ​มีเสียง​ดัง​ขึ้น​จาก​ที่​หน้า​ประตู

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

Status: Ongoing
นิยายโรแมนติกยุคโบราณ-แนวแต่งงาน ดราม่าในอดีตจะหายไป รักใหม่สุดหวานซึ้งจะเริ่มต้น…กับคนเดิม?!ชาติที่แล้วเพราะนาง ‘เจียงซื่อ’ คุณหนูสี่แห่งตระกูลตงผิงปั๋วดวงตามืดบอดทำให้ชีวิตกลับตาลปัตรจนถึงแก่ความตายเมื่อได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตที่สองนางจะไม่ทำเรื่องผิดพลาดซ้ำอีกต่อไปคนที่หวังดีกับนางจากใจจริงนางล้วนเข้าใจและพร้อมตอบแทนด้วยสิ่งเดียวกันคนที่คิดร้ายวางแผนทำลายนาง นางก็พร้อมจะเอาคืนเป็นทบเท่าพันทวีชีวิตการแต่งงานที่ไม่สมหวังในชาติก่อนทำให้นางเข็ดขยาดไม่คิดจะมีความรักอีกแต่เหตุใดกัน ‘อวี้จิ่น’ สามีคนที่สองของนางในชาติก่อนกลับมาคอยตามตอแยนางไม่หยุดเช่นนี้!แม้ชาติก่อนข้าจะเคยชอบเจ้า แต่ชาตินี้อย่าหวังจะทำให้ข้าเสียน้ำตาได้อีกเป็นหนที่สองนางต้องอยู่ให้ห่างจากเจ้าคนเลวนั่นไว้ ยิ่งไกลยิ่ง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท