คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง – ตอนที่ 87 พลังแห่งเงิน

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

ตอนที่ 87 พลังแห่งเงิน

เยียนอวิ๋นเกอติดตามขบวนรถขนถ่านไม้กลับไปถึงเมืองหลวง

ตอนออกจากเมืองหลวง ยังเป็นฤดูร้อนที่อบอ้าว

เมื่อกลับมาถึงเมืองหลวง ก็เป็นหน้าหนาวที่มีลมพัดเย็นยะเยือกแล้ว

มารดาที่ไม่ได้เจอมาหลายเดือนแล้ว คิดถึงอย่างมาก

เยียนอวิ๋นเกอโผเข้ากอดเซียวฮูหยินผู้เป็นมารดา พลางออดอ้อน ทั้งที่ตัวของนางสูงกว่าอีกฝ่ายคืบหนึ่งแล้ว

เซียวฮูหยินอดหัวเราะไม่ได้ “เป็นสาวแล้ว เหตุใดเจ้ายังทำตัวออดอ้อนเหมือนเด็ก ระวังผู้อื่นหัวเราะเอา”

เยียนอวิ๋นเกอไม่สนใจความคิดเห็นของผู้อื่น “ให้พวกเขาหัวเราะเถิด คนพวกนั้นอิจฉาข้า”

เซียวฮูหยินหัวเราะ สะกิดหน้าผากของนาง “ยืนดีๆ ให้ข้าดู เพียงไม่กี่เดือน เจ้าสูงขึ้นอีกแล้ว ผิวไม่ได้ตากแดดจนดำ ช่างดีเสียจริง”

เยียนอวิ๋นเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ว่าความขาวปกปิดความอัปลักษณ์ทั้งหมดได้ ข้าจดจำคำสอนของท่านแม่ ไม่กล้าตากแดดจนตัวดำ เวลาออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะมีแดดหรือไม่ ข้าล้วนสวมหมวก ปกปิดร่างกายอย่างมิดชิด”

เซียวฮูหยินหยิกแก้มของนาง “ผิวยังนุ่มเหมือนเคย ดูเหมือนเวลาที่เจ้าไม่อยู่เมืองหลวง เจ้าดูแลตัวเองอย่างดี ข้าว เห็ดหูหนู ผักที่เจ้าให้คนส่งมา ข้าได้รับแล้ว รสชาติดีมาก เจ้ามีความฉลาดเฉลียว คิดหาวิธีให้คนได้กินกินผักสีเขียวในฤดูหนาวได้”

“ท่านแม่ชอบหรือไม่”

“แน่นอน!”

“ผลผลิตที่ท่านแม่กินเป็นชุดแรก ต่อจากนี้ยังจะมีมากยิ่งขึ้น ปีนี้เป็นปีแรก มีจุดที่ไม่สมบูรณ์จำนวนมาก รอปีหน้ามีประสบการณ์แล้วย่อมดีขึ้น”

เซียวฮูหยินมองเยียนอวิ๋นเกอที่ทำท่าทางภาคภูมิใจ นางก็พูดอย่างภาคภูมิใจ “เจ้าเก่งมาก! เห็ดหูหนู ผักสีเขียวที่เจ้าส่งกลับมา ข้าให้คนส่งไปให้เซ่าฝู่ตะกร้าหนึ่ง ทั้งสองพระองค์ในวังจะได้กินผักสดหรือไม่ พวกเราไม่สนใจ พวกเราทำในสิ่งที่ควรทำแล้ว ไม่กังวลว่าจะถูกวิจารณ์”

เยียนอวิ๋นเกอพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่คำนึงได้รอบคอบ ระหว่างทางกลับมา ลูกยังคิดว่าจะขายผักในเมืองหลวง ฤดูหนาวลำบากมาก ต้องส่งไปให้พระราชวังหรือไม่ หากไม่ส่ง ฮ่องเต้และฮองเฮารู้ พวกเขาอาจจะแค้นข้า วางแผนใส่ร้ายข้า ไม่คาดคิดว่าท่านแม่จะคำนึงทุกอย่างแทนข้าแล้ว เห็ดหูหนูและผักเขียวส่งไปให้เซ่าฝู่แล้ว ไม่ได้เอาเงินสักเหวินเดียว แม้ฮ่องเต้คับแค้นใจเพราะไม่ได้กิน แต่ก็ทำได้เพียงสืบโทษเซ่าฝู่ ไม่เกี่ยวข้องกับข้า”

เซียวฮูหยินกลับพูด “โทษที่ตั้งใจจะใส่ร้ายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้! เพียงแค่ส่งผักไปให้เซ่าฝู่ยังไม่พอ เจ้าติดต่อจวนองค์หญิงเฉิงหยางเป็นเรื่องที่ถูกต้อง อย่างไรองค์หญิงเฉิงหยางก็เป็นน้องสาวของฮ่องเต้ หากนางต้องการเห็ดหูหนูและผักของเจ้า เมื่อในวังสืบโทษขึ้นมา นางย่อมแก้ต่างแทนเจ้า เพียงแต่ องค์หญิงเฉิงหยางสามารถปกป้องเจ้าอย่างมากหนึ่งปี รอถึงปีหน้า แปลงนาของตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวงย่อมต้องเลียนแบบวิธีการของเรือนพักร่ำรวย สร้างเรือนอุ่นปลูกผัก ไม่แน่ว่าอาจเอาช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญของเจ้าไป หากเป็นเช่นนี้ โอกาสที่เจ้าจะหาเงินได้มีเพียงปีนี้และปีหน้า”

สถานการณ์ร้ายแรง!

ไม่ต้องให้มารดาเตือน เยียนอวิ๋นเกอก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป

น้ำแกงเครื่องในชามละสองเหวินยังมีคนเลียนแบบ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผักนอกฤดูที่มีราคาสูง

รอปีหน้า แปลงนาขนาดต่างๆ ในเมืองหลวงล้วนสร้างเรือนอุ่นที่มีขนาดแตกต่างกันขึ้นมา

อย่าดูถูกความฉลาดของช่างฝีมือในยุคนี้

ตราบใดที่เถ้าแก่ให้เงินเพียงพอ ช่างฝีมือก็สามารถเลียนแบบสร้างเรือนอุ่นที่มีคุณภาพได้

ก่อนหน้านี้ไม่มี เพียงเพราะไม่มีใครคิดถึงเรือนอุ่น

ตอนนี้มีทิศทางแล้ว ช่างฝีมือย่อมสามารถสร้างเรือนอุ่นที่ดีกว่าเรือนพักร่ำรวยได้

ท้ายที่สุดแล้ว ช่างฝีมือของตระกูลที่ร่ำรวยและมีอำนาจนั้นดีกว่าช่างฝีมือที่เยียนอวิ๋นเกอรับสมัครจากผู้อพยพอย่างมาก

ดังนั้น เยียนอวิ๋นเกอจึงมีแผนสำรอง

นางไม่สนใจการเลียนแบบ นางเพียงแค่ต้องการรักษาผลประโยชน์และข้อได้เปรียบของตนเอง

นางพูด “อาศัยการปลูกผักหาเงินสองปี ก็เพียงพอแล้ว! อย่างมาก ลดราคาลง ทำการซื้อขายแบบราคาทั่วไป”

เซียวฮูหยินพึงพอใจอย่างมาก “เจ้าคิดเช่นนี้ได้ ข้าก็วางใจแล้ว ก่อนหน้านี้ยังกังวลว่าเจ้าจะดื้อรั้น”

เยียนอวิ๋นเกอยิ้มอย่างมีชัย “ข้าใจกว้างพอ เรื่องเพียงเล็กน้อยไม่คิดวกวน เวลานี้หาเงินได้ ข้าต้องหาให้มาก”

เซียวฮูหยินได้ยินเช่นนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้ “เจ้าจะถอนขนองค์หญิงเฉิงหยางจริงหรือ”

เยียนอวิ๋นเกอพูดอย่างตรงไปตรงมา “องค์หญิงเฉิงหยางดื่มด่ำกับความโอ่อ่า เงินของนางได้มาง่าย หาเงินจากนางก่อน ค่อยคำนึงถึงผู้อื่น”

ก่อนหน้านี้ เรือนพักร่ำรวยได้ค้าขายกับจวนองค์หญิงเฉิงหยางสำเร็จแล้ว สิ่งที่ขายคือเห็ดหูหนู

เห็ดหูหนูบนเขา หลังจากเก็บมานำมาตากแห้ง ไม่ถึงสองร้อยจิน

นางส่งตัวอย่างเห็ดหูหนูไปให้จวนองค์หญิงเฉิงหยางลองชิมก่อน

หลังจากที่องค์หญิงเฉิงหยางลองชิมแล้ว พึงพอใจอย่างมาก บอกว่ามีเท่าใดเหมาเท่านั้น

เยียนอวิ๋นเกอย่อมไม่ขายเห็ดหูหนูทั้งหมดให้จวนองค์หญิงเฉิงหยาง

นางเหลือห้าสิบจินไว้กินเอง ก่อนจะแบ่งออกมาสิบจินส่งให้เซ่าฝู่ ที่เหลือขายให้จวนองค์หญิงเฉิงหยาง

เยียนอวิ๋นเกอกำหนดราคาที่เหมาะสม นางหวังว่าวันหลังยังสามารถถอนขนขององค์หญิงเฉิงหยางได้อีก ไม่อาจตั้งราคาสูงจนเกินควร

สุดท้าย นางกำหนดราคาที่ไม่ถูก แต่ก็ไม่แพงเกินไป

หนึ่งจินสามก้วน

เห็ดหูหนูร้อยกว่าจิน ขายไปได้หลายร้อยก้วน

ต้นทุน?

ค่าแรงเล็กน้อย ค่าวัตถุดิบเล็กน้อย เมล็ดพันธุ์แพงสุด

เมื่อรวมแล้ว ต้นทุนยังไม่เกินห้าสิบก้วน

ห้าสิบก้วนขายได้หลายร้อยก้วน กำไรหลายเท่าตัว ถือเป็นกำไรมหาศาลแน่นอน

ทำได้เพียงบอกว่ายุคสมัยนี้ ไม่มีเงินเฟ้อ เงินใช้ได้นาน

ครอบครัวสามัญชนทั่วไป ใช้ชีวิตปกติ ไม่มีการใช้จ่ายอย่างซื้อชุด เรียนหนังสือ ป่วย หรืออื่นๆ หนึ่งเดือนหลายร้อยเหวินก็เพียงพอแล้ว

ประหยัดได้ย่อมประหยัด หนึ่งวันกินสองมื้อ กินเพียงธัญพืชหยาบ หนึ่งครอบครัวสามถึงห้าคน หนึ่งเดือนหลายร้อยเหวินก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิต

มันเป็นค่าใช้จ่ายของครอบครัวสามัญชนในเมืองหลวง

หากเป็นชาวนา ไม่มีค่าใช้จ่ายอื่น หนึ่งเดือนคงใช้จ่ายไม่ถึงสิบเหวิน

เงินใช้ได้นาน เงินมีมูลค่า

เห็ดหูหนูหนึ่งจินสามก้วนเป็นสิ่งที่มีราคาสูงในสายตาของสามัญชน

แต่สำหรับองค์หญิงเฉิงหยางที่มีกำลังซื้อ อย่าว่าแต่สามก้วน สิบก้วนนางก็ซื้อ

เพื่อความสุขของตนเอง เงินเพียงเล็กน้อยไม่ใช่ปัญหา

ครานี้ผักเขียวในเรือนอุ่น เยียนอวิ๋นเกอก็เพ่งเล็งไปที่จวนองค์หญิงเฉิงหยาง

นางเชื่อว่าจะมีการสั่งซื้อลงมาในไม่ช้า

เป็นไปตามคาด วันที่สอง หูกงกง ขันทีแห่งจวนองค์หญิงเฉิงหยางเดินทางมาหาเยียนอวิ๋นเกอ คุยเรื่องปัญหาการจัดหาผักในฤดูหนาว

บรรยากาศทั้งสองฝ่ายร้อนระอุ เจ้าไปข้ามา สันติอย่างมาก

“แปลงนาของคุณหนูสี่มีผักกี่ชนิด เพียงแค่ผักเขียว องค์หญิงของข้าคงไม่พอใจนัก”

“หูกงกงวางใจ เรือนพักร่ำรวยยึดถือคติของตะกร้าผัก มีผักฤดูหนาวอย่างน้อยห้าชนิด”

“อ๋อ?” หูกงกงตั้งสติ “นานเท่าใดจึงส่งได้ สามวันครั้งได้หรือไม่ ราคาต่อรองได้”

พลังเงินขององค์หญิงเฉิงหยางไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

เงินมากน้อยเพียงใด ไม่สำคัญ

สิ่งสำคัญคือต้องมีหลากหลายชนิด รสชาติดี หายาก

ฤดูหนาว ทั้งแผ่นดินเต็มไปด้วยความแห้งเหี่ยว

แต่บนโต๊ะอาหารของจวนองค์หญิงเฉิงหยางกลับปรากฏสีเขียว หากพูดออกไปจะได้หน้ามากเพียงใด มีศักดิ์ศรีเพียงใด

เยียนอวิ๋นเกอส่ายหน้าช้าๆ สามวันส่งครั้งหนึ่ง เขาล้อเล่นหรือ

นางไม่มีมนต์วิเศษ ไม่มีทางให้เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกวันนี้งอกขึ้นในวันพรุ่งนี้

ผักเติบโตเร็ว แต่ก็มีระยะเวลาของมัน

อีกทั้งผักชนิดอื่นเพิ่งปลูกลงไปเมื่อไม่กี่วันก่อน อย่างเร็วก็ต้องรอหนึ่งเดือนครึ่งถึงจะกินได้

เวลานี้มีเพียงผักเขียว

แต่เยียนอวิ๋นเกอพูดความจริงไม่ได้

มิฉะนั้นจะเป็นการแสดงความยากจน และไร้ความสามารถของเรือนพักร่ำรวย

ทันใดนั้นย่อมต้องถูกพลังเงินของจวนองค์หญิงเฉิงหยางฆ่าตายในทันที

เยียนอวิ๋นเกอครุ่นคิด “เกลือที่หูกงกงกินมากกว่าข้าวที่ข้ากินเสียอีก ท่านย่อมรู้ว่าการปลูกผักในฤดูหนาวยากเย็นเพียงใด มิฉะนั้น หลายปีมานี้ เหตุใดจึงไม่เห็นคนปลูก ไม่ปิดบังท่าน เพียงแค่เมล็ดพันธุ์ เรือนพักก็สูญเสียไปหลายสิบจินหรือนับร้อยจิน ถึงได้ผักเขียวมาเล็กน้อย ผักชนิดอื่น ย่อมปฏิบัติเหมือนลูก เวลานี้ยังเป็นต้นอ่อน ไม่อาจกินได้ ดังนั้น วันส่งของไม่อาจกำหนดได้ เรื่องของผลผลิต โดยเฉพาะผลผลิตในฤดูหนาว คงพูดไม่ได้ ล้วนต้องดูที่ลมฟ้าอากาศ ลำบากอย่างมาก กงกงโปรดเห็นใจ”

หูกงกงได้ยิน เขาเลิกคิ้ว

จิ๊!

เยียนอวิ๋นเกอที่ไม่ใช่เด็กใบ้อีกต่อไปพูดเก่งเสียเหลือเกิน

หลายปีที่พูดไม่ได้กลับมาพูดได้อย่างกะทันหัน ต้องใช้เวลาปรับตัวหรือไม่!

จะมาถึงก็หลอกคนเช่นนี้ได้อย่างไร

หูกงกงลูบไล้คาง เสียดายที่ไม่มีเครา ไม่อาจแสร้งทำเป็นครุ่นคิดเหมือนท่านผู้เฒ่า

ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย

เขาพูด “คุณหนูสี่อย่าหลอกข้า ข้าแก่แล้ว แต่ดวงตายังไม่พร่ามัว ความสามารถของเรือนพักร่ำรวย ผู้อื่นอาจไม่รู้ แต่ข้าพอรู้ ตามนิสัยของคุณหนูสี่ หากไม่ทำก็แล้วไป หากลงมือทำย่อมต้องยิ่งใหญ่ ผักเพียงเล็กน้อยย่อมไม่ยากสำหรับท่าน ท่านอย่าหลอกข้าเลย ราคาเท่าใดท่านบอกมา ไม่ว่าท่านบอกราคาใด ข้าต่อเพียงสองส่วน แต่ท่านต้องรับรองว่าจะจัดส่งสามวันครั้ง”

เยียนอวิ๋นเกออมยิ้มส่ายหน้า นางชอบทำการค้ากับคนที่มีกำลังเงินโดดเด่น

แต่นางก็ไม่อาจเสกผักออกมากลางอากาศได้

นางทำได้เพียงปฏิเสธอย่างเสียดาย “ขอบคุณหูกงกงที่เยินยอข้า แต่จัดส่งสามวันครั้งไม่อาจรับรองได้ ปลูกผักต้องใช้เวลา ต้องใช้คนใช้แรงดูแล มันไม่ใช่เรื่องวันสองวัน หากแต่ต้องใช้เวลาหลายเดือน เช่นนี้เถิด จัดส่งห้าวันครั้ง ส่งเพียงผักเขียว เมื่อทางเรือนพักมีของใหม่ ข้าจะปรับเวลา”

ห้าวัน อีกทั้งยังมีแต่ผักเขียว?

หูกงกงส่ายหน้าระรัว “ไม่ปิดบังคุณหนูสี่ วันนี้หากข้าไม่นำของสดใหม่กลับไป องค์หญิงต้องถลกหนังข้าแน่ ตอนออกจากจวน ข้าตั้งปณิธานกับองค์หญิง ไม่ว่าอย่างไร วันนี้ต้องขอให้คุณหนูสี่ช่วยเหลือ”

เยียนอวิ๋นเกอเลิกคิ้วยิ้ม “หรือไม่หูกงกงซื้อถ่านไม้กลับไป ข้าจำได้ว่าท่านแม่ข้ายังเหลือเห็ดหูหนูขาวอยู่เล็กน้อย”

เมื่อได้ยินว่าเห็ดหูหนูขาว ดวงตาของหูกงกงลุกวาว “เห็ดหูหนูขาวจริงหรือ”

“จริงแท้แน่นอน ไม่กล้าปิดบังหูกงกง แต่ว่าเหลือเพียงหนึ่งจิน…”

“หนึ่งจินก็หนึ่งจิน ข้าเอาหมด ผักเขียวมาอีกสิบตะกร้าแปดตะกร้า ถ่านไม้ที่ท่านพูดก่อนหน้านี้ เอามาห้าพันจิน…ไม่ หนึ่งหมื่นจิน”

ช่างมั่งคั่งเสียเหลือเกิน!

เยียนอวิ๋นเกอดีใจ

แกะอย่างองค์หญิงเฉิงหยาง นางต้องถอนขนให้หมดตัว

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

คุณหนูใบ้หัวใจแกร่ง

Status: Ongoing
ณหนูจวนอื่นชื่นชอบแพรพรรณงดงาม กวี ภาพเขียน บุรุษหล่อเหลา แต่คุณหนูสี่จวนโหวกลับคลั่งไคล้ในเงินทอง! การค้ารูปแบบใดที่แผ่นดินนี้ไม่เคยมีล้วนออกมาจากสมองของนางและทั้งหมดล้วนทำให้เงินทองไหลมาเทมา!นิยายโรแมนติกจีนโบราณ ที่นางเอกมากความสามารถและคลั่งไคล้เงินสุดๆ!คุณหนูสี่แห่งจวนโหว เยียนอวิ๋นเกอ เป็นใบ้เพราะอุบัติเหตุตอนยังเด็กทำให้อุปนิสัยดุร้าย อารมณ์ร้อน มุทะลุยิ่งนักใครๆ ล้วนมองว่านางเป็นหญิงเอาแต่ใจไม่เคยคำนึงถึงสิ่งใดแต่จิตวิญญาณด้านในของนางนั้นคือหญิงสาวผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวในวันสิ้นโลกอาจเพราะความยากลำบากในชาติก่อนสิ่งเดียวที่นางกลัวที่สุดก็คือกลัวอดตาย!ดังนั้นหากไม่อยากอดตายต้องทำอย่างไรก็ต้องมีเสบียง! และการจะมีเสบียงได้นั้นก็ต้องมีเงิน!เพื่อการนั้นนางจะทุ่มเทสมองในการบุกเบิกการค้า ปูรากฐานทุกอย่างเพื่อพี่น้องและมารดาด้วยมันสมองของคนยุคใหม่นางไม่เชื่อว่าจะทำไม่ได้ทหารต่อให้เก่งกาจเพียงใดหากไม่มีเสบียงแล้วไซร้ก็ยากจะรบต่อไปได้ถึงตอนนั้นในแผ่นดินที่ฮ่องเต้จ้องจะกวาดล้างอำนาจขุนนาง ครอบครัวนางย่อมหยัดยืนได้อย่างมั่นคง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท