ตอนที่ 160 การแย่งชิงภายใน
ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง ภายในแปลงนาเต็มไปด้วยสีทองอร่าม น่าปลื้มใจมาก
ในช่วงสองปีนี้ที่ผ่านมา ฟ้าฝนเป็นใจ ฝนตกตามฤดูกาล ผลประกอบการไม่เลว
เสียดายแค่เพียงเป็นปีการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ราคาเสบียงถูก
เยียนอวิ๋นฉีและจ้งซูอวิ้นมีข่าวการตั้งครรภ์ออกมา
ทุกคนได้ยินต่างดีใจอย่างมาก
ฮ่องเต้หย่งไท่พระราชทานรางวัลจำนวนมากให้แก่จวนองค์ชายสองและจวนองค์ชายสาม
นอกจากความดีใจแล้ว ยังถามองค์ชายสอง เซียวเฉิงเหวินว่าจะเข้ารับราชการในราชสำนักหรือไม่
เซียวเฉิงเหวินโน้มตัวถวายบังคม “ร่างกายของกระหม่อมไม่ดีนัก ไม่อาจแบ่งปันความทุกข์แทนเสด็จพ่อได้ กระหม่อมมีความผิด!”
“ผิดอันใดกัน!”
เพียงเพราะคำขอโทษของเซียวเฉิงเหวิน ฮ่องเต้หย่งไท่จึงพระราชทานแปลงนาสองแห่งและเครื่องเงินจำนวนหนึ่งให้เขาด้วยความใจกว้างอย่างหาได้ยาก
องค์ชายอื่นเห็นจึงแอบนินทาด้วยความอิจฉาลับหลัง
“สิ่งของพระราชทานจากเสด็จพ่อได้ง่ายเหลือเกิน หากข้าบอกว่าป่วย ไม่รู้เสด็จพ่อจะพระราชทานรางวัลจำนวนมากให้หรือไม่”
ฝันไปเถิด!
ฮ่องเต้หย่งไท่นิสัยตระหนี่
คราวนี้เซียวเฉิงเหวินบังเอิญมีโอกาสที่ดี จึงได้รับรางวัลพระราชทานจำนวนมาก
หากเป็นเวลาอื่น ไม่ถูกตำหนิก็ถือว่าโชคดีแล้ว
…
องค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้สิ้นสุดการฝึกฝนในกองทัพเหนือ กลับมารับราชการในราชสำนัก
แต่ไม่คาดว่าจ้งซูอวิ้นเพิ่งมีข่าวตั้งครรภ์ออกมา เถาฮองเฮาก็พระราชทานหญิงงามหลายคนในทันที อีกทั้งแต่ละคนรูปลักษณ์งดงาม เพรียบพร้อมไปด้วยความสามารถ
จ้งซูอวิ้นโกรธจนกัดฟันกรอด
รอจนกระทั่งองค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้กลับจวน นางก็เริ่มร้องบอกว่าปวดท้อง
ผู้ใหญ่ประทานย่อมไม่กล้าปฏิเสธ แต่ก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของภรรยา
ดังนั้นเซียวเฉิงอี้พลางเก็บหญิงงามที่ภายในวังพระราชทานเอาไว้ พลางอยู่ให้ห่างหญิงงาม
ในที่สุดจ้งซูอวิ้นก็สบายใจ
แต่ว่านางลืมไป มีแต่เป็นโจรพันวัน ไม่มีป้องกันโจรพันวัน
หญิงงามที่เถาฮองเฮาพระราชทาน ไม่มีผู้ใดเป็นคนโง่เขลา
ในเมื่อภูเขาไม่มาหา ข้าก็จะไปหาภูเขา
องค์ชายสามไม่เข้าใกล้พวกนาง พวกนางก็คิดหาวิธีเข้าใกล้องค์ชายสาม
เมื่ออาศัยความพยายาม ความงาม ความสามารถ รวมทั้งสีหน้าน่าสงสาร ในที่สุดก็มีหญิงงามได้ครอบครององค์ชายสาม เซียวเฉิงอี้
มีหนึ่งย่อมมีสอง…
เมื่อจ้งซูอวิ้นรู้ความจริงว่าเซียวเฉิงอี้ร่วมหอกับหญิงงามทั้งหลายที่เถาฮองเฮาพระราชทานให้ทั้งหมดแล้ว
จ้งซูอวิ้นจึงร้องไห้อย่างหนัก
โชคดีที่นางอายุน้อย ร่างกายแข็งแรง ลักษณะครรภ์มั่นคง แม้นางจะอาละวาด แต่เด็กในท้องยังคงแข็งแรง
จ้งซูอวิ้นไม่ยอม!
นางไม่อยากเชื่อว่าชีวิตคู่ที่งดงามของตนเองจะมีระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งปี
เซียวเฉิงอี้ทรยศนางได้อย่างไร
นางปฏิบัติต่อเขาด้วยความเต็มใจ ฝ่าฟันอุปสรรค ยอมกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมเพื่อเขา แต่เขากลับใจร้ายเพียงนี้
นางน้อยใจ นางร้องไห้ แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงคำปลอบใจของเซียวเฉิงอี้ แต่ไม่อาจได้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ร่วมหอกับหญิงงามอีก
เมื่อได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว เซียวเฉิงอี้ย่อมไม่ยอมปล่อยบรรดาหญิงงามในเรือนด้านหลังไป
จ้งซูอวิ้นอาละวาดหนักจนเขารำคาญ แอบตำหนินางลับหลัง
เขาเป็นถึงองค์ชาย เรือนด้านหลังมีอนุภรรยาหรือหญิงงามก็เป็นเรื่องปกติ
เสด็จพ่อและเสด็จแม่รักใคร่กันปานนั้น ก็ยังมีพระสนมมากมาย องค์ชายและองค์หญิงกำเนิดคนแล้วคนเล่า
เสด็จแม่เคยพูดหรือไม่
เพียงแค่เสด็จพ่อไม่ทรงโปรดปรานพระสนมคนใดเป็นพิเศษ เสด็จแม่มักจะหลับตาข้างหนึ่ง
เหตุใดจ้งซูอวิ้นจึงไม่เลียนแบบเสด็จแม่หลับตาข้างหนึ่งบ้าง
เขารับรองว่าจะไม่โปรดปรานคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ มีแต่จะโปรดปรานเท่ากัน
แต่เขาไม่คิดว่าเถาฮองเฮาสามารถทได้เพราะความฉลาดและประสบการณ์
จ้งซูอวิ้นยังอายุน้อย ไม่เคยมีประสบการณ์ หรือแม้แต่อุปสรรคก็ไม่เคยประสบ จะเทียบกับเถาฮองเฮาได้อย่างไร
บนโลกนี้มีหญิงสาวจำนวนน้อยที่เทียบกับเถาฮองเฮาได้
เห็นได้ชัดว่า เซียวเฉิงอี้เข้มงวดกับจ้งซูอวิ้นเกินไป
…
จ้งซูอวิ้นหมดหนทาง ทำได้เพียงกลับจวนไปขอความช่วยเหลือ
สำหรับชอบใหม่ลืมเก่าของเซียวเฉิงอี้ องค์หญิงเฉิงหยางก็ขุ่นเคืองอย่างมาก
แต่คราวนี้ นางไม่คิดจะออกหน้าแทนจ้งซูอวิ้น
“บุรุษก็มีนิสัยเหมือนกัน เจ้าก็อย่าเห็นความสำคัญของเขาเกินไป เวลานี้เรื่องสำคัญคือเด็กในท้อง หากเจ้าได้บุตรชายตั้งแต่แรก ให้กำเนิดบุตรชายคนโต ถึงแม้จะมีหญิงสาวอีกพันคนมาก็ไม่อาจสั่นคลอนตำแหน่งของเจ้าได้ แน่นอน ข้าจะให้พี่ชายเจ้าไปคุยกับองค์ชายสาม ไม่ว่าอย่างไร เขาไม่ควรทำให้เจ้าโกรธ มีเรื่องใดต้องพูดกันดีๆ ทุกอย่างเพื่อเด็กในท้อง”
จ้งซูอวิ้นผิดหวังอย่างมาก
องค์หญิงเฉิงหยางปลอบนาง “เรื่องแบบนี้จะมีมากขึ้นอีกในภายหลัง เจ้าต้องปล่อยวางเอง อย่างบิดาของเจ้าก็เลี้ยงหญิงต่ำทรามพวกนั้นไว้ที่เรือนด้านหลังไม่ใช่หรือ”
จ้งซูอวิ้นกัดปาก ไม่อาจยอมรับได้
นางจริงใจต่อเซียวเฉิงอี้ ทุ่มเทความรักเข้าไปเต็มร้อย
นางย่อมหวังว่าจะได้รับความรักกลับมาจากเซียวเฉิงอี้เต็มร้อยเหมือนกัน
แต่ว่าเซียวเฉิงอี้กลับไปโปรดปรานหญิงสาวคนอื่น มอบความห่วงใยและความอบอุ่นให้หญิงสาวคนอื่น นางรับไม่ได้
เมื่อนึกถึงเขาโอบกอดหญิงสาวคนอื่น หัวใจของนางก็เจ็บปวด
องค์หญิงเฉิงหยางถอนหายใจ “เจ้านะ ข้าเคยเตือนเจ้าแล้ว อย่าใช้ความรักมากขึ้นไป บุรุษบนแผ่นดินนี้ไม่มีผู้ใดเชื่อใจได้”
จ้งซูอวิ้นร้องไห้อย่างหนัก พักอยู่ในจวนเป็นเวลาสามวัน
จนกระทั่งเซียวเฉิงอี้มารับนางที่จวนองค์หญิง อีกทั้งสัญญาว่าจะดูแลนางให้มากขึ้น นางจึงยอมตามกลับไปยังจวนองค์ชาย
…
ระยะนี้ เถาฮองเฮาอามณ์ดีไม่น้อย
นางก็แค่ไม่ชื่นชอบจ้งซูอวิ้นผู้เป็นลูกสะใภ้ จึงตั้งจะพระราชทานหญิงงามไปแย่งชิงความโปรดปรานเท่านั้น
กลอุบายเก่าไม่สำคัญ ใช้ได้ผลก็พอ
เห็นได้ชัดว่าวิธีสามารถจัดการกับจ้งซูอวิ้นได้อย่างราบรื่น
อาละวาดจนกลับมาร้องไห้ที่จวน พักอยู่ในจวนสามวัน เห็นได้ชัดว่าโกรธจัด
จะเป็นผลต่อเด็กในท้องหรือไม่
เถาฮองเฮาสอบถามหมอหลวงมาก่อนแล้ว มั่นใจว่าเด็กในครรภ์ของจ้งซูอวิ้นแข็งแรง นางจึงลงมือ
นางต้องการสั่งสอนจ้งซูอวิ้น ยิ่งเป็นการตักเตือนองค์หญิงเฉิงหยาง
เรื่องบุตรชายของนาง ต่อจากนี้อย่าแทรกแซง มิฉะนั้นจะจัดการบุตรสาวของเจ้า
คำตักเตือนนี้ องค์หญิงเฉิงหยางได้รับแล้ว
ความโกรธภายในใจข่มไม่อยู่
ลับหลัง องค์หญิงเฉิงหยางบ่นกับบุตรชาย “หากน้องสาวของเจ้าไม่ดื้อรั้นจะอภิเษกกับองค์ชายสาม ข้าย่อมไม่มีความจำเป็นต้องเกรงใจเถาฮองเฮา ไม่จำเป็นต้องสนใจการข่มขู่ของนาง รังแกกันเสียจริง หากรู้ว่าเถาฮองเฮาไม่ใช่คนดี ข้าก็ไม่ควรคล้อยตามซูอวิ้น ปรองดองกับฮองเฮา มันคือการปรองดองที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นการสร้างความแค้น”
“ท่านแม่ระงับความโกรธ!”
“ไฟโกรธในใจของข้าข่มไม่ลง ต้องหาทางระบายออกมาให้ได้”
องค์หญิงเฉิงหยางครุ่นคิด อีกทั้งได้คำแนะนำจากแขกที่คอยช่วยออกหัวคิดให้ ในที่สุดนางก็มีแผนการ
เถาฮองเฮากลั่นแกล้งบุตรสาวของนาง นางก็จะกลั่นแกล้งคนตระกูลเถา
…
ตระกูลเถาต้องคดี อีกทั้งยังเป็นคดีที่ขุนนางฟ้องขุนนางด้วยกันเอง เรื่องนี้ไปถึงหูของฮ่องเต้หย่งไท่
ฮ่องเต้หย่งไท่โกรธมาก รับสั่งให้องครักษ์จินอู่ร่วมมือกับวัดต้าหลี่สอบสวนคดีนี้อย่างเข้มงวด
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาเข้าเฝ้าเถาฮองเฮาเพื่อขอความช่วยเหลือ
คดีนี้เกี่ยวข้องกับเงินส่วนหลายปีก่อน
เดิมทีเรื่องนี้ถูกกดลงไปแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเขาไปทำให้ผู้ใดไม่พอใจ เรื่องนี้จึงถูกพลิกกลับขึ้นมา อีกทั้งยังอาละวาดไปถึงหน้าฮ่องเต้
“ฮองเฮา พระองค์ต้องทรงหาทางข่มเรื่องนี้ลงไป มิฉะนั้นคราวนี้ผลที่ตามมาอาจไม่คาดคิด!”
เถาฮองเฮาขมวดคิ้ว “เจ้าพูดความจริงกับข้า เจ้าไปทำให้ผู้ใดไม่พอใจ เหตุใดจึงมีคนพลิกคดีเมื่อหลายปีก่อนขึ้นมา”
“ข้าไม่ได้ทำให้ผู้ใดไม่พอใจ!” นายท่านใหญ่ตระกูลเถาทำหน้าเหมือนถูกใส่ร้าย
“นับแต่ท่านพ่อจากไป ข้าทำตามรับสั่งของพระองค์ อยู่อย่างสงบ เกรงใจทุกคน แม้แต่ขุนนางเล็กที่เฝ้าประตูสำนักหยาเหมินข้าก็ไม่กล้าทำให้ไม่พอใจ”
เถาฮองเฮาขมวดคิ้ว “ท่านได้สืบหรือไม่ว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลัง”
“ข้าสืบได้เพียงขุนนางที่แซ่ซุนนายหนึ่ง คดีเงินส่วยในตอนนั้น ขุนนางแซ่ซุนยอมรับความผิดจึงถูกประหาร คราวนี้คนที่ก่อเรื่องคือบุตรชายของขุนนางแซ่ซุน เขาบอกว่าจะทวงความยุติธรรมให้กับบิดาตนเอง”
เถาฮองเฮาขุ่นเคือง “ท่านให้คนรับผิดแทน ไม่ได้จัดการเรื่องคนตระกูลซุนด้วยหรือ”
“ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ! ข้าสืบด้วยตนเอง เรื่องในตอนนั้นก็จัดการอย่างเหมาะสม เงินที่สมควรให้ก็ให้แล้ว ปากที่ต้องปิดก็ปิดแล้ว ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าคนตระกูลซุนจะเปลี่ยนใจเปิดโปงตระกูลเถา”
“ดูท่าทางจะมีคนชี้นำให้ทำร้ายตระกูลเถาอยู่เบื้องหลัง สืบ ต้องสืบให้กระจ่างว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นผู้ใด”
นายท่านใหญ่ตระกูลเถาหมดปัญญา “สืบไม่ได้ อย่างน้อยคนของข้าสืบไม่ได้”
เถาฮองเฮาตะโกน “ไร้ความสามารถ! เหมยกงกง เจ้าสืบเรื่องนี้เอง ต้องสืบความจริงออกมาให้ได้”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เหมยเส้าเจี้ยนโน้มตัวรับคำสั่ง
นายท่านใหญ่ตระกูลเถายังคงไม่สบายใจ “ทางฝ่าบาทจะทำอย่างไร ฮองเฮา พระองค์ต้องทรงช่วยเหลือ ตระกูลเถาไม่อาจได้รับการกระทบกระเทือนได้อีก”
เถาฮองเฮาสูดลมหายใจเข้า “ทางฝ่าบาทข้าจะหาทางเอง เจ้ารีบกลับไปจัดการให้เรียบร้อย ปิดปากคนที่ควรปิดปากให้สนิท ข้าไม่อยากได้ยินมีคนแว้งกัดตระกูลเถาอีก”
“ฮองเฮาทรงวางพระทัย รับรองจะจัดการอย่างเหมาะสม”
…
เหมยเส้าเจี้ยนระดมผู้ใต้บังคับบัญชาตรวจสอบเอง ประสิทธิภาพและความละเอียดนั้น คนตระกูลเถาไม่อาจเทียบได้
นับจากนั้นหลายวัน ในที่สุดก็ทำให้เขาสืบร่องรอยบางอย่างได้ในที่สุด
เขาเดินทางกลับมายังตำหนักเว่ยยาง “ทูลฮองเฮา มีข่าวเรื่องนั้นแล้ว”
เถาฮองเฮาตั้งสติขึ้นมาทันที “ผู้ใด”
“ตามที่กระหม่อมทราบมา ก่อนที่คดีจะถูกคนพลิกขึ้นมา คนตระกูลซุนได้พบกับวัยกลางคนผู้หนึ่ง ตามบรรยาย กระหม่อมสืบพบร่องรอยของคนผู้นี้ ราวกับเคยพบญาติทางไกลของตระกูลจ้ง
“ตระกูลจ้งหรือ มั่นใจว่าตระกูลจ้งหรือ” เถาฮองเฮาแปลกใจ
เหมยเส้าเจี้ยนพยักหน้า “กระหม่อมสืบมาอย่างละเอียด ไม่ผิดแน่”
เถาฮองเฮากัดฟันกรอด “พูดเช่นนี้ ผู้ที่ชี้นำให้ตระกูลซุนพลิกคดีนี้ออกมาคือองค์หญิงเฉิงหยางหรือ นางแก้แค้นข้าเพราะเรื่องก่อนหน้านี้หรือ”
เหมยเส้าเจี้ยนไม่กล้าส่งเสียง
คนที่มีตาล้วนมองเห็นไฟที่ลุกโชนอยู่ทั่วตัวของเถาฮองเฮา
เคร้ง!
เถาฮองเฮาสะบัดแขนเสื้อ กวาดของทุกสิ่งบนโต๊ะลงพื้นจนเกิดเสียงดัง
“รังแกกันเกินไปแล้ว! ข้าเพียงแค่สั่งสอนจ้งซูอวิ้นเล็กน้อย นางกลับจะทำให้ตระกูลเถาถึงที่ตาย โหดเหี้ยมเพียงนี้ ข้าจะปล่อยนางไว้ได้อย่างไร”
“ฮองเฮาจะทรงทำอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของเถาฮองเฮาบิดเบี้ยว “ข่มเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เด็ดตระกูลเถาออกมา ทางองค์หญิงเฉิงหยาง เจ้าไปสืบมาให้ข้าอย่างละเอียด ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะหาความผิดพลาดของนางไม่เจอ”
“กระหม่อมน้อบรับคำสั่ง! เพียงแต่พระองค์จะทรงเปิดศึกกับองค์หญิงเฉิงหยางจริงหรือ อย่างไรก็เป็นเครือญาติ…”
“นางชี้นำให้คนทำร้ายตระกูลเถา นางเคยเห็นข้าเป็นเครือญาติหรือไม่ นางไร้คุณธรรม ก็อย่าหาว่าข้าใจร้าย”