กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 10 ตู้อวิ๋นเซิงต้องการจะเจอเธอ

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 10 ตู้อวิ๋นเซิงต้องการจะเจอเธอ

บทที่ 10 ตู้อวิ๋นเซิงต้องการจะเจอเธอ

ผานเยว่กุ้ยรู้สึกว่าตั้งแต่เซี่ยชิงหยวนจมน้ำ อีกฝ่ายก็ดูเหมือนกลายเป็นคนละคน

เธอต้องการจะตะโกนด่าอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นเสิ่นอี้โจวกำลังเดินมาทางนี้ผ่านหางตา ความหยิ่งผยองเมื่อครู่จึงหายไปทันที

เธอเอ่ยขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ความเย่อหยิ่งในตอนแรกได้หายไปแล้ว “ในเมื่อไม่อยากให้ ฉันจะไม่เอาก็ได้ อย่างกับฉันอยากได้มันนักล่ะ” เธอเม้มริมฝีปาก พลางหันกลับเตรียมจะจากไป

เมื่อชายหนุ่มเห็นเซี่ยชิงหยวนดูแข็งกร้าวแน่วแน่ขนาดนั้น เขาจึงรู้ว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับเหตุการณ์นี้ เขาแค่ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเดินไปที่สวนหลังบ้าน

ทว่าหลังจากผานเยว่กุ้ยเดินไปได้สองสามก้าว เธอก็เห็นหวังชุ่ยเฟินเดินเข้ามา

หวังชุ่ยเฟินยิ้มและกล่าวทักทาย “คุณป้าเยว่กุ้ย สวัสดีค่ะ”

ผานเยว่กุ้ยมีความประทับใจที่ดีต่อหวังชุ่ยเฟิน

อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่เหมือนกับเซี่ยชิงหยวน!

ดังนั้นเธอจึงตอบอีกฝ่ายอย่างกระตือรือร้นเช่นกัน “ชุ่ยเฟิน เธอมาหาชิงหยวนอีกแล้วเหรอ? แต่ตอนนี้อาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะนัก เด็กคนนั้นกำลังโกรธฉันที่มาขอแบ่งเนื้อเล็กน้อยเพื่อไปทำอาหาร”

หวังชุ่ยเฟินรู้ว่าวันนี้เธอได้เห็นเรื่องสนุกแน่

จากนั้นเธอก็แสร้งทำเป็นประหลาดใจ “คุณป้าเยว่กุ้ย ต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่างแน่ ชิงหยวนเป็นคนว่าง่ายมาก เธอไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกค่ะ”

จากนั้นเธอก็พูดกับเซี่ยชิงหยวน “ใช่ไหมชิงหยวน?”

เซี่ยชิงหยวนเห็นสองคนนี้เข้าขากันดีก็ได้แต่นึกตลกในใจ

ถ้าเป็นชีวิตที่แล้ว เธอคงอธิบายตัวเองจนเข้าทางอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว!

ดังนั้นเธอจึงตะคอกกลับไปว่า “อะไรของเธอ? อยู่ ๆ มาถามว่าใช่ไหมอะไร?”

หลังจากพูด เธอก็ส่งเนื้อให้เสิ่นอี้หลิน “อี้หลินเอาเนื้อไปเก็บไว้ดี ๆ ไม่งั้นเดี๋ยวหมาจิ้งจอกที่ไหนไม่รู้จะมาแอบขโมยเนื้ออีก!”

เสิ่นอี้หลินไม่สามารถดีใจมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว!

ไม่สำคัญว่าพี่สะใภ้คนนี้จะสนิทกับเขาหรือไม่ ตราบใดที่เธอสามารถช่วยพวกเขาเก็บเนื้อเอาไว้ได้ เขาย่อมยินดีรับคำสั่งอย่างแข็งขัน

ดังนั้นเขาจึงตอบเสียงดัง “เข้าใจแล้ว พี่สะใภ้!”

เขารับเนื้อไปโดยไม่สนใจการขยิบตาอย่างต่อเนื่องของหลินตงซิ่วและตรงเข้าไปในครัว

หวังชุ่ยเฟินไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เซี่ยชิงหยวนจะกล้าตะโกนแย้งตัวเองแบบนี้ แถมเมื่อสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย ชิงหยวนกลับไม่ได้แสดงท่าทีขอโทษเลยด้วยซ้ำ

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยิ้มให้เพื่อแก้เก้อ

เธอหยิบครีมที่ซื้อเมื่อเช้าออกมา “วันนี้ฉันเข้าเมืองและเอาครีมกลับมาสองกล่อง ฉันคงใช้มันไม่หมด ฉันจะให้เธอหนึ่งกล่องนะ”

ทุกวันนี้มีคนในหมู่บ้านซีสุ่ยไม่มากที่ยินดีจ่ายเงินซื้อครีม และน้อยยิ่งกว่าสำหรับคนที่ยินดีซื้อมันมาแจกคนอื่น

ทว่าที่ผ่านมา เมื่อใดที่หวังชุ่ยเฟินให้ของแก่เซี่ยชิงหยวน มันจะหมายความว่าเธอต้องการบางอย่างแลกเปลี่ยนตลอด การให้โดยไม่หวังอะไรสำหรับคนคนนี้ก็ไม่ต่างกับดวงอาทิตย์ที่ขึ้นทางทิศตะวันตก

เซี่ยชิงหยวนไม่ตอบ

เธอก้มมองมือของอีกฝ่ายที่กำครีมไว้แน่นด้วยความประหม่า

การจ้องมองของหญิงสาวเลื่อนจากใบหน้าของหวังชุ่ยเฟินไปยังครีม จากนั้นกลับมาที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอีกครั้ง

เซี่ยชิงหยวนยิ้ม “ไม่ล่ะ ต้องขอบคุณอี้โจวที่นำมันมาให้ฉันทุกครั้งที่เขากลับบ้าน ล่าสุดที่เขาเอากลับมาให้ฉันก็ยังมีอยู่เต็มบ้าน”

มันเป็นความจริงที่เสิ่นอี้โจวมักนำของกลับมาให้เธอ แต่นิสัยซื่อตรงแบบผู้ชายของเสิ่นอี้โจวนั้น…ยากที่จะอธิบายจริง ๆ

เมื่อได้ประโยคนั้น ใบหน้าของหวังชุ่ยเฟินก็แข็งค้าง

ระหว่างสองวันที่ผ่านมา เซี่ยชิงหยวนถูกผีเข้าสิงหรือไง?

แต่ละประโยคที่พูดออกมาทำร้ายจิตใจกันเหลือเกิน แถมยังพูดได้หน้าตาเฉยอีกต่างหาก

เธอต้องการที่จะเกลี้ยกล่อมเซี่ยชิงหยวนอีกครั้ง แต่ผานเยว่กุ้ยซึ่งจ้องมองมาที่เธอเป็นเวลานานแล้วคว้าครีมไปถือไว้ในมือยังไง้ยางอาย “ในเมื่อคนเขาไม่อยากได้ก็เอามาให้ป้า!”

หวังชุ่ยเฟินไม่ได้คาดคิดว่าป้าของเสิ่นอี้โจวจะทำแบบนี้เลย

ครีมนี้ได้รับการเติมส่วนผสมบางอย่างเป็นพิเศษ หากให้ผานเยว่กุ้ยไปแผนการทั้งหมดก็จะผิดพลาดหมดสิ

เธอรีบคว้ามันกลับคืนและยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “คุณป้าเยว่กุ้ย ถ้าคุณต้องการมัน ฉันยังมีมันอยู่ที่บ้านอีก เดี๋ยวจะเอาไปที่บ้านคุณให้ภายหลังนะคะ”

เมื่อของในมือถูกแย่งไปอีกรอบ ผานเยว่กุ้ยก็เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง เธอคิดว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะให้เลยหาข้ออ้างว่า จะเอามาให้อีกอันในภายหลัง

เธอคว้ากล่องครีมออกจากมือของหวังชุ่ยเฟินอย่างรวดเร็ว และรีบยัดมันลงในกระเป๋ากางเกงของเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ป้าไม่อยากรบกวนหนูขนาดนั้น ป้าเอาอันนี้แหละ หนูจะได้ไม่ต้องกลับไปที่บ้านหลายรอบไงจ๊ะ”

จากนั้นเธอก็พูดกับเซี่ยชิงหยวนว่า “เรื่องนี้ หลานสะใภ้ไม่ขัดข้องใช่ไหม?”

เมื่อเห็นคนทั้งสองเปลี่ยนมาเล่นแง่กันเอง เซี่ยชิงหยวนก็อดขำไม่ได้

เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับครีมกระปุกนี้

เธอกำลังคิดหาวิธีกำจัดเผือกร้อนนี้เงียบ ๆ แต่ผานเยว่กุ้ยกลับเสนอหน้ามาทำแทน

ดังนั้นเธอจึงยิ้มอย่างเข้าใจ “ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ แต่มันเป็นของชุ่ยเฟินดังนั้นคุณควรถามเธอ”

หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่หวังชุ่ยเฟินด้วยรอยยิ้ม จากนี้มันก็ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายว่าจะทำยังไงต่อ

ไม่ใช่ว่าผู้หญิงคนนี้ชอบทำเรื่องเลวต่าง ๆ เช่น หว่านความขัดแย้งหรือสุมไฟหรอกเหรอ?

ตอนนี้เธออยากดูว่าอีกฝ่ายจะจัดการกับเรื่องแบบนี้ด้วยตัวเองได้ยังไง?

หวังชุ่ยเฟินยังคงคาดหวังให้เซี่ยชิงหยวนพูดอะไรเพื่อเธอสักสองสามคำ แต่จู่ ๆ อีกฝ่ายกลับหันปืนมาทางเธออีกครั้ง

หญิงสาวลอบกัดฟันด้วยความเกลียดชังในใจ แต่เธอไม่สามารถแสดงความโกรธออกมาทางสีหน้าได้ จึงได้แต่ข่มอารมณ์และฝืนยิ้มออกไป

เธอจับจ้องไปที่กระเป๋ากางเกงที่นูนขึ้นของผานเยว่กุ้ยและด่าทอบรรพบุรุษของอีกฝ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าในใจ

แม่ทูนหัวคนนี้คิดจะใช้ประโยชน์จากเธอ!

จากนั้นเธอก็พูดว่า “คุณป้าเยว่กุ้ย คุณป้าควรจะคืนสิ่งนี้ให้ชิงหยวน อันที่จริงฉันยังมีน้ำมันหอมออสมันตัสที่เจี่ยเจินนำกลับมาจากในเมือง เดี๋ยวฉันเอามันมาให้คุณดีกว่า”

เจี่ยเจินเป็นพี่สะใภ้ของหวังชุ่ยเฟินที่แต่งงานและอาศัยอยู่ในเมือง

อันที่จริง น้ำมันใส่ผมอันเก่าของเธอ เธอใช้ไปเกือบหมดแล้ว

แต่ไม่ว่ายังไง การได้ของกลับมาคือสิ่งสำคัญที่สุด

เมื่อผานเยว่กุ้ยได้ยิน แน่นอนว่าเธอรู้สึกประทับใจ

แต่ของดีแบบนั้นอีกฝ่ายจะให้เธอจริงหรือไม่?

เซี่ยชิงหยวนพูดอย่างไม่เร่งรีบ “น้ำมันหอมออสมันตัสนี้กำลังขาดตลาด คุณป้าคุณโชคดีจริง ๆ ฉันจำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เจี่ยเจินกลับมามันก็หลายเดือนแล้ว”

จากนั้นเธอหันไปหาหวังชุ่ยเฟิน “ฉันคิดว่าน้ำมันหอมของเธอน่าจะใช้ใกล้หมดแล้วรึเปล่า”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ผานเยว่กุ้ยก็ตระหนักถึงบางสิ่งได้ทันที

หวังชุ่ยเฟินคนนี้ไม่ต้องการมอบของให้เธอ!

ดังนั้นเธอจึงดึงหน้าตึง “ชุ่ยเฟิน ป้าไม่ใช่คนโลภหรอก ขอแค่นี้ก็พอ”

เมื่อพูดจบ เธอก็โบกมือแล้วเดินไปอย่างรวดเร็ว

หวังชุ่ยเฟินโกรธมากและรีบสาวเท้าตามไป “ป้าเยว่กุ้ย!”

เมื่อเห็นว่าร่างอ้วนของผานเยว่กุ้ยกลายเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ในชั่วพริบตา ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะสบถ “บ้าเอ๊ย! แก่จะตายอยู่แล้วยังอยากจะทาครีมให้สวยไปเพื่ออะไร คิดว่าทาแล้วจะหน้าเหมือนฉันเหรอ!”

หลังจากบ่นต่ออีกสองสามคำ เธอก็เหลือบมองไปที่เซี่ยชิงหยวน “ชิงหยวน เธอก็เช่นกัน! ทำไมถึงไม่ช่วยเกลี้ยกล่อมป้าคนนั้น ทำไมเธอถึงไม่รับของ! เธอปล่อยให้ป้าเยว่กุ้ยเอาไปได้ยังไง!”

คู่สนทนาแกล้งทำหน้าตาประหลาดใจ “ฉันไม่ได้เป็นคนอนุญาตสักหน่อย เธอให้คนอื่นเองไม่ใช่เหรอ ฉันยังเห็นว่าเธอสองคนคุ้นเคยกันดี ฉันก็เลยคิดว่า ดีแล้วไม่ใช่เหรอที่ให้ของไปเพื่อที่ความสัมพันธ์ของเธอกับป้าเยว่กุ้ยจะได้ดีขึ้น”

เธอไม่เคยลืมว่า ตอนที่เธอแอบพบกับตู้อวิ๋นเซิงในชาติที่แล้ว เธอถูกชาวบ้านจับได้และคนที่ก้าวออกมาข้างหน้าคนแรกคือผานเยว่กุ้ย

เมื่อได้ยินแบบนี้ หวังชุ่ยเฟินก็สำลัก

เธอจำได้ว่ายังไม่ได้ทำธุระของตัวเองเลย หญิงสาวจึงทำได้เพียงกัดฟันแล้วกลืนมันลงท้อง

ส่วนครีมกระปุกนั้น เธอจะถามผานเยว่กุ้ยในภายหลัง

เธอแสร้งทำเป็นไม่สนใจ “ลืมมันไปเถอะ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก อย่าให้มันมาทำลายมิตรภาพระหว่างเราเลย”

เธอดึงเซี่ยชิงหยวนไปด้านข้าง “ชิงหยวน ฉันมาที่นี่วันนี้เพราะฉันถูกใครบางคนขอให้มาหาเธอ”

เมื่อเห็นการแสดงออกที่คลุมเครือของหวังชุ่ยเฟิน เซี่ยชิงหยวนก็คาดเดาได้

เธอไม่เปลี่ยนสีหน้า “มีอะไรเหรอ?”

หวังชุ่ยเฟินพูดว่า “ตู้อวิ๋นเซิงต้องการจะพบเธอในคืนพรุ่งนี้”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท