กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 39 เสิ่นอี้โจวกับความปรารถนาที่จะหลุดพ้น

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 39 เสิ่นอี้โจวกับความปรารถนาที่จะหลุดพ้น

บทที่ 39 เสิ่นอี้โจวกับความปรารถนาที่จะหลุดพ้น

โจวหยางก็มองตามสายตาของเซี่ยชิงหยวนที่กำลังมองไปยังเตียงในห้องนอนใหญ่

เดิมที เตียงมีขนาดประมาณเมตรครึ่ง แต่เนื่องจากแผ่นไม้หายไปจึงเหลือเพียงเมตรกว่า ๆ เท่านั้นที่สามารถใช้นอนได้

เขาเกาหัวอย่างเขินอาย “เพราะเวลามันค่อนข้างกระชั้นชิด กระดานเตียงนี้จึงไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่และยังขาดไปอีกแผ่นหนึ่ง พี่สะใภ้ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ”

นอกจากนี้ เขายังต้องรื้อเตี่ยงเดี่ยวของเสิ่นอี้โจวเพื่อนำมาต่อเตียงจำนวนมากอีกด้วย

เซี่ยชิงหยวนโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะ”

เธอกวาดมองรอบห้องหนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้ได้รับการทำความสะอาดมาก่อนแล้ว ตอนนี้มันจึงสะอาดสะอ้านอย่างไร้ที่ติทีเดียว

ส่วนเฟอร์นิเจอร์นั้น นอกจากเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เก้าอี้แล้ว ก็ไม่ได้มีอย่างอื่นมากนัก

และที่สำคัญที่สุดคือมันไม่มีเก้าอี้โยกและโซฟา

เซี่ยชิงหยวนพอใจมาก

เสิ่นอี้โจวไม่รู้เลยว่าภรรยาของเขากำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปว่า “ผมจะออกไปดูทีหลังว่ามีกระดานไม้อยู่ที่ไหนบ้างและจะซื้อมันกลับมา”

แน่นอนว่า เซี่ยชิงหยวนหยุดเขาไว้ทันที “ไม่ เรานอนกันแบบนี้ก่อนก็ได้รอให้อะไร ๆ เข้าที่เข้าทางก่อนค่อยไปหาซื้อ”

หากเตียงเปลี่ยนจากเมตรกว่า ๆ กลับเป็นเมตรครึ่งแผนการของเธอก็จะไม่สำเร็จเอาน่ะสิ

ชายหนุ่มไม่ได้คิดสงสัยเลยว่าผู้เป็นภรรยากำลังวางแผนอะไรอยู่ เขาพยักหน้าและพูดว่า “คุณพักผ่อนก่อนเถอะ ผมจะจัดการที่เหลือต่อเอง”

ขณะกล่าว เขาก็หยิบผ้านวมกับเสื่อที่ตากไว้ก่อนกลับหมู่บ้านซีสุ่ยออกมาจากตู้เสื้อผ้า กางแผ่บนเตียงแล้วปูผ้าปูสีเขียวทับด้านบน

เซี่ยชิงหยวนจำผ้าปูที่นอนผืนนี้ได้ มันเป็นของที่ครอบครัวซื้อให้เมื่อตอนพวกเขาแต่งงานกัน

โจวหยางยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นเสิ่นอี้โจวกำลังจัดของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “พี่เสิ่นช่างรักภรรยามากจริง ๆ”

เมื่อต้องเผชิญกับมุขตลกของโจวหยาง หญิงสาวยังคงยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ

เสิ่นอี้โจวเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า “นายว่างนักหรือไง หลังจากเสร็จนี่แล้วก็ไปซื้อของกับฉันซะ”

ก่อนหน้านี้เขาอาศัยอยู่ในหอพักเดี่ยวและมีสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเพียงชุดเดียว เมื่อเซี่ยชิงหยวนมาอยู่ด้วย เขาก็ต้องซื้อเพิ่ม

โจวหยางกลับไม่หวั่นกลัวเสิ่นอี้โจวเลยแม้แต่น้อยและยังตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีปัญหาครับผม”

หลังจากชายหนุ่มพาโจวหยางออกไป เซี่ยชิงหยวนก็เปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าลำลองตัวสะอาดแทน แล้วนอนลงบนเตียง

เธออยากนอนในรถมาก แต่พอตอนนี้กลับนอนไม่หลับเสียอย่างนั้น

หญิงสาวกวาดมองรอบ ๆ ห้องครอบครัวที่เธอไม่เคยอาศัยอยู่มาก่อน อิฐทุกก้อน โต๊ะและเก้าอี้ทุกตัว คือสถานที่ซึ่งเธอกับเสิ่นอี้โจวจะอาศัยอยู่ร่วมกันในอนาคต

ที่นี่พวกเขาจะมีลูกที่น่ารักด้วยกัน

เมื่อคิดถึงเด็กน้อย ดวงตาของเซี่ยชิงหยวนก็หม่นแสงลง

พวกเธอจะมีลูกของตัวเองไหมนะ?

เธอหลับตาและบอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องนี้

มันเป็นการดีที่สุดสำหรับเธอที่จะได้อยู่กับเสิ่นอี้โจวและมีโอกาสตอบแทนพ่อแม่ของเธอ

เสิ่นอี้โจวกับโจวหยางก็กลับมาพร้อมกันในตอนเย็น

ทั้งสองคนถือทั้งถุงใบใหญ่และใบเล็ก โจวหยางปฏิเสธคำเชิญของเสิ่นอี้โจวที่จะเลี้ยงอาหารค่ำให้แก่เขา เจ้าตัวเพียงวางสิ่งของลงและจากไปทันที

หลังจากนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลียก่อนจะตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังขึ้น

ทันทีที่เปิดประตู เธอก็เห็นเสิ่นอี้โจวก้มตัวและจัดการบางอย่างอย่างระมัดระวัง

แสงยามเย็นส่องลอดเข้ามาจากประตูและหน้าต่าง ตกกระทบบนร่างของเขาราวกับประกายรัศมีจาง ๆ อยู่ทั่วกายของเขา

เม็ดเหงื่อเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและโปร่งแสงภายใต้แสงที่สาดส่อง ไหลจากหน้าผากของเขาไปยังสันกรามได้รูป และในที่สุดก็ตกลงสู่พื้น

เมื่อพบว่าเธอตื่นแล้ว เสิ่นอี้โจวก็วางของในมือลงและพูดเสียงเบาแผ่วว่า “คุณตื่นแล้ว”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ค่ะ”

เสิ่นอี้โจวรีบเก็บข้าวของในมืออย่างรวดเร็วและพูดว่า “มีโรงอาหารอยู่ในหน่วย คุณจะไปกับผมไหมหรือจะให้ผมเอากลับมาให้กินที่นี่ดี?”

ตอนมาถึงที่นี่ พวกเขาก็ตกเป็นเป้าสนใจของผู้คนมากมายทีเดียว ดังนั้นตอนนี้ข่าวก็น่าจะแพร่กระจายไปทั่วแล้ว

ตอนนี้เธอยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่ จึงยังไม่อยากจัดการกับเรื่องยุ่งยากทั้งหลายในตอนนี้ หญิงสาวจึงตอบกลับว่า “เอากลับมาให้ฉันหน่อยก็แล้วกัน วันนี้ฉันไม่อยากออกไปข้างนอก”

เสิ่นอี้โจวพยักหน้าและหยิบกล่องข้าวไปสองกล่อง “งั้นคุณรอผมที่บ้านนะ ผมจะรีบกลับมา”

พูดจบ เขาก็ออกไปอีกครั้ง

เซี่ยชิงหยวนมองน้ำต้มที่เย็นชืดบนโต๊ะ เธอต้มมันไว้ก่อนเข้านอน แต่เพราะเร่งรีบออกไป เสิ่นอี้โจวจึงยังไม่ได้ดื่มมัน

เธอถือแก้วน้ำไว้ในมือ เดินไปที่ประตูและตะโกนเรียกเสิ่นอี้โจวที่เพิ่งเดินจากไปเพียงไม่กี่เมตรว่า “อี้โจว มาดื่มน้ำก่อน แล้วค่อยไปสิคะ”

ฝีเท้าของเสิ่นอี้โจวหยุดลง จากนั้นชายหนุ่มก็หันกลับมาและพบว่าผู้เป็นภรรยากำลังถือแก้วน้ำไว้และมองมาที่เขาพร้อมด้วยรอยยิ้ม

จู่ ๆ ภายในอกของเขาก็ถูกเติมเต็มด้วยอะไรบางอย่างที่ทั้งร้อนผ่าวและพองโต

เขาหันกลับมาและเดินมาหาเธอด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก “อืม”

เสิ่นอี้โจวยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ หยิบแก้วจากมือของเธอ แล้วดื่มอึกใหญ่

เมื่อเขาแหงนหน้าขึ้น เซี่ยชิงหยวนจึงได้เห็นลูกกระเดือกของเขาเด่นชัดมาก มันขยับขึ้นลงในขณะที่อีกฝ่ายดื่มน้ำ

เซี่ยชิงหยวนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาอีกผืนจากกระเป๋า จากนั้นก็เขย่งเท้าเช็ดเหงื่อที่คอของชายหนุ่ม

เสิ่นอี้โจวซึ่งกำลังดื่มน้ำเกือบจะสำลักออกมา เพราะการกระทำของผู้เป็นภรรยา ก่อนที่เขาจะก้าวถอยโดยไม่รู้ตัว

เซี่ยชิงหยวนดูจะคาดเดาสิ่งนี้ได้อยู่แล้ว เธอจึงคว้าคอเสื้อเขาไว้และเช็ดเหงื่อให้อีกฝ่ายต่อ

เธอขยับเข้ามาใกล้ ๆ ชายหนุ่ม สีหน้าดูรำคาญระคนขบขัน ก่อนจะกระซิบว่า “แค่เช็ดเหงื่อเอง ทำไมคุณถึงประหม่าจังคะ? ถ้าฉันอาบน้ำให้คุณในอนาคต คุณจะไม่มุดดินหนีเลยเหรอ”

เมื่อพูดจบ เสิ่นอี้โจวก็ไม่อาจกลั้นได้อีกต่อไป เขาจึงพ่นน้ำออกมาทั้งหมด

โชคดีที่เขาหันหน้าไปทางอื่น ไม่อย่างนั้นหญิงสาวจะต้องป่วยแน่

“ฮ่า ๆๆๆ” เสียงหัวเราะของผู้หญิงดังมาจากทางด้านข้าง “หัวหน้าแผนกเสิ่นเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ไหงสำลักน้ำอย่างนั้นล่ะคะ”

เซวียไฉ่เฟิ่งยืนพิงประตูห้องครัวในบ้านของพวกเขา กอดอกและมองมาด้วยรอยยิ้ม

ตอนนั้นเองที่เซี่ยชิงหยวนตระหนักได้ว่า พวกเขากลายเป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว

เธอ…อยากด่าแม่ของผู้หญิงคนนี้จริง ๆ

หลังจากจัดการเรื่องราวในครอบครัวที่หมู่บ้านซีสุ่ยเสร็จแล้ว พอมาถึงเมืองเตียนเฉิง เธอยังต้องจัดการกับคนคนนี้อีกเหรอ?

ตอนที่เสิ่นอี้โจวกำลังจะหันไป เซี่ยชิงหยวนก็เอื้อมมือไปจับใบหน้าของเขาก่อนจะฉีกยิ้มสดใส “ฉันหิวแล้ว รีบไปเถอะ”

ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าเป็นอะไร แต่เขาปรารถนาที่จะออกไปจากตรงนี้โดยไว จึงได้ตอบรีบ ๆ ว่า “ครับ”

จากนั้นเขาจึงหยิบกล่องข้าวและเดินผ่านเซวียไฉ่เฟิ่งโดยไม่แม้แต่จะเหลือบมองด้วยซ้ำ

เมื่อชายหนุ่มเดินผ่าน เซวียไฉ่เฟิ่งจงใจยืดเอวของเธอให้ตรงเพื่อให้หน้าอกของเธอยื่นเด่นยิ่งขึ้น

แต่ใครจะรู้ เสิ่นอี้โจวกลับไม่ได้เหลียวมองเธอเลยเหมือนที่เขาทำมานับครั้งไม่ถ้วนในอดีต

หญิงสาวไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน

เธอยืนตัวตรง ขณะกระชับเสื้อให้เข้าที่ และแสร้งทำเป็นไม่สนใจ

แต่เซี่ยชิงหยวนที่ยืนอยู่ตรงประตู กำลังมองมาทางเธอด้วยรอยยิ้มที่เหมือนไม่ยิ้ม

ใบหน้าสงบนิ่งและแววตาเย็นชาคู่นั้นเหมือนจะมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท