กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 48 เธอคือคนที่เขาเฝ้าหา

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 48 เธอคือคนที่เขาเฝ้าหา

บทที่ 48 เธอคือคนที่เขาเฝ้าหา

ภาพที่เสิ่นอี้โจวแบกร่างของเซี่ยชิงหยวนกลับไปยังบ้านพัก ทำเอาผู้คนที่เห็นต่างพากันกรามค้างเป็นแถว

เซวียไฉ่เฟิ่งก็ออกมาจากบ้านเช่นกัน เธอวางแผนจะทำบะหมี่เป็นอาหารเช้าพอดี

แต่เมื่อได้เห็นเสิ่นอี้โจวอุ้มเซี่ยชิงหยวนเข้ามา เธอก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้าง

หญิงสาวก้าวเข้าไปและต้องการจะพูดสองสามคำ แต่เสิ่นอี้โจวกลับเหลือบมองมาทางเธอด้วยสายตาเย็นชา ดวงตานกฟีนิกซ์ที่แสนเย็นชาตามปกติของเขานั้น ตอนนี้มันกลับเย็นชายิ่งกว่าเดิม ประหนึ่งเต็มไปด้วยน้ำแข็ง แถมยังแฝงด้วยความกรุ่นโกรธที่ผู้พบเห็นไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

เซวียไฉ่เฟิ่งกลัวมากจนเธอหยุดก้าวขา ร่างกายของเธอไวกว่าความคิด หญิงสาวผละไปทางด้านข้างเพื่อหลีกทางให้ทันที

เธอไม่ตอบสนองจนกระทั่งเสิ่นอี้โจวเข้าบ้านและปิดประตูลง

ในอนาคตถ้าใครบอกว่าเสิ่นอี้โจวเป็นคนอ่อนโยนและสุภาพ เธอจะเป็นคนแรกที่รีบเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน

ท่าทางนั้นของเขาน่ากลัวมากจริง ๆ!

เมื่อนึกถึงร่างเล็ก ๆ ของเซี่ยชิงหยวน เธอก็สงสัยว่าอีกฝ่ายจะทนต่อการทรมานของชายหนุ่มในวันนี้ได้หรือไม่

เสิ่นอี้โจวอุ้มผู้เป็นภรรยาไว้บนบ่า เหยียดขายาวของเขาเพื่อเกี่ยวปิดประตู

จากนั้นเขาก็วางเซี่ยชิงหยวนไว้ตรงหน้าเก้าอี้ กดไหล่ของเธอเพื่อให้อีกฝ่ายนั่งลง ชายหนุ่มย่อตัวลงมองผู้เป็นภรรยา

เซี่ยชิงหยวนไม่สามารถขัดขืนได้เลย ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าแม้เธอในเวลาปกติจะอ่อนโยนและสงบเหมือนกับเสิ่นอี้โจว แต่ตราบใดที่เป็นการแข่งขันกันทางกายภาพ เธอจะไม่มีทางต้านทานชายหนุ่มได้เลย

ดังนั้นหญิงสาวจึงได้แต่นั่งบนเก้าอี้และหันไปอีกด้านหนึ่งโดยไม่มองเขา

ระหว่างทางกลับ เธอจินตนาการถึงความเป็นไปได้มากมายในอนาคตในใจของเธอ

และเกือบทุกความเป็นไปได้ที่เธอคิดออกคือการจากไปของเสิ่นอี้โจว

เมื่อนึกถึงผลตรวจสุขภาพที่ได้รับมาเมื่อเช้า และสิ่งที่เธอเห็นในห้องปฏิบัติการ เซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาอีกครั้ง

ไม่น่าแปลกใจที่ชีวิตของเขาจะแตกต่างจากชาติที่แล้ว เพราะว่าเขามีดอกไม้งามอยู่เคียงข้างเขาที่นี่แล้ว!

เธอกัดริมฝีปากแน่นและไม่พูดอะไร แต่น้ำตายังคงเอ่อคลออยู่ในดวงตา

เมื่อเห็นผู้เป็นภรรยาเป็นแบบนี้ หัวใจของเสิ่นอี้โจวก็ปวดร้าวไปหมด

เขาเอื้อมมือหมายจะแตะมือของเธอ แต่หญิงสาวก็หลบเลี่ยงมันอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะร้องไห้อีกครั้ง เสิ่นอี้โจวก็ลดเสียงของเขาลง “ชิงหยวน ซูอวี้กับผมเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน เหตุการณ์เมื่อกี้เป็นเพราะเธอไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง ผมจึงยื่นมือออกไปช่วยประคองเธอ”

ฉินซูอวี้เพิ่งจะกลับมาจากต่างจังหวัด เธอจึงรีบมาที่สำนักงานเพื่อแบ่งปันผลการวิจัยล่าสุดกับพวกเขา ดังนั้นการที่เธอจะหน้ามืดล้มลงจากการพักผ่อนไม่เพียงพอนั้น ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้

แต่เซี่ยชิงหยวนกลับรู้สึกเพียงว่า การได้ยินชื่อผู้หญิงคนอื่นจากปากของชายหนุ่มนั้นน่าเจ็บปวดมาก

เธอจึงถามเขากลับ “คุณบอกว่าผู้หญิงคนนั้นไม่สำคัญแล้วทำไมคุณถึงเรียกชื่อเธออย่างสนิทขนาดนี้? ซูอวี้?”

เธออดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น และเมื่อเปิดปากพูด น้ำตาก็ไหลออกมาทีละหยดราวกับสร้อยลูกปัดที่ขาดสะบั้น

ทันทีที่อีกฝ่ายร้องไห้ เสิ่นอี้โจวก็ตื่นตระหนก

เขาเช็ดน้ำตาของเธอด้วยความรวดร้าว เสียงของเขาฟังดูเคร่งเครียด “ชิงหยวน ผมขอโทษ ต่อไปนี้ผมจะไม่เรียกเธอแบบนั้นแล้วตกลงไหม”

ฉินซูอวี้กับเขามาจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน และพวกเขาได้ทำงานในหน่วยเดียวกันหลังจากเรียนจบ เธอเป็นมือขวาของเขาในที่ทำงาน ดังนั้นฉินซูอวี้จึงมีความสนิทสนมกับเขามากกว่าเพื่อนร่วมงานทั่วไป

เพียงแต่เขาไม่ได้คาดคิดว่าเซี่ยชิงหยวนจะใส่ใจมันมากขนาดนี้

แต่หากมันเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบใจ เขาก็จะไม่ทำมันอีก

เมื่อเห็นเขาเกลี้ยกล่อมตัวเองเหมือนในอดีต เซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อย ๆ

ราวกับเธอได้ตัดสินใจแล้ว หญิงสาวมองตรงไปยังชายหนุ่ม “ตอนอยู่ในหมู่บ้านซีสุ่ย คุณบอกว่าต้องการหย่ากับฉันใช่ไหมคะ หลังจากที่ฉันคิดอย่างรอบคอบแล้วในตอนนี้ ฉันว่าฉันเห็นด้วยกับคำพูดของคุณ”

เมื่อเอ่ยคำพูดเหล่านี้ เธอพยายามทำสีหน้าให้ดูสงบที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่สำหรับเสิ่นอี้โจว มันกลับไม่ต่างจากสายฟ้าฟาดลงกลางศีรษะ

มือของเขากำแน่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ริมฝีปากบางของเขาสั่นเทาเล็กน้อย “ทำไม?”

อันที่จริง เขาเตรียมตัวเตรียมใจที่จะปล่อยให้เธอจากไปมาสักพักแล้ว แต่มันไม่เหมือนกับตอนนี้

เขาได้เตรียมสินสอดไว้ให้แก่เธอ และจะสนับสนุนอย่างเต็มใจ แม้กระทั่งค้นหาผู้ชายที่จริงใจให้แก่หญิงสาวสักคน

ทว่าทุกวันนี้ เขาสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงมากมายในตัวเธอ แต่ทำไมจู่ ๆ เธอถึงคิดจะจากไปกัน?

เซี่ยชิงหยวนอดทนต่อความเจ็บปวดในใจ และพูดด้วยพลังทั้งหมดว่า “เสิ่นอี้โจว ฉันไม่สามารถตั้งครรภ์ได้”

ประโยคนี้ไม่ใช่แค่การแตกหักเท่านั้น แต่ยังเป็นการล่อลวงและรั้งเขาไว้เป็นครั้งสุดท้ายอีกด้วย

หลังจากพูดจบ เธอมองอย่างสงบแต่ดวงตาของเสิ่นอี้โจวกลับเบิกกว้าง

อันที่จริง สิ่งที่ทำให้เสิ่นอี้โจวประหลาดใจคือทำไมเธอถึงรู้เรื่องนี้ แต่ในสายตาของเซี่ยชิงหยวน พฤติกรรมของเขาคืออีกฝ่ายตกใจที่เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้

เขายังห่วงใยเธออยู่จริง ๆ ใช่ไหม?

ทำไมเมื่อก่อนเขาถึงซ่อนมันไว้?

หรือหลังจากกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เธอไม่ใช่เซี่ยชิงหยวนคนเดิมอีกต่อไป และเขาก็ไม่ใช่เสิ่นอี้โจวคนเดิมอีกต่อไปเช่นกัน?

เซี่ยชิงหยวนยืนขึ้นและกำลังจะจากไป

“ชิงหยวน” ชายหนุ่มคว้าข้อมือของเธอด้วยความเจ็บปวดที่ฉายชัดออกมาจากดวงตา

เขายื่นมือออกไปและหมุนตัวเธอกลับมา แล้วมองผู้เป็นภรรยาด้วยแววตาเศร้าหมองที่อีกฝ่ายไม่เข้าใจ “ชิงหยวน ไม่เป็นไร มันจะสามารถรักษาได้”

อันที่จริง เขากำลังมองหาสูตินรีแพทย์ที่เก่งที่สุดอยู่ และเขาจะรักษาโรคของเธอให้ได้

หญิงสาวร้องไห้หนักขึ้น “แต่ฉันมีบางอย่างต้องทำ!”

ถ้าเขาเป็นหมัน เธอจะไม่สนใจเลย

เธอเป็นหนี้เขาเมื่อชาติก่อน ดังนั้นชีวิตนี้เธอจึงไม่มีอะไรจะขอนอกจากตอบแทนความรักของเขา

แต่ถ้าคนที่เป็นหมันคือเธอ เรื่องราวจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

เขาเป็นคนดีขนาดนี้ จึงไม่ควรมาจมปลักกับคนที่มีลูกไม่ได้อย่างเธอ

และผู้หญิงที่เธอเห็นในห้องปฏิบัติการวันนี้ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายชอบพอเขา

เขากับผู้หญิงคนนั้นควรจะได้มีลูกที่น่ารักและฉลาดด้วยกัน

แค่คิดเธอก็รู้สึกปวดแปลบขึ้นมา

ราวกับมีมือหนึ่งกุมหัวใจของเธอไว้แน่น ทุกความคิด ทุกลมหายใจของหญิงสาวรู้สึกเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง

เธอมองไปที่เขา ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงจากการร้องไห้ “ที่คุณกลับไปที่หมู่บ้านซีสุ่ยและพร่ำบอกว่าจะหย่ากับฉัน เพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”

เธอพยายามฉีกยิ้มเต็มที่ แต่ใบหน้าของเธอกลับน่าเกลียดยิ่งกว่าตอนร้องไห้เสียอีก “ถ้างั้นฉันจะเติมเต็มความต้องการของคุณให้ ใช่ เธอดูดีทีเดียว ยินดีด้วย… อื้ม… อื้ม…”

ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบประโยค เสิ่นอี้โจวจับท้ายทอยของเธอด้วยมือข้างหนึ่งและจับเอวเรียวของเธอด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เขาโน้มศีรษะลงมา และจุมพิตปิดกั้นคำพูดของเธอ

น้ำตาของเธอยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก มันทั้งเค็มและขม

แต่หัวใจของเขากลับขมขื่นยิ่งกว่ารสชาติของน้ำตานั้น ทุก ๆ ครั้งที่เธอเอ่ยคำพูดเจ็บปวดนี้ออกมา หัวใจของเขาราวกับมีใครเอาค้อนมาทุบอย่างแรงจนเนื้อและเลือดแดงก่ำ

เขาไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป!

เขารักเธอมาตลอดสองชาติ!

เขาจะไม่รักเธอได้ยังไง!

ชาติที่แล้วเธออ้อนวอนให้เขาไปตรวจครรภ์ด้วยกัน เขากลัวว่าเธอจะร้องไห้ เขาจึงไปด้วย

เมื่อเขาได้รับผลตรวจของตัวเองและได้เห็นผลตรวจของเซี่ยชิงหยวน เขาก็รู้สึกเศร้าเมื่อคิดว่าเธอจะร้องไห้หนักขนาดไหน เมื่อรู้ความจริงว่าเธอตั้งครรภ์ไม่ได้

เขาฉีกใบผลตรวจและเดินออกไปบอกกับอีกฝ่ายว่า ร่างกายของเขามีปัญหา

ถึงอย่างนั้นเขากลับคิดผิด เธอยังคงร้องไห้และต้องการที่จะไปจากเขา

เธอคือคนที่เขาอธิษฐานอ้อนวอนต่อพระพุทธเจ้าที่ทิเบตเป็นเวลาถึงสิบปีเพื่อให้ได้กลับมาเจอกัน แล้วเขาจะกล้าทำให้เธอร้องไห้ได้ยังไง

จะมีใครรู้บ้างว่าเขาต้องการเธอมากแค่ไหน!

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท