กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 58 ผู้หญิงต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 58 ผู้หญิงต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง

บทที่ 58 ผู้หญิงต้องยืนหยัดด้วยตัวเอง

เซี่ยชิงหยวนเลิกคิ้วขึ้น “เขาพูดแบบนั้นจริงเหรอ?”

จู่ ๆ เจียงเพ่ยหลานก็รู้สึกว่าไม่ต้องการซ่อนสิ่งที่ตัวเองเจอมา เธอเปิดปากพูดโดยที่ยังคงก้มหน้า “พวกเขาไม่ให้ฉันออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อวาน โดยบอกว่าคนอื่นจะเห็นรอยช้ำพวกนี้เอาได้ แต่วันนี้แม่สามีของฉันไม่อยากขยับตัว เธอจึงปล่อยให้ฉันออกมาหาบน้ำเข้าบ้าน”

เซี่ยชิงหยวนตระหนักกับคำว่า ‘พวกเขา’

ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่หลินจื่อเฉียงเท่านั้นที่ทุบตีอีกฝ่าย แต่ยังรวมถึงแม่ของเขาด้วย

เซี่ยชิงหยวนไม่อาจหาคำใดมาสาปแช่งสองแม่ลูกคู่นั้นได้เลย

จู่ ๆ เธอก็นึกถึงเด็กหญิงขี้อายคนนั้นและถามว่า “แล้วลูกสาวของคุณล่ะ เด็กคนนั้นอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า”

เสิ่นอี้โจวเคยบอกกับเธอว่าลูกสาวของเจียงเพ่ยหลานอายุเกือบห้าขวบแล้ว

เพียงแต่เด็กหญิงคนนั้นผอมแห้งและตัวเล็กมาก เธอจึงดูอ่อนกว่าวัย

เด็กวัยนี้สามารถจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้

หากเด็กน้อยมองเห็นฉากต่าง ๆ ที่นั่นไม่รู้เลยว่าบาดแผลทางจิตใจจะถูกทิ้งไว้มากมายเพียงใด

เมื่อพูดถึงลูกสาว เจียงเพ่ยหลานก็รู้สึกปวดร้าวในใจ

เธอพยักหน้า “ตอนนั้นลูกสาวของฉันก็อยู่ด้วย”

ตอนนั้นเจียงเพ่ยหลานกำลังกินข้าวอยู่และแม่สามีก็พูดถึงรายงานทางการแพทย์

แล้วบอกว่าครอบครัววางแผนแล้ว แม่สามีแนะนำให้ส่งลูกสาวของเธอไปหาญาติที่ต่างจังหวัด แล้วให้โกหกหน่วยงานว่าลูกสาวซุกซนจนตกน้ำและจมน้ำตาย

ด้วยวิธีนี้ พวกเขาสามารถวางแผนจะมีเด็กทารกได้อีกหนึ่งคน

ในสายตาของแม่สามี เธอไม่เคยชอบหลานสาวคนนี้เลย

เนื่องจากหลานสาวคนนี้อ่อนแอตั้งแต่ยังเล็ก ซึ่งทำให้ต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับการรักษาพยาบาล รวมไปถึงกินเวลาส่วนใหญ่ของเจียงเพ่ยหลานไป

ทว่าลูกสาวคือชีวิตของเจียงเพ่ยหลาน เธอย่อมไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

จึงเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกัน

หญิงชราร้องไห้และโวยวายจะกลับบ้านทันที โดยบอกว่าลูกชายของเธอหลงลูกสะใภ้จนลืมแม่ จนเธออยากจะตาย ๆ ไปซะ

พ่อของหลินจื่อเฉียงจากไปก่อนวัยอันควร และแม่สามีก็เลี้ยงดูเขาตามลำพัง

ดังนั้นเขาจึงเชื่อฟังสิ่งที่หญิงชราพูดเสมอ

เมื่อเห็นแม่ชรากำลังร้องไห้ ผู้เป็นสามีก็ตบหน้าเจียงเพ่ยหลานทันที “เจียงเพ่ยหลาน ฉันขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ถ้าเธอไม่เห็นด้วย ฉันจะหย่ากับเธอ!”

ทว่านั่นเป็นครั้งแรกของเจียงเพ่ยหลานที่ยืนหยัดอย่างหนักแน่น “ฉันไม่เห็นด้วย! คุณยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่าถึงได้ผลักไสลูกสาวของตัวเองออกไปแบบนี้”

เพียงเพราะประโยคนี้ หลินจื่อเฉียงที่โกรธเพราะความอับอายกระชากผมของเธอแล้วกระแทกกับกำแพง

ลูกสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ

เจียงเพ่ยหลานต้องคอยปลอบโยนลูกสาว ในขณะที่อดทนต่อการทุบตีของสามี

ต่อมา หญิงชรารู้สึกว่าหลานสาวร้องไห้จนน่ารำคาญ เธอจึงตบเด็กหญิงด้วยฝ่ามือจนเด็กตัวน้อยลุกไม่ขึ้นเป็นเวลานาน

เจียงเพ่ยหลานคลั่งขึ้นมาทันที เธอผลักหลินจื่อเฉียงออกไป และวิ่งเข้าไปผลักหญิงชราที่ยังคงจะตีลูกสาวของเธอ ส่งผลให้หญิงชราล้มลงไปที่พื้น

การกระทำนี้ไม่ต่างกับการเหยียบรังแตน หญิงชราชี้ไปที่เจียงเพ่ยหลานและสาปแช่ง “ผู้หญิงเลวทรามคนนี้กล้าตีฉัน!”

เธอลากหลินจื่อเฉียงออกมา “ภรรยาของแกทำฉันขนาดนี้แล้ว ทำไมแกไม่รีบสั่งสอนบทเรียนให้มันอีก!”

หลินจื่อเฉียงฟังหญิงชราอยู่แล้ว จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เจียงเพ่ยหลานจะถูกผู้เป็นสามีทุบตีอย่างโหดเหี้ยม

หญิงชรายังคงสาปแช่ง “ถ้าแกไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินแล้วเสียหน้าละก็ ปิดปากของแกให้สนิทซะ!”

เมื่อได้ยินเรื่องราวนี้และเห็นเจียงเพ่ยหลานสะอื้นไห้ ขณะที่เล่าเรื่องการถูกทุบตี เซี่ยชิงหยวนก็โกรธมากจนแทบจะกระโจนไปหาคนพวกนั้น

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงร้องไห้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “เธอจะปล่อยไปแบบนี้เหรอ”

เรื่องนี้เกี่ยวกับเด็กหญิงตัวน้อยโดยตรง

ด้วยพฤติกรรมของครอบครัวหลินจื่อเฉียง ไม่ช้าก็เร็วพวกเขาจะทำตามที่พูดจริง ๆ

เจียงเพ่ยหลานส่ายหัว เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า “จื่อเฉียงขอโทษฉันในภายหลังและบอกว่าเขาจะไม่ตีฉันอีก”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ถอนหายใจ “เธอเชื่อเหรอ”

เจียงเพ่ยหลานเงียบในตอนแรก และจากนั้นพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจ “เขาบอกว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

เซี่ยชิงหยวนพูดแทงใจดำของอีกฝ่ายโดยตรง “ความรุนแรงในครอบครัวก็เหมือนกับการนอกใจ ปากบอกว่าจะไม่ทำอีกแล้ว แต่มันก็เกิดขึ้นอีกนับครั้งไม่ถ้วน”

เจียงเพ่ยหลานหยุดพูด

เซี่ยชิงหยวนรู้ดีว่า ผู้หญิงมักจะใช้ความอดทนและความหวังทั้งหมดในชีวิตเพื่อรอคอยให้ผู้ชายของตัวเองเปลี่ยนหรือหันกลับมา

เว้นแต่หัวใจจะแตกสลายหรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย มันก็จะไม่ยอมแพ้หรือตื่นรู้

ดังนั้นเซี่ยชิงหยวนจึงหยุดเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย

เธอเพียงพูดว่า “ฉันแค่อยากให้เธอเข้าใจสิ่งหนึ่ง ถ้าผู้หญิงไม่รักตัวเอง การที่จะได้รับความรักจากคนอื่นย่อมเป็นไปไม่ได้ เธอต้องยืนหยัดเพื่อปกป้องตัวเองและลูกสาวของเธอ”

เซี่ยชิงหยวนหยุดชะงักเมื่อเห็นแม่สามีของเจียงเพ่ยหลานกำลังรีบเดินเข้ามาหาพวกเธอ ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาว่า “ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือ มาหาฉันได้ทุกเมื่อ”

จากนั้นเธอก็มองหญิงชราด้วยสายตาที่ลุ่มลึกและหันหลังกลับไป

เธอไม่ใช่นักบุญ หากเธอไม่ได้มาเจอเจียงเพ่ยหลานในวันนี้ เธอก็คงไม่เอาตัวเองเข้ามายุ่งเกี่ยวในความทุกข์ทรมานของคนอื่น

เมื่อกลับถึงบ้าน หญิงสาวก็ค่อย ๆ สงบลง

เสิ่นอี้โจวทำน้ำตาลทรายแดงหนึ่งแก้วแล้วนำมาให้เธอ “ดื่มน้ำตาลสักหน่อยนะ”

เซี่ยชิงหยวนหัวเราะ “ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว”

แต่เธอก็ยังหยิบแก้วและจิบสองครั้งด้วยความพึงพอใจ

ส่วนความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทั้งสองคนเมื่อครู่นี้ เธอได้ปล่อยมันไปแล้ว

เซี่ยชิงหยวนมีข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง นั่นคือเธอไม่เก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ในใจ

ทว่านั่นเฉพาะกับคนที่ไม่ได้ตั้งใจเหยียบย่ำเธอเท่านั้น

เธอมองไปยังเสิ่นอี้โจวที่ยืนอยู่ทางด้านข้าง ในขณะที่เขากำลังมองเธออยู่อย่างนั้นโดยไม่กะพริบตาเลย

เธอยกมือขึ้นแตะใบหน้าของตัวเอง “มีอะไรหรือเปล่า”

เสิ่นอี้โจวนั่งข้างเธอด้วยสีหน้าจริงจัง

เธอเห็นขนตาของเขาสั่นไหว ดวงตานกฟีนิกซ์ที่เย็นชาฉาบด้วยสีอันทรงเสน่ห์ ริมฝีปากบางของเขาเผยอออก “ชิงหยวน ร้อยครั้ง… ผมขอแบ่งทำภายในหนึ่งเดือนได้ไหม”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท