บทที่ 59 สองคำที่ผู้ชายไม่อยากฟัง
บทที่ 59 สองคำที่ผู้ชายไม่อยากฟัง
เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินประโยคนี้ แก้วในมือของเธอก็เกือบจะร่วงหล่นลงบนพื้น
ข้ามหัวข้อนี้ไปไม่ได้เหรอ?
เธอมองหน้าเสิ่นอี้โจว แต่ชายตรงหน้าเธอมีท่าทางจริงจังและระมัดระวังมาก
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเพียงว่าดวงตาฟีนิกซ์คู่นั้นไม่เย็นชาอีกต่อไป ยิ่งกว่านั้นยังดูเหมือนพยายามหลบเลี่ยงการจ้องมองของเธอด้วย
จมูกเป็นสันคม ริมฝีปากบางเซ็กซี่ กรามขบแน่น…
ทว่าเมื่อดอกไม้แห่งภูเขาสูงไม่เย็นชาอีกต่อไป แต่กลับนุ่มนวลและเจ้าเล่ห์เหมือนกระต่ายขาวตัวน้อย มันจะเป็นอีกรูปลักษณ์หนึ่ง
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันใด
หญิงสาววางแก้วลงบนโต๊ะทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นไปปิดประตูห้องนั่งเล่นด้วยการเตะหนึ่งครั้ง การเคลื่อนไหวทั้งหมดไหลลื่นและตอนนี้เธอรู้สึกว่าตนเองดูเหมือนผู้ชายมาก
จากนั้นก็เดินเข้าไปหาเสิ่นอี้โจวและดึงปกคอเสื้อของเขา
เธอพูดอย่างดุดัน “เยี่ยม! ทำตามที่คุณพูดให้ได้ อย่าร้องไห้ขอหยุดก็แล้วกัน”
หลังจากพูดจบ เธอก็ลากเขาไปที่ห้อง “ไม่งั้นฉันเกรงว่าคุณคงไม่สามารถทำให้ครบร้อยครั้งได้ในหนึ่งเดือนแน่นอน มาเร็ว มาเร่งมือเร็ว ๆ เลย!”
เสิ่นอี้โจวที่ไม่ได้ตั้งตัวถูกผู้เป็นภรรยาลากไปจนเซ
หลังจากที่เขาได้สติ ใบหน้าหล่อเหลาก็ขึ้นสีแดงเรื่อ
เขาจับมือของเซี่ยชิงหยวน กุมมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน “ชิงหยวน”
เซี่ยชิงหยวนหันกลับมา “อะไร? เริ่มเสียใจแล้วงั้นเหรอ?”
หลังจากที่ตกตะลึงไปชั่วขณะเมื่อครู่นี้ เสิ่นอี้โจวก็สามารถเรียบเรียงความคิดได้
แม้เขาจะรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่ แต่ใบหน้ากลับยังคงนิ่งสงบ
ชายหนุ่มจับมือของผู้เป็นภรรยาเอาไว้ เสียงของเขาดูจะมีพลังวิเศษ “ผมแค่กังวลว่าคุณจะร้องไห้มากกว่า”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หญิงสาวก็หน้าแดง แต่เธอต้องไม่แสดงอาการเขินอายออกมาต่อหน้าเขา
เธอสะกิดคอเขาแล้วพูดว่า “ถ้าฉันจะร้องไห้มันคงเป็นเพราะเทคนิคแย่ ๆ ของคุณมากกว่า”
เสิ่นอี้โจว “…”
สีหน้าของเขาดูประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา
เซี่ยชิงหยวนจ้องมองเขา “คุณหัวเราะอะไร? เร็ว ๆ เลย รีบมาทำให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย”
มุมปากของเสิ่นอี้โจวโค้งยิ้ม ดวงตาของเขาสว่างวาบด้วยแสงแห่งอันตราย
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเพียงว่ามีบางอย่างผิดปกติกับท่าทีของอีกฝ่าย
ชายหนุ่มเดินเข้าหาเธอพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งและเย้ายวน “ชิงหยวน มีคำสองคำที่ผู้ชายไม่อยากฟังมากที่สุด คำแรกคือบอกว่าเขาทำไม่ได้ คำที่สองคือบอกว่าเขาไม่เก่งเรื่องเทคนิคบนเตียง!”
หลังจากพูดจบ เขาก็กอดเธอ “ชิงหยวน มันเป็นผมที่แสดงความเมตตาต่อคุณมาโดยตลอด”
เซี่ยชิงหยวน “!”
เสิ่นอี้โจวกอดหญิงสาวไว้และพาเดินไปที่ห้องนอน
หัวใจของเซี่ยชิงหยวนเต้นโครมครามไม่หยุด
แต่เธอเตือนตัวเองซ้ำ ๆ ว่าอย่าแสดงอาการประหม่าออกมาต่อหน้าเขา
ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นว่า “เหอะ ใครกลัวใครกันแน่ ระวังคุณจะเหนื่อยจนแทบยืนตัวตรงไม่ได้!”
เมื่อคำพูดของอีกฝ่ายจบลง เสิ่นอี้โจวก็วางเธอลงบนเตียง
เซี่ยชิงหยวนนอนหงายบนเตียง เงยหน้าขึ้นมองเสิ่นอี้โจว และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าเขาสูงขึ้นกว่าเดิม
ทางด้านเสิ่นอี้โจวก็มองลงมายังหญิงสาวเช่นกัน เขาวางนิ้วลงบนกระดุมเสื้อและเริ่มปลดกระดุมของตนออก
ดวงตาของเขามีเสน่ห์มาก ท่าทางของเขาเกียจคร้านแต่ก็มีเสน่ห์ การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าแต่เป็นระเบียบ และมีความอดทนอย่างมาก
เมื่อกระดุมเม็ดแรกของเขาถูกปลดออก และจากนั้นก็ถึงกระดุมเม็ดที่สองที่เผยให้เห็นคออันเรียวยาวและกระดูกไหปลาร้าที่แข็งแกร่ง เซี่ยชิงหยวนลอบกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นก็กลับมารู้สึกตัว ตอนนี้เธอกำลังน้ำลายไหลเมื่อมองไปที่เสิ่นอี้โจว
เธอหงุดหงิดใจขึ้นมาทันที
ทำไมเธอถึงทำตัวเหมือนว่าในชีวิตนี้ไม่เคยเห็นผู้ชายมาก่อนเลย?
เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ดังมาจากอีกฝ่าย
เซี่ยชิงหยวนจ้องมองเขา “ฉันละโมบอยากได้ผู้ชายของตัวเอง มันก็ต้องสมเหตุสมผลและถูกกฎหมายอยู่แล้ว”
คำว่า ‘ผู้ชายของตัวเอง’ ดังลอดผ่านหูของเสิ่นอี้โจวและกระแทกเข้าสู่หัวใจของเขา
เธอบอกว่าเขาเป็นผู้ชายของเธอ…
เมื่อกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออก กล้ามหน้าอกและแนวเสื้อกล้ามก็เผยออกมาต่อหน้าของเซี่ยชิงหยวนทันที
จากนั้นสายตาของหญิงสาวก็หลุบมองต่ำลงไปยังเอวที่คาดเข็มขัดไว้
ไม่ ตอนนี้เธอต้องการจะกลืนน้ำลายลงไปอีกครั้ง
เสิ่นอี้โจววางเสื้อไว้บนชั้นวางข้างกายเขาอย่างไม่ตั้งใจ และโน้มตัวเข้าหาคนตรงหน้า
เขามองเธอดั่งคนรักและมันอ่อนโยนที่สุดในโลก “ชิงหยวน คุณต้องทนให้ได้นะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเธอก็เต้นระรัว
แม้ว่าทั้งสองจะเคยทำเรื่องอย่างว่ากันมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทำกันตอนกลางวันแสก ๆ
ยิ่งกว่านั้น เขาบอกให้เธออดทน นี่เขาจะทำให้เธอร้องไห้เหมือนครั้งก่อน ๆ หรือเปล่า?
เมื่อมองกันและกันในระยะใกล้ ความรู้สึกกดขี่จากเสิ่นอี้โจวก็ครอบงำทั่วทั้งร่างกายของเซี่ยชิงหยวนเอาไว้
หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเริ่มขี้ขลาด
เธอพยายามห่อไหล่ย่อตัวลงบนเตียง “หรือว่าวันนี้เราลืมเรื่องนี้กันไปก่อนดีคะ?”
ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่ามีใครบางคนจับข้อเท้าของเธอ และด้วยแรงฉุดนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ถูกดึงเข้าไปอยู่ใต้ร่างของเสิ่นอี้โจวในทันที
เธอถูกดึงไปอยู่ตรงเอวของเขา
การกระทำนี้เฉียบคมและทรงพลังยิ่ง
เสิ่นอี้โจวย่อตัวลงช้า ๆ “ชิงหยวน สิ่งที่คุณพูดเมื่อกี้นี้ คุณกำลังยื้อเวลาหรือไง”
เซี่ยชิงหยวน “!”
เธอเบิกตากว้างมองดูเสิ่นอี้โจวขยับเข้ามาใกล้
จากนั้นเขาก็จูบริมฝีปากของเธอด้วยสัมผัสที่เย็นและนุ่มนวล
เซี่ยชิงหยวนเลิกล้มความต้องการที่จะต่อต้านในทันที
เธอไม่กล้าแสดงความเพลิดเพลินออกมาจึงหลับตาลง
ผู้ชายของเธอนี่น่าทึ่งจริง ๆ
เสิ่นอี้โจวจับเอวบางด้วยมือข้างหนึ่ง นำพาเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขา มืออีกข้างจับคางของเธอ และประทับจูบอย่างลึกซึ้ง
สิ่งที่เขาเรียนรู้ในช่วงชีวิตทั้งสองมีไม่มากนัก เพราะมีเพียงไม่กี่ครั้งที่เขาได้ทำกับเซี่ยชิงหยวน
เขาขาดประสบการณ์ แต่ก็พยายามเรียนรู้ด้วยตนเอง
เซี่ยชิงหยวนพยายามเปิดตามอง ก่อนที่สติทั้งหมดของเธอจะเลือนราง
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มกะพริบตา หางตาเป็นสีแดงและดวงตาของเขาดำสนิท
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขาอยู่ในห้วงอารมณ์แบบนี้
หลังจากนั้น หญิงสาวก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ริมฝีปากเพราะเสิ่นอี้โจวจงใจกัดอย่างแรง “คุณยังคงคิดฟุ้งซ่านทั้ง ๆ ที่สถานการณ์เป็นแบบนี้น่ะเหรอ?”
หลังจากนั้น ฝ่ามือใหญ่ก็ยื่นออกไปจับชายเสื้อของเธอ จนเซี่ยชิงหยวนต้องหายใจเข้าลึก ๆ
เมื่อมองขึ้นไปอีกครั้ง มันเป็นรอยยิ้มและคิ้วที่สั่นไหวของเสิ่นอี้โจว
ขณะที่จูบ เขาก็กระตุ้นเธอ “มีสมาธิหน่อยสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยชิงหยวนจึงวางขาอีกข้างลงทันที
เสิ่นอี้โจวจับเธอและพยายามพลิกตัวกลับ…
จากนั้นพร้อมด้วยเสียงอู้อี้ ทั้งสองคนก็ตกลงไปยังช่องว่างที่กระดานเตียงขาดหายไป!