กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 69 แผ่นดินไหว

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 69 แผ่นดินไหว

บทที่ 69 แผ่นดินไหว

ภาพจิตรกรรมฝาผนัง?

หมายถึงเธอเหรอ!

เซวียไฉ่เฟิ่งใช้เวลาสักพักหนึ่งกว่าจะคืนสติ เมื่อครู่เซี่ยชิงหยวนกำลังด่าตัวเธออยู่นี่!

หญิงสาวโกรธจัดจนอยากจะคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง

แต่เซี่ยชิงหยวนกลับปิดประตูบ้านไปแล้ว

เซวียไฉ่เฟิ่งคงด่าอีกฝ่ายกลับไปแล้ว หากเธอไม่ได้ตระหนักว่าการยืนตะโกนอยู่หน้าประตูบ้านของคนอื่นจะทำลายภาพลักษณ์ของเธอ

เมื่อกลั้นมันไว้ไม่ไหว หญิงสาวก็ทำได้เพียงไปทุบหม้อข้าวบ้านตัวเองเท่านั้น

จากนั้นเธอก็นึกถึงเรื่องที่หลี่กวงหัวพูดเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งของเสิ่นอี้โจว

สามีของคนอื่นกับสามีของเธอก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ทำไมพวกเขาถึงแตกต่างกันขนาดนี้!

หากเสิ่นอี้โจวเต็มใจที่จะมองเธอบ้าง เธอก็ยินดีที่จะหย่ากับหลี่กวงหัวทันที

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ หญิงสาวก็ยิ่งโมโหหลี่กวงหัวมากขึ้นเท่านั้น เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นดอกไม้ที่ปักอยู่บนขี้วัว

ฝ่ายเซี่ยชิงหยวนเองก็มีบางอย่างในใจเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงรอให้เสิ่นอี้โจวกลับมาเพื่อคุยกันอีกครั้ง

แต่เมื่อเสิ่นอี้โจวกลับมา เขากลับรีบเก็บข้าวของและออกไปทันที

ชายหนุ่มพูดกับเธอว่า “ระดับน้ำในบริเวณต้นน้ำอยู่ในภาวะฉุกเฉินแล้ว หากต้นน้ำไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ พื้นที่ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปลายน้ำจะได้รับความเดือดร้อน ผมเพิ่งได้รับการแจ้งเตือนให้เราไปที่นั่น เพื่อให้คำแนะนำทางเทคนิค”

บริเวณปลายน้ำที่ว่านั้นคือเขตตัวเมืองของเตียนเฉิง ซึ่งไม่เพียงมีประชากรหนาแน่นเท่านั้น แต่ยังมีโครงสร้างพื้นฐานและพืชผลมากมายกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่แห่งนี้

เธอจึงรับรู้ได้ถึงความสำคัญของการรักษาระดับน้ำที่อยู่ในบริเวณต้นน้ำได้เป็นอย่างดี

เมื่อได้ยินแบบนั้น เธอก็กังวลมากจนจำไม่ได้ว่าจะถามอีกฝ่ายว่าอะไร

ในตอนนี้เธอทำได้เพียงสนับสนุนเขา และบอกตัวเองว่าห้ามรั้งเขาไว้

ดังนั้นเธอจึงตอบไปว่า “ได้ค่ะ ฉันเข้าใจ”

เสิ่นอี้โจวเดินออกไปข้างนอกแล้ว ก่อนจะเห็นว่าเซี่ยชิงหยวนยืนอยู่ที่ประตู และมองมาที่เขาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

ภายในใจของเขาร้อนรุ่มขึ้นมาทันที

เขาวางกระเป๋าสัมภาระลง ก้าวขึ้นบันไดไปและโอบกอดเซี่ยชิงหยวนไว้

เขาจูบที่หน้าผากของเธอและพูดว่า “ดูแลตัวเองและรอผมกลับมานะ”

เดิมที เซี่ยชิงหยวนคิดว่าเธอจะแสร้งทำเป็นเฉยเมยได้ แต่เมื่อชายหนุ่มพูดแบบนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้

เธอกลั้นน้ำตาและผลักเขาออกไป “ไปเร็ว ฉันจะดูแลตัวเองให้ดี คุณไม่ต้องห่วงนะ”

เสิ่นอี้โจวมองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะจากไป

ตั้งแต่วันนั้น เซี่ยชิงหยวนก็ให้ความสนใจกับพื้นที่บริเวณต้นน้ำมาตลอด

ส่วนที่นี่ฝนเริ่มตกแล้ว

หญิงสาววางแผนว่าช่วงนี้จะงดออกไปขายสลัดผักเย็นก่อน

เธอจึงบอกลูกค้าตอนปิดแผงวันล่าสุดและบอกกับอาเซียงว่าไม่ต้องมาส่งผักที่บ้านเธอชั่วคราว

เมื่อลงมาจากภูเขา เธอก็ได้พบกับเจียงเพ่ยหลานครั้งหนึ่ง

เจียงเพ่ยหลานในเวลานั้นมาพร้อมกับพี่ชาย ทั้งยังอีกฝ่ายยังดูซีดเซียวมาก

พวกเธอเพียงคุยกันว่า ติงเหม่ยเซียนบอกว่าเด็กสาวเป็นดั่งเมล็ดพันธุ์ของตระกูลหลิน ดังนั้นเจียงเพ่ยหลานจึงไม่สามารถพรากเธอไปจากตระกูลหลินได้ ทั้งสองฝ่ายจึงไม่อาจตกลงเรื่องนี้กันได้

พวกเขาแต่ละคนยังมีสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นจึงแยกกันไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

สองวันหลังจากนั้น เซี่ยชิงหยวนกลับมาจากการปิดร้าน เธอได้รับการแจ้งเตือนจากสำนักงานว่าอาจมีแผ่นดินไหวในเมืองเตียนเฉิงในช่วงสองวันถัดจากนี้ ดังนั้นทุกคนควรใส่ใจกับความปลอดภัยของตนเอง หากมีญาติอยู่ที่เชิงเขาก็ขอแนะนำให้ทุกคนไปที่นั่นเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้นในครั้งนี้

ทันใดนั้นผู้คนก็ตื่นตระหนก

ทว่าเมื่อเปรียบเทียบคนอื่นแล้ว เซี่ยชิงหยวนกลับสงบกว่ามาก

หากไม่นับเรื่องที่เธอกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเสิ่นอี้โจวแล้ว หญิงสาวยังเก็บกวาดบ้านในเวลาว่างอีกด้วย

โดยเฉพาะของมีค่าทั้งหมดถูกห่อด้วยผ้าใบกันน้ำ และวางไว้ในที่ที่เธอสามารถหยิบได้สะดวก

วันที่สอง อาเซียงมาพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยผัก

เด็กสาวพูดกับเซี่ยชิงหยวนว่า “พี่เซี่ย พ่อของฉันบอกว่าถ้ามีแผ่นดินไหว ถนนบนภูเขาจะพัง ในเวลานั้นคุณจะไม่สามารถซื้ออาหารได้ทุกที่ เขาเลยขอให้ฉันนำผักมาให้พี่ พี่อยู่ที่บ้านคนเดียวก็ระวังตัวด้วยนะคะ”

หญิงสาวไม่คาดคิดว่าในระหว่างที่เสิ่นอี้โจวไม่อยู่ ความอบอุ่นแรกที่เธอได้รับจะมาจากครอบครัวของอาเซียง

เซี่ยชิงหยวนรับผักมาพร้อมกับขอบคุณและยื่นเงินไปให้ แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธ

“พี่เซี่ย พี่ซื้อผักกับครอบครัวเราทุกวัน ทำให้ครอบครัวของเรามีรายได้ที่มั่นคง พ่อบอกว่าพี่เป็นคนดีและเราต้องตอบแทนพี่บ้าง ผักพวกนี้ไม่มีค่าอะไรมากนัก ดังนั้นพี่เก็บมันไว้อย่างสบายใจเถอะ”

เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง “ขอบคุณพ่อของเธอแทนฉันด้วยนะ”

เธอส่งอาเซียงออกจากสถาบันวิจัย และได้พบเข้ากับหลี่กวงหัวกับเซวียไฉ่เฟิ่งในระหว่างทางกลับบ้าน

เซวียไฉ่เฟิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ตั้งแต่ที่พวกเธอเจอกันครั้งล่าสุด

หลี่กวงหัวกลับเป็นคนพูดขึ้นมาว่า “ไม่รู้ว่าหัวหน้าแผนกเสิ่นจะกลับมาเมื่อไหร่ เราวางแผนที่จะไปบ้านพี่เขยในวันพรุ่งนี้และอยู่ที่นั่นประมาณสองสามวัน คุณจะไปกับเราไหมครับ”

เซี่ยชิงหยวนแค่มองใบหน้าอันแสนเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายเท่านั้น หญิงสาวก็รู้สึกว่าปวดมวลท้องไปหมดแล้ว

เธอเหลือบมองพวกเขาก่อนจะตอบอย่างเย็นชาว่า “ไม่ค่ะ”

แล้วจากไปทันที

ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนเดินออกไป เซวียไฉ่เฟิ่งก็รีบหยิกหูของหลี่กวงหัวเอาไว้ “เธอไปแล้ว คุณยังจะมองหาอะไรอีก!”

หลี่กวงหัวยกยิ้มด้วยความเจ็บปวด “เมียจ๋า ฉันไม่กล้าแล้ว”

เซวียไฉ่เฟิ่งกัดฟันกรอดด้วยความเกลียดชัง “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ถึงความคิดบ้า ๆ ของคุณนะ คนเขามีเสิ่นอี้โจวเป็นสามีอยู่แล้ว จะมามองคนอย่างคุณหรือไง? คุณไม่คู่ควรที่จะถือรองเท้าให้ผู้ชายคนอื่นด้วยซ้ำ!”

ความมืดวาบผ่านดวงตาของหลี่กวงหัว แต่เขาก็ยังคงพยายามเกลี้ยกล่อมเธอว่า “เมียจ๋า ผมรู้ว่าผมผิด อย่าโกรธเลยน้า”

ทว่าหางตาของเขายังคงมองตามเซี่ยชิงหยวนไป

ต่อให้เสิ่นอี้โจวมีความสามารถแล้วยังไง?

การปล่อยให้ภรรยาเหงาอยู่คนเดียวแบบนี้มันต้องมีผลเสียอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

ถ้าเขาพบโอกาสละก็ ไม่ช้าก็เร็วหรอก… ฮึ่ม!

ระหว่างที่ทุกคนคิดว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวัน มันกลับมาเยือนอย่างเงียบงัน

ในคืนนั้น ระหว่างที่คนส่วนใหญ่กำลังนอนหลับ พวกเขาก็ได้ยินเสียงคนตะโกนว่า “มีแผ่นดินไหว ลุกขึ้น! มีแผ่นดินไหว ลุกขึ้นเร็ว! ไปรวมตัวกันที่สนามเด็กเล่น! ไปรวมตัวกันที่สนามเด็กเล่น!”

เจ้าหน้าที่มาตะโกนแจ้งให้ทุกคนทราบ

เซี่ยชิงหยวนตื่นขึ้นจากความฝัน

ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกได้ว่าบ้านกำลังสั่น ถ้วยและหนังสือบนโต๊ะต่างร่วงตกลงพื้นทั้งหมด

นี่คือการสั่นสะเทือนขั้นแรกของคลื่นแผ่นดินไหว!

เสียงในใจของเซี่ยชิงหยวนบอกกับเธอว่าแผ่นดินไหวของจริงกำลังจะมา!

เธอรีบเปิดไฟ แต่งตัว หยิบของมีค่าและเหยือกน้ำใบใหญ่ก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างไม่ลังเล

เธอเป็นคนแรกที่ออกมาจากบ้านพักของเจ้าหน้าที่

เธอยังตะโกนเตือนคนอื่นด้วยสุดเสียง “มีแผ่นดินไหว มีแผ่นดินไหว!”

จากนั้นผู้คนก็ตื่นขึ้นทีละคน แล้ววิ่งออกจากบ้านด้วยความตื่นตระหนก

ทันใดนั้นผู้คนก็ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย

คนที่ทำให้เซี่ยชิงหยวนประหลาดใจมากที่สุดคือเซวียไฉ่เฟิ่งกับหลี่กวงหัว

พวกเขาไม่ได้สวมอะไรเลยด้วยซ้ำ และวิ่งเปลือยกายออกมา

เซวียไฉ่เฟิ่งคลุมตัวด้วยผ้านวม ซึ่งตอนนี้หลี่กวงหัวกำลังยื้อแย่งกับเธอเพื่อแย่งผ้าน่วมผืนนั้นมา เพื่อใช้มันปกปิดร่างกาย

ภาพนี้ช่างบาดสายตาเธอจริง ๆ

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกว่าเธอไม่อยากมองอีกต่อไป

เธอไม่สนใจพวกเขา และวิ่งไปที่สนามเด็กเล่นพร้อมกับกลุ่มคนจำนวนมาก

เมื่อไปถึง หญิงสาวก็ได้เห็นว่ามีบางคนมารวมตัวกันที่สนามเด็กเล่นอยู่ก่อนแล้ว

ในหมู่พวกเขา ชายหนุ่มคนหนึ่งบ่นว่า “จะมีแผ่นดินไหวใหญ่จริงเหรอ? แค่รู้สึกกันไปเองรึเปล่า?”

หญิงชราข้าง ๆ เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “เจ้าหนุ่ม นายบ้าไปแล้วหรือไง ใครจะไปโกหกเรื่องแบบนี้กัน ในสถาบันวิจัยก็มีเครื่องมือตรวจสอบอยู่ ซึ่งพวกเขาก็ประกาศอยู่ว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นแน่นอน”

ทันทีที่สิ้นเสียงของหญิงชรา แผ่นดินก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน