กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 95 แก้ชุดนอน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 95 แก้ชุดนอน

บทที่ 95 แก้ชุดนอน

มันเป็นเพียงความตื่นตระหนกชั่วครู่และอารมณ์ของเสิ่นอี้โจวก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

เขาจับมือของเซี่ยชิงหยวนที่กําลังจะสัมผัสส่วนสําคัญของเขา พลางยิ้มให้ “ไม่ใช่แบบนั้น คุณกำลังเข้าใจผิด”

“อ้อ งั้นเหรอ?” เซี่ยชิงหยวนปล่อยคอเสื้อของผู้เป็นสามี

แต่นิ้วชี้เรียวกลับเชยคางของเขาขึ้น

เธอมองเข้าไปในดวงตาของเขาและไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ “ยังไงก็เถอะ พอฉันคิดถึงปัญหานี้ หัวใจของฉันก็รู้สึกไม่มั่นคง คุณคิดว่าฉันควรทำยังไงดี?”

เมื่อพูดแบบนี้ มือทั้งสองข้างของเซี่ยชิงหยวนก็ถูกเสิ่นอี้โจวรวบกุม เขาจับมือของเธอมาประกบเข้าด้วยกัน และดันกลับไปวางไว้บนหน้าอกของอีกฝ่าย

สายตาของพวกเขาสบประสานกัน แต่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์

ชุดชั้นในส่วนใหญ่ที่ผู้หญิงในเมืองเตียนเฉิงในยุคนี้สวมจะเป็นเสื้อกล้าม

โดยเฉพาะส่วนที่ปิดหน้าอกจะมีความหนาน้อยกว่าในรุ่นหลัง ๆ

ดังนั้น เมื่อมือของเสิ่นอี้โจววางทาบอยู่บนหน้าอกของเธอ เขาก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มของเนื้อหนังอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

คล้ายกับจับมันฝรั่งร้อน เสิ่นอี้โจวต้องการชักมือกลับมาจากอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

แต่เซี่ยชิงหยวนดูจะคาดเดาได้อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นเธอจึงรีบจับมือของเขาเอาได้ทันเวลา

ด้วยการยื้อยุดกันแบบนั้น มือของเสิ่นอี้โจวก็ยิ่งสัมผัสโดนหน้าอกของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ

ในที่สุด เซี่ยชิงหยวนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงคราง “อื้ม…”

เสียง “อื้ม…” ส่งผลกระทบต่อความคิดด้านเหตุผลของเสิ่นอี้โจวอย่างดุเดือด

จากนั้นเธอก็จงใจพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “ไหนใครกันน้า~ ที่บอกว่าจะทะนุถนอมฉัน”

เมื่อได้ยินแบบนี้ ชายหนุ่มก็แทบจะลุกเดินออกไปทันที

โชคดีที่เซี่ยชิงหยวนปล่อยมือของเขาในเวลานี้ ไม่อย่างนั้นมือของชายหนุ่มคงจะอยู่ในท่า ‘จับ’ แทน

เขาชักมือกลับมาแล้วไพล่หลังไว้ “ถ้าให้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้สั้น ๆ คือคุณไม่ต้องคิดถึงมันเลย ผมปรึกษากับหมอมาแล้วและเขาก็บอกว่าเราควรใส่ใจให้มาก”

เซี่ยชิงหยวนเลิกคิ้ว “หมอพูดแบบนั้นเหรอคะ?”

เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าภาวะมีบุตรยากต้องยิ่งมีเพศสัมพันธ์?

มันควรจะพยายามมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอ?

บางทีวันหนึ่งท่อนําไข่อาจเปิดออกก็ได้จริงไหม?

เสิ่นอี้โจวพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช่”

เขาลุกขึ้นจากโซฟาและพูดว่า “มื้อค่ำนี้ผมจะทำอาหารที่คุณอยากกินให้เอง”

เซี่ยชิงหยวนยังคงจมอยู่กับสิ่งที่เสิ่นอี้โจวพูดก่อนจะตอบกลับว่า “ฉันซื้อพวกวัตถุดิบอาหารกลับมาด้วย เดี๋ยวฉันจะทําอาหารเองนะ”

เสิ่นอี้โจวตอบโดยไม่ลังเล “ถ้างั้นผมฝากด้วยก็แล้วกัน อันที่จริง ผมยังมีงานที่ต้องจัดการอยู่ เพราะงั้นเรียกหาผมได้เลยนะ ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือ”

หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินเข้าไปในห้องหนังสือ

เซี่ยชิงหยวนมองเขาที่เดินเร็วเหมือนกับกำลังหลบหนี และกว่าเธอจะรู้ตัว ก็ช้าไปแล้วครึ่งก้าว

เขาทิ้งเธอไว้กลางคันอีกแล้วนี่นา!

เสียงของเซี่ยชิงหยวนเต็มไปด้วยความโกรธ “เสิ่น-อี้-โจว!”

ยังไงก็ตามมีเพียงเสียงประตูที่ปิดลงเท่านั้นที่ตอบเธอ

เซี่ยชิงหยวนยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องเมื่อช่วงบ่ายและเธอจงใจทําอาหารเย็นแบบง่าย ๆ

ข้าวตุ๋นมันเทศ ผักกาดหอมผัด

เสิ่นอี้โจวจําได้ว่าเซี่ยชิงหยวนบอกว่าเธอซื้อวัตถุดิบมาหลายอย่าง ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูไม่ใช่อาหารเย็นที่เธอวางแผนไว้ตอนแรกแน่ ๆ

เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาคีบผักกาดหอมขึ้นมาเคี้ยวในปาก

จากนั้นเขาก็ส่งยิ้มพอใจให้หญิงสาว “อาหารที่ภรรยาของผมทําอร่อยที่สุดเลย”

เซี่ยชิงหยวนจ้องมองเขา “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กินให้เยอะ ๆ สิคะ!”

เธอก้มศีรษะลงและใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวในชามอย่างดุดัน

เสิ่นอี้โจวเคาะที่ตะเกียบของเธอ “ผมเคยได้ยินคนชราในหมู่บ้านพูดว่าการพุ้ยข้าวเข้าปาก ใบหน้าของคุณจะกลายเป็นตุ่มนะ”

เซี่ยชิงหยวน “…”

เธอจ้องมองเขา “ฉันก็เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดว่าคนที่โกหกผู้คนเสมอ เวลาออกไปข้างนอกบ้าน กางเกงของเขาจะหลุดถึงข้อเท้า”

เสิ่นอี้โจว “…”

เขาคีบผักให้เธออีกชิ้นหนึ่ง “จานนี้อร่อยดีนะ”

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกโกรธและถามเขาว่า “เสิ่นอี้โจว จิตสำนึกของคุณอยู่ที่ไหน!”

เสิ่นอี้โจวชี้หน้าอกของตัวเอง คิ้วของเขาดูอ่อนโยน “ที่นี่ไง”

เซี่ยชิงหยวนเลือกที่จะไม่พูดต่อ

หากยังคงพูดถึงเรื่องนี้ต่อไป เธอก็ยิ่งโมโหเขา

เสิ่นอี้โจวรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าเขาทําแบบนี้ต่อไป เซี่ยชิงหยวนจะระเบิดลงจริง ๆ

สีหน้าของเขากลับคืนสู่สภาพเย็นชาก่อนหน้านี้ และเอ่ยถามว่า “เรื่องของจางอวี้เอ๋อต้องการให้ผมแก้ปัญหานี้หรือเปล่า”

เดิมทีเขาอยากจะปล่อยผู้หญิงคนนั้นไว้แบบนั้น แต่หลังจากเจอเหตุการณ์ที่ประตูใหญ่ เขาก็พบว่าหญิงสาวคนนั้นสามารถสร้างปัญหาให้เขาได้จริง ๆ

เมื่อได้ยินคำถามนี้ ท่าทางของเซี่ยชิงหยวนก็รุนแรงขึ้น

เธอพึมพําว่า “ปล่อยไปก่อน ตอนนี้เพียงแค่ปฏิบัติต่อผู้หญิงคนนั้นเช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องไปดูแลเธอเป็นพิเศษ”

ตามที่เธอรู้จักจางอวี้เอ๋อมาตลอด อีกฝ่ายน่าจะมาที่นี่เพราะต้องการหาสามีรวยเสียมากกว่า

จางอวี้เอ๋อเป็นคนประเภทกลัวแดดและการทำงานหนัก ดังนั้นน่าจะไม่สามารถทํางานได้นาน

หากถูกขับไล่ออกไปตอนนี้ มันจะยิ่งทำให้ปัญหาบานปลาย

เพราะไม่อย่างนั้น เมื่อถึงเวลาหวังผิงคงจะต้องมาถึงที่นี่แน่ และสิ่งต่าง ๆ จะจบลงได้ยาก

แม้เธอในตอนนี้จะไม่กลัวการโต้เถียงกับหวังผิง แต่ไม่ว่าจะเป็นการเถียงกันรุนแรงแค่ไหนหรือต่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เธอต้องการ มันก็เท่ากับสูญเสียทั้งสองฝ่ายอยู่ดี

เพราะในการต่อสู้ระหว่างคนในครอบครัวไม่มีสิ่งที่เรียกว่าชนะหรือแพ้

เธอพูดด้วยความลังเล “ก็แค่ฉันกลัวว่าจะรบกวนเวลาทำงานของคุณ”

เสิ่นอี้โจวจับมือเธอและพูดว่า “ระหว่างสามีภรรยามันไม่มีคำว่ารบกวนกันหรอก”

เขายิ้มและพูดว่า “ตราบใดที่คุณไม่ได้รับผลกระทบจากการนินทาเหล่านั้นที่อาจมีอีก”

เซี่ยชิงหยวนรู้ทันทีว่าเขากําลังพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนบ่ายวันนี้

เธอผละมือกลับพลางพ่นลมหายใจเบา ๆ “ให้ฉันดูความประพฤติของคุณก่อน”

เธอหรี่ตาลง “เพราะถึงยังไง บางเรื่องมันก็ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรอกจริงไหมคะ”

ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์ในวันนี้ หากจางอวี้เอ๋อโผเข้าไปหาเสิ่นอี้โจวไม่สำเร็จ มันก็จะไม่มีข่าวลือว่าเธอกอดเสิ่นอี้โจวจริงไหม?

ทันใดนั้น เสิ่นอี้โจวก็ตระหนักได้

เขาไม่เพียงต้องดูแลตัวเองเท่านั้น แต่ยังต้องระวังกับเหล่าหญิงสาวน้อยใหญ่เข้ามาเกาะแกะตัวเองด้วย

ดังนั้นเขาจะต้องเป็นคนที่แบกรับทุกอย่างไว้

จากนั้นเขาจึงพยักหน้าด้วยความลำบากใจ “คุณพูดถูก”

เซี่ยชิงหยวนกลั้นยิ้มและพูดว่า “อืม เด็กดี”

สถานการณ์ภายในบ้านยังคงเหมือนเดิม หลังจากมื้อเย็นจบลง เสิ่นอี้โจวก็ล้างจาน ส่วนเซี่ยชิงหยวนดูแลบ้านและซักผ้า

ในห้อง เซี่ยชิงหยวนหยิบชุดนอนที่เธอซื้อมาวันนี้ออกมาทาบวัดกับร่างกายของตัวเอง และคิดว่าจะเอามันมาแก้ไขยังไงดี

เดิมที เธอต้องการแก้ชุดให้ดูเปิดไหล่มากกว่าเดิม

แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่นี้เธอก็เปลี่ยนใจ

เธอไม่ได้ต้องการเพียงเปลี่ยนมันเป็นสายเอี้ยมเท่านั้น แต่ยังต้องการผ่าด้านข้างของกระโปรงถึงสะโพก ไม่สิ ถึงเอวไปเลย

เสิ่นอี้โจวไม่ได้จงใจยั่วเธอ แล้วปฏิเสธหรอกเหรอ?

เธออยากจะให้เขาได้ลิ้มรสมันด้วย

แค่ทำมันขึ้นมาเท่านั้น

เธอวาดเส้นตามรูปร่างของเธอแล้วตัดมันออกมา

โชคดีที่มีจักรเย็บผ้าที่บ้าน และลิ้นชักเก็บด้ายหลากสีสัน

เธอนั่งลงที่หน้าจักรเย็บผ้าแล้วเหยียบมัน

เสิ่นอี้โจวเดินเข้ามาหลังจากที่เธอทำมันไปได้ครึ่งหนึ่ง เขาชำเลืองมอง แล้วถามว่า “นี่คุณกำลังทำเสื้อผ้าอยู่เหรอ”

เซี่ยชิงหยวนไม่เงยหน้าขึ้น “ใช่”

แต่ตอนนี้มีเศษผ้าหลายชิ้นอยู่บนโต๊ะและมันกำลังถูกแก้ไขอยู่ เขาจึงยังมองไม่ออก

เสิ่นอี้โจวมองไปที่แถบผ้าบาง ๆ ในมือของเซี่ยชิงหยวน และอดไม่ได้ที่จะพินิจมอง

เขาอยากถามเธอว่ามันคือแถบผ้าที่เอาไว้คาดเอวหรือเปล่า

เขาสงสัยเล็กน้อย เพราะว่าตอนนี้หลายคนไม่ใส่เสื้อผ้าสไตล์นี้แล้ว

แต่พอคิดไปคิดมา เขาก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะถามออกไป

เขาจึงฝากประโยคหนึ่งว่า “คุณทำต่อก็แล้วกัน แต่อย่าหักโหมจนนอนดึกล่ะ”

แล้วเขาก็เดินไปที่ห้องนั่งเล่น

เซี่ยชิงหยวนไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเขา และเหยียบจักรเย็บผ้าต่อไป

ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

เธอสะบัดชุดนอนที่แก้ไขเสร็จเรียบร้อยตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

หญิงสาวยังสงสัยว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นลูกไม้โปร่งแสงที่หน้าอกทั้งสองข้างหรือไม่

เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว แม้แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา

ลืมมันไปเถอะ มันจะดูรุกเร้าเกินไปเหมือนเธอไร้การควบคุม

การสวมกระโปรงแหวกข้างเป็นสิ่งที่เธอทนได้มากที่สุดแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวกลัวว่าถ้าเธอแต่งตัวแบบนั้นจริง ๆ เสิ่นอี้โจวอาจส่งเธอไปที่โรงพยาบาลบ้าแทน

เธอเอาชุดนอนที่แก้ไขเสร็จแล้วเข้าไปในห้องนอน และวางไว้ที่ชั้นล่างสุดของตู้เสื้อผ้า จากนั้นปิดตู้เสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องไป

ขณะที่หมุนคอไปมา เธอก็เดินไปนั่งที่โซฟา

เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำแบบนี้ เสิ่นอี้โจวก็นำแก้วน้ำมาให้เธอและพูดว่า “ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะ คุณดื่มน้ำสักหน่อยนะ”

เซี่ยชิงหยวนรับไว้ “ขอบคุณค่ะ”

หลังจากจิบไปสองอึก เธอก็เอนศีรษะลงบนโซฟาและไม่ต้องการขยับไปไหน

เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อยล้าของหญิงสาว เสิ่นอี้โจวก็นั่งข้าง ๆ เธอและพูดว่า “วันนี้คุณขายของเหนื่อยมากเลยใช่ไหม? คุณต้องการให้ผมนวดให้รึเปล่า?”

เซี่ยชิงหยวนตกตะลึงไปในทันที “คุณจะนวดให้ฉัน?”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท