กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 97 เธอต้องการอยู่ข้างบน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 97 เธอต้องการอยู่ข้างบน

บทที่ 97 เธอต้องการอยู่ข้างบน

ทุกครั้งที่เสิ่นอี้โจวมองเธอด้วยสายตาในตอนนี้ เซี่ยชิงหยวนจะรู้สึกตื่นกลัวเป็นพิเศษ

หรือพูดให้แม่นยําคือกลัวจนตัวสั่น

มันเหมือนกับการตกเป็นเป้าหมายของสัตว์ร้ายที่วนเวียนอยู่รอบ ๆ ตัว รอให้คุณลดความระวังลงแล้วค่อยกระโจนเข้ามาคร่อมร่างของคุณได้ตลอดเวลา

แต่คุณก็รู้ว่าสัตว์ร้ายตัวนี้จะไม่ทําร้ายตัวเอง

มันจะจับกุมคุณไว้อย่างแน่นหนาภายใต้กรงเล็บแหลมคม เลียและหยอกล้อเป็นระยะ ๆ

แต่ด้วยวิธีนี้ก็เพียงพอจะทําให้ผู้คนทนไม่ได้

เมื่อเผชิญกับสายตาอันร้อนแรงนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ตั้งสติ

หลังจากได้สติกลับมาแล้ว มันก็เหลือแค่การสะกดข่มอารมณ์ทางเพศของชายหญิงในเรื่องนี้เท่านั้น

เธอต้องการขอความเมตตาโดยไม่รู้ตัว

คนที่รู้เวลาและสถานการณ์คือคนที่ฉลาดใช่ไหม?

ยิ่งกว่านั้น ความตั้งใจแรกของเธอคือยั่วยวนเขา และสุดท้ายก็ทําให้เขาไม่สามารถกินเธอได้จริงไหม?

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเผอิญติดเบ็ด แต่เขาก็จะหยุดตามที่เธอต้องการใช่ไหม?

เมื่อคิดได้อย่างนั้น หญิงสาวจึงปล่อยมือที่คล้องรอบคออีกฝ่ายและส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ เพื่อดับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านในอกของอีกฝ่าย “การเล่นกับไฟไม่ใช่นิสัยที่ดี”

ขณะกล่าว ขาที่รัดเอวของเขาไว้ของเธอก็คลายเงียบ ๆ “ฉันแค่ล้อเล่น”

ทว่าในช่วงเวลาถัดมา เสิ่นอี้โจวพลันกดร่างกายช่วงล่างของเขาลงมาเพื่อล็อกขาของหญิงสาวไว้อย่างแน่นหนา

คิ้วหนาปรากฏรอยยิ้มแห่งชัยชนะ “ไม่เป็นไร ตัวคุณสามารถดับไฟได้”

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็โน้มตัวจูบเธอ

จูบของเขาปิดกั้นคําอุทานที่กําลังจะโพล่งออกมาทั้งหมดของเซี่ยชิงหยวน เขาฉวยโอกาสจากระหว่างที่เธอกำลังจะอ้าปากพูด ส่งลิ้นของตัวเองพุ่งตรงเข้าไป

เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเพียงว่าสมองของเธอกำลังขาดออกซิเจน และพร่าเลือนราวกับถูกกดลงไปในแอ่งน้ำ

ไม่! เธอไม่สามารถโบกธงขาวยอมแพ้แบบนี้ได้

แม้ว่าบรรยากาศจะเข้าที่เข้าทางแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่สามารถกลืนลมหายใจนี้ลงไปได้!

นี่ไม่ใช่ความอวดดีแต่เป็นความนับถือตนเองของเธอในฐานะผู้หญิง!

ทําไมเธอต้องเล่นตามจังหวะของเสิ่นอี้โจวด้วย?

ถ้ายอมเขาแบบนี้ เกรงว่าเธอจะไม่มีโอกาสพลิกกลับมาชนะอีกในอนาคต

เธอต้องขอเป็นคนอยู่ข้างบนให้ได้!

จากนั้นหญิงสาวพลันเกร็งขาเพื่อยกขึ้น และผลักเสิ่นอี้โจวออกไปเล็กน้อย “นี่ ฉันจะอยู่ข้างบน!”

เสิ่นอี้โจว “!?”

เธอเพิ่งพูดอะไรออกมาน่ะ?

เธอไม่ได้ตั้งใจจะให้เขาลุกขึ้นเหรอ?

เอาแล้วไง คราวนี้เธอคงรอดตัวไปไม่ได้ต่อให้กระโดดลงไปในแม่น้ำฮวงโหก็ตาม

ช่างเถอะ เธอไม่น่าจะยอมรับว่าประโยคนี้มาจากหัวใจของเธอจริง ๆ

เสิ่นอี้โจวยิ้ม

สายตาของเขาฉายแววความรักและเอ็นดู “คุณอยากอยู่ข้างบนเหรอ”

คำพูดก็ได้หลุดออกไปแล้วและความอับอายในตอนแรกก็จบลงไปแล้วเช่นกัน เซี่ยชิงหยวนจึงไม่รู้สึกอายอีกต่อไป

ตราบใดที่เขาเห็นด้วยกับคําขอของเธอ เธอก็จะก้มหน้ารับว่าเป็นความต้องการของตัวเอง

ดังนั้นเธอจึงเชิดหน้าเล็กน้อยเพื่อให้เหมือนดูเย็นชา “อืม”

รอยยิ้มในดวงตาของเสิ่นอี้โจวยิ่งลึกซึ้งขึ้น

เขาโน้มตัวเข้าใกล้เธออีกครั้ง น้ำเสียงของเขาดูเกียจคร้านแต่ก็มีเสน่ห์ “แต่…ผมคิดว่า คุณคงไม่มีแรงพอจะทำได้จนสุดทางหรอก”

เซี่ยชิงหยวน “!”

ชายสุนัขคนนี้พูดว่าอะไรนะ?

ลิ้นของเซี่ยชิงหยวนแทบพันกัน “คุณ…คุณยังไม่ได้ลอง คุณจะรู้ได้ยังไง!”

เธอจงใจมองเขาด้วยความดูถูก “บางที…อาจจะเป็นเพราะเอวที่ไม่ดีของใครบางคน จนพานตําหนิคนอื่นก็ได้”

เมื่อได้ยินคําพูดของเธอ ดวงตาของเสิ่นอี้โจวมืดมน “เอวของผมเนี่ยนะไม่ดี?”

เซี่ยชิงหยวนย่อมสนับสนุนสิ่งที่เธอพูด “ใช่”

“ได้!” เสิ่นอี้โจวนั่งมองเธอด้วยรอยยิ้ม

มือของเขาเลื่อนไปหากระดุมเม็ดแรกบนหน้าอกตนเอง เขาไม่พิรี้พิไรอีกต่อไป และปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็ว

เมื่อปลดกระดุมเม็ดที่สองเสร็จ เขาก็จับชายเสื้อของตัวเองด้วยมือทั้งสองข้างแล้วถอดเสื้อออก

การเคลื่อนไหวทั้งหมดนั้นราบรื่นและเต็มไปด้วยความงดงามที่ทรงพลัง

เส้นกล้ามเนื้อของร่างกายส่วนบนปรากฏสู่สายตาเธอโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าใด ๆ

เซี่ยชิงหยวนมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน

เธอคิดว่าเขาจะปลดกระดุมทีละเม็ดช้า ๆ เหมือนเมื่อก่อน

อย่างน้อยก็ยังมีเวลาให้เธอเตรียมใจ

แต่นี่มัน…มันน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว!

เธอได้ยินตัวเองกลืนน้ำลาย

จากนั้นในวินาทีถัดมา หญิงสาวก็พลิกตัวและพยายามหนี

ทว่าทันทีที่เธอพลิกตัว หญิงสาวก็ถูกเสิ่นอี้โจวจับตัวไว้และกดลงบนโซฟา

ลมหายใจที่ร้อนผ่าวรดรินบนผิวแผ่นหลังของร่างบาง แล้วไล้ขึ้นไปถึงใบหู

“คุณไม่อยากรู้เหรอว่ามันจะรู้สึกยังไง เมื่อคุณถูกผมกัดหูตอนนี้”

ลมหายใจอันร้อนชื้นรดรินอยู่แถวกกหูของเธอจนทำให้ร่างบางสั่นสะท้าน

การถูกกดจากด้านหลังเช่นนี้ หญิงสาวไม่มีทางต้านทานได้เลย

เธอบิดเร่าหมายจะหลบหนีจากสถานการณ์อันน่าระทึกนี้

ทว่าชายหนุ่มกลับกล่าวเตือนว่า “อย่าขยับไปทั่วสิ”

เมื่อคําพูดของเขาเบาลง เซี่ยชิงหยวนก็รู้สึกถึงบางอย่างในตัวเขาที่มันเปลี่ยนไป

เธอตัวแข็งอยู่กับที่ไม่กล้าขยับ

แต่ก่อนเธอจะได้ผ่อนคลายเต็มที่ สัมผัสร้อนชื้นก็ผุดขึ้นที่บริเวณติ่งหูของเธออีกครั้ง

เสิ่นอี้โจวกัดมัน!

เซี่ยชิงหยวนจิกนิ้วเท้าทันที

เธอรู้สึกราง ๆ ว่าคืนนี้เธอหนีไม่พ้นแน่

และเนื่องจากเธอไม่สามารถหลบหนีได้ ก็ให้สนุกไปกับมัน

แม้ว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะบอกเธอว่าเทคนิคของเสิ่นอี้โจวไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อมองดูใบหน้าและรูปร่างของเขาแล้ว เธอจะยินดียอมรับข้อเสียนั้น

เธอจึงหลับตาและรอขั้นตอนต่อไป

โดยไม่คาดคิด ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูอย่างเร่งร้อน

เซี่ยชิงหยวน “?”

เสิ่นอี้โจว “!”

เสียงของเสิ่นอี้โจวตะโกนถามกลับไปอย่างไม่พอใจ “ใคร!”

ทันทีที่เสี่ยวหลิวได้ยินเสียงข้างนอกประตู เขาก็รู้ตัวว่าตัวเองได้ไปขัดจังหวะความสุขของเจ้านายซะแล้ว

แต่เขาทำได้เพียงกัดฟันและพูดว่า “เลขาธิการเสิ่นครับ มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจางอวี้เอ๋อครับ!”

เซี่ยชิงหยวนเมื่อได้ยินประโยคนี้ก็ขมวดคิ้ว และตบหลังเสิ่นอี้โจวให้ลุกออกไป

เสิ่นอี้โจวลุกนั่ง หยิบเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้งไว้และสวมมันลวก ๆ

จากนั้นเขาก็มองไปยังเซี่ยชิงหยวนที่กำลังนอนอยู่บนโซฟา เขาหยิบผ้าขนหนูผืนบางข้างตัวคลุมร่างกายของเธอแล้วออกไปที่ประตู

เสิ่นอี้โจวเปิดประตูเพียงเล็กน้อยไม่ให้คนด้านนอกเห็นภายในบ้าน

เขาแทรกตัวออกไปและปิดประตูอีกครั้ง

เขาขมวดคิ้วพลางติดกระดุมสองเม็ดสุดท้ายและถามว่า “บอกรายละเอียดมา”

เสี่ยวหลิวเห็นท่าทางของเสิ่นอี้โจวเป็นแบบนี้ เขาก็คิดในใจว่าเขาทำให้เจ้านายตัวเองขุ่นเคืองในเวลาเพียงไม่กี่วันที่เจอกัน

เขาสาปแช่งจางอวี้เอ๋อในใจและพูดว่า “ตอนนี้ฝ่ายกิจการภายในโทรมาบอกว่า จางอวี้เอ๋อทะเลาะกับใครบางคนในหอพักและมีเลือดไหลครับ!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของเสิ่นอี้โจวก็ประหลาดใจไปครู่หนึ่ง “แล้วส่งคนไปโรงพยาบาลหรือยัง”

เสียงของเสี่ยวหลิวเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วน “ทีมขนส่งต้องการส่งเธอไปโรงพยาบาล แต่เธอกลับปฏิเสธและบอกว่าถ้าไม่เห็นคุณ เธอจะไม่ยอมไปครับ”

เซี่ยชิงหยวนที่อยู่ในห้องได้ยินอย่างชัดเจน โดยคิดว่าจางอวี้เอ๋อคนนี้สามารถสร้างปัญหาได้จริง ๆ

นอกจากนี้ อีกฝ่ายยังพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าต้องการเห็นเสิ่นอี้โจว

ถ้าไม่ใช่เพราะการงานของชายหนุ่มและไม่อยากจะมีปัญหากับหวังผิง เธอคิดจะไปตบสั่งสอนอีกฝ่ายซะเดี๋ยวนี้เลย

เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “แล้วยังไง ถ้าเธอไม่ต้องการไปโรงพยาบาลก็ไม่ต้องพาไป”

เสี่ยวหลิวไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ไปหาจางอวี้เอ๋อแบบนี้

เซี่ยชิงหยวนเปิดประตูจากทางด้านหลังและพูดกับเสิ่นอี้โจวว่า “ฉันจะไปกับคุณเอง”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท