บทที่ 166 คืนนี้เธอหนีไม่พ้นแน่
บทที่ 166 คืนนี้เธอหนีไม่พ้นแน่
ฉู่ซิงอวี้ยิ้มอย่างเช่นที่เคยทำเสมอมา จากนั้นก็ถามว่า “ร้านของคุณใกล้จะได้เวลาปิดแล้วใช่ไหม”
เซี่ยชิงหยวนมองไปที่ฉู่ซิงอวี้ด้วยอารมณ์ที่สงสัย เพราะคำพูดของเจียงเพ่ยหลานเมื่อวานนี้ แต่การแสดงออกบนใบหน้าของเธอนั้นแทบไม่มีพิรุธและรอยยิ้มของเธอก็ยังดูเป็นมิตรมาก
เธอไม่สามารถเชื่อมโยงได้เลยว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นเหมือนพวกพระรองในหนังรักที่สามารถแอบรักนางเอกจนตายได้จริง ๆ เขาช่างไม่เหมือนเลย
เซี่ยชิงหยวนตอบว่า “ใช่ ตอนนี้ใกล้จะปิดแล้ว” ฉู่ซิงอวี้ รู้ว่าธุรกิจของเซี่ยชิงหยวนดีมาก ช่วงแรก ๆ เขาจะรีบมาหลังเลิกงานแต่ก็พบว่าหลายครั้งประตูร้านปิดไปแล้ว
หลังจากที่เขาถามคนละแวกใกล้ ๆ ภายหลังเขาก็ได้รู้ว่าโดยทั่วไปแล้วเซี่ยชิงหยวนจะปิดประตูร้านตอนห้าโมงครึ่งในทุกวัน ดังนั้นเพื่อให้มาทันเวลาทุกวัน เขาจึงจำต้องสละเวลาพักเที่ยงเพื่อทำงานให้เสร็จ แล้วตอนเย็นจะได้มาที่นี่ทันทีที่เลิกงาน กลัวว่าถ้าเขาไปช้าหน่อยก็อาจจะไม่ทัน
โดยปกติแล้วเขาเป็นคนที่สามารถคงความสงบได้แทบในทุกสถานการณ์ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้ เซี่ยชิงหยวนทีไร เขาจะต้องเสียอาการไม่มากก็น้อยทุกที เขามักทำอะไรเงอะงะไปหมด แถมยังไม่กล้าแม้แต่จะถามชื่อเธอ
เซี่ยชิงหยวนถาม “วันนี้เราทำอาหารเย็นใหม่ ยำหนังหมู คุณอยากลองไหม” เนื้อวัวถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีราคาแพงมากในเวลานี้ และเธอลองทำยำหนังหมูเพียงสิบจินเท่านั้น เพื่อทดสอบตลาด เธอไม่ได้คาดหวังว่ามันจะขายได้มากอะไรนัก
ขายไม่หมดก็เอากลับไปกินที่บ้านได้ เธอได้ยินผู้คนพูดว่า เนื้อวัวเป็นโปรตีนที่ดี ขณะที่เซี่ยชิงหยวนเปิดฝาครอบหม้อ ฉู่ซิงอวี้ก็เห็นยำหนังหมูในหม้ออย่างรวดเร็ว ในนั้นมีเนื้อเหลือไม่เยอะแล้ว มันเหลืออีกแค่ประมาณสองสามจินเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเอ่ยว่า “ขอให้ผมสองจิน” เขาคิดจะเอาไปแบ่งกับหลิงเยี่ยเพื่อเป็นกับแกล้มเหล้าวันนี้
เซี่ยชิงหยวนไม่คาดคิดว่าคน ๆ นี้จะซื้อเยอะในคราวเดียว เธอขายยำหนังหมูสองจินและคิดจะเอาส่วนที่เหลือกลับบ้าน เธอได้ชั่งน้ำหนักอาหารเรียบร้อยและจึงยื่นให้เขา “ของคุณ โปรดรับไปด้วย” ฉู่ซิงอวี้รับมันด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณ”
ทั้งสองคนสื่อสารกันตามปกติ เซี่ยชิงหยวนเฝ้าดูฉู่ซิงอวี้จากไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นยักไหล่ให้เจียงเพ่ยหลาน
“ดูสิ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เจียงเพ่ยหลานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง ฉู่ซิงอวี้ทำตัวไม่มีพิรุธอะไรเลยจริง ๆ คราวนี้ ดังนั้นเธอจึงได้แต่พูดออกไปว่า “บางที ฉันอาจจะอ่อนไหวมากไปเอง”
เซี่ยชิงหยวนตบไหล่อีกฝ่าย “ไม่เป็นไร เขาแค่เป็นคนสุภาพมากจนเธอเข้าใจผิด” จากนั้นหัวข้อของฉู่ซิงอวี้ก็ไม่ถูกพูดอีก เพราะเซี่ยชิงหยวนต้องเตรียมตัวไปมณฑลทางตอนใต้แล้ว
ในตอนเย็นเซี่ยชิงหยวนและเสิ่นอี้โจวนั่งที่โต๊ะตามลำพังเสิ่นอี้โจวกำลังดูเอกสารงานของเขาเอง ในขณะที่ เซี่ยชิงหยวนกำลังทำบัญชี เธอเงยหน้าขึ้นจากสมุดบัญชีแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “อี้โจว หลังจากเปิดร้านจนถึงวันนี้ฉันได้เงินมากกว่า 1,700 หยวนแล้ว !”
เสิ่นอี้โจวเงยหน้าขึ้นจากเอกสารและพูดด้วยรอยยิ้ม “ภรรยาของผมยอดเยี่ยมจริง ๆ”
หลังจากที่ทั้งสองคนเปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยมากขึ้น เรื่อย ๆ เสิ่นอี้โจวก็ค่อย ๆ เอ่ยเรียกเซี่ยชิงหยวนว่า ‘ภรรยาของผม’ บ่อยมากขึ้น
เซี่ยชิงหยวนโน้มตัว “ไม่ใช่ว่าเรามีเงินเก็บก่อนหน้านี้อีก 800 หยวนเหรอ ?”
เธอต้องการที่จะไปมณฑลทางใต้ในอีกสองวันข้างหน้า
เงิน 2,500 หยวนเพียงพอสำหรับเธอในการซื้อสินค้าชุดหนึ่งมาขาย
เสิ่นอี้โจวรู้เรื่องที่เซี่ยชิงหยวนกำลังจะไปมณฑลทาง ตอนใต้ เขานึกครุ่นคิด “ผมยังมีเงินอยู่อีก 200 หยวน คุณสามารถเอาไปรวมกันได้นะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้เซี่ยชิงหยวนก็ยิ้มออกมา “เงินเดือนของคุณหรอ ?”
ตอนนี้เสิ่นอี้โจวเป็นเลขาธิการทั่วไปของศาลากลาง และเงินเดือนของเขาอยู่ที่ประมาณ 100 หยวน โดยปกติแล้วผู้ชายจะต้องแบ่งเงินให้ภรรยาเพื่อเป็นค่ากินอยู่ ทว่าตอนนี้เซี่ยชิงหยวนมีเงินรายรับเป็นของตัวเองแล้ว เธอจึงไม่ได้ขอให้ เสิ่นอี้โจวส่งมอบเงินเดือนของเขาให้เธอ อย่างไรก็ตาเขายังคงยืนยันที่จะให้เงินเธอเป็นจำนวน 60 หยวนต่อเดือนสำหรับค่าอาหารและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่บ้าน
เสิ่นอี้โจวพูดเอาไว้ว่า “เงินที่คุณหามาได้ คุณก็เก็บไว้ใช้กับตัวคุณเอง ส่วนเงินของผม ผมจะใช้มันเพื่อสนับสนุนครอบครัวและคุณเสริมเข้าไปอีก”
เสิ่นอี้โจวพยักหน้า “ใช่ ผมถือไว้ก็ไม่มีประโยชน์ เอาไปรวมที่คุณดีกว่า” เซี่ยชิงหยวนเอนหัวของเธอไปที่หน้าอกของเขาและพูดว่า “ขอบคุณนะ คุณใจดีกับฉันมากจริง ๆ”
เสิ่นอี้โจวสวมกอดเธอ “ขอบคุณผมทำไมกัน คุณทำงานหนักมากแต่ผมกลับแทบไม่ได้ช่วยงานอะไรของคุณเลย ต้องเป็นผมสิที่ต้องขอโทษคุณ”
“คุณไม่ได้ช่วยฉันที่ไหน” เซี่ยชิงหยวนเอนตัวในอ้อมแขนของเขาและถูกับเขา
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอไงว่ามีพวกคนคอยเก็บค่าคุ้มครองในบริเวณตลาด ถ้าไม่ใช่เพราะความคุ้มครองของคุณ ฉันคงถูกรีดไถเงินไปเป็นจำนวนมากแล้ว”
เรื่องนี้เซี่ยชิงหยวนได้ยินจากเจียงเพ่ยหลานในภายหลัง
เมืองเตียนเฉิงมีกลุ่มอิทธิพลหลายกลุ่มดูแลอยู่ และตลาดก็ได้รับการจัดการโดยบุคคลที่ชื่อลูกพี่ฮุย
อย่างไรก็ตาม เซี่ยชิงหยวนขายของมาสองหรือสามเดือนแล้ว แต่เธอกลับไม่ถูกใครมาวุ่นวายคอยเรียกเก็บ ค่าคุ้มครองเลย เธอมารู้ในภายหลังว่าเสิ่นอี้โจวได้ดูแลเรื่องนี้แล้ว
เมื่อได้ยินเช่นนี้มุมปากของเสิ่นอี้โจวก็โค้งขึ้น “ในฐานะที่เป็นผู้ชาย ผมต้องปกป้องภรรยาของตัวเองเป็นธรรมดา”
เซี่ยชิงหยวนกล่าวต่อ “เห็นไหม คุณก็ปกป้องฉันในแบบของคุณเช่นกัน ฉันมีหน้าที่หาเงิน คุณแค่ต้องทำตัวให้ดูดีเข้าไว้ก็พอ”
เสิ่นอี้โจวก้มศีรษะของเขาและดุนปลายจมูกของเขากับเธอ “ดูเหมือนว่าคุณยังจำความหล่อของผมได้” ดูเหมือนว่าผู้ชายก็รู้สึกดีเช่นกันที่ถูกชมว่าหน้าตาดี
เซี่ยชิงหยวนกลั้นยิ้ม “แน่นอนผู้ชายของฉันคือใคร ใช่หญ้าข้างถนนเสียเมื่อไหร่ งามอย่างกับดอกไม้ของราชวง์ชิง”
เมื่อได้ยินเซี่ยชิงหยวนเรียกเขาว่าผู้ชายของเธอ เสิ่นอี้โจวยิ่งรู้สึกมีความสุขมากกว่าเดิม เขาวางเอกสารในมือลงจากนั้นอุ้มเซี่ยชิงหยวนขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ เซี่ยชิงหยวนแทบระงับเสียงอุทานในปากของเธอไม่ทัน พลางมองเขาด้วยความตื่นตระหนก “คุณกำลังจะทำอะไรน่ะ ?”
เสิ่นอี้โจวยืนขึ้นและโน้มตัวไปข้างหน้าหาเธอ “ลองทายดูสิว่าผมจะทำอะไร” ท้ายประโยคเขาพูดด้วยน้ำเสียง “แหบแห้ง” มาก ซึ่งทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะเพ้อฝันถึงมันไม่ได้ มือของเขาเอื้อมไปข้างหลังและโอบเอวของเธอ จากนั้นเริ่มถูไถเบา ๆ เซี่ยชิงหยวนกลั้นความจั๊กจี้และอดไม่ได้ที่จะหดตัวลง “แม่กับอี้หลินอยู่ห้องข้าง ๆ นะ”
เสิ่นอี้โจวยิ้ม “ผมรู้”
ขณะที่เขาพูด ฝ่ามือใหญ่ของเขาก็เลื่อนขึ้นมาจับแก้มที่เนียนนุ่มและงดงามของเธอ ส่วนมืออีกข้างก็เลื่อนมาลูบไล้บริเวณต้นขาอีกข้างหนึ่งด้วย จากนั้นมือที่เคยจับแก้มเธอก็เลื่อนลงไปที่ขาอีกข้าง คอยลูบไปตามต้นขาจนเกือบถึงเข่า ด้วยมือทั้งสองข้างนั้น ขาทั้งสองข้างของเธอก็ถูกแยกกางออกจากกัน
เธอรีบยื่นมือไปแตะหน้าอกของเขา “นี่คือห้องหนังสือนะ เราทำกันที่นี่ไม่ได้ !” วันนี้เธอสวมชุดนอนยาวแค่ถึงเข่า และการรุกของเสิ่นอี้โจวทำให้ชุดนอนไร้ประโยชน์ทันที รอยยิ้มของเสิ่นอี้โจวลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับกาแล็กซีที่เชื่อมต่อกัน เขาพลางเปิดริมฝีปากบาง ๆ ของเขา “ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะทำอะไร”
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของมือกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูด ฝ่ามือใหญ่ของเขากลับไปลูบไล้ผมยาวสลวยของเธอและรวบไว้ด้านหลังศีรษะของเธอ จากนั้นเขาก้มศีรษะลงและมอบจุมพิตแก่เธอ ประตูที่เปิดแง้มอยู่ของห้องหนังสือถูกปิดด้วยขาที่ยืดยาวของเสิ่นอี้โจว
เมื่อเซี่ยชิงหยวนได้ยินเสียงปิดประตู เธอก็คิดเกี่ยวกับเรื่องหนึ่งได้ เธอคิดว่าคืนนี้เธอหนีไม่พ้นแน่!