กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 169 คนสวย รอฉันก่อน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 169 คนสวย รอฉันก่อน

บทที่ 169 คนสวย รอฉันก่อน

เมื่อชาติที่แล้ว หลังจากเซี่ยชิงหยวนเดินทางออกจากหมู่บ้านซีสุ่ย ในตอนนั้นเธอได้ย้อนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดเพียงสองครั้งเท่านั้น เพราะหญิงสาวทนไม่ได้กับการจู้จี้และดุด่าของหวังผิงตลอดทั้งวัน เธอจึงหนีออกมาทำงานด้วยความโกรธ

เมื่อตอนนั้น เธอเดินทางไปที่เมืองหลวงของมณฑลและไปยังเมืองชายฝั่งบางแห่ง รวมถึงเมืองเซินเจิ้นที่เธอไปเยือนด้วย

เธอทำงานได้เป็นพนักงานในร้านอาหาร และเป็นเด็กฝึกงานในร้านตัดผม

นับว่าเป็นเรื่องปกติมากที่จะตื่นแต่เช้าและนอนดึก นอกจากนี้เธอยังเคยพบเจอกับความอยุติธรรมและเคยถูกกลั่นแกล้งมาก่อน

เธอกัดฟันและอดทนต่อสิ่งเหล่านั้น

ต่อมา เธอไปยังเมืองกว่างโจวกับหญิงสาวจากร้านตัดผม และเธอบังเอิญเข้าไปทำงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้

เธอทำงานที่โรงงานแห่งนั้นถึงสี่ปี

ในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า จากคนงานหญิงธรรมดา ๆ เธอกลายเป็นหัวหน้างานด้วยความพยายามและความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับเสื้อผ้าของเธอเอง

โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าขนาดเล็กก็เติบโตและกลายเป็นผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าในเมืองกว่างโจว

ทว่าเมื่อเธอลงสมัครตำแหน่งผู้จัดการ กลับถูกฝ่ายตรงข้ามว่าร้ายและพ่ายแพ้ไปในที่สุด

ต่อมา เธอได้เดินทางไปหลายแห่งและระหว่างการเดินทาง เธอได้พบกับอาจารย์ของเธอ ซึ่งเป็นชายชรานักทำหยก

กำไลข้อมือหยกของเธอที่ใส่ติดตัวตลอดเมื่อชาติที่แล้วก็เป็นของขวัญรับขวัญศิษย์จากอาจารย์

เธอสวมกำไลหยกเดินทางไปทั่วประเทศกับอาจารย์ของเธอ และหยุดที่ทิเบตในที่สุด

จุดจบของชีวิตเธอก็จบลงที่นั่นเช่นกัน

เธอไม่รู้ว่าอาจารย์ชราของเธอสบายดีไหมหลังจากที่เธอตายไป

เซี่ยชิงหยวนถอนความคิดของเธอและตบหลังมือของอาเซียง “เชื่อพี่เถอะ การเดินทางนี้จะทำให้เธอจดจำได้อย่างลึกซึ้งและจะได้รู้สึกว่าการเดินทางครั้งนี้คุ้มค่า”

อาเซียงหยุดความปรารถนาในดวงตาของเธอและพยักหน้า “อื้ม”

ภายในห้องโดยสารค่อนข้างอับ

โชคดีที่พวกเธอได้ตู้นอนซึ่งมีคนไม่มาก ดังนั้นพวกเธอจึงรู้สึกดีขึ้น

เมื่อรถไฟเพิ่งเริ่มวิ่ง เซี่ยชิงหยวนไปเข้าห้องน้ำครั้งหนึ่ง จากนั้นก็กลับมานั่งบนที่นั่งและพิงมันอย่างนุ่มนวล

สองวันที่ผ่านมาเมื่อการเดินทางใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เสิ่นอี้โจวก็แสดงความรักกับเธอมากกว่าปกติ

ทั้งสองวันเขาไม่ปล่อยเธอไปจนกระทั่งเกือบรุ่งสาง

ทุกครั้งที่เซี่ยชิงหยวนอยากจะโกรธ เขาจะมองเธอด้วยท่าทางที่น่าสงสาร

ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าเซี่ยชิงหยวนจะโกรธแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถโกรธได้อีกต่อไป

ทว่าทุกครั้งที่ใจอ่อน คนที่เจ็บคือเธอเอง

ชายสุนัขคนนั้นชอบพูดว่า ‘ภรรยาจ๋าอย่าโกรธผมเลย ผมทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของคุณเองด้วย ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายของคุณก็จะยิ่งดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ’

เมื่อได้ยินแบบนั้น เซี่ยชิงหยวนแทบพูดไม่เป็นภาษาทันที “#%& *@…”

พวกเธอเปิดหน้าต่าง ฟังเสียงรถไฟดังกึกก้องไปตามราง และสักพักก็ค่อย ๆ หลับไป

ในตอนบ่ายของวันที่สอง ในที่สุดเซี่ยชิงหยวนและอาเซียงก็ไปถึงเมือกว่างโจว

เมื่อลงจากรถไฟ เซี่ยชิงหยวนกำชับกับอาเซียงอย่างรวดเร็ว “ตามพี่มาอย่าให้ห่างนะ และดูกระเป๋าของตัวเองให้ดีด้วย”

อาเซียงมองไปรอบ ๆ ด้วยดวงตากลมโตและพยักหน้า “พี่สาวเซี่ย ไม่ต้องกังวลค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว”

เธอไม่เพียงต้องปกป้องตัวเอง แต่ต้องปกป้องเซี่ยชิงหยวนด้วย

หลังจากพูดจบ เซี่ยชิงหยวนก็ถือกระเป๋าสัมภาระในมือข้างหนึ่งและจับมืออาเซียงอีกมือหนึ่ง และพุ่งผ่านฝูงชนอย่างชำนาญ

ไม่ใช่ว่าเธอระแวงเกินไป แต่สถานีรถไฟเต็มไปด้วยผู้คนมากมายทุกเพศทุกวัยร้อยพ่อพันแม่ มันเป็นสถานที่ที่วุ่นวายมาก

มันไม่เพียงมีนักล้วงกระเป๋ามากมายเท่านั้น แต่ยังมีพวกค้ามนุษย์อีกด้วย

เพราะเธอกับอาเซียงเป็นผู้หญิงสองคน ดังนั้นจึงดึงดูดความสนใจได้ง่าย

ก่อนที่ทั้งสองคนจะออกจากสถานีรถไฟ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาเดินขวางพวกเธอไว้

ผู้หญิงคนนี้มีรูปร่างปานกลาง ผิวสีแทน และดวงตาของหล่อนจะหรี่ลงเมื่อยิ้ม

ผู้หญิงตรงหน้าถือป้ายโฆษณาโรงแรมขนาดเล็กไว้ในมือพลางพูดว่า “สาวงามสองคน พวกเธอมีที่พักหรือยัง? โรงแรมของฉันค่อนข้างดีและมีระเบียงด้วยนะ”

ภาษาจีนกลางสไตล์กวางตุ้งของผู้หญิงคนนี้พูดได้อย่างตะกุกตะกักจริงๆ

เซี่ยชิงหยวนไม่แม้แต่จะมองกระดาษในมือของอีกฝ่าย เธอดึงอาเซียงเดินอ้อมแล้วจากไป “ไม่จำเป็น”

เซี่ยชิงหยวนตอบอีกฝ่ายเป็นภาษากวางตุ้งอย่างคล่องแคล่ว

เธออยู่ที่เมืองกวางโจวมาหลายปีในชาติที่แล้ว ดังนั้นเธอจึงสามารถสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว

ยิ่งไปกว่านั้น เธอมีพรสวรรค์ด้านภาษาและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

ฉากนี้ทำให้ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึง

จนกระทั่งเซี่ยชิงหยวนพาอาเซียงจากไป ผู้หญิงคนนั้นจึงรู้ตัว

นี่ไม่ใช่ว่าดูเหมือนคนท้องถิ่นเลยหรอกหรือไง?

ทำไมถึงพูดภาษากวางตุ้งได้โดยที่สำเนียงดีกว่าตัวเธอเองอีก?

ในขณะที่เธอยังคงงุนงง ชายร่างผอมแสร้งทำเป็นเดินผ่านก็ขยิบตาให้เธออย่ากังวล พลางส่งสัญญาณให้เธอตามไปโดยเร็ว

ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นกระทืบเท้า เธอก็วิ่งตามเซี่ยชิงหยวนไปทันที

ขณะที่วิ่ง เธอตะโกนออกมา “คนสวย! คนสวย! รอฉันด้วย!”

เซี่ยชิงหยวนยิ่งเดินเร็วขึ้นหลังจากได้ยินสิ่งนี้

อาเซียงติดตามเซี่ยชิงหยวนด้วยความรู้สึกกลัวในใจของเธอ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอสถานการณ์เช่นนี้

แต่ถึงอย่างนั้น เธอรู้สึกเช่นกันว่าแม้ผู้หญิงคนนั้นจะยิ้ม แต่ดวงตาของอีกฝ่ายมันกลอกไปมาอย่างเงียบ ๆ ที่ทั้งตัวเธอและเซี่ยชิงหยวน

มันเหมือนกับการชั่งน้ำหนักว่าพวกเธอมีค่าแค่ไหน

อาเซียงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับความคิดของตัวเอง

นี่พวกเธอได้พบกับพวกค้ามนุษย์ทันทีที่ลงจากรถไฟเลยเหรอ?

เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินเร็วขึ้น

เนื่องจากมีคนจำนวนมากจึงเดินไม่สะดวกและผู้หญิงคนนั้นก็ตามทันพวกเธออย่างรวดเร็ว

อีกฝ่ายหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอ เช็ดเหงื่อจากหน้าผาก แล้วพูดว่า “นี่ สาวงามสองคน พวกเธอเดินเร็วมากจริง ๆ” เธอชูกระดาษในมืออีกรอบ “ลองพิจารณาดูก่อนไหม มันสะดวกจริง ๆ นะ แถมมีน้ำร้อนให้อาบด้วย!”

เซี่ยชิงหยวนเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ดื้อดึงมาก เธอจึงหยุดเดิน

ถ้าไม่ใช่ว่าเธอคุ้นเคยกับกว่างโจวมาก ตอนนี้เธอคงตามอีกฝ่ายไปและซวยแน่ ๆ

เซี่ยชิงหยวนแสดงสีหน้าเย็นชาและมองที่อีกฝ่าย “ฉันได้อธิบายอย่างชัดเจนแล้ว ฉันไม่ต้องการ ฉันมีที่อยู่อาศัยและพี่ชายของฉันก็มารอรับฉันแล้ว ดังนั้นคุณไม่ควรตามตื๊อฉันอีก”

เซี่ยชิงหยวนพูดเป็นภาษากวางตุ้ง คราวนี้ผู้หญิงอีกฝ่ายสับสนอย่างสิ้นเชิง

แย่จัง เกรงว่าจะเจอคนท้องถิ่นจริง ๆ เข้าแล้ว

อาเซียงยืนอยู่ข้างเซี่ยชิงหยวน ไม่รู้ว่าพี่สาวเซี่ยของเธอกำลังพูดอะไร

แต่อาเซียงคิดว่าเซี่ยชิงหยวนเก่งจริง ๆ ที่สามารถพูดภาษาถิ่นของที่อื่นได้ด้วย

ใช่ มันทำให้คนหวาดกลัวอยู่พักหนึ่ง

เมื่อชายร่างผอมตัวเล็กข้าง ๆ เห็นว่าเซี่ยชิงหยวนกำลังจะรอดจากเงื้อมมือไป เขาก็รีบเดินเข้ามาจัดการแทน

เขาถือป้ายกระดาษโฆษณาที่คล้ายกันมาด้วยและเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้ เขาก็จ้องที่ผู้หญิงคนนั้นและสาปแช่งเป็นภาษากวางตุ้ง “เฮ้ นี่เธอเป็นมิจฉาชีพหรือไงฮะ? คนเขาบอกไม่ต้องการก็ยังตื๊อ ระวังฉันจะเรียกตำรวจมาจับเธอ!”

จากนั้นเขาก็ยิ้มให้เซี่ยชิงหยวน “สาวน้อย ฉันเป็นคนดีแน่นอน เธอเชื่อฉันได้”

เซี่ยชิงหยวนไม่ตอบอะไร “…”

นี่คนพวกนี้มองว่าเธอเป็นคนโง่มากเลยเหรอ?

จากนั้นเซี่ยชิงหยวนก้มหัวลงและมองดูว่าเธอกับอาเซียงสวมเสื้อผ้าอะไรอยู่ ซึ่งพวกเธอเลือกเสื้อผ้าที่สบายที่สุดและเก่าที่สุด

เข้าใจแล้ว

อันที่จริง พวกเธอก็เหมือนคนบ้านนอกที่ไม่เคยเห็นโลกและหลอกง่ายจริง ๆ นั่นแหละ

เธอถอนหายใจและหางตาของเธอเหลือบไปเห็นป้อมรักษาความปลอดภัยซึ่งอยู่ไม่ไกล เซี่ยชิงหยวนกำลังจะตะโกนหาใครสักคน แต่ในขณะเดียวกันก็มีชายคนหนึ่งตะโกนเสียงดังขึ้นมา “เฮ้ คุณกำลังทำอะไรน่ะ!”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท