บทที่ 193 ฟันหลุด
บทที่ 193 ฟันหลุด
เมื่อเสิ่นอี้หลินได้ยินประโยคนี้ เขาชาวาบไปทั้งร่างและรีบยื่นมือไปจับเธอไว้ “พี่สะใภ้ ผมไม่เป็นไร”
เขาดึงเธอไปยังทางกลับบ้าน “ผมหิวมากแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”
เมื่อเห็นเขาเป็นแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็ยิ่งมั่นใจว่าเขามีอะไรปิดบังอยู่
เสิ่นอี้หลินแตกต่างจากเด็กคนอื่น ๆ ในวัยเดียวกัน เขาเป็นเด็กที่มีเหตุผลมากกว่า
เซี่ยชิงหยวนรู้ว่าเธอไม่สามารถถามคำถามอะไรได้ในตอนนี้
เธอสูดหายใจเข้า กลืนความเจ็บปวดกลับเข้าไปในท้อง จับมือเล็ก ๆ ของเขาแล้วพูดว่า “เอาล่ะ กลับบ้านกันเถอะ”
หลังจากนั้นเธอก็พาเสิ่นอี้หลินเดินกลับบ้านด้วยกัน
ดวงอาทิตย์ตกทอดเงาของพวกเขา เสิ่นอี้หลินมองไปที่เงาขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กันบนพื้น เด็กชายเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เซี่ยชิงหยวน
จากสายตาของเขา เห็นเพียงสันกรามที่สมบูรณ์แบบของเซี่ยชิงหยวนเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้
แม้ว่าริมฝีปากของเธอจะโค้งขึ้น แล้วเม้มเข้าหากันแน่น ดูเหมือนจะพยายามระงับบางสิ่งอยู่
เด็กน้อยก้มหัวลง และรู้สึกเศร้า
เขารู้ การที่เขาไม่บอกเซี่ยชิงหยวนว่าทำไมเขาถึงต่อสู้มันทำให้เธออารมณ์เสีย
เพียงแต่เขาไม่สามารถบอกเธอได้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้
เขาไม่ต้องการให้เธอเสียใจ
บางทีอาจเพราะสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่แปรปรวนของเสิ่นอี้หลิน เซี่ยชิงหยวนจึงยิ้งจับมือเขาไว้แน่นกว่าเดิม
จากนั้นเธอก็ก้มหัวลงและถามเขาว่า “คืนนี้นายอยากกินอะไรล่ะ?”
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นอี้หลินไม่อยู่ในอารมณ์อยากอาหาร “เอ่อ…อะไรก็ได้ ตราบใดที่พี่สะใภ้ของผมทำ”
แม้ว่าตอนนี้ฐานะจะดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ทุกครั้งที่หลินตงซิ่วทำอาหาร เธอก็ยังพยายามประหยัดวัตถุดิบทุกอย่างจนทำให้อาหารจืดชืดทุกที
เสิ่นอี้หลินคุ้นเคยกับการทำอาหารของเซี่ยชิงหยวนแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ชอบฝีมือการทำอาหารของแม่ตัวเองอีกต่อไป
แต่บางครั้งที่หลินตงซิ่วทำอาหารและเห็นว่าเสิ่นอี้โจวกับเซี่ยชิงหยวนตักใส่ปากโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงความไม่ชอบออกมา
เซี่ยชิงหยวนนึกถึงผักที่เธอซื้อที่ตลาดวันนี้ และพยายามทำให้เสียงของเธอฟังดูผ่อนคลายมากที่สุด “งั้นเรามากินซุปปลาเปรี้ยว ซี่โครงหมูนึ่งกับเส้นหมี่ และสลัดเย็น สามอย่างดีไหม?”
ปลาที่วันนี้จะเอามาทำอาหารคือปลาที่อาเซียงและอาจ้วงเอามาส่งที่ร้านตรอกเก่า เธอเลยเลือกปลาที่อ้วนที่สุดสองตัวมาเก็บไว้กินเอง
เดิมทีเธอวางแผนที่จะเลี้ยงมันจนถึงวันพรุ่งนี้เพื่อเอามาทำอาหาร แต่ตอนนี้เธอต้องการปลอบโยนหัวใจดวงน้อย ๆ ที่บาดเจ็บของเสิ่นอี้หลินก่อน
เมื่อเสิ่นอี้หลินได้ยิน ดวงตาของเขาก็เป็นประกายบราวนี่ออนไลน์
ความโกรธและความเศร้ามลายหายไปในทันที
เขากระโดดขึ้นอย่างมีความสุข “เยี่ยมเลย ขอบคุณพี่สะใภ้ ผมชอบพี่สะใภ้ที่สุดเลย!”
ในตอนท้าย เขาก็เข้าใจสิ่งที่เพิ่งพูดออกไป และรู้สึกเขินอายอีกครั้ง
เขาหยุดพูดและก้มมองไปที่เท้าของตัวเอง
เซี่ยชิงหยวนยิ้ม ลูบหัวของเขาและพูดว่า “พี่สะใภ้ก็ชอบนายเหมือนกันนะ”
ด้วยประโยคนี้ เสิ่นอี้หลินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง และมองเธอด้วยดวงตาที่สดใส
เมื่อสังเกตเห็นแบบนี้ เซี่ยชิงหยวนก็มองเขาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน
ทันพลัน ใบหน้าของเสิ่นอี้หลินพลันแดงระเรื่อ และวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยชิงหยวนตามไปข้างหลังและตะโกนไล่ไป “ช้า ๆ หน่อย ระวังล้มนะ”
ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงเตือน เสิ่นอี้หลินก็สะดุดล้มโดยไม่คาดคิดทันที “แอ่ก!”
เสิ่นอี้หลิน “…”
เซี่ยชิงหยวน “!”
เซี่ยชิงหยวนรีบวิ่งไปช่วยพยุงขึ้นมาอย่างไว
เสิ่นอี้หลินนอนอยู่บนพื้นและยกมือขึ้นเพื่อหยุดเธอ “ไม่เป็นไร ๆ ผมจะลุกขึ้นเอง”
เมื่อพูดอย่างนั้น เด็กชายก็ลุกขึ้นอย่างมึนงง
เมื่อมองสำรวจอีกครั้งก็เห็นริมฝีปากของเขาแตก
ทันใดนั้นเสิ่นอี้หลินพบว่าบริเวณฟันหน้าของเขาเจ็บแปลบขึ้นมา
ฟันหน้าของเขาว่างเปล่า
เขาใช้ลิ้นดุนตรวจอีกที มันว่างเปล่า!
นอกจากนี้ยังมีรสเหมือนสนิม!
เขามองลงไปที่พื้น มีฟันซี่เล็ก ๆ ตกบนพื้นและมีเลือดกับทรายปะปนกันอยู่
เขาร้องเรียกเซี่ยชิงหยวนทันที “พี่สะใภ้ ฟันของผมหลุดออกไปแล้ว!”
เซี่ยชิงหยวนก้มลงมองทันทีและพูดว่า “ขอฉันดูหน่อย”
ฟันแถวบนของเสิ่นอี้หลินที่เป็นหนึ่งในแถวหน้าหลุดจนแหว่งเป็นรูเลือดเล็ก ๆ
เธออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดอย่างปลอบโยนว่า “ไม่เป็นไร ฟันซี่นี้ของนายแต่เดิมก็ใกล้หลุดอยู่แล้ว ตอนนี้มันแค่หลุดออกไปน่ะ”
เธอหยิบฟันซี่เล็ก ๆ ที่พื้นขึ้นมา สังเกตดูแล้วพูดว่า “มันหลุดออกมาทั้งรากฟันอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นไม่ต้องกลัวหรอก เรารีบกลับไปก่อนเถอะ พี่สะใภ้จะฆ่าเชื้อให้นายนะ”
ฟันที่หลุดไปของเสิ่นอี้หลินนั้นเริ่มโยกตั้งแต่เมื่อครึ่งเดือนที่แล้ว เธอขอให้เขาพยายามดึงมันออกเรื่อย ๆ เพื่อที่ฟันน้ำนมนี้จะได้หลุดออกไปได้เร็วกว่าเดิม
แต่เขากลัวความเจ็บปวด เขาจึงพยายามโยกมันสองสามครั้ง แต่เขาไม่อยากทำมันอีกแล้วเพราะความเจ็บ
เสิ่นอี้หลินถุยเลือดออกมาเต็มปากแล้วปิดปากอีกครั้ง “จริงเหรอ?”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “พี่สะใภ้เคยโกหกนายเมื่อไหร่กัน”
จากนั้นเธอก็เอาฟันใส่ไว้ในมือของเขาอย่างระมัดระวังและพูดว่า “ไปกันเถอะ กลับบ้านกัน”
เมื่อเซี่ยชิงหยวนพาเสิ่นอี้หลินกลับบ้าน สีหน้าของเด็กชายก็เริ่มเป็นกังวลอีกครั้ง
หลินตงซิ่วเห็นสภาพของลูกชายตัวเอง เธอจับมือเสิ่นอี้หลินและขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น? ลูกทะเลาะกับคนอื่นอีกแล้วเหรอ?”
เมื่อตอนอยู่ในหมู่บ้านซีสุ่ย เสิ่นอี้หลินมักจะต่อสู้กับเด็กบางคนข้างนอก และต่อมาพวกพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นก็จะมาถึงหน้าประตู
ในเวลานั้นเสิ่นอี้โจวไม่ได้อยู่บ้าน เพราะกำลังเรียนอยู่ต่างมณฑล และผู้เฒ่าเสิ่นก็แก่แล้ว ดังนั้นผู้คนจึงไม่ให้ความเกรงใจเลย
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงก้มหน้าลงและขอโทษทุกคนทีละคน
โชคดีที่เมื่อเสิ่นอี้หลินโตขึ้น เขาก็ดูเหมือนจะมีเหตุผลมากขึ้นและการทะเลาะเบาะแว้งกับคนอื่นก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย
เสิ่นอี้หลินผละจากมือของหลินตงซิ่วและพูดว่า “ผมไม่ได้ต่อสู้”
การแสดงออกของการต่อต้านไม่ได้ชัดเจนเกินไป
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มองไปที่เซี่ยชิงหยวน เพื่อขอความช่วยเหลือและส่งสัญญาณให้เธอช่วย
เซี่ยชิงหยวนขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เมื่อเธอได้ยินหลินตงซิ่วถามเสิ่นอี้หลินเช่นนี้
ปกติแล้ว เวลาแม่เห็นลูกเจ็บปวด คนเป็นแม่ควรสนใจเขาก่อนไม่ใช่เหรอ?
ทำไมหลินตงซิ่วถึงตำหนิลูกชายก่อนล่ะ?
คำพูดอยู่ในปากของเธอ แต่เธอก็ยังไม่พูดออกไป
เซี่ยชิงหยวนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า “เมื่อตอนขากลับ เขาบังเอิญล้มลงน่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลินตงซิ่วก็ผ่อนคลายลง “อ้อ ล้มนี่เอง”
เธอเช็ดมือ “ถ้าไม่มีการต่อสู้หรือทะเลาะก็ไม่เป็นไร”
เซี่ยชิงหยวนรู้สึกเหนื่อยใจและพูดว่า “แม่คะ เดี๋ยวหนูจะไปเอายาให้อี้หลินก่อน แม่ช่วยไปล้างผักให้หนูทีนะ”
หลินตงซิ่วไม่คิดอะไรและพูดว่า “ได้ ๆ งั้นแม่จะไปเตรียมวัตถุดิบก่อนนะ”
พอพูดจบเธอก็เดินไปที่ครัว
เซี่ยชิงหยวนจับมือเล็ก ๆ ของเสิ่นอี้หลิน “เอาล่ะ แม่ไม่น่าจะพูดอะไรแล้ว เราไปกันเถอะ อ้อ ไปโยนฟันซี่นี้ไว้ใต้เตียงของนายก่อน แล้วค่อยกินยานะ”
เธอหยุดชั่วครู่ “แต่เนื่องจากนายเพิ่งฟันหลุด ดังนั้นคืนนี้เราจะไม่ใส่พริกบนปลานะ”
เธอจำได้ว่าหวังผิงสอนเธอและพี่ ๆ ด้วยวิธีนี้เมื่อฟันน้ำนมหลุดตอนเด็ก
วางฟันน้ำนมซี่บนไว้ใต้เตียงและฟันล่างไว้บนหลังคา เพื่อให้ฟันในอนาคตสามารถงอกได้ดีและสม่ำเสมอ
เสิ่นอี้หลินมีความสุขเมื่อได้ยินว่าเขายังสามารถกินปลาได้และตอบว่า “ครับผม ไม่มีปัญหา”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่ใส่พริก อาหารฝีมือของพี่สะใภ้ก็ยังอร่อย
หลังจากจัดการเรื่องของเสิ่นอี้หลินแล้ว เซี่ยชิงหยวนก็ไปที่ครัวเพื่อทำอาหาร
เสิ่นอี้หลินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเล่นในห้องนั่งเล่น
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงรถและนั่นคือเสิ่นอี้โจวที่กลับมา
เขาลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและวิ่งออกไป
เมื่อเสิ่นอี้โจวกำลังเดินไปที่ห้องครัว เสิ่นอี้หลินก็โบกมือเรียก “พี่ชาย”
เมื่อเห็นท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ และบาดแผลตามตัวและใบหน้าของน้องชาย เสิ่นอี้โจวก็เลิกคิ้วขึ้นแล้วเดินเข้าหา
เมื่อทั้งสองเข้าไปในห้อง เสิ่นอี้หลินก็ปิดประตูอีกครั้งและเตรียมพร้อมสำหรับการพูดคุยเรื่องจริงจัง
เสิ่นอี้โจวลากเก้าอี้มาแล้วนั่งลง พลางวางมือข้างหนึ่งไว้บนโต๊ะและอีกข้างวางบนตัก แล้วพยักหน้า “พูดมาสิว่ามีอะไร”