บทที่ 201 ลืมตัว
บทที่ 201 ลืมตัว
ฉู่ซิงอวี่สังเกตสีหน้าของเสิ่นอี้โจวอย่างเงียบ ๆ จากด้านข้าง
พบว่าหัวหน้าตัวเองไม่เพียงไม่โกรธ แต่ยังอารมณ์ดีมากอีกต่างหาก
เป็นไปได้ไหมว่าการมาของผู้อำนวยการเฉาเกี่ยวข้องกับความปรารถนาของเสิ่นอี้โจว?
สายตาของเขาอดไม่ได้ที่จะจับไปที่ดั้งจมูกตรงของเสิ่นอี้โจว สันกรามที่มั่นคง ลำคอที่เรียวยาว และลูกกระเดือกที่ยื่นออกมา
ดวงตาที่มีความหมายมองไปมาระหว่างเสิ่นอี้โจวและกล่องสองกล่องบนโต๊ะ
ลักษณะทั้งหมดดูเหมือนจะบ่งบอกถึง ‘ความสามารถพิเศษ’ ของเขาในฐานะผู้นำ
ในขณะที่คิดอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของเขาก็สบเข้ากับของเสิ่นอี้โจวโดยไม่ได้ตั้งใจ
ฉู่ซิงอวี่ไม่สามารถหลบตาได้ทัน และหัวใจของเขาก็สั่นสะท้านเมื่อเขาถูกจับตามอง
เมื่อเขาตั้งสติได้ เสิ่นอี้โจวก็มองไปทางอื่นแล้ว
มีเพียงดวงตาฟีนิกซ์คู่นั้นเท่านั้นที่ทำให้เขาไม่สามารถหยุดคิดถึงมันได้อีก
เขาตระหนักว่ายามเมื่อเขาถูกเรียกโดยเสิ่นอี้โจว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
ตัวเขาคือผู้ชายเต็มร้อย แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่อาจลืมดวงตาคู่นั้นของผู้ชายด้วยกันได้
แต่ว่าเสิ่นอี้โจวคนนี้หน้าตาดีจริง ๆ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ไม่สามารถหยุดความหนาวสั่นในร่างได้
การแสดงออกของเขาตกอยู่ในสายตาของเสิ่นอี้โจว “ทำไม นายต้องการกล่องนี้ด้วยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฉู่ซิงอวี่โบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่ครับ ไม่เลย!”
เสิ่นอี้โจวไม่ได้พูดไร้สาระ เขาหยิบกล่องหนึ่งบนโต๊ะแล้วโยนให้ฉู่ซิงอวี่ “สำหรับนาย”
อุปกรณ์วางแผนครอบครัวในหน่วยจะแจกจ่ายทุกสองเดือน แต่เป้าหมายหลักคือเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่มีทะเบียนสมรส
ดังนั้นเสิ่นอี้โจวมี แต่ฉู่ซิงอวี่ไม่มี
แม้ว่าฉู่ซิงอวี่จะกระโดดลงไปในแม่น้ำเหลืองในครั้งนี้ เขาก็ไม่สามารถชำระล้างให้ตัวเองได้แล้ว
เขาจับกล่องโดยไม่รู้ตัว จากนั้นมองไปที่เสิ่นอี้โจวด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “หัวหน้า ผมไม่มีคู่นะครับ ผมจะใช้สิ่งนี้ได้ยังไง นอกจากนี้ต่อให้ผมมีคู่ ผมก็ไม่ใช้มันหรอก!”
เสิ่นอี้โจวเอนหลังพิงเก้าอี้ “ถ้านายไม่คิดอย่างนั้น ทำไมนายถึงจ้องมาที่ฉันล่ะ?”
ฉู่ซิงอวี่พูดไม่ออก “…”
เขาพูดไม่ออกจริงๆ เขาถูกหัวหน้าของเขาจับได้งั้นเหรอ?
เสิ่นอี้โจวโบกมือ “เอาของไปนั่นแหละ”
กล่องเล็ก ๆ ในมือของฉู่ซิงอวี่นั้นเหมือนมันฝรั่งร้อน ไม่อาจจะโยนทิ้งหรือเก็บไว้ได้
ในท้ายที่สุด เขาก็ทำได้เพียงยัดมันเข้าไปในอ้อมแขนตนเอง จากนั้นปิดมันด้วยกระดาษเอกสารแล้วเดินออกประตูไปด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
เมื่อกลับไปที่ห้องทำงานของเขาเอง ฉู่ซิงอวี่ก็เปิดลิ้นชักแล้วโยนกล่องเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ช่วยเลขาที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเพียงฉู่ซิงอวี่โยนของลงในลิ้นชักและดูลุกลี้ลุกลน ดังนั้นเขาจึงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา “เลขาฉู่ คุณกำลังทำอะไรเหรอ?”
ฉู่ซิงอวี่ปิดลิ้นชักด้วยต้นขาของเขา พลางปาดเหงื่อ “ไม่มีอะไร”
เดิมทีผิวของเขาขาวใส แต่ตอนนี้กลับมีรอยแดงระเรื่อเหมือนเลือดนกที่น่าสงสัย
บ้าเอ๊ย น่ากลัวเกินไปแล้ว
…
เซี่ยชิงหยวนกลับไปที่ร้านตรอกเก่าพร้อมกับเนื้อหมู และเครื่องในกองโต
เธอทำความสะอาดและเริ่มเตรียมสลัดเย็นตอนเที่ยง
เมื่อก่อนเธอไม่ชอบกินปอดหมูมากนัก และเธอมักจะรู้สึกว่ารูปลักษณ์ของมันดูน่ากลัว
ต่อมาเมื่อเธอไปที่มณฑลทางใต้ ผู้คนมักนิยมทำซุปเครื่องในหมู มันก็มีรสชาติที่อร่อยจริง ๆ เมื่อเสิร์ฟกับใบเก๋ากี้หรือขึ้นฉ่ายฝรั่งสับ
เธอจึงรู้ว่าปอดหมูสามารถทำให้อร่อยได้หลังจากผ่านกระบวนการทำที่เหมาะสม
ในปอดหมูมีเส้นเลือดมากมาย มันจึงมีเลือดและของสกปรก ร้านค้าบางแห่งจัดการไม่ดีทำให้ปอดหมูมีกลิ่นแปลก ๆ เมื่อกินเข้าไป สีก็น่าเกลียดมากและรสชาติก็ค่อนข้างน่าผิดหวัง
ขั้นแรก เซี่ยชิงหยวนหั่นปอดหมูเป็นชิ้นใหญ่ ๆ หลาย ๆ ชิ้น จากนั้นใช้หลังมีดหรือไม้ทุบที่ผิวของปอดหมู
ในระหว่างการทุบ เลือดและสิ่งสกปรกในเส้นเลือดจะถูกระบายออก ทำวนแบบนี้จนคราบเลือดออกหมด แล้วล้างหลาย ๆ รอบ ก็จะได้ปอดหมูที่สะอาดเป็นชิ้น ๆ
ไม่ว่าคุณจะปรุงปอดหมูด้วยวิธีใด ก็จะไม่มีกลิ่นแปลก ๆ และเมื่อเคี้ยวพวกมันก็จะหนึบสู้ฟันมาก
สำหรับปอดหมูและหัวใจหมู ให้ใส่เครื่องปรุงเช่น ยี่หร่า หัวหอม ขิง และกระเทียมลงในน้ำ จากนั้นลวกแล้วนำออกมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ราดด้วยน้ำยำ เท่านี้ก็จะได้เมนูเครื่องในลวกอร่อย ๆ แล้ว
เมนูนี้ของเซี่ยชิงหยวนทำเลียนแบบเมนูที่ชื่อว่าปอดวัวสามีภรรยาหรือฟูชีเฟ่ยเพี่ยน แต่ปอดวัวสามีภรรยาของแท้นั้นต้องใช้วัตถุดิบที่ดีกว่าของเธอมาก แต่แค่นี้ก็รสชาติไม่เลวแล้ว
ดังนั้นเมื่อเธอเอาเมนูนี้มาเป็นอาหารกลางวันของคนในร้าน แทบจะทุกคนจะขอเติมอาหารอีกครึ่งหนึ่ง
เสิ่นอี้หลินตักข้าวทั้งหมดขึ้นมาทันที “พี่สะใภ้ มันอร่อยมากเลย!”
เขาชี้ไปที่เนื้อสีขาวที่ราดด้วยซอสกระเทียม จากนั้นชี้ไปที่ชิ้นปอดหมู “พวกมันอร่อยทั้งหมดเลย”
เซี่ยชิงหยวนยิ้มและพูดว่า “ถ้านายชอบก็กินเยอะ ๆ นะ”
เมื่อพิจารณาว่าทุกคนต้องรีบกลับบ้านเพื่อทำอาหารในตอนเที่ยง เซี่ยชิงหยวนจึงเปลี่ยนไปขายเสื้อผ้าที่ร้านตรอกเก่าในตอนเที่ยงก่อน จากนั้นจึงไปที่โรงงานผลิตบุหรี่ในช่วงบ่าย
ความตื่นตาของการเสื้อผ้าสองสามวันที่ร้านตรอกเก่าได้ผ่านไปแล้ว และตอนนี้ตอนเที่ยงหรือบ่ายโดยปกติแล้วที่หน้าร้านตรอกเก่า เสื้อผ้าจะขายได้เพียงโหลเดียวเท่านั้น
แม้ว่าเงินจำนวนที่ได้จะไม่สามารถเทียบได้กับตอนที่เปิดครั้งแรก แต่ก็ดีกว่าร้านเสื้อผ้าอื่น ๆ มาก
หลังจากทำสลัดเย็นในช่วงบ่ายพร้อมแล้ว เซี่ยชิงหยวนและอาเซียงก็ไปที่โรงงานผลิตบุหรี่ด้วยกัน
โรงงานบุหรี่กับโรงงานน้ำอยู่กันคนละทางเลย และระยะทางก็ไกลออกไปด้วย
อาเซียงรู้สึกสงสารเซี่ยชิงหยวนต้องขี่จักรยานคนเดียว ดังนั้นหญิงสาวจึงพยายามสลับด้วยเสมอ
ทั้งสองคนใช้เวลาปั่นจักรยานสามล้อร่วมกันกว่าสี่สิบนาทีเพื่อไปถึงทางเข้าโรงงานบุหรี่
ทางเข้าโรงงานบุหรี่มีชีวิตชีวากว่าโรงงานน้ำและโรงงานน้ำตาลมาก นอกจากพวกเธอแล้วยังมีผู้ค้ารายย่อยอื่นอีกด้วย
ทันทีที่เซี่ยชิงหยวนและอาเซียงนำเสื้อผ้าออกมาวางขาย คนในโรงงานบุหรี่ก็ถึงเวลาพักพอดี
ครั้งนี้เซี่ยชิงหยวนขอให้นายช่างทำป้ายพลาสติก ซึ่งระบุว่า ‘เสื้อผ้าสตรี/บุรุษสไตล์ฮ่องกงล่าสุด’ โดยมีพื้นหลังสีขาวและอักษรสีเขียว เมื่อวางป้ายที่ด้านข้าง พวกเธอก็ไม่จำเป็นต้องตะโกนและก็มีคนมาล้อมรอบ
อายุของพนักงานในโรงงานบุหรี่ดูจะเด็กกว่าโรงงานน้ำและโรงงานน้ำตาล หรือบางคนก็แค่อายุสามสิบกว่าเท่านั้น
หรืออาจเป็นเพียงว่าสภาพการเป็นอยู่ของพวกเขาดีกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ดูแก่
หญิงสาวตัวเล็ก ๆ รวมตัวพูดคุยกันพร้อมดวงตาเป็นประกาย
“สวยจัง!”
“ฉันเคยเห็นเสื้อแบบนี้มาก่อนแล้ว มันอยู่ในนิตยสารด้วยแหละ”
“ฉันคิดว่ามันสวยทุกตัวเลย ฉันจะทำยังไงดีนะ ฉันอยากซื้อพวกมันทั้งหมดเลยอะ”
วันนี้เซี่ยชิงหยวนขนเสื้อผ้าผู้หญิงมาขายห้าร้อยตัว แบ่งเป็นแบบละสิบตัว และบางแบบก็เป็นรูปแบบที่มีคนนิยมเยอะกว่า ดังนั้นเธอจึงเพิ่มเข้ามาอีกอย่างละสองสามตัว
มันเป็นเรื่องยากที่จะขายเสื้อผ้าในที่ต่าง ๆ
ผู้ชายที่มีอายุมากหน่อยก็มีความสนใจเช่นกัน แต่พวกเขาอายเกินกว่าจะไปเบียดเสียดกับกลุ่มหญิงสาว
จากนั้นเขาก็ดึงภรรยาของตัวเอง “คุณก็ไปดูด้วยสักหน่อยสิ”
ดังนั้นผู้หญิงที่ถูกล่อลวงมานานก็เดินไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเธอ
บางคนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะซื้อมาเผื่อให้ด้วยนะ”
พอได้ยินแบบนั้น ชายคนนั้นก็อารมณ์ดีขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงตอบตกลงโดยปริยาย “ไปเถอะ ๆ ถ้าไม่แพง คุณสามารถซื้อสองตัวได้เลย”
ผู้หญิงกับภารกิจของผู้ชาย พวกเขาก็ร่วมกลุ่มที่กำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ก่อนหน้า
เหลือแต่พวกชายหนุ่มที่ยังลังเลใจ
เซี่ยชิงหยวนเห็นถึงความละอายของพวกเขา และขอให้อาเซียงหยิบไม้แขวนเสื้อที่เล็กกว่าออกจากรถ “อาเซียง เธอเอาเสื้อผ้าผู้ชายใส่ลงในไม้แขวนทีนะ”
อาเซียงพยักหน้า “ได้ค่ะ”
จากนั้นเธอก็รีบย้ายเสื้อผ้าของผู้ชายไป
เซี่ยชิงหยวนจัดการกับเสื้อผ้าผู้หญิง และอาเซียงจัดการกับเสื้อผ้าผู้ชาย ทันใดนั้นทุกอย่างก็มีชีวิตชีวามาก
ทว่าขณะที่ทุกคนกำลังหมกมุ่นกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างเต็มที่ เสียงที่ไม่พอใจก็ดังขึ้น “เถ้าแก่เนี้ย คุณซื้อเสื้อผ้าเหล่านี้มาจากเมืองท่าจริงเหรอ? ทำไมฉันดูพวกมันแล้ว มันเหมือนกับชุดที่อยู่บนแผงลอยใกล้ ๆ เลยล่ะ?”
———————