กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี – บทที่ 203 ศึกษาด้วยกัน

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

บทที่ 203 ศึกษาด้วยกัน

บทที่ 203 ศึกษาด้วยกัน

เมื่อกลับจากงานขายเสื้อผ้า เซี่ยชิงหยวนมองเห็นผู้คนมากมายขายของอยู่ข้างถนน เธอจึงแวะซื้อแตงโมลูกกลมที่มีลวดลายสดใส

หลายคนที่ยืนขายของริมถนนต่างเป็นคนจากชนกลุ่มน้อย

พวกเขาขายของหลายอย่าง ทว่าแต่ละอย่างก็มีจำนวนน้อย ของเหล่านั้นถูกห่อด้วยใบตองหรือไม่ก็ใบเผือก

เมื่อหญิงสาวเห็นคนขายกระบอกไม้ไผ่อีกครั้งก็จำได้ขึ้นมาทันทีว่าพรุ่งนี้จะทำข้าวกระบอกไม้ไผ่นี่หน่า

เธอครุ่นคิดในใจว่าพรุ่งนี้จะไปภูเขา เพื่อตัดไผ่และดูหน่อไม้ หรืออาจแค่แวะซื้อกระบอกไม้ไผ่ที่นี่ให้จบ ๆ ไปดี?

หลังจากคิดอยู่สองสามวินาที เซี่ยชิงหยวนก็ก้าวขึ้นจักรยานและจากไป

เก็บเงินไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นดีกว่า

มีหน่อไม้และเห็ดบนภูเขา การแวะตัดไผ่อีกสักต้นระหว่างทางคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจอย่างมีความสุข

เมื่อเซี่ยชิงหยวนกลับมาบ้าน หลินตงซิ่วได้เริ่มทำอาหารแล้ว และเสิ่นอี้โจวก็กำลังช่วยอยู่ในครัวด้วย

เธอสูดดม อืม…กลิ่นดีเหมือนกัน

เสิ่นอี้โจวออกมาและรับแตงโมในมือของเธอด้วยรอยยิ้ม

“กลับมาแล้วเหรอ? คุณเหนื่อยไหม?”

เซี่ยชิงหยวนส่ายหัวของเธอ “ไม่เหนื่อยเลย”

ด้วยแรงผลักดันที่จะอยากหาเงิน แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแต่ร่างกายก็ยังมีเรี่ยวแรง

เสิ่นอี้โจวกล่าวว่า “ผมจะเอาแตงโมไปแช่เย็นก่อนนะ คุณเข้าไปข้างใน พักผ่อนสักหน่อยเถอะ แล้วค่อยรับประทานอาหารเย็นกันทีหลัง”

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า “ตกลง งั้นฉันจะไปโทรศัพท์ก่อนนะ”

หลังจากล้างมือ เธอได้เดินเข้าไปในห้องเพื่อหากระดาษที่จดเบอร์โทรของเหล่าไต้ออกมาแล้วกดโทรศัพท์บ้านของเธอเพื่อโทรออกไป

โทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะมีคนรับสาย

มันเป็นเสียงของผู้หญิงดังขึ้น “สวัสดีค่ะ นั่นใครเหรอคะ?”

มันเป็นสำเนียงของคนกว่างโจวที่ชัดเจนมาก

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “ฉันชื่อคุณเซี่ยค่ะ และฉันต้องการสั่งซื้อของจากเหล่าไต้น่ะค่ะ”

เซี่ยชิงหยวนเปิดเผยตัวตนของเธอโดยตรง ในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นภรรยาของเหล่าไต้จะได้ไม่มีการเข้าใจผิดกัน

ผู้หญิงคนนั้นอุทานออกมา “อ้อ” แล้วพูดต่อว่า “”คุณรอสักครู่นะคะ”บราวนี่ออนไลน์

จากนั้นผู้หญิงที่อยู่ปลายสายก็ตะโกนสุดเสียงของเธอ “สามี มีโทรศัพท์หาคุณแหนะ!”

จากนั้นเสียงวิ่งก็ดังขึ้น และเป็นเหล่าไต้ที่มารับสาย “สวัสดีครับ คุณเซี่ยรึเปล่าครับ?”

เซี่ยชิงหยวนพูดตรงประเด็นทันที “เหล่าไต้ คุณยังมีเสื้อผ้าแบบที่ฉันซื้อจากคุณครั้งล่าสุดอีกไหมคะ?”

เมื่อครู่นี้ภรรยาของเขากระซิบบอกว่าเป็น ‘คุณเซี่ย’ ที่โทรมาหาเขา และเขาก็นึกถึงเซี่ยชิงหยวนทันที

คราวนี้พูดแค่ไม่กี่คำก็เข้าเรื่องจะซื้อของเพิ่มเลย

เขารีบพูดว่า “แน่นอน ถ้าคุณอยากได้ผมมีขายแน่นอน! ผมออกไปซื้อสินค้ามาเพิ่มสองรอบแล้ว นอกจากนี้ยังได้กว้านซื้อเสื้อผ้าแบบฤดูร้อนที่คุณพูดถึงก่อนหน้านี้มาให้ด้วยนะ”

เขาให้ความสนใจกับค่านิยมของเสื้อผ้าเสมอ ประมาณสิบวันที่ผ่านมา คนอื่น ๆ อาจยังคงขายสินค้าชุดแรกอยู่ แต่สำหรับเขาขายไปชุดที่สามแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความเร็วของเขานั้นเร็วแค่ไหน

แต่ทว่าดูเหมือนนอกจากเซี่ยชิงหยวนแล้วก็ไม่มีใครรู้วิธีชื่นชมมันเลย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนรู้สึกโล่งใจทันที

เธอครุ่นคิด “เยี่ยมเลยค่ะ งั้นฉันต้องการสั่งซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงแบบที่ฉันซื้อครั้งล่าสุดอีกสี่ร้อยตัวค่ะ”

อีกไม่กี่วันเธอจะไปที่เมืองหลวงของมณฑลกับเสิ่นอี้โจว

หลังจากไปที่เมืองหลวงของมณฑลและกลับมา ของที่ส่งมาจากเมืองกว่างโจวน่าจะมาถึงแล้วเช่นกัน

เหล่าไต้ตอบว่า “ตกลง ถ้าคุณต้องการ ผมจะส่งของให้คุณพรุ่งนี้เลย”

เซี่ยชิงหยวนกล่าวว่า “ตกลงค่ะ ฉันจะให้ที่อยู่กับคุณอีกทีนะ และคุณสามารถส่งของมาได้ตามที่อยู่ของฉันได้เลย”

จากนั้นเซี่ยชิงหยวนยังขอซื้อเสื้อผ้าแบบเดิมที่ขายดีอีกสองร้อยตัว

ทั้งสองคนมีความทรงจำและความประทับใจที่ดีต่อกัน พวกเขาสามารถรู้ได้ว่ากำลังพูดถึงอะไรเพียงแค่อธิบายคร่าว ๆ ด้วยวาจา

ในท้ายที่สุด เหล่าไต้คิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “ถ้าคุณเชื่อใจผม ผมยังมีเสื้อผ้าแบบใหม่ ๆ อยู่ที่นี่ด้วย และจะส่งขายให้คุณอีกสองตัวคิดว่ายังไงครับ?”

เมื่อเขายื่นข้อเสนอนี้ พลางใช้น้ำเสียงพูดอย่างจริงจัง

ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาทั้งสองพบกันเพียงสองครั้ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เซี่ยชิงหยวนจะไม่ไว้ใจเขา

เสื้อผ้าสองร้อยชิ้นเป็นราคาเกือบสามร้อยหยวน ไม่ใช่ทุกคนที่กล้าตกลงด้วย

เซี่ยชิงหยวนพึมพำ “ก็ได้ค่ะ ครั้งนี้ฉันจะเชื่อใจคุณ ถ้าขายดี คราวหน้าที่ฉันไปกว่างโจว ฉันจะสั่งซื้อของไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันห้าร้อยตัวจากคุณทันที”

ในเวลานั้น คงเป็นเสื้อผ้าแบบฤดูใบไม้ร่วงคงถูกนำออกมาขายมากกว่า

เมื่อถึงตอนนั้น เสื้อผ้าฤดูร้อนจะถูกกว่าอย่างแน่นอน

เหล่าไต้ตอบอย่างรวดเร็ว “แน่นอน! ตราบเท่าที่คุณเชื่อใจผม เหล่าไต้คนนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง! เอาเป็นว่าผมจะออกค่าใช้จ่ายในการส่งครั้งนี้ให้นะ!”

เซี่ยชิงหยวนหัวเราะ “ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เป็นอันตกลงนะ”

เซี่ยชิงหยวนบอกเหล่าไต้เกี่ยวกับรูปร่างและสีผิวของกลุ่มลูกค้าของเธอในมณฑลอวิ๋นและบางสิ่งที่ต้องให้ความสนใจ และในที่สุดก็กำหนดรูปแบบเสื้อผ้าได้สิบสองรูปแบบ

เธอเชื่อในวิสัยทัศน์ของเหล่าไต้ว่าท้ายที่สุด เขาจะเลือกในสิ่งที่ตรงกับความต้องการของเธอ

สำหรับเสื้อผ้าผู้ชาย เธอยังไม่มีแผนที่จะซื้อเพิ่มในตอนนี้

ในยุคนี้เสื้อผ้าผู้ชายส่วนใหญ่จะซื้อโดยภรรยา

และผู้หญิงชอบเสื้อผ้ามากกว่าผู้ชาย

ในที่สุด เพื่อแสดงความจริงใจของเขา เหล่าไต้กล่าวว่า “คราวนี้ผมยินดีจะให้คุณวางเงินมัดจำก่อนแค่ยี่สิบส่วน สำหรับเสื้อผ้าส่วนที่เหลือหลังจากที่ของส่งไปถึงคุณ ตอนนั้นคุณค่อยให้ยอดที่เหลือกับผมก็ได้”

ท้ายที่สุดเซี่ยชิงหยวนก็บอกที่อยู่บ้านของเธอให้เขา ซึ่งมันเป็นสถานที่ที่เหมาะสมแล้วกับการส่งของครั้งแรกให้แก่กัน

เรียกว่าพระหนีวัดไม่ได้ เหล่าไต้เชื่อว่าเธอไม่ได้โกหกเขา

เซี่ยชิงหยวนพูดโดยไม่สะดุด “‘ตกลงเอาตามนี้นะคะ”

หลังจากที่ทั้งสองคนวางสาย เหล่าไต้ก็ไม่เสียเวลากินข้าว เขาออกไปหาเสื้อผ้าทันที

เขาต้องออกไปหาเสื้อผ้าสำหรับเซี่ยชิงหยวนในคืนนี้ และขอให้เพื่อนส่งเสื้อผ้าในเช้าวันพรุ่งนี้เพื่อให้เธอได้รับเร็วขึ้น

ในตอนกลางคืน เซี่ยชิงหยวนกำลังเขียนบางอย่างที่บนโต๊ะในห้องหนังสืออีกครั้ง

เสิ่นอี้โจวเอนตัวเข้าหา “วันนี้คุณขายดีมากไหมครับ?”

รวมทั้งเสื้อผ้าที่ขายหน้าร้านตรอกเก่า รายได้สุทธิของวันนี้คือสามร้อยเก้าสิบสองหยวน

เซี่ยชิงหยวนพยักหน้า และยิ้มจนตาแทบจะปิด “แน่นอน ที่โรงงานบุหรี่ขายดีมากเลยค่ะ”

เสิ่นอี้โจวย่นจมูก “ภรรยาของผมยอดเยี่ยมที่สุด”

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “จริง ๆ แล้ว คุณสามารถไปขายเสื้อผ้าที่ศาลากลางได้นะ นอกจากนี้ยังมีสำนักงานถนน หน่วยตำรวจจราจร และหน่วยงานอื่น ๆ ที่นั่นด้วย ค่าจ้างของหน่วยงานเหล่านี้ไม่น้อยกันเลยนะ”

เซี่ยชิงหยวนคิดถึงคำพูดนี้ตามโดยปริยาย

เธอถามอย่างลังเลว่า “คุณไม่กลัวเหรอคนอื่นจะนินทาว่าคนที่ขายเสื้อผ้าตามแผงลอยริมถนนเป็นภรรยาของเลขาธิการเสิ่นเหรอ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้เสิ่นอี้โจวก็ยิ้มออกมา “ที่แท้คุณก็เป็นห่วงผมนี่เอง”

เขาลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา “ถ้าอย่างนั้นผมจะตอบทุกคนไปแบบนี้ ผมจะบอกทุกคนได้ว่าเสื้อผ้าที่ภรรยาของผมขายนั้นดีที่สุดในเมืองเตียนเฉิง”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ดีที่สุดในเมืองเตียนเฉิงเลยเหรอ? ฉันไม่กล้าเรียกตัวเองถึงขนาดนั้นหรอก”

เสิ่นอี้โจว “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ก็ในใจของผมคุณย่อมดีที่สุดเหนือทุกคนอยู่แล้ว”

เขาครุ่นคิด “ในอนาคต ไม่ว่าคุณต้องการจะทำอะไร แค่ทำมันไปเลย ผมจะสนับสนุนคุณเสมอ และจะเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดให้คุณเอง”

ดวงตาของเขาร้อนแรงจนแทบจะแผดเผาดวงตาของเธอจริง ๆ

เซี่ยชิงหยวนโผเข้าสู่อ้อมแขนของเขาทันที “คุณใจดีจัง”

เสิ่นอี้โจวกอดเธอตอบ “คุณสมควรที่จะได้รับทุก ๆ อย่างของผม”

เขาจำกล่องของที่เขานำกลับบ้านในวันนี้ได้ หันไปมองและพูดว่า “วันนี้ผมได้ของบางอย่างมา เรามาศึกษามันด้วยกันไหม?”

เซี่ยชิงหยวนไม่สงสัยในตัวเขา และตอบรับทันที “ได้ ๆ”

จากนั้นเธอก็ถูกเขาพาลุกขึ้นยืน “จะพาไปไหนเหรอ?”

เสิ่นอี้โจวเดินจูงเธอไปที่ห้องนอน “ผมเอามันใส่ไว้ในลิ้นชักในห้องของเราน่ะ”

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

กลับไปในยุค 80 จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของอดีตสามี

Status: Ongoing
หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ประสบอุบัติตุจนเสียชีวิต และเธอก็ได้ย้อนไปตอนที่เธออายุ 21 ปี …ลับมาครั้งนี้เธอจะไม่ยอมหย่ากับเสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธออีกเด็ดขาด!หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามีมาสิบปี เชี่ยชิงหยวนก็ได้ช่วยเด็กชายคนหนึ่งเอาไว้จนประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตปีแล้วปีเล่าผ่านไป เสิ่นอี้โจวดีตสามีของเธอก็มักจะมายี่ยมหลุมศพของเธอประจำ เธอในร่างวิญญาณออกปากไล่เขาทุกครั้งต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้ยิน เขาจำไม่ได้เลยหรืออย่างไร ว่าเธอทำอะไรกับเขาไว้บ้าง แต่แล้วเธอก็ได้ย้อนกลับมาใน ในวันที่เธออายุ 21 ปี แลยังไม่ได้หย่าขาดกับเสิ่นอี้โจว ในเมื่อเธอได้โอกาสอีกครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมหย่าเด็ดขาด ครั้งนี้เธอจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นกับเสิ่นอื้โจวได้จงได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท