ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 8 สอบถามหาความจริง

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 8 สอบถามหาความจริง

ตอนที่ 8 สอบถามหาความจริง

เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามอันเฉียบขาดของหลินเซี่ย หลิวกุ้ยอิงพลันร้องไห้ออกมาและยืนยันกับเธอว่า “เซี่ยเซี่ย แม่สาบานต่อสวรรค์เลย แม่ไม่รู้จริง ๆ หลังจากครอบครัวตระกูลเสิ่นมาหาที่บ้าน แม่ถึงได้รู้ว่าอวี้อิ๋งไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง พวกเขาขอให้แม่ทำการตรวจสอบดีเอ็นเอ แล้วต่อมาบอกว่าลูกสาวแม่อยู่ในเมืองและให้ไปรับลูกกลับมา กระทั่งแม่เห็นลูกอยู่ในเมือง แม่รู้สึกสับสนไปหมด”

“หลังจากที่รับตัวลูกกลับมา แม่ไปโรงพยาบาลเพื่อถามถึงสถานการณ์เช่นกัน แต่หมอที่ทำคลอดไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว ส่วนพยาบาลก็ย้ายไปที่อื่นด้วย ไม่มีวิธีสอบสวนเลยแม้แต่น้อย จวบจนปัจจุบันแม่ก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น”

หลินเซี่ยจ้องมองอีกฝ่ายพลางถามต่อ “ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม่ไม่รู้เลยหรือว่าคนที่แม่เลี้ยงดูอยู่เคียงข้างไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง?”

“แม่ไม่เคยนึกสงสัยเลย แม้ว่านิสัยของเด็กผู้หญิงคนนั้นจะแตกต่างจากเรามากจริง ๆ แต่นิสัยใจคอของผู้คนนั้นหลากหลาย แม่ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำว่าหล่อนอาจจะเป็นลูกของคนอื่น”

ดวงตาของหลิวกุ้ยอิงเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน เช่นเดียวกับตอนที่มารับเธอจากบ้านตระกูลเสิ่นในเมืองไห่เฉิงในชีวิตก่อนหน้า

ราวกับว่าหล่อนเองก็ไม่ทราบว่าทำไมเรื่องราวเหล่านี้ถึงเกิดขึ้นได้

“แต่ว่า เสิ่นอวี้อิ๋งยืนยันว่าแม่ทำแบบนั้นโดยเจตนาเพื่อให้ลูกตัวเองมีชีวิตที่ดี”

ในชีวิตที่แล้ว เสิ่นอวี้อิ๋งใช้ประเด็นนี้เพื่อกลั่นแกล้งเธอเสมอ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกผิดต่อตระกูลเสิ่น

เธอเกลียดแม่ผู้ให้กำเนิดนับตั้งแต่นั้นมา

ต่อมาเธอเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้คงไม่ง่ายดายอย่างที่คิด เมื่อเธอต้องการพิสูจน์ความจริง แม่ของเธอก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว

คู่สามีภรรยาตระกูลเสิ่นนิ่งเงียบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ความจริงจึงกลายเป็นปริศนาต่อไป

มันไม่น่าแปลกใจเลย เมื่อเธอกลับมาเข้าเมือง เสิ่นอวี้อิ๋งและครอบครัวตระกูลเสิ่นยังคงใช้เหตุการณ์นี้เพื่อเยาะเย้ยและดูถูกหลิวกุ้ยอิง พวกเขาโยนความผิดทั้งหมดให้กับเธอผู้เดียว

กระทั่งเธอไม่อาจยืนหยัดเพื่อตัวเองเพราะเหตุนี้

เมื่อได้กลับมามีชีวิตใหม่ เธอจึงต้องการเปิดโปงความจริง และกำจัดคำครหาของแม่

หลิวกุ้ยอิงผู้อารมณ์ดีอยู่เสมอรู้สึกกระวนกระวายเมื่อได้ยินคำพูดของหลินเซี่ย “ลูกอย่าพูดเรื่องไร้สาระ แม่ไม่ได้ทำจริง ๆ”

หลิวกุ้ยอิงจับมือหลินเซี่ยไว้ ดวงตาสองมองเธอขณะกล่าวคำจริงจัง “เซี่ยเซี่ย แม่ไม่ได้ทำจริง ๆ แม่จะทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนั้นได้อย่างไร”

“พ่อเป็นคนทำหรือเปล่าคะ?” หลินเซี่ยถามอีกครั้ง

หลินเซี่ยฉุกคิดถึงคำพูดของเสิ่นอวี้อิ๋งก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอมองหลิวกุ้ยอิงด้วยสีหน้าที่ซับซ้อนยิ่ง

ตามปากคำของเสิ่นอวี้อิ๋ง ดูเหมือนว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของเธอจะยังมีชีวิตอยู่?

ตัวตนของเขาคงเป็นคนใหญ่โต และเพราะกำลังจะได้รับการยอมรับ ทำให้เสิ่นอวี้อิ๋งตัดสินใจกำจัดเธออย่างโหดเหี้ยม

อย่างไรก็ตาม หลินต้าฝูได้เสียชีวิตไปแล้ว

หลิวกุ้ยอิงครุ่นคิดเพียงครู่ แล้วจึงโคลงศีรษะเป็นคำตอบ

“นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้ ตอนที่แม่คลอดลูก พ่อของลูกทำงานอยู่ในเมือง และตอนที่เขากลับมา แม่ก็ได้คลอดลูกและกำลังอุ้มลูกระหว่างทางกลับบ้านจากโรงพยาบาลในเมือง”

หลิวกุ้ยอิงเกรงว่าหลินเซี่ยจะเข้าใจหลินต้าฝูผิด ดังนั้นเธอจึงอธิบายน้ำเสียงหนักแน่นว่า “พ่อของคุณเป็นคนซื่อสัตย์มาก แม้ว่าเขาจะอยู่ด้วย เขาคงไม่มีวันทำเรื่องผิดศีลธรรมดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ่อดูแลเด็กคนนั้นดีกว่าใคร ๆ เด็กคนนั้นเกิดมาร่างกายอ่อนแอและแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ถ้าพ่อไม่พาหล่อนไปพบแพทย์แผนจีนอาวุโส หล่อนอาจจะเสียชีวิตไปแล้ว”

มันเป็นไปไม่ได้ที่คนดีอย่างหลินต้าฝูจะทำสิ่งนี้

“พ่อของหนูใจดีมาก ทำไมคนดีถึงอายุสั้นนัก? เขาจากไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?” หลินเซี่ยไม่เคยพบกับหลินต้าฝู แต่จากคำพูดของหลิวกุ้ยอิง เธอบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนมีความรับผิดชอบและมีจิตใจดี

“เขาเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เขาเป็นช่างไฟฟ้า ขณะกำลังทำงานเพื่อดึงไฟฟ้าให้กับหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเนินเขา เขาพลัดตกจากเสาไฟฟ้าและจากพวกเราไป”

“โอ้ แม่ได้เห็นศพของเขาไหมคะ?” หลินเซี่ยถามอย่างระมัดระวัง

คำพูดของหลินเซี่ยทำให้หลิวกุ้ยอิงนึกถึงเรื่องน่าเศร้า เธอปาดน้ำตาพลางกล่าวคำอย่างอยากลำบาก “พี่ชายของลูกและแม่จัดการศพของเขาด้วยตัวเอง หลุมฝังศพของเขาอยู่ด้านหลังนี้เอง บนภูเขา อีกไม่กี่วัน แม่จะพาลูกไปไหว้เขา”

พี่ชายที่หลิวกุ้ยอิงหมายถึงคือหลินจินซาน พี่ชายต่างมารดาของเธอ

ในชีวิตที่แล้ว หลินจินซานประสบความสำเร็จในอาชีพการงาน แม้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอจะไม่ค่อยดี แต่เขาค่อนข้างสนิทสนมกับเสิ่นอวี้อิ๋งแทน

เธอยังมีน้องสาวชื่อว่าหลินเยี่ยน ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำงานที่ร้านอาหารในเมืองเวลานี้ และชาติที่แล้วพวกเธอไม่ได้สนิทสนมกันเลย

เด็กสาวมีความสัมพันธ์อันดีกับเสิ่นอวี้อิ๋ง แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้จบลงด้วยดี

เสิ่นอวี้อิ๋งผู้หญิงคนนั้นมีทักษะในการทำสิ่งน่ารังเกียจ หล่อนมักจะใส่ไฟกระตุ้นให้เกิดความขัดแย้งต่อหน้าเธออยู่เสมอ โดยมองว่าตระกูลหลินนั้นไร้ความปรานีและโหดร้าย ทำให้หล่อนต้องตีตัวออกห่างจากพวกเขา แต่แล้วก็หันกลับมาพร้อมทำตัวเป็นคนดีและพยายามเอาชนะใจพวกเขา

ในเวลานี้ เมื่อเห็นน้ำตาไหลอาบแก้มหลิวกุ้ยอิง หลินเซี่ยพบว่าเป็นการยากที่จะถามคำบางประการที่ติดในลำคอ

เธอไม่สามารถถามอีกฝ่ายได้ว่า พ่อของเธออาจเป็นคนอื่นหรือไม่

เธอเห็นมันอย่างชัดเจน หลิวกุ้ยอิงมีความรักแสนลึกซึ้งต่อหลินต้าฝู

มันเป็นไปไม่ได้ที่หญิงสาวชนบทที่เรียบง่ายและถ่อมตัวเช่นหล่อนจะเหยียบเรือสองแคม

ดวงตาหลินเซี่ยวูบไหวเล็กน้อย เธอจับแขนผู้เป็นแม่และถามอย่างขี้เล่นว่า “แม่คะ ย้อนกลับไปตอนแม่เป็นสาว ทำไมถึงมาแต่งงานกับพ่อ ซึ่งเป็นพ่อหม้ายลูกติดสองคนล่ะ?”

“พ่อของลูกเป็นคนดี” เมื่อพูดถึงหลินต้าฝู สีหน้าและดวงตาหลิวกุ้ยอิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก “เขาเป็นผู้ชายที่มีความรับผิดชอบมากที่สุด”

หลิวกุ้ยอิงมองลูกสาวของตนเองด้วยสีหน้าอ่อนโยนขณะถอนหายใจ “เซี่ยเซี่ย บางครั้งโชคชะตาของผู้คนก็แปลกประหลาดจริง ๆ แม่ไม่เคยคิดเลยว่าลูกจะกลายเป็นแม่เลี้ยงเหมือนที่แม่เคยทำในสมัยก่อน”

“การเป็นแม่เลี้ยงไม่ง่ายเลย”

หลินเซี่ยเข้าใจดีว่าการเป็นแม่เลี้ยงไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามในช่วงชีวิตนี้เธอมีความมั่นใจว่าจะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหู่จื่อได้ เธอเชื่อมั่นการเลี้ยงดูสั่งสอนของเฉินเจียเหอ และตระหนักดีว่าลูกเลี้ยงของเธอจะเติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มที่มีความรับผิดชอบสูง

ตอนนี้เขาแค่กังวลว่าจะถูกแม่เลี้ยงรังแก เขาจึงจงใจทำตัวร้ายกาจ แต่ลึก ๆ แล้ว มันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เด็กจะปกป้องตัวเองได้

เธอไม่ต้องการให้หู่จื่อปฏิบัติต่อเธอเหมือนแม่แท้ ๆ ตราบใดที่พวกเขาเข้ากันได้ดี

หลิวกุ้ยอิงถาม “ลูกเข้ากับเด็กคนนั้นได้หรือยัง?”

หลินเซี่ยตอบ “เข้ากันได้ดีค่ะ”

“แล้วนั่นมือของลูกไปโดนอะไรมา?” หลิวกุ้ยอิงคว้ามือซ้ายของหลินเซี่ยและถามด้วยความห่วงใย

อุณหภูมิในห้องอุ่นขึ้นมากแล้ว หลินเซี่ยจึงนำมือซ้ายออกจากแขนเสื้อ ส่งผลให้หลิวกุ้ยอิงเห็นว่ามือของเธอมีผ้าพันแผลพันรอบ

“ไม่เป็นไรมากค่ะ หนูพลั้งเผลอไม่ระวังตัวเอง แต่เฉินเจียเหอยืนกรานที่จะพันแผลให้ได้”

จากถ้อยคำดังกล่าว หลิงกุ้ยอิงสัมผัสได้ถึงสัญญาณแห่งความสุข

เธอพูดด้วยน้ำเสียงโล่งใจ “เป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่ได้แต่งงานกับเฉินเจียเหอ อย่างน้อยลูกก็ได้กลับเมืองพร้อมเขา ลูกเติบโตในเมือง ที่นี่จึงไม่เหมาะกับลูกเท่าไหร่”

หลินเซี่ยมองออกไปนอกหน้าต่างพลางกล่าวคำเบา “แม่คะ เมื่อเรากลับไปที่เมือง แม่ไปกับหนูได้ไหม”

“แล้วแม่จะทำอะไรในเมืองได้ล่ะ?” หลิวกุ้ยอิงยิ้มกล่าวงุ่มง่าม

หลินเซี่ยตอบ “แม่ตั้งแผงร้านกับน้องสาวเพื่อขายอาหารได้”

หลิวกุ้ยอิงถูกแม่สามีกดขี่ข่มเหงมาเป็นเวลานาน หล่อนจึงไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย “แม่จะไปมีฝีมือเก่งกาจแบบนั้นได้ยังไง? แม่ทำได้แค่อาหารกินที่บ้านเท่านั้นแหละ”

“แม่คะ อย่าอยู่อย่างต่ำต้อยในครอบครัวนี้เลย อย่าทำทุกสิ่งอย่างเพียงลำพัง ทำไมต้องรับใช้พวกเขาด้วย พวกเขาไม่มีมือทำเองหรืออย่างไร?”

เมื่อนึกถึงท่าทางของหวังจวี๋เซียงก่อนหน้าที่มองไปที่หลิวกุ้ยอิง หลินเซี่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดในใจ

“แต่พวกเขาคือครอบครัว”

หลิวกุ้ยอิงลังเลอยู่ครู่ จากนั้นถามคำเบา “เซี่ยเซี่ย เจียเหอสามารถหาตำแหน่งงานทั้งสามได้จริงหรือ? เมื่อกี้ลูกหุนหันพลันแล่นเกินไป อาจทำให้เฉินเจียเหอตกอยู่ในที่นั่งลำบาก”

หลินเซี่ยยิ้มอย่างซุกซน “แม่คะ ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่มีปัญหาแน่นอน จะหาเพิ่มอีกกี่ตำแหน่งก็ได้ถ้าต้องการ”

“จริงหรือ? แล้ว…”

หลิวกุ้ยอิงก้มหน้าลงด้วยความลำบากใจ ขณะรู้สึกว่ามันยากเข็ญเกินกว่าที่จะพูดออกมา

“แม่ กำลังจะพูดอะไรคะ? แม่ไม่ต้องเกรงใจและบอกหนูมาเถอะ”

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

ย้ายไปอยู่ในเมืองกับลูกเถอะค่ะคุณแม่ อยู่ที่นี่กับฝูงปลิงครอบครัวนี้ก็เฉาตายเปล่าๆ

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท