ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 – ตอนที่ 50 ทำไมถึงต้องเลี้ยงดูผู้ใหญ่ขี้เกียจพวกนั้นด้วย

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ตอนที่ 50 ทำไมถึงต้องเลี้ยงดูผู้ใหญ่ขี้เกียจพวกนั้นด้วย

ตอนที่ 50 ทำไมถึงต้องเลี้ยงดูผู้ใหญ่ขี้เกียจพวกนั้นด้วย

หลินเซี่ยผู้มีประสบการณ์ชีวิตมามากมายรับรู้ได้ถึงการหายใจหอบหนักของเขา เธอหยอกล้อเขาอย่างสนุกสนานเพียงครู่และปล่อยเขาไป จากนั้นเพียงจับเสื้อที่เอวของเขาและนั่งเงียบงันอยู่ด้านหลัง

เธอค้นพบความจริงข้อหนึ่งว่าตนเองจะไม่รู้สึกอึดอัดเลยหากกอดเฉินเจียเหอผ่านเสื้อผ้า แต่หากเขาสัมผัสผิวเนื้อของเธอ เธอจะมีอาการตื่นตระหนก

เฉินเจียเหอสูดหายใจเข้าลึกและถีบจักรยานอย่างแรง

เมื่อพวกเขากลับมาถึงหมู่บ้าน พ่อของเอ้อร์เลิ่งกำลังมัดลา ส่วนหลินเยี่ยนยืนรออยู่หน้าประตูบ้านของพวกเขา

เฉินเจียเหอหยุดจักรยานของเขา หลินเซี่ยลงจากจักรยานแล้วเดินไปหาหลินเยี่ยน “หนาวหรือเปล่า?”

“ไม่หนาวค่ะ” หลินเยี่ยนหยิบผ้าปูที่นอนด้านข้างขึ้นและกล่าวคำเบา “ถ้างั้นฉันไปแล้วนะคะ”

หลินเซี่ยเก็บเงินค่าจ้างของหล่อนไว้ หล่อนต้องการขอคืน แต่ไม่กล้าถามออกไป

ดังนั้นจึงยืนนิ่งอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับตัว

หลินเยี่ยนในเวลานี้ทั้งรู้สึกกังวลและหวาดกลัวอย่างมาก

ไม่เพียงทำงานไม่ถึงวันที่ยี่สิบเก้า หล่อนยังได้รับค่าจ้างล่วงหน้าและตัดผมยาวออก หล่อนจะต้องถูกคุณย่าดุเมื่อกลับบ้านอย่างแน่นอน

“เสี่ยวเยี่ยน รอสักครู่นะ พี่จะกลับไปพร้อมเธอ”

เฉินเจียเหอกังวลว่าหลินเซี่ยจะเผชิญหน้ากับแม่เฒ่าหลินอีก เขาจึงเสนอไปว่า “ผมจะไปกับคุณด้วย”

เขาจูงจักรยานเข้าไปในประตูบ้าน หู่จือเห็นเขาเดินออกไปอีกครั้งจึงถามว่า “พ่อ กลับมาแล้วทำไมไม่เข้าไปในบ้านล่ะ?”

“เราจะพาคุณน้าไปส่งที่บ้านก่อน ไม่นานก็กลับมา ลูกเข้าไปข้างในก่อนเถอะ”

“ผมอยากไปด้วยเหมือนกัน” หู่จือรอกระทั่งพวกเขากลับมา และอยากตามพวกเขาไปด้วย

หลินเซี่ยไม่กล้าพาเด็กน้อยไป “อากาศหนาวมาก อย่าไปเลย รีบเข้าไปข้างในเร็วเข้า แล้วบอกคุณย่าว่าเราจะรีบกลับมา”

หลังจากไปบ้านของพ่อแม่ หากแม่เฒ่าหลินดุด่าหลินเยี่ยนขึ้นมา เธอจะต้องเผชิญหน้ากับหญิงชราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการมีเด็กน้อยอยู่ด้วยจะทำให้เธอโต้เถียงได้ไม่เต็มที่

“ก็ได้” หู่จือทำหน้ามุ่ยแล้ววิ่งกลับเข้าไปในบ้าน

หลินเซี่ยและหลินเยี่ยนเดินนำไปด้านหน้า ส่วนเฉินเจียเหอเดินตามหลัง โดยแบกผ้าปูที่นอนไว้บนหลังของเขา ขณะที่มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกสุดของหมู่บ้าน

หลินเยี่ยนไม่ได้พูดตลอดการเดินทาง และมีท่าทางดูกังวลมาก

หลินเซี่ยจับมือหล่อนและถามว่า “เสี่ยวเยี่ยน เธอกลัวว่าจะถูกคุณย่าดุเมื่อกลับไปบ้านเหรอ?”

หลินเยี่ยนเหลือบมองหลินเซี่ยเล็กน้อย และก้มศีรษะลง

“เธอกลัวอะไร?”

หลินเซี่ยปลอบใจน้องสาวตัวเอง “ฟังพี่นะ อนาคตจะดีขึ้นเอง หลังวันปีใหม่เราจะกลับไปเมืองไห่เฉิง แม่และเธอจะกลับไปกับพี่เพื่อหางานทำ พี่บอกกับแม่ไว้ว่าจะให้พวกเธอตั้งแผงขายอาหาร ในเมืองมีโอกาสอยู่ทุกที่ ตราบใดที่เราทำงานหนักและอดทนต่อความยากลำบาก เราก็จะตั้งตัวในเมืองได้อย่างแน่นอน อย่าปล่อยให้คุณย่า อารอง และอาสะใภ้กดขี่อีกเลย คุณพ่อจากไปแล้ว พวกเขาไม่ควรปฏิบัติต่อเธอและแม่เลวร้ายแบบนี้ไม่ใช่หรือไง?”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ หลินเยี่ยนก็เงยหน้าขึ้นมองเธอ “เราจะเข้าไปในเมืองด้วยกันได้จริงหรือคะ?”

“ได้อย่างแน่นอน ด้วยนิสัยหนักเอาเบาสู้ของเธอ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถหาเลี้ยงชีพตัวเองได้”

“แล้วแม่ว่ายังไง? แม่ยอมไปด้วยหรือเปล่า?” หลินเยี่ยนมีความคาดหวังที่คลุมเครืออยู่ในใจ

“ต้องไปด้วยอยู่แล้ว แต่เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อนนะ อย่าเพิ่งให้คนอื่นในครอบครัวเรารู้”

“อื้ม”

ขณะที่เดินอยู่บนถนน หลินเซี่ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “แล้วเรื่องนั้นล่ะ ความสัมพันธ์ของเธอกับหลินเซี่ยคนก่อนเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไม่แย่ค่ะ หล่อนฉลาดกว่าหนู คุณพ่อชอบหล่อนมากตอนที่เขามีชีวิตอยู่ และใจดีกับหล่อนเสมอ ส่วนคุณย่าก็ใจดีกับหล่อนตามคุณพ่อไปด้วย”

“แล้วเธอล่ะ? ชอบผู้หญิงคนนั้นไหม?” หลินเซี่ยถามอีกครั้ง

“ก็ดีค่ะ”

หลินเยี่ยนเป็นเช่นนี้กับทุกคน หล่อนไม่มีความคิดเห็น และมีตัวตนจืดจาง

หลินเซี่ยเห็นหล่อนเป็นเช่นนั้น จึงไม่ได้ถามอะไรอีก

ทั้งสามกำลังเดินไปที่บ้านตระกูลหลิน เมื่อเลี้ยวหัวมุมก็เกือบจะชนกับชายสองคนที่กำลังเดินสวนมา

หวังต้าจ้วงถือเครื่องมือฆ่าหมูอยู่ในมือ ตามมาด้วยหวังเสี่ยวจวินลูกพี่ลูกน้องของเขา ดูเหมือนว่าทั้งสองจะเพิ่งฆ่าหมูเสร็จและกำลังเดินทางกลับบ้าน

คนหลายคนเผชิญหน้ากันโดยไม่คาดคิด และไม่ทันระวังตัว

เฉินเจียเหอตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาเห็นหวังต้าจ้วงวิ่งเข้ามา จึงรีบออกไปยืนขวางทางของสองพี่น้อง

หวังต้าจ้วงแสดงท่าทางโกรธเคืองขณะจ้องมองพวกเขาอย่างดุเดือด ก่อนจะเดินผ่านอีกฝ่ายโดยไม่พูดอะไร

เฉินเจียเหอสัญญากับหลินเซี่ยว่าจะเอาชนะหวังต้าจ้วง แต่เขากลับไม่มีโอกาส

หลังจากเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าว หวังเสี่ยวจวินเหลือบมองหลินเยี่ยนที่ตัดผมสั้น และกระซิบข้างหูของหวังต้าจ้วงด้วยสีหน้ามีเลศนัย “พี่ นั่นใช่หลินเยี่ยนหรือเปล่า? ตอนนี้หล่อนดูสวยกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะ”

หวังต้าจ้วงหันกลับไปมองหลินเยี่ยนที่อยู่ด้านข้างหลินเซี่ยด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

ลูกสาวของตระกูลหลินสวยทุกคนจริง ๆ

เมื่อมาถึงประตูบ้านตระกูลหลิน หลินเยี่ยนชะงักฝีเท้าและรู้สึกกังวลอีกครั้ง

หล่อนต้องการขอค่าจ้างจากหลินเซี่ย เพื่อนำไปมอบให้คุณย่า

“พี่ เงินเดือนของฉัน…” หล่อนมองหลินเซี่ยพลางกล่าวเสียงเบาด้วยความเขินอาย

“พี่จะเก็บเงินนี้ไว้ให้ก่อน เธอจะเอาไปให้คุณย่าไม่ได้นะ”

“แต่ว่า…”

หลินเซี่ยตั้งใจแน่วแน่ “ไม่ต้องห่วง พี่จะไม่ใช้เงินของเธอแม้แต่เหมาเดียว แค่จะเก็บไว้ให้ก่อน แล้วจะคืนให้หลังออกจากบ้านหลังนี้แล้ว”

หลินเยี่ยนรีบอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ แต่เดิมทีเงินเดือนของฉันต้องมอบให้คุณย่า ด้วยเงินเดือนนี้ ครอบครัวจึงจะสามารถซื้อของสำหรับปีใหม่”

“นี่เธอต้องดูแลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับปีใหม่ด้วยเหรอ?” หลินเซี่ยมองดูเด็กสาวขณะที่รู้สึกทุกข์ใจอย่างยิ่ง

“เธออายุแค่สิบเจ็ดปี ยังเด็กอยู่มาก ทำไมถึงต้องมาเลี้ยงดูผู้ใหญ่ขี้เกียจพวกนั้นด้วย? พวกเขาพิการไม่มีแขนขาหรือยังไง? อารองกับอาสะใภ้นอนดึกทุกวี่วัน แม่ต้องคอยทำอาหารและดูแลพวกเขา ส่วนเธอก็ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ทำไมถึงต้องยอมทำขนาดนี้ด้วย?”

หลินเซี่ยมีรัศมีน่าเกรงขามและน้ำเสียงดุดัน หลินเยี่ยนผู้มักเก็บตัวและขี้อายจึงรู้สึกหวาดกลัวเธอ

เฉินเจียเหอพูดจากด้านข้าง “หลินเยี่ยน ฟังพี่สาวเถอะ เธอและแม่ยายควรวางแผนสำหรับตัวเอง เธอไม่ควรหาเงินเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัวนี้อีกต่อไป ไม่ต้องห่วงนะ ถ้าคุณย่าทำให้เธอลำบากใจ เราจะปกป้องเธอเอง”

เฉินเจียเหอรับปากด้วยตัวเอง ดวงตาของเขาและหลินเซี่ยเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จนหลินเยี่ยนต้องพยักหน้ารับ

หลินเซี่ยส่งเงินให้กับเฉินเจียเหอ “คุณควรเก็บไว้ก่อน”

จะเกิดอะไรขึ้นหากแม่เฒ่าหลินเกิดคลุ้มคลั่งและค้นตัวเธออีกครั้ง

ในวันที่เธอกลับมาจากเมือง แม่เฒ่าหลินค้นตัวเธออย่างละเอียดถี่ถ้วน แม้จะกลับมามีชีวิตใหม่ เธอก็ยังจำมันได้อย่างชัดเจน

เฉินเจียเหอเก็บเงินใส่กระเป๋า และเดินตามพวกเธอเข้าไปในลานบ้านพร้อมผ้าปูที่นอนของเด็กสาว

มีควันขาวลอยออกจากปล่องไฟในห้องครัวของตระกูลหลิน ตอนนี้คงกำลังเตรียมอาหารเย็นกันอยู่ หลินเยี่ยนดึงผ้าพันคอขึ้นเพื่อซ่อนผมสั้นของเธอ

เมื่อเข้ามาในลานบ้าน หลินเซี่ยเรียกหาแม่ของเธอ ก่อนที่หลิวกุ้ยอิงในชุดผ้ากันเปื้อนจะเดินออกจากห้องครัว

เมื่อเห็นทั้งสามคน หลิวกุ้ยอิงดูสับสนเล็กน้อย

“ทำไมเสี่ยวเยี่ยนถึงกลับมาวันนี้ล่ะ? ร้านอาหารหยุดยาวปีใหม่แล้วหรือ?”

หลินเยี่ยนโกหกออกไปด้วยความรู้สึกผิด “หยุดแล้วค่ะ”

หลินเซี่ยรู้ว่าหลินเยี่ยนไม่กล้าพูดความจริง เพราะกลัวว่าจะถูกดุ

เด็กสาวคนนี้ขี้อายเกินไป หากต้องเปลี่ยนบุคลิกใหม่ มันอาจต้องใช้เวลานาน

แม่เฒ่าหลินกำลังนั่งอยู่บนเตียงเตาในห้องหลัก นางมองออกไปนอกหน้าต่างและเห็นผู้คนในลานบ้าน จึงรีบลุกออกจากเตียงเตาและสวมรองเท้าเพื่อเดินออกไป

“เสี่ยวเยี่ยนกลับมาแล้วเหรอ?”

แม่เฒ่าหลินถามตรงประเด็นทันที “วันหยุดร้านของแกคือวันที่ยี่สิบเก้าไม่ใช่หรือไง? แล้วนี่ได้รับค่าจ้างหรือยัง?”

“ยังเลยค่ะ” หลินเยี่ยนส่ายหัวปฏิเสธ

สีหน้าของแม่เฒ่าหลินเปลี่ยนไป “แล้วเอาเครื่องนอนทั้งหมดกลับมาโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ยังไง?”

หลินเยี่ยนย่อตัวลงและหลบด้านหลังหลินเซี่ย

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

หลินเยี่ยนต้องปรับบุคลิกอีกเยอะเลย โดยเฉพาะเรื่องยอมคนทุกเรื่องโดยไม่หือไม่อือ กลัวหวังต้าจ้วงจะใช้โอกาสนี้ขอแต่งงานกับหลินเยี่ยนแทนเหลือเกิน

ไหหม่า(海馬)

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80

Status: Ongoing
เมื่อสวรรค์ได้ให้โอกาสเธอย้อนกลับมาแก้ขในสิ่งที่ผิดพลาด เธอจะใช้โอกาสนี้เป็นช่างเสริมสวยยอดฝีมือให้ได้ตามฝันอย่างไรกันนะ?เรื่องย่อ : ในชาติก่อน หลินเ เป็นสไตสต์คนโง่ผู้ร้ความคิดป็นของตัวเอง จึงถูกดาราดาวรุ่งผู้เป็นเพื่อนสนิทวางแผนทำลายชีวิตจนพังพินาศ ไร้ซึ่งเครดิต ไร้ซึ่งอำนาจ และหน้ามืดตามัวทิ้งสามีพ่อม่ายลูกติดที่คอยสนับสนุนมาตลอดได้ลงค แต่เหมือนสวรรค์ยังคงเห็นใจต่ชะตาชีวิตอันรันทดของเธอ จึงทำให้เธอได้ย้อนกลับมาเกิดใหม่ในปี 1988 อันเป็นปีที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินกว่าแก้ หลินเชี่ยจะใช้โอกาสที่ได้มีชีวิตครั้งที่สองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองอย่างไรบ้าง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท