ตอนที่ 151 ทั้งสองต่างเป็นม่าย
ตอนที่ 151 ทั้งสองต่างเป็นม่าย
เมื่อเห็นว่าเจียงอวี่เฟยอยู่ที่นี่ด้วย หวังซิ่วฟางจึงพยักหน้าให้หล่อนพร้อมรอยยิ้ม แล้วเอ่ยกับหลินเซี่ย “คืออย่างนี้ คืนนี้ฉันต้องทำงานล่วงเวลา ก็เลยใช้เวลาช่วงพักกลางวันแวะมาบอกเธอว่าตอนที่เธอไปรับหู่จือ ช่วยรับเสี่ยวฮวามาด้วยนะ”
หลินเซี่ยตอบว่า “ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
“ไอ้หยา เสี่ยวหลิน เธอเป็นน้องสาวของฉันแท้ๆ การที่เธอช่วยรับเสี่ยวฮวามาด้วยนี่ช่วยชีวิตฉันได้มากจริง ๆ เมื่อวานฉันไปรับเสี่ยวฮวาเลยทำให้ไปทำงานสาย โดนหัวหน้าเรียกเข้าพบแล้วบอกว่าถ้าฉันไปทำงานสายแต่เลิกงานเร็วอีกครั้ง ใบบันทึกเวลาทำงานนี่จะหายไป”
เจียงอวี่เฟยมองไปยังหวังซิ่วฟางแล้วเอ่ยกับเธอ “พี่สาวหวัง การที่พี่เลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวแบบนี้ลำบากจริง ๆ”
หวังซิ่วฟางถอนหายใจ “จะไม่ลำบากได้หรือ? ฉันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องไปรับลูก ทั้งยังต้องไปทำงาน เหนื่อยมากจริง ๆ”
“พี่สาวยังเด็ก ควรหาคู่ครองที่เหมาะสมนะคะ” เจียงอวี่เฟยรู้สึกว่าหลิวกุ้ยอิงนั้นไม่ได้สนใจ จึงเริ่มหยั่งเชิงหวังซิ่วฟางแทน
พอได้ยินหัวข้อการหาคู่ครอง หวังซิ่วฟางก็ไม่หลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยความคิดตนออกมา หล่อนถอนหายใจอย่างจนปัญญาอีกครั้ง “ฉันเองก็เสาะหาอยู่หรอก แต่ยังไม่เจอคนที่เหมาะสมเลย”
คนเดียวที่พบว่าเหมาะสมก็ถูกหลินเซี่ยคว้าไปเสียแล้ว
“คุณอยากได้คนที่อายุเท่าไหร่? มีข้อกำหนดในหน้าที่การงานหรืออะไรไหมคะ?” เจียงอวี่เฟยมองหล่อนพร้อมเอ่ยถามอย่างซื่อตรง
“สถานะทางสังคมก็ให้ใกล้เคียงกับฉันก็พอ อายุมากกว่าฉันนิดหน่อยก็ได้ สิ่งสำคัญคือต้องรับผิดชอบและมีรายได้ที่มั่นคง ไม่มีเงื่อนไขอะไรอีก”
เมื่อหวังซิ่วฟางพูดจบ หล่อนก็พบกับแววตาใสแป๋วไร้เดียงสาของเจียงอวี่เฟย จึงสั่นศีรษะ “เฮอะ ฉันจะพูดเรื่องแบบนี้กับสาวน้อยอย่างเธอไปทำไมกัน? เธอไม่ใช่แม่สื่อเสียหน่อย”
“เสี่ยวหลิน อย่าลืมไปรับเสี่ยวฮวาให้ฉันด้วยนะ ฉันไปก่อนล่ะ”
“ได้ค่ะ คุณวางใจได้”
หวังซิ่วฟางไปทำงานด้วยความรีบเร่ง เจียงอวี่เฟิงทิ้งตัวนั่งลง ก่อนจะเท้าคางพลางคิดฟุ้งซ่านอีกครั้ง
ทั้งป้าหลิวและพี่สาวหวังนั้นนับว่าดีทั้งสองคน
รู้สึกว่าพี่สาวหวังจะบุกยึดเข้าไปได้ง่ายกว่า
แต่ในส่วนลึกของหัวใจ หล่อนยังคงหวังว่าจะได้เป็นพี่น้องกับหลินเซี่ยจริง ๆ
เมื่อหลินเซี่ยตัดผมและเป่าผมของเจียงกั๋วเซิ่งจนแห้งแล้ว เจียงกั๋วเซิ่งจึงมองดูตัวเองในกระจก ก่อนจะยกนิ้วโป้งให้หลินเซี่ยด้วยความพึงพอใจ
“เซี่ยเซี่ย ตัดออกมาได้ดีมาก เดิมทีฉันค่อนข้างกังวลทีเดียว กลัวว่าเธอจะตัดผมให้ฉันแบบที่ตัดให้วังจินฮวา ฮ่าฮ่า”
ก่อนวันปีใหม่ วังจินฮวาต้องไปทำงานด้วยทรงผมแหว่งวิ่นเหมือนหนูแทะ เมื่อมีคนถาม หล่อนก็จะก่นด่าหลินเซี่ยบราวนี่ออนไลน์
แม้ว่าเจียงกั๋วเซิ่งจะเป็นผู้ชาย แต่เขาก็ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของตัวเองอย่างยิ่ง เมื่อลูกสาวของเขาลากเขามาตัดผมในวันนี้ เขาก็กังวลไม่น้อยเลยจริง ๆ ว่าตนจะถูกโกนศีรษะ
แต่มองดูในตอนนี้แล้วนับว่ายอดเยี่ยม
เด็กสาวคนนี้มีกึ๋นมีทักษะดีทีเดียว
เจียงกั๋วเซิ่งต้องการจ่าย แต่หลินเซี่ยกลับปฏิเสธรับเงินอย่างหนักแน่น
เจียงกั๋วเซิ่งระบายยิ้มพลางเอ่ย “เซี่ยเซี่ย เธอทำงานได้ดี สามีของเธอเองก็ไม่เลว ต่อไปก็ทำดีกับเขาเข้าไว้”
“ลุงเจียง ฉันจะจำไว้ค่ะ”
“อวี่เฟย ไปกันเถอะ”
เจียงกั๋วเซิ่งกำลังจะเดินออกจากร้าน เจียงอวี่เฟยพลันบอกกับเขาว่า “พ่อคะ มีร้านขายหมั่นโถวอยู่ตรงปากทาง พ่อช่วยไปซื้อให้หน่อยได้ไหมคะ คืนนี้หนูอยากกินหมั่นโถวแผ่นย่าง”
เมื่อเป็นคำขอจากลูกสาว เจียงกั๋วเซิ่งมักจะตอบคำขอนั้นเสมอ “ได้ เดี๋ยวพ่อไปซื้อให้”
ทันทีที่เจียงกั๋วเซิ่งออกไป เจียวอวี่เฟยก็ตรงเข้ามาถามหลินเซี่ยด้วยเสียงต่ำทันที “เธอได้ถามคุณป้าไปแล้วหรือยัง?”
หลินเซี่ยตอบไปว่า “ฉันถามแล้ว แม่ฉันไม่มีเจตนาเช่นนั้นเลย เธอล้มเลิกความตั้งใจซะเถอะ”
“ทำไมล่ะ? คุณป้าก็อายุพอ ๆ กับพ่อฉัน พวกเขาเหมาะสมกันมาก” ใบหน้าเล็กๆ อันขาวใสของเจียงอวี่เฟยพลันฉายความผิดหวัง
“ถึงอย่างไรเธอก็บอกว่าไม่สนใจ ทั้งยังมีท่าทีหนักแน่นในเรื่องนี้ ดังนั้นแล้วอย่าไปบังคับเธอเลย”
เจียงอวี่เฟยยังไม่ยอมรามือ “อาจจะเป็นเพราะคุณป้าค่อนข้างขี้อาย สิ่งที่คุณป้าพูดไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจ เธอลองหยั่งเชิงคุณป้าอีกก็ได้ ผู้หญิงอย่างเราต่างก็ชอบปากอย่างใจอย่าง คุณป้าคงจะเขินอายที่ต้องตอบรับเรื่องแบบนี้เร็วขนาดนี้”
หลินเซี่ยถอนหายใจอย่างหมดคำพูด “ไม่ใช่เรื่องเขินอาย แต่แม่ฉันไม่สนใจเลยจริง ๆ อวี่เฟย อย่าทำให้ฉันลำบากใจได้ไหม? เธอลองไปหาคนอื่นดูเถอะ หากไม่เจอคนที่เหมาะสม ก็จับคู่ให้พ่อเธอกับพี่สาวหวังก็ได้”
หลินเซี่ยไม่อาจบอกเจียงอวี่เฟยถึงความเป็นไปได้ที่พ่อที่แท้จริงของเธอจะยังมีชีวิตอยู่
เพราะในตอนนี้ตัวเธอเองก็ไม่รู้อะไรเลยเช่นกัน
เจียงอวี่เฟยคว้าแขนของเธอเขย่าไปมา “ฉันยังเทใจไปให้ป้าหลิวอยู่นะ”
หลินเซี่ยรู้สึกหมดความอดทนกับเธอ จึงเอ่ยทางเลือกที่ดีที่สุดซึ่งรองลงมา “ถ้าไม่ได้จริง ๆ เธอก็รับแม่ของฉันเป็นแม่บุญธรรมแล้วกัน”
เจียงอวี่เฟยกลอกตา “แม่บุญธรรมอะไรกันเล่า? ฉันแค่อยากหาเพื่อนคู่คิดให้พ่อของฉัน ป้าหลิวเป็นผู้ใหญ่ มั่นคงและเชื่อถือได้ หน้าตายังสะสวย อีกทั้งอายุก็ใกล้เคียงกับพ่อของฉัน ฉันรู้สึกจริง ๆ ว่าทั้งคู่เหหมาะสมกัน”
หลินเซี่ยถอนหายใจ เหมาะสมกันแล้วมีประโยชน์อะไร?
หลิวกุ้ยอิงไม่มีความคิดนั้น เธอย่อมไม่สามารถจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองได้
เจียงกั๋วเซิ่งซื้อหมั่นโถวเรียบร้อยแล้วก็เดินเข้ามาในร้านเพื่อนำหมั่นโถวมาแบ่งให้หลินเซี่ยสองสามลูก
“ลุงเจียง เอากลับไปเถอะค่ะ แม่ของฉันจะมาส่งปิ่นโตให้”
“เอาไว้กินเถอะ”
“อวี่เฟย ไปกัน”
“ค่ะ” ก่อนที่เจียงอวี่เฟยจะจากไป หล่อนยังกำมือเป็นกำปั้นเพื่อส่งกำลังใจหลินเซี่ยให้พยายามให้มากขึ้น
หลินเซี่ยมองไปยังแผ่นหลังของสองพ่อลูก ในใจก็พร้อมที่จะทำบางสิ่งขึ้นมา สถานะของรองผู้อำนวยการเจียงในทุกด้านนั้นนับว่าเหมาะสมกับหลิวกุ้ยอิง
แม้ว่าหลิวกุ้ยอิงจะอาศัยอยู่ในชนบทมาโดยตลอด แต่นิสัยนุ่มนวลอ่อนโยนของหล่อนก็ค่อย ๆ เผยออกมาหลังจากย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง ไม่มีอะไรที่เหมือนกับผู้หญิงในชนบทในยุคนี้แม้เพียงนิด
………
ขณะที่คู่พ่อลูกเดินไปตามถนน เจียงอวี่เฟยก็มองพ่อของตนแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “พ่อคะ พ่อเห็นสหายหญิงสองคนที่มาร้านตัดผมของเซี่ยเซี่ยวันนี้ใช่ไหม?”
“อืม” เจียงกั๋วเซิ่งพยักหน้า
เจียงอวี่เฟยมองเขา ก่อนถามต่อ “ทั้งสองคนยังโสด ถ้าให้พ่อเลือกคุยด้วยหนึ่งคน พ่อจะเลือกคนไหน?”
“เด็กน้อย นี่ลูกกำลังพูดอะไรน่ะ?” ใบหน้าของเจียงกั๋วเซิ่งเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เขากระแอมไอเบา ๆ ก่อนเอ่ยรับรองกับหล่อน “วางใจเถอะ พ่อไม่สนใจใครหรอก ลูกอย่าทดสอบพ่ออีก”
เด็กสาวกำลังทดสอบเขาอีกครั้ง
เมื่อไม่กี่ปีก่อน หล่อนหยิบรูปผู้หญิงสองรูปออกมาให้เขา แล้วถามเขาว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน เมื่อเขาเลือกมาหนึ่งรูปจากใจจริง เด็กสาวก็เกือบจะถอดหลังคาบ้านออกไปเสียแล้ว
“พ่อคะ นี่ไม่ใช่การทดสอบ หนูจริงจังนะ”
เจียงอวี่เฟยจำพฤติกรรมที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวก่อนหน้านี้ของตนได้ดี หล่อนทั้งรู้สึกเสียใจทั้งรู้สึกผิด “พ่อคะ ฉันไตร่ตรองมาแล้ว พ่อเองก็อายุไม่น้อย การที่พ่ออยู่คนเดียวมาจนถึงตอนนี้ทำให้หนูไม่ค่อยสบายใจ หนูเลยคิดไว้ว่าจะแนะนำคนรักให้ในตอนที่พ่อยังหนุ่มและมีสิทธิ์ที่จะเลือก ต่อไปในอนาคต เมื่อพ่อเกษียณแล้วคงยากที่จะหาคนดี ๆ ได้”
เจียงกั๋วเซิ่งเงยหน้าขึ้นมองลูกสาวของตน ราวกับว่าเขาไม่ได้คาดหวังให้หล่อนรู้ความขนาดนี้
ในแววตาของเขายังคงฉายชัดถึงความระมัดระวัง “ไม่หาแล้ว อยู่กันไปแบบสองคนพ่อลูกนี่แหละ แม่เลี้ยงอาจจะเข้ากับลูกไม่ได้”
“หนูอยู่มหาวิทยาลัยแล้วนะคะ ในอนาคตก็ต้องแต่งงานออกเรือนไป หนูคงไม่ได้กลับบ้านบ่อยพอที่จะมีเรื่องขัดแย้งกัน”
เจียงอวี่เฟยมองเจียงกั๋วเซิ่งด้วยความลิงโลด ก่อนจะเริ่มแนะนำผู้หญิงให้เขา
“ตอนนี้หนูมีผู้ท้าชิงสองคน ได้แก่ สหายหญิงทั้งสองคนที่พ่อได้พบที่ร้านเสริมสวยของเซี่ยเซี่ย แม่ของเซี่ยเซี่ย อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อ ส่วนพ่อของเซี่ยเซี่ยนั้นเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน แต่ดูเหมือนคุณป้าจะไม่มีความตั้งใจที่จะแต่งงานใหม่ คนที่สองคือหญิงสาวอีกคนที่เข้ามาทีที่ร้านทีหลัง หล่อนอายุสามสิบปี เป็นม่ายเช่นกัน หล่อนยังค่อนข้างกระวนกระวายใจในการหาคู่ชีวิตใหม่ หนูรู้สึกว่าทั้งสองคนนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีทั้งคู่ พ่อชอบคนไหนคะ? เราจะได้พยายามอย่างหนักเพื่อหล่อนคนนั้น”
ถ้าพ่อของหล่อนชอบหลิวกุ้ยอิง หล่อนก็คงใจกล้าพอที่จะไปหยั่งเชิงป้าหลิวอีกครั้ง
หลิวกุ้ยอิงเพิ่งเข้าเมืองมาจึงยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม อีกทั้งยังยุ่งอยู่กับการเปิดแผงลอยเพื่อหารายได้ จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องส่วนตัว
แต่หากชอบพี่สาวหวังนั่นยิ่งดี
เจียงกั๋วเซิ่งลูบปลายจมูกของเขา พลางกลอกตามองลูกสาวของเขาที่มีสีหน้าซื่อตรง แล้วเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจว่า “ลูกจริงจังไหม?”
เจียงอวี่เฟยพยักหน้าอย่างหนักแน่น “แน่นอนว่าจริงจังค่ะ”
“แต่ว่า…” เมื่อเขาได้ยินเจียงอวี่เฟยแนะนำหลิวกุ้ยอิงและหวังซิ่วฟาง น้ำเสียงของเจียงกั๋วเซิ่งพลันเต็มไปด้วยความกังวล “พวกหล่อนทั้งคู่เป็นม่าย นี่ไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า? ลูกไม่กลัวว่าหากพ่อไปตกลงปลงใจกับคนใดคนหนึ่งแล้วพ่อเองก็ต้องจากไปเหมือนกันงั้นหรือ?”
เจียงอวี่เฟย “…”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
พ่อของอวี่เฟยจะได้ลงเอยกับใครน้า
ไหหม่า(海馬)