คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า – ตอนที่ 73 งานมาแล้ว ตอนที่ 74 ไอแค้น

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

ตอนที่ 73 งานมาแล้ว / ตอนที่ 74 ไอแค้น

ตอนที่ 73 งานมาแล้ว

ฮูหยินชรามีท่าทีอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง ทว่าฉีเชียนไม่ได้แนะนำฉินหลิวซีแก่นาง เพียงแต่พูดว่าเป็นแขกคนสำคัญของเชียนเท่านั้น แล้วก็ยกถ้วยชาขึ้นมาจิบ

ฮูหยินติงผู้เฒ่าได้ยินคำว่าแขกคนสำคัญและเห็นเขายกถ้วยชาขึ้นมาก็ย่อกายลงคารวะอย่างคนรู้ความ จึงได้นำหลานสาวจากไป แต่ก่อนจะจากไปยังก็เหลือบมองฉินหลิวซีสักพัก

“ท่านดูเหมือนไม่ค่อยชอบฮูหยินผู้เฒ่าท่านนี้นัก”

ฉีเชียนรอจนเงาของฮูหยินผู้เฒ่าลับสายตาไปแล้วจึงหันไปเอ่ยกับฉินหลิวซี

ฉินหลิวซีเอ่ย “ท่านเป็นโรคตาหรือ มองอย่างไรว่าข้าไม่ชอบนาง”

“สัญชาตญาณ” ฉีเชียนสะกดจิตตัวเองในใจ อย่าเถียงกับอีกฝ่าย นี่คือบรรพชนของเขา ต้องยกไว้บนหิ้ง

ฉินหลิวซีแค่นเสียงเฮอะ “ถ้าอย่างนั้นสัญชาตญาณของท่านก็ผิด ข้าแค่คิดว่ามนุษย์มีสัญชาตญาณตามธรรมชาติในการแสวงหาโชคลาภและหลีกเลี่ยงโชคร้าย ในช่วงเวลาสำคัญมันก็ใช้การได้ดี”

ฉีเชียนนิ่วหน้า

“ให้เขาเอาอาหารมาให้หน่อยเถิด ข้าหิวแล้ว” ฉินหลิวซีเปลี่ยนทันควัน ไม่มีสิ่งใดที่ต้องเอ่ยอีก ฮูหยินติงผู้เฒ่าผู้นั้นก็แค่คนแปลกหน้าสำหรับนาง

ส่วนเรื่องที่นางฉินผู้เฒ่าจะต้องการใช้เส้นสายของทางจวนตระกูลติงเพื่อดูแลญาติๆ ที่ถูกเนรเทศไปหรือไม่ นางก็ไม่สนใจ แต่ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าฮูหยินฉินผู้เฒ่าก็ไม่ได้ทำ

ตกกลางคืน สถานีพักม้าสว่างไสว ฉินหลิวซีกินอิ่มแล้วก็โบกมือให้ฉีเชียนเตรียมจะขึ้นไปข้างบน แต่กลับได้ยินเสียงดังมาจากเรือนแยกส่วนตัว

“เกิดอันใดขึ้นทางด้านโน้น” มีคนลุกยืนขึ้นทันที ต้องการจะออกไปดู

ฉินหลิวซีกลับไม่มีความคิดจะไปร่วมความครึกครื้น นางก้าวขึ้นชั้นบนทันที

แต่กลับมีคนจากเรือนด้านหลังวิ่งมาที่โถงใหญ่ ถามอย่างเร่งร้อนว่ามีหมอบ้างหรือไม่ นายท่านของเขาเป็นลมหมดสติไป ต้องการหมอ

พวกฉีเชียนรีบหันไปมองฉินหลิวซี งานมาแล้ว

ฉินหลิวซีที่กำลังก้าวขาขึ้นบันไดไม้ไปยังชั้นบน “!”

ฉีเชียนมองออกว่าฉินหลิวซีไม่ค่อยจะยินดีนัก “หากท่านหมอฉินยังเหนื่อยก็ไปพักก่อนเถิด”

เสียงเรียกท่านหมอฉินเท่ากับเป็นการเปิดเผยตัวตนของฉินหลิวซีทันที สายตาหลายคู่จ้องมองไปที่นางด้วยความประหลาดใจ สงสัย และเหลือเชื่อ

หนุ่มน้อยคนนี้เป็นหมออย่างนั้นหรือ

บ่าวรับใช้ที่พุ่งออกมาไม่สนใจว่าฉินหลิวซีจะเป็นหมอจริงหรือไม่ ราวกับคว้าฟางเส้นสุดท้ายไว้ “คุณชาย หากท่านรู้วิชาแพทย์ก็ช่วยไปดูอาการนายท่านให้หน่อยเถิด ช่วยชีวิตหนึ่งคนดีกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นนะ!”

ฉินหลิวซี ข้านับถือเต๋า จะมาสร้างเจดีย์อะไร!

“กินอิ่มๆ ก็ไม่เหมาะที่จะนอน เดินเล่นหน่อยก็ดีเหมือนกัน” ฉินหลิวซีหยุดฝีเท้าพลางเหลือบมองฉีเชียนเล็กน้อย

ต้องขอบคุณท่านนะที่หางานให้ข้า!

คนทั้งกลุ่มเดินไปที่เรือนพักส่วนตัว ด้านหน้าอาคารเล็กๆ หลังหนึ่งมีสตรีในอาภรณ์หรูหราผู้หนึ่งใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล นางมองเข้าไปข้างในเป็นระยะๆ ด้านข้างนางเป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังปลอบโยนนางเบาๆ เมื่อมองดูเสื้อผ้าของเด็กสาวแล้วก็น่าจะเป็นเด็กสาวที่อยู่ข้างกายฮูหยินติงผู้เฒ่าผู้นั้น ฮูหยินติงผู้เฒ่าเองก็อยู่เยื้องไปทางด้านหลังพวกนางทั้งสองสองก้าว

เมื่อเห็นพวกของฉีเชียนเข้ามา คุณหนูติงก็ปล่อยสตรีผู้นั้นและก้าวเข้ามาทักทายคารวะฉีเชียน นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานหู “คุณชายฉี สามีของพี่หญิงโจวเจ็บป่วยกะทันหันและหมดสติไป ไม่ทราบว่าท่านมีใครที่รู้วิชาแพทย์พอจะช่วยนางได้บ้างหรือไม่ หากมีก็ขอรบกวนคุณชายฉียื่นมือช่วยเหลือแก้ปัญหาเร่งด่วนนี้ของพี่หญิงโจวด้วยเถิด”

ฉินหลิวซีอดใจผิวปากไว้ได้ ใครบอกว่ากุลสตรีในห้องหอเขินอายเกินกว่าที่จะพบปะพูดคุยกับบุรุษนอกบ้าน ดูคุณหนูติงผู้นี้สิ นางแสดงออกอย่างกล้าหาญมาก

คุณชายเห็นหรือไม่ว่าข้างดงามใจดี กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือคนอื่น ข้าเป็นห่วงเป็นใยเรื่องร้อนใจของคนอื่น ช่างเป็นสาวงามที่เหมาะจะสร้างครอบครัวจริงๆ!

ฮูหยินติงผู้เฒ่าก็ก้าวเข้ามาสบทบกับสตรีผู้นั้นด้วย “เรามีบ่าวที่พอรู้วิชาแพทย์บ้าง แต่ก็ดูไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรไป”

“คุณชาย ท่านมีหมอที่สามารถตรวจชีพจรให้สามีของข้ามาด้วยหรือไม่” สตรีแซ่โจวผู้นั้นเห็นกลิ่นอายความสูงส่งของฉีเชียนแล้วก็อดมีความหวังไม่ได้

ตอนที่ 74 ไอแค้น

ยามที่สตรีแซ่โจวผู้นั้นถามขึ้น ฉีเชียนก็หันไปมองฉินหลิวซีทันทีโดยสัญชาตญาณ ทุกคนจึงมองตามสายตาของเขาไป สีหน้าฉายแววแปลกใจ

เขาคงไม่ได้หมายความว่าหนุ่มน้อยผู้นี้เป็นหมอหรอกกระมัง?

ฉินหลิวซีราวกับไม่ได้สนใจสายตาของทุกคน นางเพียงแต่มองไปทางห้องนั้นด้วยดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่ง

กลิ่นอายชั่วร้ายรุนแรงมากจนเกือบจะพุ่งออกมาอยู่แล้ว

เมื่อนางมองไปที่สะใภ้โจวอีกครั้ง ภายใต้แสงสลัวใบหน้าของอีกฝ่ายก็ปรากฏแก่สายตาของฉินหลิวซีเช่นกัน

หน้าผากสูง จมูกตั้งตรง คางกลมหนา นางน่าจะร่ำรวยมาก อย่างไรก็ตามนางมีเส้นขวางบนหน้าผาก เนินเหนือขมับยุบจมลงไปไม่มีเนื้อ เป็นรอยแผลทำลายลักษณะที่ดี นอกจากนี้เรือนบุตรธิดาของนางยุบจมเกินไป วาสนาเรื่องบุตรธิดามีน้อย ตั้งครรภ์ยาก

แน่นอนว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ตระกูลโจวร่ำรวย แต่มีทายาทยากและจะสูญเสียสามี ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยไอแค้นติดตามพัวพัน โชคชะตาของพวกเขากำลังตกต่ำ

ฉินหลิวซีมองไปยังห้องที่เต็มไปด้วยไอแค้นอีกครั้ง ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ยิ้มหยันอยู่ในใจ

สะใภ้โจวรู้สึกเย็นเยียบเมื่อเห็นสายตาของฉินหลิวซีที่มองมาจนอดผงะถอยหลังไปไม่ได้

สัญชาตญาณของนางบอกว่าจะเป็นการดีที่สุดหากจะไม่คบค้ากับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านางผู้นี้ ไม่เช่นนั้นความสงบสุขในชีวิตของนางจะพังทลายลง

“คุณชายฉี ท่านหมายถึง” ฮูหยินติงผู้เฒ่าสับสนเล็กน้อย

ฉีเชียนหันไปมองฉินหลิวซีพลางถาม “ท่านหมอฉินว่าอย่างไร”

เป็นหมอจริงหรือนี่

ฮูหยินติงผู้เฒ่าใจเต้นแรงขึ้นทันที คนผู้นี้แซ่ฉิน?

ไม่รู้ว่านางคิดถึงสิ่งใดสีหน้าจึงได้ดูลึกลับแปลกใจเล็กน้อย แถมยังหันไปมองฉินหลิวซีอยู่นาน แต่ดูอย่างไรก็พบว่าเด็กคนนี้เป็นบุรุษ จึงได้ผ่อนคลายลงอีกครั้ง

“สามีของท่านป่วยหนัก ท่านกลับไม่ไปดูแลใกล้ๆ ไม่ร้อนใจบ้างหรือ” ฉินหลิวซีเอ่ยกับสะใภ้โจว

ทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็หันไปมองสะใภ้โจวอีกครั้ง จริงด้วย ในเมื่อหมดสติกะทันหัน ไยภรรยาอย่างนางจึงไม่ยอมเฝ้าอยู่ข้างเตียง กลับมาอยู่ข้างนอกนี้ได้

สะใภ้โจวไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่จะได้อธิบายอะไร ฉินหลิวซีก็เอ่ย “เขาไม่ได้เป็นอย่างนี้ครั้งแรกกระมัง”

สะใภ้โจวที่เตรียมจะกลับเข้าไปข้างในห้องได้ยินเช่นนั้นก็สงบสติอารมณ์ “ถูกต้อง ปีนี้เขาหมดสติอยู่บ่อยๆ ไม่นานนักก็ฟื้นขึ้นมา ท่านหมอตรวจดูก็ไม่พบว่ามีสิ่งใดผิดปกติ แต่ต่อมาเขาหมดสติหลายครั้งเข้า แต่ละครั้งก็หมดสตินานขึ้น ร่างกายก็ซูบผอมลงเรื่อยๆ ครั้งนี้เราก็ตั้งใจจะไปหาหมอที่เชียนจินถัง ท่านรู้ได้อย่างไร”

ฉีเชียนเอามือไพล่หลัง เขาไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย หมอนักพรตปู้ฉิวเชียวนะ ไม่เพียงแต่รักษาโรคได้ แต่ยังทำนายดวงชะตาได้ด้วย หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้นแล้ว เขาก็ยิ่งมั่นใจในความสามารถของฉินหลิวซีมากขึ้นไปอีก

โรคเก่าเรื้อรังของท่านย่าเขาก็น่าจะรักษาหายได้ใช่หรือไม่

ฉินหลิวซีเอ่ย “สามีของท่านล้มป่วย แม้ว่าท่านในฐานะภรรยาจะกังวลร้อนใจ แต่กลับไม่ได้ตื่นตระหนกลนลาน ซึ่งหมายความว่าเขาอาจจะไม่ได้ป่วยเช่นนี้เป็นครั้งแรก หรือไม่ท่านก็ไร้หัวใจ และอยากให้เขาตายไวๆ”

ฮึ ชั่วร้ายนัก!

“เหลวไหล!” สะใภ้โจวโต้กลับโดยไม่ต้องคิด น้ำเสียงดุดัน “ข้าแต่งงานกับสามีมาสิบปีแล้ว รักใคร่กันเหมือนวันแรก แม้ว่าหลายปีมานี้ข้าจะไม่มีลูก เขาก็ยังไม่รับอนุภรรยาเข้ามา แถมยังออกปากให้ข้ารับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเอง ข้าจะไร้หัวใจกับคนดีๆ เช่นนี้ได้หรือ ความรักนี้ให้ตายตามเขาไปก็ยังได้ เจ้าเป็นแค่หนุ่มน้อยคนหนึ่งไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ เหตุใดจึงพูดจาหยาบคายไม่คิดเช่นนี้”

ฉินหลิวซีอดยิ้มออกมาไม่ได้ “ตายตามไปก็ยังได้หรือ กลัวว่าเขาจะรับความรักลึกซึ้งนี้จากท่านไม่ได้น่ะสิ”

หมายความว่าอย่างไร

“เดิมทีไม่จำเป็นต้องดูหรอกว่าเขาป่วยเป็นอะไร แต่เมื่อเห็นว่าท่านมีความรักลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ข้าก็อยากจะดูขึ้นมาสักหน่อยแล้ว” ฉินหลิวซีสาวเท้าเข้าไปในห้อง “ข้าอยากจะดูว่า บุรุษที่ควรค่าให้ท่านตายตามผู้นี้ทำอย่างไรจึงได้ปล่อยไอแค้นออกมาได้มากขนาดนี้”

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า

Status: Ongoing
คุณหนููใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้านางคือปรมาจารย์ปู้ฉิว แพทย์ผู้ช่วยชีวิตคนและนักพรตผู้เก่งเกาจด้านการทำนายชะตา ไม่ว่าทางโลกหรือจิตวิญญาณนางรักษาได้ทั้งสิ้น!รายละเอียด นิยายโรแมนติก-แฟนตาซีของคุณหนูใหญ่ผู้เป็นเลิศด้านการแพทย์และการทำนายชะตาแต่แสนเกียจคร้านไม่อยากก้าวหน้าผู้หนึ่งฉินหลิวซี คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉิน นางเติบโตที่ชนบท ได้รับการเลี้ยงดูจากเจ้าอารามของลัทธิเต๋าเพื่อปลูกฝังให้นางขึ้นเป็นเจ้าอารามต่อไปเบื้องหน้านางอาจเป็นเพียงคุณหนูที่ถูกผลักไสแต่เบื้องหลังนางคือปรมาจารย์ปู้ฉิวผู้ที่สามารถรักษาคนเป็นช่วยเหลือคนตายได้เพียงใช้ยันต์กระดาษและเข็มเงินปรมาจารย์จะรักษาโรคและช่วยชีวิตใครนั้นล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ โชคชะตา และเวรกรรม หากอีกฝ่ายเป็นคนชั่วร้าย ต่อให้มอบทองสักหมื่นตำลึงนางก็ไม่เหลือบแลแม้เพียงนิดเมื่อโชคชะตาที่ตนเคยทำนายให้ตระกูลกลายเป็นจริง ท่านปู่ถูกปลดจากตำแหน่ง บ้านโดนยึดทรัพย์ผู้หญิงและเด็กในตระกูลต้องระเหเร่ร่อนมาอาศัยที่บ้านบรรพบุรุษแห่งนี้เมื่อมีปากที่ต้องกินข้าวเพิ่มขึ้น เงินออมเริ่มร่อยหรอ ตัวขี้เกียจเช่นนางก็จำต้องคลานลงจากเตียงเพื่อรับงานหาเงินมาเลี้ยงคนในครอบครัวเฮ้อ แม้ไม่หวังการก้าวหน้าใดๆ แต่สวรรค์กลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นเพราะเมื่อความโด่งดังของนางไปเข้าหูของ ฉีเชียน จวิ้นอ๋องจากเมืองหลวงเข้าเขาก็ดั้นด้นเดินทางมาเชิญนางไปรักษาคน เอาเถอะ ช่วยเหลือคนนั้นย่อมเพิ่มบุญกุศลที่สำคัญคือเพิ่มเงินในกระเป๋า!“เอ๊ะ คุณชายฉีมีเรื่องให้ครุ่นคิดเมื่อคืนจึงนอนหลับไม่สบายหรือ”“ฝันร้ายตลอดทั้งคืนน่ะ”“ไม่เป็นไร คุณชายฉีแค่มีเรื่องให้คิดมากในยามกลางวัน ท่องคาถาชำระจิตสักสองรอบก็จะดีขึ้นเอง”“ข้าคิดว่า ถ้าท่านหมอฉินให้ยันต์คุ้มครองแก่ข้าสักสองชิ้นน่าจะได้ผลดีกว่า” ฉีเชียนเอ่ย“ยันต์คุ้มครองมีเงื่อนไข ผู้มีวาสนาจึงจะได้ไป…”ฉีเชียนยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงไปให้อย่างรู้ความ“เดิมทีท่านกับข้าไม่มีวาสนาต่อกัน ทั้งหมดเป็นเพราะท่านทุ่มเงิน ผู้ใจบุญมีเมตตา เทียนจวินคุ้มครองให้พรนับไม่ถ้วน”“….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท